เกริ่นก่อน...เรื่องเกิดจากปัญหาชีวิต ปัญหาในครอบครัว หนี้สิน พนัน ดราม่าคละเคล้ากันไปและผลสุดท้ายกระผมเอง เป็นหนี้อีรุงตุงนัง แต่จะขออนุญาติสรุปแค่หนี้สินในระบบครับ
เมื่อกลางปี เดือนมิถุนายน 2562 ผมได้มีหนี้สินในระบบ สรุปคือ
1 แบงค์เขียว บัตรเงินสด = 80k
2 แบงค์เขียว บัตรเครดิต = 135k
3 แบงค์ฟ้าส้ม บัตรเครดิต = 55k
4 แบงค์ฟ้าส้ม สินเชื่อ = 50k
5 แบงค์ม่วง บัตรเครดิต = 120k
6 แบงค์ฟ้า บัตรเครดิต = 60k
7 แบงค์ฟ้า บัตรเงินสด = 60k
8 บัตรเครดิต ดอกบัว = 50k
9 แบงค์U บัตรเครดิต = 70k
10 แบงค์U บัตรเครดิต = 45k
11 แบงค์U สินเชื่อ = 70k
ยอดรวมหนี้ในระบบทั้งสิ้นกลมๆ = 800,000 บาท
กลับมาทบทวนและหาข้อมูล อ่านเว็บเป็นเดือนๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้ง กฏหมายแพ่ง การยึดทรัพย์ คลีนิคแก้หนี้ ชมรมคนสู้หนี้ และประสบการณ์หลายๆท่านที่แชร์ให้ฟัง ให้อ่านจากหลายๆแห่ง เลยเลือกตัวเลือกที่ทำได้ในขณะนั้นและพอที่จะมั่นใจในการตัดสินใจ
โดยจากประสบการณ์การผม ดังต่อไปนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมด เก็บตังค์ไว้กินข้าวและเลี้ยงดูครอบครัว
: ก่อนหน้าจ่ายขั้นต่ำครับ แล้วก็กดออกมา เดือนๆนึงจ่ายขั้นต่ำเกือบแสน แต่ก็กดออกมาได้คืนบางส่วน สรุปคือ ไม่แนะนำให้ทำเลยครับ สรุปค่าจ่ายเกิน ค่านู้น ค่านี่ เสียยิบย่อยมาก เช่น จ่ายขั้นต่ำ 1 แสน จะสามารถกดคืนได้ไม่ถึง 9 หมื่น อารมณ์ประมาณเหมือนกู้เงินดอกเกิน 10% ยังงัยไม่รู้
***จำเป็นที่จะเก็บสลิปเดือนสุดท้าย รวมถึงยอดสุดท้ายตอนที่หยุดจ่ายไว้นะครับ
2. สรุปรายจ่ายต่อเดือน (จริง) ให้ได้ : บัญชีรายรับ-รายจ่าย
: เงินเข้าอ่ะ เราๆ ท่านๆทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ เดือนๆนึง ค่าใช้จ่ายจริงๆ เท่าไร เป็นการประเมินตัวเลขที่ยากนะ ค่ากิน ค่าใช้ ค่าเดินทาง ค่างวด ค่าใช้จ่ายจำเป็น รวมถึงค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ต้องเตรียมไว้จ่าย เช่น ประกันรถ ค่านำรถเข้าศูนย์ เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายพวกนี้เราต้องสรุปตัวเลขจริงให้ได้ เพื่อใช้ในการคำนวน รายรับ - รายจ่าย ถ้าไม่สมดุลย์ ก็จำเป็นที่ต้องตัดทอน ให้รายรับมากกว่ารายจ่ายให้ได้
3. ห้ามทำหนี้เพิ่ม และเก็บเงินสดให้ได้มากที่สุด
: เมื่อเรามีตัวเลข : รายรับ - รายจ่ายที่แน่นอน = ตัวเลขเงินเก็บที่เตรียมไว้สำหรับจ่ายหนี้...ตรงนี้จำเป็นมาก เพราะเท่าที่ศึกษาและประสบการณ์ เวลา Haircut จำเป็นที่จะต้องมีเงินสด จ่ายภายใน 1 งวด
