ลูกหนี้ดิฉันทำสัญญาเงินกู้ 1,300,000 บาท (เงินต้น) ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี เมื่อปี พ.ศ.2555 (สัญญาเงินกู้นี้ไม่ได้ระบุว่าลูกหนี้จะต้องชำระคืนเงินต้นทุกเดือนพร้อมดอกเบี้ย คือทำสัญญาแค่ระบุจำนวนเงินต้น และระบุอัตราดอกเบี้ยต่อปีไว้เฉย ๆ)
โดยที่เขาเอารถยนต์มาประกันไว้ และรถยนต์กำลังจะผ่อนกับไฟแนนซ์หมดในอีก สามเดือนข้างหน้า
หากเขาไม่ยินยอมใช้หนี้ ดิฉันสามารถให้ทนายความฟ้องยึดรถยนต์ที่กำลังจะผ่อนหมดอีกสองเดือนข้างหน้าได้หรือไม่
เพราะขณะนี้รถยนต์คันดังกล่าวอยู่ที่ดินฉัน (ดิฉันครอบครองอยู่ แต่เขาเป็นชิ่อผู้ที่เช่าซื้ออยู่กับไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง)
และหากเขายึกยักทำเรื่องโอนรถยนต์คันนี้ไปชื่อคนอื่นก็ทำไม่ได้ใช่หรือไม่ เพราะหากจะทำเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถภายหลังจากเอาเงินไปปิดที่ไฟแนนซ์ก็ต้องเอารถยนต์ไปที่กรมขนส่งเพื่อตรวจสภาพรถก่อนที่จะทำการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง
ดิฉันเข้าใจถูกต้องไหมคะ
สรุป
1. เขาทำสัญญาเงินกู่(เป็นลูกหนี้ดิฉัน) 1,300,000 บาท
2. รถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ดิฉันคาดว่าจะสามารถยึดได้ (เพราะเขาไม่มีเงินจ่ายหนี้แน่ ๆ) และรถยนต์คันนี้กำลังจะผ่อนหมดกับไฟแนนซ์ในอีก2-3 เดือนข้างหน้า
3. ดิฉันครอบครองรถยนต์คันนี้อยู่ (ตั้งแต่เขามากู้เงิน ก็เอารถมาเป็นประกันไว้ และเขาก็ยังผ่อนค่ารถยนต์คันนี้กับไฟแนนซ์ตลอด ไม่ขาดส่ง)
4. ดิฉันกังวลว่า แม้ว่ารถยนต์จะอยู่กับดิฉัน แต่เขาสามารถทำเรื่องโอนทรัพย์สินคือรถคันนี้ผ่องถ่ายให้ญาติพี่น้องเขาก่อนได้หรือไม่ แต่เท่าที่ถามกรมขนส่ง ทราบว่าเมื่อรถผ่อนกับไฟแนนซ์หมด เมื่อจะเปลี่ยนชื่อ จะต้องนำรถคันดังกล่าวไปตรวจสภาพที่กรมขนส่งก่อนเปลี่ยนชื่อผู้ครองครองก่อน (ซึ่งเขาไม่น่าจะทำได้ เพราะรถยนต์คันนั้นอยู่กับดิฉัน) ขณะนี้รถยนต์คันดังกล่าว (เป็นรถยุโรป) ถ้าขายเป็นรถมือสองมีราคาอยู่ที่ประมาณ 750,000 บาท
5. ดิฉันสามารถยื่นเรื่องเพื่ออายัดรถคันนี้ในตอนนี้(ยังผ่อนไม่หมด) ได้หรือไม่
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่อยากให้หลงประเด็นว่าทำสัญญาเงินกู้ โดยเอารถที่ติดไฟแนนซ์มาค้ำประกันเงินกู้นะคะ เพราะไม่ได้ระบุข้อความอะไรเกี่ยวกับรถ
ประเด็นที่เป็นเหตุการณ์จริงตอนนี้คือ เรื่องรถเนี่ย เราคุยกันด้วยวาจาด้วยความไว้ใจ ว่าเมื่อเขาผ่อนรถหมดและไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้ เขาจะยินยอมโอนการครอบครองรถมาให้ดิฉัน รถจึงอยู่กับดิฉันมาตลอดหลายปีจนจะหมดภาระกับไฟแนนซ์แล้ว แต่เขาเริ่มงอแงไม่ยอมเซ็นต์โอนชื่อมาเป็นของดิฉันเพื่อหักเงินต้นไปบางส่วน เลยคิดว่าเขาคิดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์เพื่อผ่องถ่ายไปให้ญาติพี่น้องเขาแทนหรือเปล่า และกังวลว่าเขาจะทำได้ไหม ถ้าหากจะแจ้งความว่ารถหาย ดิฉันก็มีพยานหลักฐานมาตลอดหลายปีว่าเขารู้ตลอดเวลาว่ารถอยู่กับดิฉัน
