เป็นกระทู้แรกค่ะ ตั้งไม่ถูกกลุ่มขออภัยด้วยนะคะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ปี 2550 ได้ทำเรื่องกู้บ้านกับแบงค์เขียวโดยเป็นผู้กู้คนเดียว ไม่มีผู้กู้ร่วม (ยอดกู้ประมาณ 2,200,000) แต่บ้านหลังนี้มีแม่แฟนเป็นคนผ่อน เราไม่ได้ผ่อนเอง แต่ต่อมามีปัญหาเลิกกับแฟน (ตอนแรกมีแพลนจะแต่งงานกัน) เดือน พค. 60 ได้บอกกับทางแม่แฟนเก่าไปว่าจะขอเอาชื่อออกจากบ้านเพราะจะไปซื้อคอนโดของตัวเอง และได้โทรไปเช็คยอดหนี้บ้าน ทางแบงค์แจ้งว่ามียอดค้างจ่ายอยู่หลายเดือนแล้วซึ่งเราไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย แบงค์ไม่เคยโทรมาหาเราซึ่งเป็นผู้กู้เลย มารู้ทีหลังว่าทางแม่แฟนเป็นคนแจ้งทางแบงค์ว่ามีอะไรให้ติดต่อทางแม่เองเพราะเป็นคนผ่อนบ้าน หลังจากนั้นเราก็พยายามคุยกับทางแม่แฟนเก่าให้ไปจ่ายค่าบ้านที่ค้าง แม่แฟนเก่ารับปากว่าจะไปจ่ายแต่ไม่เคยไปจ่ายเลย บอกว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ผลัดกับเรา กับทางแบงค์มาตลอด ช่วงที่ไม่ได้จ่ายค่าบ้านเลยทางแม่แฟนเก่าก็พยายามให้หลานมาทำเรื่องกู้บ้านนี้แทนแต่ไม่ผ่าน เราจะขายบ้านทางแม่แฟนเก่าก็ไม่ยอม ไม่ให้ความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น โทรไปหาแต่ละครั้งก็ไม่ค่อยจะรับสาย ติดต่อยาก บางครั้งปิดเครื่องหนีไปเลย จนระยะเวลาที่ไม่ได้ผ่อนบ้านนานเป็น 10เดือนจนเราทำใจว่าคงต้องโดนแบงค์ฟ้องแน่ ซึ่งวันนี้บ้านที่ ตจว ได้รับหมายศาลแล้วค่ะ ซึ่งเราไม่คิดจะหนีศาลนะคะ จะไปขึ้นศาลแน่นอนค่ะ แต่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน จึงอยากสอบถามดังนี้ค่ะ
1. ถ้าเราไม่ต้องการบ้านนี้ ในฐานะผู้กู้เราสามารถบอกศาลเพื่อทำเรื่องบังคับคดีได้เลยไหมคะ
2. ตอนนี้ทางแม่แฟนเก่าจะให้เราไปทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้กับแบงค์อีกรอบ (รอบแรกทำไปครั้งนึงแล้วตอน พค 60) ซึ่งเราได้โทรไปสอบถามกับทางแบงค์แล้วว่าสามารถทำได้อีกจริงไหม ทางแบงค์บอกว่าเป็นการปรับโครงสร้างหนี้อีกแบบหนึ่งซึ่งต้องไปทำที่ศาล (เราคิดว่ามันน่าจะคือการไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลเพื่อปรับลดค่าผ่อนบ้านแล้วส่งต่อไปเรื่อยๆ)
3.เราไม่อยากมีพันธะใดๆกับบ้านนี้แล้ว ทำอย่างไรได้บ้างคะในกรณีนี้ที่เรื่องมาจนถึงขั้นขึ้นศาลแล้ว
ยอมรับค่ะว่าเป็นความผิดของเราเองที่เอาชื่อตัวเองไปซื้อบ้านให้คนอื่นอยู่ จนสุดท้ายมีปัญหาโดนแบงค์ฟ้อง แต่ยังไงก็จะพยายามแก้ปัญหาให้ถึงที่สุดค่ะรบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ได้รับหมายศาลนัดไกล่เกลี่ยเรื่องบ้านเดือนกรกฎาคมนี้