4. รอเวลาที่เหมาะสม
: โดยปกติ ธนาคาร ฝ่ายทวงหนี้ เป็นปกติที่ เค้าจะต้องติดตามทวงถามเรา ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง (หน้าที่และเทคนิคเค้า) / โดย 3 เดือนแรก ก็ทวงถี่ๆ - เดือนที่ 4-6 เริ่มทวงน้อยลง จะเป็นบริษัททวงหนี้แล้ว และเดือนที่ 6-12 จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะหลังจาก 3-5 เดือน หนี้เราเป็นหนี้เสียแน่ๆแล้ว รวมถึงติด Blacklist เรียบร้อย ช่วงนี้ แต่ละแบงค์จะเริ่มมี ข้อเสนอมาให้เราบ้าง (แถวๆเดือนที่ 6-12) อาจจะเริ่มตั้งแต่ // จ่ายเฉพาะต้น (ลดดอกให้) หรือเริ่มมีส่วนลดบ้างแล้ว รวมถึง "ปรับโครงสร้างหนี้" หรือ ลดยอดผ่อน/เพิ่มงวดจ่าย ****ตรงนี้ไม่แนะนำนะครับ (ลองศึกษาข้อเสียเพิ่มเติมดู)
>> อย่างที่บอก จากที่ผมศึกษาผมรอ Haircut อย่างเดียวเลย โดยเค้าว่ากันว่า 50% ถือว่าเยอะมากๆ แล้ว โดยผมเองเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เมื่อแบงค์ไหนให้ส่วนลดที่ 50% และมีเงินพอ ก็จะรับข้อเสนอและจ่ายปิดจบไป
สรุป Timeline ของผม
- หยุดจ่าย มิย.62 (11ผลิตภัณฑ์ จาก 6 แบงค์ ยอดรวม 800k)
- พย.62 บัตรดอกบัวเสนอ -35%+ผ่อน 6 งวด *ข้อเสนอยังไม่เร้าใจ ยังไม่จ่าย
- ธค.62 แบงค์ม่วงเสนอ -37% *ข้อเสนอยังไม่เร้าใจ ยังไม่จ่าย / แบงค์ฟ้า นัดไปศาลแพ่ง
- มค.63 แบงค์U เสนอ -20% *ข้อเสนอยังไม่เร้าใจ ยังไม่จ่าย / บัตรดอกบัว เสนอ 50%+ผ่อน 5 งวด รับข้อเสนอ **จ่ายตามข้อเสนอ** / แบงค์เขียวเครดิตเสนอ -50% ส่วนบัตรเงินสดยังไม่มีข้อเสนอ *แจ้งสนใจแต่ยังไม่จ่าย
- หลังจากนั้นก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ เริ่มหลงๆ ลืมๆ สรุปตอนจ่ายเลย
- เมย.62 แบงค์U จาก 185k จ่ายจริง 105k และ แบงค์เขียว จาก 215k จ่ายจริง 105k รวมหนี้ทั้งบัตรเครดิต+เงินสด+สินเชื่อ ข้อเสนอ ณ ตอนนั้น 50% **จ่ายตามข้อเสนอทั้ง 2 แบงค์
- กพ.62 แบงค์ฟ้า ขึ้นศาล และศาลสั่งจ่าย กค.62 เดือนละ 2000 จ่ายให้หมดเป็นภายใน 2 ปี ดอก 10%ต่อปี(จ่ายเดือนละ 2000 เดือนที่ 24 ต้องปิดทั้งหมด)
- มิย.62 แบงค์ม่วง ขึ้นศาล และศาลสั่งจ่าย พย.62 เดือนละ 2500 และจ่ายให้หมดภายใน 2 ปี ดอก 10%ต่อปี (จ่ายปีแรก 2500 ปีถัดไป 3500 เดือนที่ 24 ต้องปิดทั้งหมด)
- กค.62 แบงค์ฟ้าส้ม บัตรเครดิต ขึ้นศาล และศาลสั่งจ่าย ธค.62 เดือนละ 1900 และจ่ายให้หมดภายใน 3 ปี ไม่มีดอก
