https://www.foxsports.com.au/football/uefa-champions-league/sergio-ramos-speaks-out-on-champions-league-final-clashes-with-salah-karius/news-story/706b95bbf813b6d153c8fad1c0319c24
ขอแปะ link จากต่างประเทศละกันนะครับ เพราะมีข้อความที่ครบมากกว่าเเหล่งข่าวจากไทย และเพื่อป้องกันการบิดเบือนคำแปล
ถ้าถามว่าผมรู้สึกยังไง หลังจบเกม แน่นอนสงสารซาลา สงสารคาริอุส รังเกียจพฤติกรรมจากการเล่นตามน้ำของรามอส
แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องพูดกันยาว หรือใส่อารมณ์กับมันข้ามเดือน
เพราะเอาจริงๆ เกมจบไปนานแล้วและความพ่ายแพ้มันก็ไม่ได้มีผลต่อชีวิตอะไรมากมาย ฟุตบอลมันก็คือฟุตบอล ลิเวอร์พูลไม่ใช่บ้านผม ไม่ใช่ บางบอนยูไนเต็ด แอนฟิลด์ โร้ด ไม่ใช่เอกชัยโร้ด และการที่ลิเวอร์พูลได้เป็นแชมป์ยุโรปมันก็ไม่ได้ทำให้ผมได้เลื่อนขั้น
แต่วันนี้ขอหน่อยเถอะ เพราะนี่เป็นโพสที่ 2 ละที่เเสดงให้เห็นว่ารามอสไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเลย แถมยังโบ้ยให้เป็นความผิดคนอื่นอีกตะหาก
“If he had (an injection) he even could have played in the second half."
ไม่ใช่ความผิดกู ความผิดอะ โม ทำไมไม่ฉีดยา แล้วไปเล่นต่อ อ่อนแอเองก็แพ้ไป
่ไหล่หลุดนะครับ กว่าจะไป รพ. ดัดเสร็จ แถมจะให้มาเล่นกีฬาที่ต้องเข้าปะทะต่อทันที แล้วก็นายเคยไหล่หลุดเป็น few times เลยหรอ"
“Then the goalkeeper says he was dazed because of a collision with me,”
อันนี้หมอจากบอสตันพูดครับ ไม่ใช่ goalkeeper แล้วเขาก็ไม่คงไม่พูดพล่อยๆ ให้เสี่ยงต่อการโดนริบใบประกอบวิชาชีพที่อุตส่าห์เรียนมาเกือบครึ่งชีวิตหรอกครับ
“Next thing (Roberto) Firmino will say he had a cold because a drop of my sweat fell on him.”
ไม่มีคำบรรยาย
ไม่ว่าโพสนี้จะออกมาจากนิสัยส่วนบุคคลของนาย หรือจาก defend mechanism ผมว่าไม่สมควรเท่าไร
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ารามอสคงเล่นตามน้ำตามสไตล์กองหลัง คงกะเอาให้คู่ต่อสู้ให้น่วม แต่เรื่องที่รามอสรู้จักท่ายูโด หรือ รู้ว่าควรเ่ล่นบริเวณจุดที่น่ากลัวและเสี่ยงมากอย่างทัดดอกไม้ของคาริอุสหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบได้ แต่การออกมาพูดแบบนี้หลังจากรู้ว่าเพื่อนร่วมอาชีพประสบภาวะอะไรบ้าง โดยส่วนตัวผมไม่ชอบ
ส่วนแนวความคิดที่ว่า กองหลังก็เล่นแบบนี้เพื่อความสำเร็จกันคั้งหลายคน ใครจะเป็นอะไรก็ไม่เห็นเป็นอะไร ใครๆก็ทำเพื่อแชมป์ทั้งนั้น
แนวความคิดประมาณนี้ที่ออกมาในสยามเมืองยิ้ม ที่ต้องการปราบคอรัปชั่น ผมไม่ขอพูดถึง
ปล. เรื่อง cerebral concussion อาจเป็นอะไรที่เข้าใจยาก แต่ก็ควรตื่นตัวและระวังเสมอ จะเป็นการดีมากถ้าเรื่องนี้จะทำให้วงการฟุตบอลตื่นตัวมากขึ้น
