แชร์ประสบการณ์ เผื่อมีคนสนใจนำไปเป็นอาชีพเสริมนะคะ
ขอเล่าย้อนความ การเริ่มธุระกิจเล็กๆนี้ ถ้ายังจำกันได้ เมื่อ 2 ปีก่อน ราคาข้าวชาวนาไทย จะมีราคาถูกมาก เราจึงให้ลุงขนข้าวหอมมะลิจากนาที่โคราชมาขาย กก.ละ 35 บาท จากขายข้าวสารก็พัฒนาเป็นข้าวสวย หุงสุก ประกอบกับเราเป็นคนชอบทานอาหาร และทุกๆ เช้าเรามักจะเลือกทานข้าวเป็นหลัก เพราะเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ และไม่ถนัดอาหารเช้าแบบฝรั่ง คงเพราะด้วยที่ทำงานไม่ค่อยมีร้านขายอาหารที่ถูกจริต จึงต้องเตรียมอาหารไปทานที่ทำงานด้วยตัวเอง เวลาที่นำมาทานก็จะจัดมาเผื่อเพื่อนๆที่ทำงานด้วย แชร์ค่าวัตถุดิบกัน จนกลุ่มเริ่มใหญ่ขึ้น (ตอนนี้ลูกค้าในกลุ่ม Line 65 คน) เราก็เริ่มคิดตั้งราคา เพื่อคำนวณค่าเสื่อมทั้งตัวเราเองและอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ และหากำไร (เล็กๆน้อย) ถึงจะเป็นคนชอบทำอาหาร แต่ยังทำไม่เก่ง ไม่ชำนาญ เราเลยต้องหาหนูทดลอง 55 ไม่ใช่!!! หาผู้ช่วยชิม หรือที่เรากำลังเรียกว่า ลูกค้า นั่นเอง เพื่อจะได้ช่วยกันคิดค้นเมนูใหม่ๆ เมนูจากง่ายๆ ก็กลายเป็นยากและท้าทายมากขึ้นค่ะ ทั้งครู You tube ครูชีวิตจริง (คุณแม่ คุณป้า เชฟ เจ้าของร้านอาหาร) ก็แอบไปเรียนเป็นครูพัก ลักจำ ทุกเมนูเราตั้งใจทำมาก ใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งวัตถุดิบและรสชาติอาหาร กะปิ น้ำปลา ซีอิ๊ว ที่ไหนว่าดีเด็ด ตามไปหาซื้อมาครอบครอง เพราะลูกค้าที่ทานคือ พี่ น้อง เพื่อน ของเราเอง
ลองมาดูกันนะคะ ว่าเราทานอะไรกันบ้าง ....
เราจะเปิดเมนูวันละ 2 เมนู โดยจะแจ้งให้ลูกครัวทราบก่อน 1 วันค่ะ
เมนูแรกที่เปิดครัว "นะระกะ"
1.หมูสามชั้นทอดน้ำปลา น้ำปลาหอมๆ จากบ้านเกิดเราเอง
2.ข้าวผัดปู ไม่มีภาพจานปรุงเสร็จ มีแต่ภาพวัตถุดิบที่ใช้ค่ะ
เราใช้น้ำมันมะกอก/canola oil ในการผัด และใช้ซอสแมกกี้(สำหรับผัด) หลังๆ ได้ซอสแมกกี้ฝาแดงจากเยอรมันมา เอามาผัดก็หอมและอร่อยมากค่ะ
ส่วนปูเราแกะเอง เป็นปูสดๆ จากเรือคนรู้จักที่ระยองค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ ขายอาหารเช้าให้เพื่อนที่ออฟฟิศค่ะ
ขอเล่าย้อนความ การเริ่มธุระกิจเล็กๆนี้ ถ้ายังจำกันได้ เมื่อ 2 ปีก่อน ราคาข้าวชาวนาไทย จะมีราคาถูกมาก เราจึงให้ลุงขนข้าวหอมมะลิจากนาที่โคราชมาขาย กก.ละ 35 บาท จากขายข้าวสารก็พัฒนาเป็นข้าวสวย หุงสุก ประกอบกับเราเป็นคนชอบทานอาหาร และทุกๆ เช้าเรามักจะเลือกทานข้าวเป็นหลัก เพราะเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ และไม่ถนัดอาหารเช้าแบบฝรั่ง คงเพราะด้วยที่ทำงานไม่ค่อยมีร้านขายอาหารที่ถูกจริต จึงต้องเตรียมอาหารไปทานที่ทำงานด้วยตัวเอง เวลาที่นำมาทานก็จะจัดมาเผื่อเพื่อนๆที่ทำงานด้วย แชร์ค่าวัตถุดิบกัน จนกลุ่มเริ่มใหญ่ขึ้น (ตอนนี้ลูกค้าในกลุ่ม Line 65 คน) เราก็เริ่มคิดตั้งราคา เพื่อคำนวณค่าเสื่อมทั้งตัวเราเองและอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ และหากำไร (เล็กๆน้อย) ถึงจะเป็นคนชอบทำอาหาร แต่ยังทำไม่เก่ง ไม่ชำนาญ เราเลยต้องหาหนูทดลอง 55 ไม่ใช่!!! หาผู้ช่วยชิม หรือที่เรากำลังเรียกว่า ลูกค้า นั่นเอง เพื่อจะได้ช่วยกันคิดค้นเมนูใหม่ๆ เมนูจากง่ายๆ ก็กลายเป็นยากและท้าทายมากขึ้นค่ะ ทั้งครู You tube ครูชีวิตจริง (คุณแม่ คุณป้า เชฟ เจ้าของร้านอาหาร) ก็แอบไปเรียนเป็นครูพัก ลักจำ ทุกเมนูเราตั้งใจทำมาก ใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งวัตถุดิบและรสชาติอาหาร กะปิ น้ำปลา ซีอิ๊ว ที่ไหนว่าดีเด็ด ตามไปหาซื้อมาครอบครอง เพราะลูกค้าที่ทานคือ พี่ น้อง เพื่อน ของเราเอง
ลองมาดูกันนะคะ ว่าเราทานอะไรกันบ้าง ....
เราจะเปิดเมนูวันละ 2 เมนู โดยจะแจ้งให้ลูกครัวทราบก่อน 1 วันค่ะ
เมนูแรกที่เปิดครัว "นะระกะ"
1.หมูสามชั้นทอดน้ำปลา น้ำปลาหอมๆ จากบ้านเกิดเราเอง
2.ข้าวผัดปู ไม่มีภาพจานปรุงเสร็จ มีแต่ภาพวัตถุดิบที่ใช้ค่ะ
เราใช้น้ำมันมะกอก/canola oil ในการผัด และใช้ซอสแมกกี้(สำหรับผัด) หลังๆ ได้ซอสแมกกี้ฝาแดงจากเยอรมันมา เอามาผัดก็หอมและอร่อยมากค่ะ
ส่วนปูเราแกะเอง เป็นปูสดๆ จากเรือคนรู้จักที่ระยองค่ะ