สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
สามีไม่ได้ช่วยเลี้ยงลูกบ้างเหรอคะ
วันหยุด ให้เค้าดูแลลูกซัก2-3ชม. แล้วคุณก็ออกไปพักผ่อน เสริมสวย เดินห้าง
และคุณ ใจเย็นๆ ค่อยสอนเค้าค่ะ ถ้าคุณใช้ความรุนแรง ลูกก็จะก้าวร้าวกับคุณ
ลูกคือกระจกสะท้อนของพ่อแม่ค่ะ
ตอนนี้ลูกคุณ กำลังเป็นวัย terrible two คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของเค้า ว่าเด็กวัยนี้ มักจะชอบทำอะไรด้วยตัวเอง มีความมั่นใจ อยากได้ต้องได้ อยากทำต้องทำ
อย่างเรื่องการเล่น การรื้อของ แนะนำว่า คุณต้องจัดพื้นที่ให้เค้าอย่างเป็นสัดส่วน เช่น ทำคอกกั้น ใส่ของเล่นที่ปลอดภัย เสริมสมาธิให้ลูก เช่น ตัวต่อ บล๊อกไม้
ไม่แนะนำให้มีของเล่นมากเกินไป เพราะลูกจะไม่สนใจเล่นจริงจัง และใช้เวลากับของเล่นแต่ละชิ้นเพียงไม่นาน
สำหรับเรื่องขว้างของ ทำความเข้าใจก่อนว่า การที่เด็กอายุ1-3ขวบ ชอบขว้างของนั้น เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามวัย เป็นการฝึกทักษะในการที่จะใช้สายตาและมือประกอบกัน
หากการขว้างของไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายหรือทำให้ใครบาดเจ็บ ก็ไม่ควรที่จะลงโทษลูก
แต่คุณควรจะสอนลูกว่า ของสิ่งไหนขว้างได้ ของสิ่งไหนห้ามขว้าง และขว้างของที่ไหนได้บ้าง
ซึ่งตรงนี้ หากเป็นไปได้ ขอให้จัดสรรพื้นที่ให้ลูก และในบริเวณนั้นให้มีแต่ของที่อนุญาตให้ลูกขว้างได้ เช่น ลูกบอลหลายๆสี หลายๆขนาด แต่ควรเป็นลูกบอลแบบนิ่มๆ และควร เก็บของที่ไม่ควรนำมาให้ลูกขว้างให้พ้นมือและสายตาของเค้า
แต่ถ้าหากลูกยังจะขว้างของที่ไม่ควรขว้าง เช่น อาหาร ก้อนหิน รองเท้า ฯลฯ หรืออาจจะเป็นในกรณีที่เค้าจะขว้างของใส่คนอื่น
ก็ให้คุณจับมือลูกไว้ไม่ให้เค้าขว้างได้ มองตาเค้า จ้องตาอย่างจริงจัง ห้ามทำเป็นล้อเลียนลูก ให้ใช้น้ำเสียงนิ่งๆ น่าเกรงขาม ควรใช้คำสั้นๆเช่น "ไม่" "หยุด" ไม่ต้องพูดอะไรยืดยาว
ถ้าลูกมีท่าทีสงบยอมฟังและทำตามแต่โดยดีก็ปล่อยมือลูก อย่าลืมเมื่อลูกหยุดขว้าง เช่น "ใช่แล้วลูก เด็กดีไม่ขว้าง...(ชื่อสิ่งของ)...นะคะ/นะครับ หรือ"เด็กดีไม่ขว้างของใส่คนอื่นนะคะ/นะครับ "
หากปล่อยมือแล้วยังจะขว้างอีกก็จับมืออีก ทำอย่างนี้บ่อยๆ ลูกก็จะเรียนรู้ว่าเค้าจะไม่มีสิทธิในการขว้างของตามอำเภอใจ
และเรื่องการคายข้าว อาจจะเพราะเบื่อ ห่วงเล่น ไม่ชอบอาหาร ก็ค่อยๆหาวิธีแก้ไปค่ะ
ลูกๆเราเมื่อก่อนก็ชอบคายข้าวค่ะ แต่ตอนนี้ ทำอะไรกินหมด พอเรารู้ว่าเค้าชอบกินอะไร ก็ง่ายแล้วค่ะ
วันหยุด ให้เค้าดูแลลูกซัก2-3ชม. แล้วคุณก็ออกไปพักผ่อน เสริมสวย เดินห้าง
และคุณ ใจเย็นๆ ค่อยสอนเค้าค่ะ ถ้าคุณใช้ความรุนแรง ลูกก็จะก้าวร้าวกับคุณ
ลูกคือกระจกสะท้อนของพ่อแม่ค่ะ
ตอนนี้ลูกคุณ กำลังเป็นวัย terrible two คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของเค้า ว่าเด็กวัยนี้ มักจะชอบทำอะไรด้วยตัวเอง มีความมั่นใจ อยากได้ต้องได้ อยากทำต้องทำ
