สวัสดีค่ะ..ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนที่เข้ามาอ่าน เราเป็นคนปรกติธรรมดาที่เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลจิตเวชด้วย 'โรคซึมเศร้า' ตอนอายุ16ปี
หลายคนอาจจะตกใจว่าทำไม? อายุแค่นี้? เป็นโรคนี้แล้วเหรอ..บ้าแน่เลย เราเชื่อว่ามีคนเป็นโรคนี้เยอะบางคนไม่รู้ตัว บางคนรู้ บางคนไม่กล้าเข้าไปรักษา
บางคนเข้ารักษาแต่ไม่ดีขึ้น ถ้าจะให้อธิบายเรื่องการเข้ารับการรักษาหรือเรื่องโรคเรื่องการกินยาเราอาจจะเขียนเพิ่มอีกกระทู้ แต่กระทู้นี้ที่เราสร้างมาเหมือนเป็นการแชร์โลกอีกด้าน มุมมองที่ต่าง อะไรที่คนหลายคนเข้าใจผิดกับโรงพยาบาลจิตเวช เรื่องต่อไปนี้มาจากประสบการณ์โดยตรงที่เราผ่านมาเองกับตัวเอง!!
...เดือนกุมภาพันธ์ปี61ที่ผ่านมา...
ความรู้สึกที่จมดิ่งลึกลงไปสุดในใจเริ่มจะเก็บอาการไม่อยู่ กลัว..ความรู้ตอนนั้นคือกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก กลัวคุมตัวเองไม่อยู่แล้วจะไปโดดสะพานแบบครั้งที่แล้ว ไม่ไหวแล้วไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้ว ไม่เอาแล้วไม่เอาอะไรแล้ว ไม่อยากฟัง ไม่อยากอยู่ตรงนี้อยากออกไป สุดท้ายรีบบอกให้แม่เตรียมรถให้ไปโรงพยาบาล น้ำตาไหลไม่หยุดก่อนขึ้นรถก็โดนด่าพอนั่งรถไปก็โดนบ่น ทำไมสร้างแต่ปันหา? แกอยากได้อะไรห๊ะ? ทำไมแกถึงได้เป็นอย่างนี้? เสียงนี้ยังได้ยินจากแม่ไปตลอดที่นั่งรถไปโรงพยาบาลที่ไกลจากบ้าน50กิโลเมตร ทำไมเวลามันนานยังงี้ น้ำที่ไหลจากตาไม่เคยหมดสักที
พออ่านถึงตรงนี้คนที่ไม่เข้าใจโรคอาจจะมองว่าคิดมาก?อะไรจะขนาดไหน?หลอนรึเปล่า?เรามองว่าอามรณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนมันเป็นช่วงนึ่ง
ที่ความรู้สึกมันดาวน์มันแย่มันไม่ไหวมันตันไปหมดแต่คนที่ป่วยเขาอาจจะมีความรู้สึกแบบนั้นนานหน่อยเขายังไม่รู้จะออกยังไง เราจะไม่บอกว่าเวลาทุกข์
คนป่วยซึมเศร้าหนักกว่ารู้สึกแย่กว่าคนปกติ เราคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกมันวัดไม่ได้มันบอกไม่ได้ว่าใครจะเศร้าหรือเจ็บมากหรือน้อยกว่ากัน
...พอถึงโรงพยาบาลช่วงประมาณ12.30 ...
