เรื่องการค้ำประกันเงินกู้ ชพค.

กระทู้คำถาม
รบกวนขอคำปรึกษาจากทุกๆท่านค่ะ
เนื่องจากในปี2555 ข้าพเจ้าได้ไปค้ำประกันเงินกู้ ชพค. ให้เพื่อนร่วมงาน  โดยข้าพเจ้าเป็นคนค้ำคนที่2
เมื่อปี2560 มีหมายศาลมาส่ง ให้ไปขึ้นศาลเนื่องจากผู้กู้ที่เราค้ำประกันให้ไม่ชำระหนี้  ซึ่งตอนนั้นไม่ได้ไปท้องแก่ เลยมอบฉันทะให้คนค้ำคนที่1ไป  จากนั้นก็ได้ไกล่เกลี่ยกัน โดยที่ไม่ได้เข้าไปในห้องบัลลังก์
จากนั้นก็มาปี2565 เดือน7 ทางธนาคารออมสินแจ้งให้ผู้กู้ไปไกล่เกลี่ย ซึ่งทางเราคนค้ำคนที่2ไม่สามารถติดต่อคนกู้ได้ และคนค้ำคนที่1ก็ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง เราในฐานะคนค้ำทั้งคู่จึงตัดสินใจไปคุยกับธนาคาร  เพราะคิดว่าคนกู้ไม่ไปแน่ ๆ แต่พอไปถึง เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า คนกู้มาเซ็นเอกสารแล้วก็กลับไปแล้ว ทางเราเลยถามเจ้าหน้าที่ไปว่าหลังจากนี้ต้องทำอะไรยังไง ธนาคารแจ้งว่าคนกู้ค้างจ่าย2งวด เลยให้มาปรับโครงสร้าง​ห้จ่ายน้อยลงกว่าเดิม ให้จ่ายเดือนละ3000 เริ่มตั้งแต่เดือน7เป็นต้นมา
ในวันที่28 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่โทรหาคนค้ำว่า คนกู้ไม่ยอมจ่ายเงินตามที่กำหนดไว้ ทางธนาคารจะดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว สืบทรัพย์​ ยึดทรัพย์​เจอของ ใน3คนนี้ก็จะยึดเลย   พยายามถามเจ้าหน้าที่ว่าพอจะมีทางออกไหนให้คนค้ำอย่างเราบ้าง เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่บอกว่า ไม่มีทางออกไหนให้เลย
เราเลยกังวลมาก เพราะเราผ่อนบ้านอยู่ คิดหนักมาก เลยอยากปรึกษาทุกท่สนที่พอจะู้เรื่อง กสรค้ำประกันเงินกู้ ชพค.ค่ะ  ขอบคุณ​ล่วงหน้านะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ค้ำประกัน ไม่มีลำดับ 1 ลำดับ 2  ผู้ค้ำทั้ง 2 คน ต่างรับผิดชอบหนี้ของผู้กู้ เต็มจำนวน ไม่ได้แบ่งคนละครึ่ง
แต่การบังคับคดี เจ้าหนี้ ต้องบังคับเอาจากผู้กู้ก่อน ถึงจะมาเรียกเอาจากผู้ค้ำประกันได้
ถ้าผู้ค้ำประกัน อีกคนไม่มีทรัพย์สิน แต่คุณมีบ้าน คุณน่าจะลำบาก ถ้าผู้กู้ชำระไม่ได้ คุณมีโอกาสถูกยึดบ้านขายทอดตลาด

* ถ้าตอนผู้กู้ปรับโครงสร้างหนี้ ผู้ค้ำประกันไม่ได้เซ็น  คุณอาจจะโชคดี ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ธนาคารไม่น่าจะพลาด
* ไม่แน่ใจว่า ออมสิน ทำเป็นสัญญาค้ำประกัน หรือสัญญากู้ร่วม  ถ้ากู้ร่วม เขาเลือกยึดจากคุณก่อนได้  ถ้าคุณฐานะดีที่สุด
* บ้านถึงผ่อนอยู่ แต่บ้านเป็นของคุณ ไม่ใช่ของธนาคาร เจ้าหนี้ยึดขายทอดตลาดได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่