“จุดเริ่มต้น โรคลมชัก”
แม่ต้องขอสารภาพไว้ก่อนเลยว่า แม่ไม่เคยรู้จักโรคลมชัก ทั้งๆที่เป็นคนชอบอ่านนิตยสารเกี่ยวกับเด็ก ตั้งแต่เริ่มท้องก็ไม่เคยอ่านเจอบทความเกี่ยวกับโรคลมชัก และไม่เคยได้ยินคำว่า ลมชัก แม่รู้จักแต่อาการชักจากไข้ เพราะจะเจอตามนิตยสาร และลูกของอาก็มีอาการชักจากไข้
ลูกเริ่มมีอาการครั้งแรก ประมาณ 3 ขวบ วันนั้นต้องไปต่างจังหวัด ซึ่งลูกต้องตื่นเช้ามาก แต่หลังจากขึ้นรถได้ซักพักลูกก็หลับโดยนอนอยู่เบาะหลัง พอหลับไปได้ประมาณ ครึ่งชั่วโมง แม่ได้ยินเสียง คร๊อก คร๊อก เลยหันไปดู เห็นปากลูกเบี้ยว และกระตุก ตาลอย มือหงิกเกร็ง และขากระตุก
ตอนนั้น ตกใจมาก ไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร สิ่งแรกที่คิดได้คือ นี่คืออาการชักหรือป่าว แต่จับตัวลูกแล้ว ตัวก็ไม่ร้อน สิ่งที่คิดต่อมาคือ ลูกโดนผีเข้า เพราะรถเพิ่งผ่านวัดมา (แม่ก็งมงายเกินไป) ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ แม่รีบเรียกสติตัวเองกลับมา แล้วโฟกัสมาที่ลูก
แม่พยายามเรียกลูกให้ตื่น นวดแขน นวดขาให้หายเกร็ง พ่อตะโกนจากเบาะคนขับให้เอานิ้วเข้าไปในปากลูก ไม่ให้ลูกกัดลิ้นตัวเอง (เป็นวิธีที่ผิด แต่ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ) ลูกมีอาการประมาณ 40 วินาที ก็เริ่มรู้สึกตัว และทุกอย่างก็เป็นปกติ แต่ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนนานมาก
หลังจากตื่น แม่เล่าให้ลูกฟังว่าเขามีอาการแบบนี้ ลูกรู้สึกตัวมั๊ย เขาบอกว่า ไม่รู้เรื่องเลย แต่ได้ยินเสียงปลุกเลยตื่น ซึ่งตอนนั้นเล่าอาการให้อาฟัง เขาก็บอกว่าอาการเหมือนชัก แต่ไม่มีไข้ก็ไม่น่าจะชัก สรุปต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อน เพราะสมัยนั้นยังไม่มีกูเกิ้ลให้ค้นหา ครั้นจะพาไปหาหมอ ก็ไม่รู้จะไปบอกหมอว่าลูกเป็นอะไร และหลังจากตื่นลูกก็ปกติมาก
ทำได้แค่เก็บความสงสัยไว้ในใจ และรอดูว่าจะมีอาการอีกมั๊ย
โรคลมชัก (เมื่อลูกเป็นเด็กพิเศษ)
แม่ต้องขอสารภาพไว้ก่อนเลยว่า แม่ไม่เคยรู้จักโรคลมชัก ทั้งๆที่เป็นคนชอบอ่านนิตยสารเกี่ยวกับเด็ก ตั้งแต่เริ่มท้องก็ไม่เคยอ่านเจอบทความเกี่ยวกับโรคลมชัก และไม่เคยได้ยินคำว่า ลมชัก แม่รู้จักแต่อาการชักจากไข้ เพราะจะเจอตามนิตยสาร และลูกของอาก็มีอาการชักจากไข้
ลูกเริ่มมีอาการครั้งแรก ประมาณ 3 ขวบ วันนั้นต้องไปต่างจังหวัด ซึ่งลูกต้องตื่นเช้ามาก แต่หลังจากขึ้นรถได้ซักพักลูกก็หลับโดยนอนอยู่เบาะหลัง พอหลับไปได้ประมาณ ครึ่งชั่วโมง แม่ได้ยินเสียง คร๊อก คร๊อก เลยหันไปดู เห็นปากลูกเบี้ยว และกระตุก ตาลอย มือหงิกเกร็ง และขากระตุก
ตอนนั้น ตกใจมาก ไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร สิ่งแรกที่คิดได้คือ นี่คืออาการชักหรือป่าว แต่จับตัวลูกแล้ว ตัวก็ไม่ร้อน สิ่งที่คิดต่อมาคือ ลูกโดนผีเข้า เพราะรถเพิ่งผ่านวัดมา (แม่ก็งมงายเกินไป) ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ แม่รีบเรียกสติตัวเองกลับมา แล้วโฟกัสมาที่ลูก
แม่พยายามเรียกลูกให้ตื่น นวดแขน นวดขาให้หายเกร็ง พ่อตะโกนจากเบาะคนขับให้เอานิ้วเข้าไปในปากลูก ไม่ให้ลูกกัดลิ้นตัวเอง (เป็นวิธีที่ผิด แต่ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ) ลูกมีอาการประมาณ 40 วินาที ก็เริ่มรู้สึกตัว และทุกอย่างก็เป็นปกติ แต่ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนนานมาก
หลังจากตื่น แม่เล่าให้ลูกฟังว่าเขามีอาการแบบนี้ ลูกรู้สึกตัวมั๊ย เขาบอกว่า ไม่รู้เรื่องเลย แต่ได้ยินเสียงปลุกเลยตื่น ซึ่งตอนนั้นเล่าอาการให้อาฟัง เขาก็บอกว่าอาการเหมือนชัก แต่ไม่มีไข้ก็ไม่น่าจะชัก สรุปต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อน เพราะสมัยนั้นยังไม่มีกูเกิ้ลให้ค้นหา ครั้นจะพาไปหาหมอ ก็ไม่รู้จะไปบอกหมอว่าลูกเป็นอะไร และหลังจากตื่นลูกก็ปกติมาก
ทำได้แค่เก็บความสงสัยไว้ในใจ และรอดูว่าจะมีอาการอีกมั๊ย