มาถึงช่วงพักเที่ยงพนักงานโต๊ะหน้าคัดกรองผู้ป่วยต้อนรับเป้นอย่างดี ยิ้มให้เราด้วยความจริงใจความรู้สึกตอนนั้นคืออุ่นใจขึ้นมากกก แต่ต้องรอนะถึงจะไม่มีความป่วยก็ต้องรอ พยาบาลและหมอพักเที่ยง (เรามาถึงแต่ไม่หนักถึงกับแขนขาอ่อนแรงหรือโวยวายและยังมีสติเลยไม่ได้เข้าห้องฉุนเฉิน)
ประมาณบ่ายหนึ่งเศษก็มีพยาบาลที่คุ้นเคยมาคุยด้วย พยาบาลจะดุแต่ไม่ว๊ากนะแกจะบ่นประมาณทำไมถึงมาตอนนี้เน้อ มันไม่ใช่เวลารับคนป่วยเพราะ
คนป่วยที่มาเข้ารับการรักษาแบบพึ่งมาใหม่หรือมาตามนัดตอนเช้าบางที่ล้นมาตอนบ่ายด้วย ถ้าเรามาบ่ายอาจจะตรวจไม่ทันไรงี้จะบ่ายสี่ก่อนไรงี้
บ่ายสามกว่าๆได้เข้าพบหมอ หมอก็ถามทำไมมาก่อนนัดเราก็ว่าไม่ไหวแล้วหมอไม่อยากอยู่แล้ว หมอบอกประมาณว่างั้นแอดมิดนะเราตอบว่าหนูพร้อมค่ะมาถึงตอนนี้หลายคนงงโรงพยาบาลจิตเวชเข้าง่ายขนาดนี้เลยเหรอ อันที่จริงไม่เลยถ้าไม่หนักพอประมาณหมอก็ไม่ได้เข้าและที่สำคัญต้องดูไปตามเคสด้วย
เพราะคนป่วยบางคนกลับไปเดี่ยวคลั่งหรือญาติคุมไม่อยู่ก็ต้องนอน ส่วนคนที่ได้นอนโรงพยาบาลจิตเวชจะแอดมิดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์
....จะขออธิบายเรื่องตึกผู้ป่วยใน มีชาย1 ชาย2 ชาย3 ชาย4 ชาย5 ถ้าจำไม่ผิดจะมีชาย6ตึกผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง หญิง1 หญิง2 และตึกพิเศษและซึมเศร้า
ตึกชาย1-คนป่วยที่ย้ายมากจากตึกนี้บอกว่าเหมือนรวมคนคุ้มคลั่งอยู่แต่คนสงบก็มี คนคุ้มคลั่งจะโดนจับฉีดยามัดใส่ที่นอนให้สงบ แต่เราเคยแวบๆผ่านตึกนี้
ก็ดูสงบดีไม่ได้ยินเสียงอะไรดูเงียบด้วยซ้ำ
ตึกชาย2-ใกล้ชายหนึ่งเคยแวบๆเหมือนกันเหมือนชายหนึ่งนะคิดว่า แต่มีคนบอกว่าเบากว่าชายหนึ่งหน่อย
ตึกชาย3-ตึกนี้ตอนอยู่รพ.ไปบ๊อยบ่อย เป็นตึกยาเสพติดบุหรี่สุรา มีคนบำบัดเยอะ
ตึกชาย4-ก็น่าจะมีปนๆทั้งผู้ป่วยติดยาและจิตเภท
ตึกชาย5-คิดว่าคล้ายชายสี่เลย วัดจากประสบการณ์ที่ได้คุยกับคนป่วยด้วยกัน
ตึกชาย6-เหมือนจะเป็นตึกผู้ป่วยเรื้อรัง มีแต่คนชราเป็นส่วนใหญ คิดว่า45อัพ เคยได้ยินว่า70ยังมี ปล.ข้อมูลนี้ไม่แน่นอนเห็นว่าผู้ป่วยชราบางคนโดนญาติมาปล่อยทิ้งไม่มารับทางโรงพยาบาลก็เลี้ยงไว้มีที่นอนอยู่มีข้าวกินไรงี้ ถ้าเป็นจริงคนปล่อยนี่โคตรแย่ แต่ก็ไม่รู้จริงมั้ยเห็นพี่ผู้ช่วยพยาบาลพูด
ตึกหญิง1-เหมือนชายหนึ่งเลยมีต่คนบอกว่าถ้าโวยวายจะโดนมัดนั้นนี่ รวมผู้ป่วยคุ้มคลั่ง เคยไปแวบๆกภาพนอกเงียบดีนะ