ที่สำคัญดิฉันไม่ได้ทำธุรกิจอะไรเกี่ยวกับจำนำรถหรือให้เงินกู้ ที่ทำสัญญาเพราะต้องการช่วยเหลือคนรู้จักกัน และไม่คิดว่าจะมามีปัญหาทีหลัง
เกี่ยวกับการยึดรถยนต์ลูกหนี้ ที่เป็นลูกหนี้และมีสัญญาเงินกู้ค่ะ
โดยที่เขาเอารถยนต์มาประกันไว้ และรถยนต์กำลังจะผ่อนกับไฟแนนซ์หมดในอีก สามเดือนข้างหน้า
หากเขาไม่ยินยอมใช้หนี้ ดิฉันสามารถให้ทนายความฟ้องยึดรถยนต์ที่กำลังจะผ่อนหมดอีกสองเดือนข้างหน้าได้หรือไม่
เพราะขณะนี้รถยนต์คันดังกล่าวอยู่ที่ดินฉัน (ดิฉันครอบครองอยู่ แต่เขาเป็นชิ่อผู้ที่เช่าซื้ออยู่กับไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง)
และหากเขายึกยักทำเรื่องโอนรถยนต์คันนี้ไปชื่อคนอื่นก็ทำไม่ได้ใช่หรือไม่ เพราะหากจะทำเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถภายหลังจากเอาเงินไปปิดที่ไฟแนนซ์ก็ต้องเอารถยนต์ไปที่กรมขนส่งเพื่อตรวจสภาพรถก่อนที่จะทำการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง
ดิฉันเข้าใจถูกต้องไหมคะ
สรุป
1. เขาทำสัญญาเงินกู่(เป็นลูกหนี้ดิฉัน) 1,300,000 บาท
2. รถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ดิฉันคาดว่าจะสามารถยึดได้ (เพราะเขาไม่มีเงินจ่ายหนี้แน่ ๆ) และรถยนต์คันนี้กำลังจะผ่อนหมดกับไฟแนนซ์ในอีก2-3 เดือนข้างหน้า
3. ดิฉันครอบครองรถยนต์คันนี้อยู่ (ตั้งแต่เขามากู้เงิน ก็เอารถมาเป็นประกันไว้ และเขาก็ยังผ่อนค่ารถยนต์คันนี้กับไฟแนนซ์ตลอด ไม่ขาดส่ง)
4. ดิฉันกังวลว่า แม้ว่ารถยนต์จะอยู่กับดิฉัน แต่เขาสามารถทำเรื่องโอนทรัพย์สินคือรถคันนี้ผ่องถ่ายให้ญาติพี่น้องเขาก่อนได้หรือไม่ แต่เท่าที่ถามกรมขนส่ง ทราบว่าเมื่อรถผ่อนกับไฟแนนซ์หมด เมื่อจะเปลี่ยนชื่อ จะต้องนำรถคันดังกล่าวไปตรวจสภาพที่กรมขนส่งก่อนเปลี่ยนชื่อผู้ครองครองก่อน (ซึ่งเขาไม่น่าจะทำได้ เพราะรถยนต์คันนั้นอยู่กับดิฉัน) ขณะนี้รถยนต์คันดังกล่าว (เป็นรถยุโรป) ถ้าขายเป็นรถมือสองมีราคาอยู่ที่ประมาณ 750,000 บาท
5. ดิฉันสามารถยื่นเรื่องเพื่ออายัดรถคันนี้ในตอนนี้(ยังผ่อนไม่หมด) ได้หรือไม่
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่อยากให้หลงประเด็นว่าทำสัญญาเงินกู้ โดยเอารถที่ติดไฟแนนซ์มาค้ำประกันเงินกู้นะคะ เพราะไม่ได้ระบุข้อความอะไรเกี่ยวกับรถ
ประเด็นที่เป็นเหตุการณ์จริงตอนนี้คือ เรื่องรถเนี่ย เราคุยกันด้วยวาจาด้วยความไว้ใจ ว่าเมื่อเขาผ่อนรถหมดและไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้ เขาจะยินยอมโอนการครอบครองรถมาให้ดิฉัน รถจึงอยู่กับดิฉันมาตลอดหลายปีจนจะหมดภาระกับไฟแนนซ์แล้ว แต่เขาเริ่มงอแงไม่ยอมเซ็นต์โอนชื่อมาเป็นของดิฉันเพื่อหักเงินต้นไปบางส่วน เลยคิดว่าเขาคิดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์เพื่อผ่องถ่ายไปให้ญาติพี่น้องเขาแทนหรือเปล่า และกังวลว่าเขาจะทำได้ไหม ถ้าหากจะแจ้งความว่ารถหาย ดิฉันก็มีพยานหลักฐานมาตลอดหลายปีว่าเขารู้ตลอดเวลาว่ารถอยู่กับดิฉัน
ที่สำคัญดิฉันไม่ได้ทำธุรกิจอะไรเกี่ยวกับจำนำรถหรือให้เงินกู้ ที่ทำสัญญาเพราะต้องการช่วยเหลือคนรู้จักกัน และไม่คิดว่าจะมามีปัญหาทีหลัง