CHG ราคานรก-สวรรค์ : โดย อีหล่าน้อย เว็บ Share2Trade

http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=2900
    ในยามตลาดปั่นป่วน ไร้ทิศทางชัดเจน หุ้นโรงพยาบาล มักจะเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ถูกชูโรงโดดเด่นขึ้นมา แต่หุ่นของ"เครือข่ายตะวันออก"อย่าง บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด(มหาชน) หรือ CHG เป็นหุ้นที่มีคำแนะนำสับสนที่สุดยามนี้
    คำแนะนำที่สุดขั้วชนิดไปคนละทาง 180 องศา ระหว่างแนะให้ขาย ที่ราคาเป้าหมาย 1.70 บาท/หุ้น กับแนะให้ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท ต่างกันราวนรกกับสวรรค์อย่างนี้ ทำให้หลายคนไม่อยากเสี่ยงกับการเข้าซื้อ ทั้งที่ว่าไปแล้วราคาล่าสุด เหนือ 2.30 บาทเล็กน้อย ทำให้ค่าพี/อีอยู่ที่ระดับปกติ แต่ต่ำกว่าหุ้นโรงพยาบาลอื่นๆ
    เบื้องหลังมุมมองต่างขั้ว มีเหตุปัจจัยท่ต่างกันระหว่างปัจจัยบวกระยะสั้น กับปัจจัยบวกระยะยาวที่ตีความต่างกันของนักวิเคราะห์ต่างสำนัก
    ฝ่ายที่มองเชิงลบ อ้างเหตุผลว่า กำไรสุทธิที่โตเทียบจากปีก่อน 26.5% ที่ทำให้ตัวเลขการดำเนินงานไตรมาสแรกของ CHG ดีกว่าที่คาด 12% มาจากเหตุเฉพาะหน้า 2 เรื่องคือ
    1) การแพร่โรคระบาดโรต้าไวรัสและพิษสุนัขบ้าชั่วคราวในไตรมาสแรก
    2) การปรับขึ้นราคาค่ารักษาพยาบาล และการควบคุมต้นทุนที่ดี
    แต่ปัจจัยลบที่แอบแฝงมาจะเริ่มแสดงในระยะยาวน่ากังวลคือ
    1) รายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม ลดลง 5% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน
    2) คู่แข่งใหม่ อย่างเช่น สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ (CNMI) จะเปิดให้บริการสำหรับผู้ป่วนภายใน เดือนมิถุนายน 2018 อาจแย่งผู้ป่วยจาก CHG ไป
    ฝ่ายที่มองเชิงบวก มีมุมอธิบายว่า รายได้ประกันสังคมที่ลดลงไป 80% จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นภาพลวง เพราะตัวเลขรายได้ส่วนนี้ปีก่อนมีฐานรายได้ไม่ปกติจากโครงการตรวจสุขภาพฟรีให้แก่ผู้ประกันตน ขณะในปีนี้ สปส.ไม่ได้ใช้นโยบายตรวจสุขภาพแบบเดิม(ถึงแม้ว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการปรับอัตราการจ่ายค่าน้ำหนักโรค (RW) สูงขึ้นเป็น 12,800/AdjRw จากเดิมมีอัตราการจ่ายค่าน้ำหนักโรค (RW) อยู่ที่ 10,000/AdjRw) ถูกหักกลบได้ด้วยรายได้โครงการ 30 บาท ที่บวกเพิ่ม 12.7% เนื่องจากมีจำนวนเคสส่งต่อเข้ามารักษาสูงขึ้น  
    นอกจากนั้น ฝ่ายเชียร์ซื้อยังมีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า กำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานไตรมาสแรก ยังถือว่าซ่อนข้อดีแบบอำพรางเอาไว้ด้วยตัวเลขทางบัญชี จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญประกันสังคม 27 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนการเงินเพิ่มเล็กน้อยตามปกติ หากตัดส่วนนี้ออกไป กำไรจะโป่งมากขึ้น ในสิ้นปี เพราะในเดือน มิถุนายนนี้ CHG จะเปิดรพ.แห่งใหม่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 หรือ CHG304 เฟสแรกจะเปิด 15-30เตียง ก่อน
    แนวโน้มของนักลงทุน ดูจะเอียงมาทางด้านซื้อมากกว่าขาย เพราะเชื่อมั่นในแผนธุรกิจของผู้บริหารที่นำโดย นายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ ที่ออกมาคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 564.26 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนทำรายได้ 3.89 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะดีขึ้นมาที่ 18% หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบโครงการประกันสังคมภาครัฐ แต่ในปีนี้ไม่มีภาระการตั้งสำรองดังกล่าวแล้ว
    สำหรับรายได้ของบริษัทมีสัดส่วนมาจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม 33% ที่เหลือมาจากกลุ่มลูกค้าเงินสดและประกันชีวิต ซึ่งในส่วนนี้แบ่งเป็นลูกค้าคนไทยกว่า 90% และชาวต่างชาติ 4-5%
    หมอกำพล ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ CHG ว่าการเข้ามารักษาของชาวต่างชาติยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทตั้งเป้าในปี 2562 สัดส่วนรายได้ลูกค้าชาวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ตามการขยายโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิ
    ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งนอกจากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 แล้ว ยังมีการขยายเพิ่มเติมในโรงพยาบาลรวมแพทย์ จ.ฉะเชิงเทรา และลงทุนปรับปรุง ซ่อมแซม อาคารเดิม และซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลในเครือ เพื่อให้จำนวนเตียงจะเพิ่มขึ้นเป็น 670-672 เตียง จากปีก่อนอยู่ที่ 495 เตียง
           หมอกำพลเชื่อมั่นว่า การที่ CHG ล่าสุดมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 0.4 เท่า ช่วยให้เปิดทางสามารถในการกู้ยืมได้อีกมาก ไม่นับส่วนเงินทุนหมุนเวียนที่ได้มาจากการดำเนินงานของบริษัท
           ทั้งหมดนี้ หมอกำพล เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานตลอดปีนี้จะทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่องทุกไตรมาส รวมถึงช่วงปลายปีโรงพยาบาลรวมแพทย์ จ.ฉะเชิงเทรา จะเปิดให้บริการด้วย
           สำหรับวิสัยทัศน์ในอนาคต CHG ก็ไม่ยอมหยุดมองหาช่องสร้างรายได้ใหม่ ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายศูนย์ให้คำปรึกษาสำหรับผู้มีบุตรยาก (IVF) โดยเฉพาะชาวจีนที่ค่อนข้างมีกำลังในการใช้จ่ายและมีความต้องการสูงในทุกๆปี
    ตัวเลขที่ต่างกันของนักวิเคราะห์และตัวเลขฝ่ายเดียวจากผู้บริหาร จะจริงหรือเป็นแค่มายากล เป็นความท้าทายของนักลงทุน เพราะอย่างที่มีคำโบราณกล่าวว่า สวรรค์และนรก จุดเริ่มต้นอยู่ห่างกันแค่ผนังบาง หรือ the thin red line เท่านั้น เพียงแต่ปลายทางให้ผลลัพธ์ต่างกันเกินสมควร

#CHG #share2trade

ขอบคุณบทความจาก www.facebook.com/Share2Trade/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่