ตึกหญิง2-ใกล้หญิงหนึ่งเหมือนๆกันแหละ
ตึกพิเศษและซึมเศร้า-เป็นตึกสามชั้นตึกใหม่ เราอยู่ตึกนี้แหละ คำว่าพิเศษของตึกคือผู้ป่วยเบิกได้ ข้าราชการไรงี้ ส่วนซึมเศร้าก็เป็นผู้ป่วยซึมเศร้าอาจจะมี
ไบโพลาร์ แพนิคหรือผู้ป่วยติดสุราแต่ต้องอยู่ในอาการสงบเท่านั้นถึงจะได้อยู่ ตึกนี้มีจิตเวชเด็กด้วยชั้น1 มีอายุ7-15ปี เราเคยงงนะตอนเข้ามาแรกๆทำไมเด็กก็เข้ามานอนได้เหรอ งงมาก เด็กส่วนมากที่เรารู้ได้ยินว่ามีเด็กเป็นอัลไซเมอร์ สมาธิสั้น เด็กก้าวร้าว และเด็กพิเศษ ชั้น2ก็พิเศษซึมเศร้าชั้นที่ผุ้ชายอยู่ส่วนชั้น3ผู้หญิงอยู่
แต่ช่วงกลางวันหญิงและชายจะอยุ่ชั้น2รวมกันคนป่วยตึกนี้ไม่เยอะ ช่วงที่คนน้อยสุดๆที่เราอยู่คือหญิงสามชายสอง ไม่รวมชั้นหนึ่งนะลงไปไม่ได้ไม่รู้
ส่วนคนมากสุดหญิงเก้าชายห้า ตึกนี้มีห้องเดี่ยวประมาณ7ห้องด้วยติดแอร์มีทีวีตู้เย็นโซฟาห้องน้ำส่วนตัวเฉพาะคนเบิกได้แต่ไม่ได้แปลว่าคนเบิกได้จะได้นอนทุก ต้องเป็นเฉพาะที่หมอให้นอนแล้วแต่อาการส่วนมากที่ได้นอนมีคนนึ่งตอนเราอยู่ที่ได้นอนคือดูแลตัวเองไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นอยู่แต่ในห้องไม่ได้ลง
ไปทำกิจกรรมสักเท่าไหร่ ไม่เลยแหละเราอยู่เป็นเดือนเห็นลงมาทำ 2-3 ลงมาลำบากแต่ในตึกก็มีลิฟท์อยู่ เราชอบมากสนุกขึ้นลิฟท์ครั้งแรกที่นี่
ส่วนห้องรวมมีชั้นละ1ห้อง6เตียงมีแอร์แต่ไม่เคยรู้สึกว่ามันเย็นถ้าวันไหนผู้ป่วยเต็มห้องพยาบาลจะเปิดห้องพิเศษให้ห้อนนึ่งมีสามเตียงห้องน้ำส่วนตัว
แอร์เย็นมากกก ช่วงหลังๆเรานอนห้องนี้อยู่4-5วัน ถือเป็นเรื่องราวดีๆ5555 ส่วนห้องน้ำรวมมีสามห้องห้องส้วมสามสะอาด
.....อาหารการกินตลอดระยะเวลาที่อยู่ เช้าไม่ข้าวต้มก็ต้มข้าวจนหลอนมีก๋วยจั๊บแทรกบ้างและกล้วย เที่ยงก็มีเปลี่ยนแต่ละวันกับต้องมีกับอย่างน้อยสอง
ผลไม้ของหวาน เย็นเมนูใหม่ก็ต่างจากเที่ยงตรงได้นม ส่วนคนเบิกได้อาหารต่างจากธรรมดาหน่อยมีกับสามอย่าง มีของเบรกช่วงสิบโมงกับบ่ายสอง
เราธรรมดาบางอันก็ไม่ถูกปากขอกินจากคนเบิกได้ทุกมื้อ ทุกคนใจดีหมด มีเซเว่นของตึกด้วย5555 เป็นตู้ขนมกับตู้เย็นต้องเสียเงิน อยู่นี่ไม่ใช้เงินสด
จะมีญาติฝากเงินไว้ให้ พยาบาลก็จะทำบัญชีไว้ทุกคนต้องมีเงินฝากหมดไม่ใช่แค่ซื้อขนมแต่ถ้าสบู่หมดแชมพูหมดแป้งหมดก็ต้องซื้อ หรือถ้าเป็นปจด.