อย่างเรื่องการเล่น การรื้อของ แนะนำว่า คุณต้องจัดพื้นที่ให้เค้าอย่างเป็นสัดส่วน เช่น ทำคอกกั้น ใส่ของเล่นที่ปลอดภัย เสริมสมาธิให้ลูก เช่น ตัวต่อ บล๊อกไม้
ไม่แนะนำให้มีของเล่นมากเกินไป เพราะลูกจะไม่สนใจเล่นจริงจัง และใช้เวลากับของเล่นแต่ละชิ้นเพียงไม่นาน
สำหรับเรื่องขว้างของ ทำความเข้าใจก่อนว่า การที่เด็กอายุ1-3ขวบ ชอบขว้างของนั้น เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามวัย เป็นการฝึกทักษะในการที่จะใช้สายตาและมือประกอบกัน
หากการขว้างของไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายหรือทำให้ใครบาดเจ็บ ก็ไม่ควรที่จะลงโทษลูก
แต่คุณควรจะสอนลูกว่า ของสิ่งไหนขว้างได้ ของสิ่งไหนห้ามขว้าง และขว้างของที่ไหนได้บ้าง
ซึ่งตรงนี้ หากเป็นไปได้ ขอให้จัดสรรพื้นที่ให้ลูก และในบริเวณนั้นให้มีแต่ของที่อนุญาตให้ลูกขว้างได้ เช่น ลูกบอลหลายๆสี หลายๆขนาด แต่ควรเป็นลูกบอลแบบนิ่มๆ และควร เก็บของที่ไม่ควรนำมาให้ลูกขว้างให้พ้นมือและสายตาของเค้า
แต่ถ้าหากลูกยังจะขว้างของที่ไม่ควรขว้าง เช่น อาหาร ก้อนหิน รองเท้า ฯลฯ หรืออาจจะเป็นในกรณีที่เค้าจะขว้างของใส่คนอื่น
ก็ให้คุณจับมือลูกไว้ไม่ให้เค้าขว้างได้ มองตาเค้า จ้องตาอย่างจริงจัง ห้ามทำเป็นล้อเลียนลูก ให้ใช้น้ำเสียงนิ่งๆ น่าเกรงขาม ควรใช้คำสั้นๆเช่น "ไม่" "หยุด" ไม่ต้องพูดอะไรยืดยาว
ถ้าลูกมีท่าทีสงบยอมฟังและทำตามแต่โดยดีก็ปล่อยมือลูก อย่าลืมเมื่อลูกหยุดขว้าง เช่น "ใช่แล้วลูก เด็กดีไม่ขว้าง...(ชื่อสิ่งของ)...นะคะ/นะครับ หรือ"เด็กดีไม่ขว้างของใส่คนอื่นนะคะ/นะครับ "
หากปล่อยมือแล้วยังจะขว้างอีกก็จับมืออีก ทำอย่างนี้บ่อยๆ ลูกก็จะเรียนรู้ว่าเค้าจะไม่มีสิทธิในการขว้างของตามอำเภอใจ
และเรื่องการคายข้าว อาจจะเพราะเบื่อ ห่วงเล่น ไม่ชอบอาหาร ก็ค่อยๆหาวิธีแก้ไปค่ะ
ลูกๆเราเมื่อก่อนก็ชอบคายข้าวค่ะ แต่ตอนนี้ ทำอะไรกินหมด พอเรารู้ว่าเค้าชอบกินอะไร ก็ง่ายแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
แนะนำให้จขกท.อ่านเพจคุณหมอประเสริฐค่ะ
เสิรชในกูเกิ้ลนะคะ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ค่ะ
แล้วคุณแม่จะเข้าใจธรรมชาติและมองโลกอย่างปกติค่ะ ไม่ต้องเครียด
ปล. แบบคุณแม่นี่คือปกตินะคะ แม่ๆทุกคนเจอกัน อย่าเครียดค่ะ
ตัวอย่างนะคะ
https://www.facebook.com/prasertpp/posts/454634071551759:0
เสิรชในกูเกิ้ลนะคะ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ค่ะ
แล้วคุณแม่จะเข้าใจธรรมชาติและมองโลกอย่างปกติค่ะ ไม่ต้องเครียด
ปล. แบบคุณแม่นี่คือปกตินะคะ แม่ๆทุกคนเจอกัน อย่าเครียดค่ะ
ตัวอย่างนะคะ
https://www.facebook.com/prasertpp/posts/454634071551759:0
แสดงความคิดเห็น
ใครเลี้ยงลูกแล้วเครียด สติแตกบ้าง ขอคำแนะนำหน่อยคะ จะเป็นบ้าแล้ว
ปล.ขอคำแนะนำหน่อยคะ ใครมีลูกดื้อบ้างจะทำอย่างไรดี
ปล2.มีวิธีผ่อนคลายสำหรับ จขกท.ไหม เราเลี้ยงลูก24ชั่วโมงคะ ไม่มีใครช่วยเลี้ยง เรากลัวเราจะเป็นบ้าหรือไม่ก้อโรคประสาทคะ