เรื่องทุบหม้อข้าวเข้าตีเมืองจันของพระเจ้าตาก
เราได้ยินกันมาจนชิน เป็นเพลงก็ฟังก็ร้องกันบ่อย
แต่พอมาได้ดูจริงๆ เราขนลุกมาก เมื่อจินตนาการตาม คือนึกย้อนว่า สมัยก่อนสภาพสังคม สภาพความเป็นอยู่ยิ่งในช่วงศึกสงครามด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ยุทธวิธีนี้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และน่ายกย่องมาก
คือสมัยก่อนมันไม่ได้มีเซเว่น ไม่ได้มีอาหารบริบูรณ์ และศึกสงครามอีก
การเทอาหารที่มี การทุบหม้อข้าว มันเป็นการแสดงถึงเจตจำนงว่ามาเพื่อพลีชีพเลยนะ
คือถ้าไม่ชนะ ยังไงโอกาสรอดก็ไม่มี ถ้าไม่ตายในสนามรบก็อดตาย
นับถือ พระเจ้าตากและนักรบทุกคนที่เสียสละเพื่อ
ประเทศชาติมากมายขนาดนี้ ยิ่งนึกภาพตามแล้วน้ำตาพาลจะไหล
"ขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงนักแสดงที่ถ่ายทอดซีนนี้ออกมาได้ดี ดูแล้วหึกเหิมตามเลยค่ะ"
หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ทุบหม้อข้าว เทอาหารทิ้ง...
เราได้ยินกันมาจนชิน เป็นเพลงก็ฟังก็ร้องกันบ่อย
แต่พอมาได้ดูจริงๆ เราขนลุกมาก เมื่อจินตนาการตาม คือนึกย้อนว่า สมัยก่อนสภาพสังคม สภาพความเป็นอยู่ยิ่งในช่วงศึกสงครามด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ยุทธวิธีนี้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และน่ายกย่องมาก
คือสมัยก่อนมันไม่ได้มีเซเว่น ไม่ได้มีอาหารบริบูรณ์ และศึกสงครามอีก
การเทอาหารที่มี การทุบหม้อข้าว มันเป็นการแสดงถึงเจตจำนงว่ามาเพื่อพลีชีพเลยนะ
คือถ้าไม่ชนะ ยังไงโอกาสรอดก็ไม่มี ถ้าไม่ตายในสนามรบก็อดตาย
นับถือ พระเจ้าตากและนักรบทุกคนที่เสียสละเพื่อ
ประเทศชาติมากมายขนาดนี้ ยิ่งนึกภาพตามแล้วน้ำตาพาลจะไหล
"ขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงนักแสดงที่ถ่ายทอดซีนนี้ออกมาได้ดี ดูแล้วหึกเหิมตามเลยค่ะ"