ก็ต้องซื้อกกน.นะ ตึกไม่ให้ใส่กกน.ทั้งหญิงและชาย ผู้หญิงก็ไม่ให้ใส่บรา เหตุผลคือเดี่ยวใช้มาทำร้ายตัวเองเห็นพยาบาลบอกบราสามารถเป็นอาวุธในการฆ่าตัวตายได้ ให้ใส่เฉพาะตอนเป็นปจด. เวลามีญาติมาเยี่ยมคนป่วยก็จะมีของฝาก ก็มาแบ่งกันกิน ของกินช่วงนั้นที่ป๊อปปูล่าสุดๆก็มะม่วงน้ำปลาหวาน
ตอนนั้นบุพเพสันนิวาสมาแรงมากกก
*******อันที่จริงคือพิมไปเสียวไปกลัวว่าสิ่งที่เราพิมจะไปละเมิดสิทธิโรงพยาบาลหรือผู้ป่วยมั้ย ถ้ามันไม่ผิดอะไรเราต้องมาพิมต่อลงที่คอมเมนต์ด้านล่าง
ยังมีเรื่องราวอีกมายังเล่าไม่หมดมีอะไรสงสัยถามได้นะคะ แต่ถ้ามันผิดเราพร้อมแจ้งลบกระทู้*******
.......ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้เดี่ยวมีต่อค่ะ <3
ชีวิต 36 วันในการแอดมิดโรงพยาบาลจิตเวชของเด็กผู้หญิงอายุ 17ปี
หลายคนอาจจะตกใจว่าทำไม? อายุแค่นี้? เป็นโรคนี้แล้วเหรอ..บ้าแน่เลย เราเชื่อว่ามีคนเป็นโรคนี้เยอะบางคนไม่รู้ตัว บางคนรู้ บางคนไม่กล้าเข้าไปรักษา
บางคนเข้ารักษาแต่ไม่ดีขึ้น ถ้าจะให้อธิบายเรื่องการเข้ารับการรักษาหรือเรื่องโรคเรื่องการกินยาเราอาจจะเขียนเพิ่มอีกกระทู้ แต่กระทู้นี้ที่เราสร้างมาเหมือนเป็นการแชร์โลกอีกด้าน มุมมองที่ต่าง อะไรที่คนหลายคนเข้าใจผิดกับโรงพยาบาลจิตเวช เรื่องต่อไปนี้มาจากประสบการณ์โดยตรงที่เราผ่านมาเองกับตัวเอง!!
...เดือนกุมภาพันธ์ปี61ที่ผ่านมา...