ปี 2550 ได้ทำเรื่องกู้บ้านกับแบงค์เขียวโดยเป็นผู้กู้คนเดียว ไม่มีผู้กู้ร่วม (ยอดกู้ประมาณ 2,200,000) แต่บ้านหลังนี้มีแม่แฟนเป็นคนผ่อน เราไม่ได้ผ่อนเอง แต่ต่อมามีปัญหาเลิกกับแฟน (ตอนแรกมีแพลนจะแต่งงานกัน) เดือน พค. 60 ได้บอกกับทางแม่แฟนเก่าไปว่าจะขอเอาชื่อออกจากบ้านเพราะจะไปซื้อคอนโดของตัวเอง และได้โทรไปเช็คยอดหนี้บ้าน ทางแบงค์แจ้งว่ามียอดค้างจ่ายอยู่หลายเดือนแล้วซึ่งเราไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย แบงค์ไม่เคยโทรมาหาเราซึ่งเป็นผู้กู้เลย มารู้ทีหลังว่าทางแม่แฟนเป็นคนแจ้งทางแบงค์ว่ามีอะไรให้ติดต่อทางแม่เองเพราะเป็นคนผ่อนบ้าน หลังจากนั้นเราก็พยายามคุยกับทางแม่แฟนเก่าให้ไปจ่ายค่าบ้านที่ค้าง แม่แฟนเก่ารับปากว่าจะไปจ่ายแต่ไม่เคยไปจ่ายเลย บอกว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ผลัดกับเรา กับทางแบงค์มาตลอด ช่วงที่ไม่ได้จ่ายค่าบ้านเลยทางแม่แฟนเก่าก็พยายามให้หลานมาทำเรื่องกู้บ้านนี้แทนแต่ไม่ผ่าน เราจะขายบ้านทางแม่แฟนเก่าก็ไม่ยอม ไม่ให้ความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น โทรไปหาแต่ละครั้งก็ไม่ค่อยจะรับสาย ติดต่อยาก บางครั้งปิดเครื่องหนีไปเลย จนระยะเวลาที่ไม่ได้ผ่อนบ้านนานเป็น 10เดือนจนเราทำใจว่าคงต้องโดนแบงค์ฟ้องแน่ ซึ่งวันนี้บ้านที่ ตจว ได้รับหมายศาลแล้วค่ะ ซึ่งเราไม่คิดจะหนีศาลนะคะ จะไปขึ้นศาลแน่นอนค่ะ แต่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน จึงอยากสอบถามดังนี้ค่ะ
1. ถ้าเราไม่ต้องการบ้านนี้ ในฐานะผู้กู้เราสามารถบอกศาลเพื่อทำเรื่องบังคับคดีได้เลยไหมคะ
2. ตอนนี้ทางแม่แฟนเก่าจะให้เราไปทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้กับแบงค์อีกรอบ (รอบแรกทำไปครั้งนึงแล้วตอน พค 60) ซึ่งเราได้โทรไปสอบถามกับทางแบงค์แล้วว่าสามารถทำได้อีกจริงไหม ทางแบงค์บอกว่าเป็นการปรับโครงสร้างหนี้อีกแบบหนึ่งซึ่งต้องไปทำที่ศาล (เราคิดว่ามันน่าจะคือการไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลเพื่อปรับลดค่าผ่อนบ้านแล้วส่งต่อไปเรื่อยๆ)
3.เราไม่อยากมีพันธะใดๆกับบ้านนี้แล้ว ทำอย่างไรได้บ้างคะในกรณีนี้ที่เรื่องมาจนถึงขั้นขึ้นศาลแล้ว
ยอมรับค่ะว่าเป็นความผิดของเราเองที่เอาชื่อตัวเองไปซื้อบ้านให้คนอื่นอยู่ จนสุดท้ายมีปัญหาโดนแบงค์ฟ้อง แต่ยังไงก็จะพยายามแก้ปัญหาให้ถึงที่สุดค่ะรบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