ความรู้สึกเกี่ยวกับคำสัมภาษณ์ล่าสุดของรามอส
ขอแปะ link จากต่างประเทศละกันนะครับ เพราะมีข้อความที่ครบมากกว่าเเหล่งข่าวจากไทย และเพื่อป้องกันการบิดเบือนคำแปล
ถ้าถามว่าผมรู้สึกยังไง หลังจบเกม แน่นอนสงสารซาลา สงสารคาริอุส รังเกียจพฤติกรรมจากการเล่นตามน้ำของรามอส
แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องพูดกันยาว หรือใส่อารมณ์กับมันข้ามเดือน
เพราะเอาจริงๆ เกมจบไปนานแล้วและความพ่ายแพ้มันก็ไม่ได้มีผลต่อชีวิตอะไรมากมาย ฟุตบอลมันก็คือฟุตบอล ลิเวอร์พูลไม่ใช่บ้านผม ไม่ใช่ บางบอนยูไนเต็ด แอนฟิลด์ โร้ด ไม่ใช่เอกชัยโร้ด และการที่ลิเวอร์พูลได้เป็นแชมป์ยุโรปมันก็ไม่ได้ทำให้ผมได้เลื่อนขั้น
แต่วันนี้ขอหน่อยเถอะ เพราะนี่เป็นโพสที่ 2 ละที่เเสดงให้เห็นว่ารามอสไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเลย แถมยังโบ้ยให้เป็นความผิดคนอื่นอีกตะหาก
“If he had (an injection) he even could have played in the second half."
ไม่ใช่ความผิดกู ความผิดอะ โม ทำไมไม่ฉีดยา แล้วไปเล่นต่อ อ่อนแอเองก็แพ้ไป
่ไหล่หลุดนะครับ กว่าจะไป รพ. ดัดเสร็จ แถมจะให้มาเล่นกีฬาที่ต้องเข้าปะทะต่อทันที แล้วก็นายเคยไหล่หลุดเป็น few times เลยหรอ"
“Then the goalkeeper says he was dazed because of a collision with me,”
อันนี้หมอจากบอสตันพูดครับ ไม่ใช่ goalkeeper แล้วเขาก็ไม่คงไม่พูดพล่อยๆ ให้เสี่ยงต่อการโดนริบใบประกอบวิชาชีพที่อุตส่าห์เรียนมาเกือบครึ่งชีวิตหรอกครับ
“Next thing (Roberto) Firmino will say he had a cold because a drop of my sweat fell on him.”
ไม่มีคำบรรยาย
ไม่ว่าโพสนี้จะออกมาจากนิสัยส่วนบุคคลของนาย หรือจาก defend mechanism ผมว่าไม่สมควรเท่าไร
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ารามอสคงเล่นตามน้ำตามสไตล์กองหลัง คงกะเอาให้คู่ต่อสู้ให้น่วม แต่เรื่องที่รามอสรู้จักท่ายูโด หรือ รู้ว่าควรเ่ล่นบริเวณจุดที่น่ากลัวและเสี่ยงมากอย่างทัดดอกไม้ของคาริอุสหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบได้ แต่การออกมาพูดแบบนี้หลังจากรู้ว่าเพื่อนร่วมอาชีพประสบภาวะอะไรบ้าง โดยส่วนตัวผมไม่ชอบ
ส่วนแนวความคิดที่ว่า กองหลังก็เล่นแบบนี้เพื่อความสำเร็จกันคั้งหลายคน ใครจะเป็นอะไรก็ไม่เห็นเป็นอะไร ใครๆก็ทำเพื่อแชมป์ทั้งนั้น
แนวความคิดประมาณนี้ที่ออกมาในสยามเมืองยิ้ม ที่ต้องการปราบคอรัปชั่น ผมไม่ขอพูดถึง
ปล. เรื่อง cerebral concussion อาจเป็นอะไรที่เข้าใจยาก แต่ก็ควรตื่นตัวและระวังเสมอ จะเป็นการดีมากถ้าเรื่องนี้จะทำให้วงการฟุตบอลตื่นตัวมากขึ้น