ความรู้สึกที่จมดิ่งลึกลงไปสุดในใจเริ่มจะเก็บอาการไม่อยู่ กลัว..ความรู้ตอนนั้นคือกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก กลัวคุมตัวเองไม่อยู่แล้วจะไปโดดสะพานแบบครั้งที่แล้ว ไม่ไหวแล้วไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้ว ไม่เอาแล้วไม่เอาอะไรแล้ว ไม่อยากฟัง ไม่อยากอยู่ตรงนี้อยากออกไป สุดท้ายรีบบอกให้แม่เตรียมรถให้ไปโรงพยาบาล น้ำตาไหลไม่หยุดก่อนขึ้นรถก็โดนด่าพอนั่งรถไปก็โดนบ่น ทำไมสร้างแต่ปันหา? แกอยากได้อะไรห๊ะ? ทำไมแกถึงได้เป็นอย่างนี้? เสียงนี้ยังได้ยินจากแม่ไปตลอดที่นั่งรถไปโรงพยาบาลที่ไกลจากบ้าน50กิโลเมตร ทำไมเวลามันนานยังงี้ น้ำที่ไหลจากตาไม่เคยหมดสักที
พออ่านถึงตรงนี้คนที่ไม่เข้าใจโรคอาจจะมองว่าคิดมาก?อะไรจะขนาดไหน?หลอนรึเปล่า?เรามองว่าอามรณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนมันเป็นช่วงนึ่ง
ที่ความรู้สึกมันดาวน์มันแย่มันไม่ไหวมันตันไปหมดแต่คนที่ป่วยเขาอาจจะมีความรู้สึกแบบนั้นนานหน่อยเขายังไม่รู้จะออกยังไง เราจะไม่บอกว่าเวลาทุกข์
คนป่วยซึมเศร้าหนักกว่ารู้สึกแย่กว่าคนปกติ เราคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกมันวัดไม่ได้มันบอกไม่ได้ว่าใครจะเศร้าหรือเจ็บมากหรือน้อยกว่ากัน
...พอถึงโรงพยาบาลช่วงประมาณ12.30 ...
มาถึงช่วงพักเที่ยงพนักงานโต๊ะหน้าคัดกรองผู้ป่วยต้อนรับเป้นอย่างดี ยิ้มให้เราด้วยความจริงใจความรู้สึกตอนนั้นคืออุ่นใจขึ้นมากกก แต่ต้องรอนะถึงจะไม่มีความป่วยก็ต้องรอ พยาบาลและหมอพักเที่ยง (เรามาถึงแต่ไม่หนักถึงกับแขนขาอ่อนแรงหรือโวยวายและยังมีสติเลยไม่ได้เข้าห้องฉุนเฉิน)
ประมาณบ่ายหนึ่งเศษก็มีพยาบาลที่คุ้นเคยมาคุยด้วย พยาบาลจะดุแต่ไม่ว๊ากนะแกจะบ่นประมาณทำไมถึงมาตอนนี้เน้อ มันไม่ใช่เวลารับคนป่วยเพราะ
คนป่วยที่มาเข้ารับการรักษาแบบพึ่งมาใหม่หรือมาตามนัดตอนเช้าบางที่ล้นมาตอนบ่ายด้วย ถ้าเรามาบ่ายอาจจะตรวจไม่ทันไรงี้จะบ่ายสี่ก่อนไรงี้
บ่ายสามกว่าๆได้เข้าพบหมอ หมอก็ถามทำไมมาก่อนนัดเราก็ว่าไม่ไหวแล้วหมอไม่อยากอยู่แล้ว หมอบอกประมาณว่างั้นแอดมิดนะเราตอบว่าหนูพร้อมค่ะมาถึงตอนนี้หลายคนงงโรงพยาบาลจิตเวชเข้าง่ายขนาดนี้เลยเหรอ อันที่จริงไม่เลยถ้าไม่หนักพอประมาณหมอก็ไม่ได้เข้าและที่สำคัญต้องดูไปตามเคสด้วย
เพราะคนป่วยบางคนกลับไปเดี่ยวคลั่งหรือญาติคุมไม่อยู่ก็ต้องนอน ส่วนคนที่ได้นอนโรงพยาบาลจิตเวชจะแอดมิดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์
....จะขออธิบายเรื่องตึกผู้ป่วยใน มีชาย1 ชาย2 ชาย3 ชาย4 ชาย5 ถ้าจำไม่ผิดจะมีชาย6ตึกผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง หญิง1 หญิง2 และตึกพิเศษและซึมเศร้า
ตึกชาย1-คนป่วยที่ย้ายมากจากตึกนี้บอกว่าเหมือนรวมคนคุ้มคลั่งอยู่แต่คนสงบก็มี คนคุ้มคลั่งจะโดนจับฉีดยามัดใส่ที่นอนให้สงบ แต่เราเคยแวบๆผ่านตึกนี้
ก็ดูสงบดีไม่ได้ยินเสียงอะไรดูเงียบด้วยซ้ำ
ตึกชาย2-ใกล้ชายหนึ่งเคยแวบๆเหมือนกันเหมือนชายหนึ่งนะคิดว่า แต่มีคนบอกว่าเบากว่าชายหนึ่งหน่อย
ตึกชาย3-ตึกนี้ตอนอยู่รพ.ไปบ๊อยบ่อย เป็นตึกยาเสพติดบุหรี่สุรา มีคนบำบัดเยอะ
ตึกชาย4-ก็น่าจะมีปนๆทั้งผู้ป่วยติดยาและจิตเภท
ตึกชาย5-คิดว่าคล้ายชายสี่เลย วัดจากประสบการณ์ที่ได้คุยกับคนป่วยด้วยกัน
ตึกชาย6-เหมือนจะเป็นตึกผู้ป่วยเรื้อรัง มีแต่คนชราเป็นส่วนใหญ คิดว่า45อัพ เคยได้ยินว่า70ยังมี ปล.ข้อมูลนี้ไม่แน่นอนเห็นว่าผู้ป่วยชราบางคนโดนญาติมาปล่อยทิ้งไม่มารับทางโรงพยาบาลก็เลี้ยงไว้มีที่นอนอยู่มีข้าวกินไรงี้ ถ้าเป็นจริงคนปล่อยนี่โคตรแย่ แต่ก็ไม่รู้จริงมั้ยเห็นพี่ผู้ช่วยพยาบาลพูด
ตึกหญิง1-เหมือนชายหนึ่งเลยมีต่คนบอกว่าถ้าโวยวายจะโดนมัดนั้นนี่ รวมผู้ป่วยคุ้มคลั่ง เคยไปแวบๆกภาพนอกเงียบดีนะ
ตึกหญิง2-ใกล้หญิงหนึ่งเหมือนๆกันแหละ
ตึกพิเศษและซึมเศร้า-เป็นตึกสามชั้นตึกใหม่ เราอยู่ตึกนี้แหละ คำว่าพิเศษของตึกคือผู้ป่วยเบิกได้ ข้าราชการไรงี้ ส่วนซึมเศร้าก็เป็นผู้ป่วยซึมเศร้าอาจจะมี
ไบโพลาร์ แพนิคหรือผู้ป่วยติดสุราแต่ต้องอยู่ในอาการสงบเท่านั้นถึงจะได้อยู่ ตึกนี้มีจิตเวชเด็กด้วยชั้น1 มีอายุ7-15ปี เราเคยงงนะตอนเข้ามาแรกๆทำไมเด็กก็เข้ามานอนได้เหรอ งงมาก เด็กส่วนมากที่เรารู้ได้ยินว่ามีเด็กเป็นอัลไซเมอร์ สมาธิสั้น เด็กก้าวร้าว และเด็กพิเศษ ชั้น2ก็พิเศษซึมเศร้าชั้นที่ผุ้ชายอยู่ส่วนชั้น3ผู้หญิงอยู่
แต่ช่วงกลางวันหญิงและชายจะอยุ่ชั้น2รวมกันคนป่วยตึกนี้ไม่เยอะ ช่วงที่คนน้อยสุดๆที่เราอยู่คือหญิงสามชายสอง ไม่รวมชั้นหนึ่งนะลงไปไม่ได้ไม่รู้
ส่วนคนมากสุดหญิงเก้าชายห้า ตึกนี้มีห้องเดี่ยวประมาณ7ห้องด้วยติดแอร์มีทีวีตู้เย็นโซฟาห้องน้ำส่วนตัวเฉพาะคนเบิกได้แต่ไม่ได้แปลว่าคนเบิกได้จะได้นอนทุก ต้องเป็นเฉพาะที่หมอให้นอนแล้วแต่อาการส่วนมากที่ได้นอนมีคนนึ่งตอนเราอยู่ที่ได้นอนคือดูแลตัวเองไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นอยู่แต่ในห้องไม่ได้ลง
ไปทำกิจกรรมสักเท่าไหร่ ไม่เลยแหละเราอยู่เป็นเดือนเห็นลงมาทำ 2-3 ลงมาลำบากแต่ในตึกก็มีลิฟท์อยู่ เราชอบมากสนุกขึ้นลิฟท์ครั้งแรกที่นี่
ส่วนห้องรวมมีชั้นละ1ห้อง6เตียงมีแอร์แต่ไม่เคยรู้สึกว่ามันเย็นถ้าวันไหนผู้ป่วยเต็มห้องพยาบาลจะเปิดห้องพิเศษให้ห้อนนึ่งมีสามเตียงห้องน้ำส่วนตัว
แอร์เย็นมากกก ช่วงหลังๆเรานอนห้องนี้อยู่4-5วัน ถือเป็นเรื่องราวดีๆ5555 ส่วนห้องน้ำรวมมีสามห้องห้องส้วมสามสะอาด
.....อาหารการกินตลอดระยะเวลาที่อยู่ เช้าไม่ข้าวต้มก็ต้มข้าวจนหลอนมีก๋วยจั๊บแทรกบ้างและกล้วย เที่ยงก็มีเปลี่ยนแต่ละวันกับต้องมีกับอย่างน้อยสอง
ผลไม้ของหวาน เย็นเมนูใหม่ก็ต่างจากเที่ยงตรงได้นม ส่วนคนเบิกได้อาหารต่างจากธรรมดาหน่อยมีกับสามอย่าง มีของเบรกช่วงสิบโมงกับบ่ายสอง
เราธรรมดาบางอันก็ไม่ถูกปากขอกินจากคนเบิกได้ทุกมื้อ ทุกคนใจดีหมด มีเซเว่นของตึกด้วย5555 เป็นตู้ขนมกับตู้เย็นต้องเสียเงิน อยู่นี่ไม่ใช้เงินสด
จะมีญาติฝากเงินไว้ให้ พยาบาลก็จะทำบัญชีไว้ทุกคนต้องมีเงินฝากหมดไม่ใช่แค่ซื้อขนมแต่ถ้าสบู่หมดแชมพูหมดแป้งหมดก็ต้องซื้อ หรือถ้าเป็นปจด.
ก็ต้องซื้อกกน.นะ ตึกไม่ให้ใส่กกน.ทั้งหญิงและชาย ผู้หญิงก็ไม่ให้ใส่บรา เหตุผลคือเดี่ยวใช้มาทำร้ายตัวเองเห็นพยาบาลบอกบราสามารถเป็นอาวุธในการฆ่าตัวตายได้ ให้ใส่เฉพาะตอนเป็นปจด. เวลามีญาติมาเยี่ยมคนป่วยก็จะมีของฝาก ก็มาแบ่งกันกิน ของกินช่วงนั้นที่ป๊อปปูล่าสุดๆก็มะม่วงน้ำปลาหวาน
ตอนนั้นบุพเพสันนิวาสมาแรงมากกก
*******อันที่จริงคือพิมไปเสียวไปกลัวว่าสิ่งที่เราพิมจะไปละเมิดสิทธิโรงพยาบาลหรือผู้ป่วยมั้ย ถ้ามันไม่ผิดอะไรเราต้องมาพิมต่อลงที่คอมเมนต์ด้านล่าง
ยังมีเรื่องราวอีกมายังเล่าไม่หมดมีอะไรสงสัยถามได้นะคะ แต่ถ้ามันผิดเราพร้อมแจ้งลบกระทู้*******
.......ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้เดี่ยวมีต่อค่ะ <3