- มีค.64 แบงค์ฟ้าส้ม สินเชื่อ เสนอ จาก 50k จ่าย 47k ผ่อน (10k+10k+26k) หลังจากหยุดจ่ายมาแล้วเกือบ 2 ปี **จ่ายตามข้อเสนอ
- กย.64 เงินเริ่มเหลือ เหลือเฉพาะ 3 แบงค์ที่จ่ายตามศาลสั่ง ลองโทรไป ขอปิดจบ สรุปว่า มีส่วนลดหลายหมื่น เลยขอปิดจบทันที โดย แบงค์ม่วง จากยอด 120k ผ่อน 2500x10งวด + ปิดจบ 77k รวมจ่ายจริง 100k (ลดได้ 20k ปิดจบหลังศาลสั่ง) / แบงค์ฟ้า จาก 120k ผ่อน 2000x14งวด + ปิดจบ 88k รวมจ่ายจริง 116k (ลดได้ 4k ปิดจบหลังศาลสั่ง) ***จ่ายหลังศาลสั่งจะมีค่าใช้อื่นๆไม่ได้ใส่เข้ามาจำไม่ได้ อาทิ พวกค่าติดตามทวงถาม ค่าศาล ค่าทนาย Save จริงหลังจากศาลสั่งก้อนสุดท้าย ราวๆ 40k
สามารถปลดหนี้ ในระบบประมาณ 3 ปี ณ ตอนนี้รู้สึก สบายและโล่งใจ
เป็นกำลังใจ ให้กับทุกคนนะครับ หนี้สินมีทางออกเสมอ
ปล.บางแบงค์เคยเสนอ 30% 50% ให้ผมด้วยนะ แต่อาจจะอยู่ในช่วงไม่มีเงินสด เลยไม่สามารถรับข้อเสนอได้ เลยจำเป็นต้องขึ้นศาล 3 ศาล
สรุป
1 แบงค์เขียว บัตรเงินสด = 80k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
2 แบงค์เขียว บัตรเครดิต = 135k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
3 แบงค์ฟ้าส้ม บัตรเครดิต = 55k (ขึ้นศาล)
4 แบงค์ฟ้าส้ม สินเชื่อ = 50k (ขึ้นศาล)
5 แบงค์ม่วง บัตรเครดิต = 120k (ขึ้นศาล / ขอปิดจบมีส่วนลดตอนมีตังค์หลังจากศาลสั่ง)
6 แบงค์ฟ้า บัตรเครดิต = 60k (ขึ้นศาล / ขอปิดจบมีส่วนลดตอนมีตังค์หลังจากศาลสั่ง)
7 แบงค์ฟ้า บัตรเงินสด = 60k (ขึ้นศาล / ขอปิดจบมีส่วนลดตอนมีตังค์หลังจากศาลสั่ง)
8 บัตรเครดิต ดอกบัว = 50k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
9 แบงค์U บัตรเครดิต = 70k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
10 แบงค์U บัตรเครดิต = 45k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
11 แบงค์U สินเชื่อ = 70k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
ยอดรวมหนี้ในระบบทั้งสิ้นกลมๆ = 800,000 บาท จ่ายจริง 600,000 บาท ลดจริง 25% ในระยะเวลา 3 ปี
แชร์ประสบการ Haircut (ที่ไม่ได้แปลว่าตัดผม ^^)
เมื่อกลางปี เดือนมิถุนายน 2562 ผมได้มีหนี้สินในระบบ สรุปคือ
1 แบงค์เขียว บัตรเงินสด = 80k
2 แบงค์เขียว บัตรเครดิต = 135k
3 แบงค์ฟ้าส้ม บัตรเครดิต = 55k
4 แบงค์ฟ้าส้ม สินเชื่อ = 50k
5 แบงค์ม่วง บัตรเครดิต = 120k
6 แบงค์ฟ้า บัตรเครดิต = 60k
7 แบงค์ฟ้า บัตรเงินสด = 60k
8 บัตรเครดิต ดอกบัว = 50k
9 แบงค์U บัตรเครดิต = 70k
10 แบงค์U บัตรเครดิต = 45k
11 แบงค์U สินเชื่อ = 70k
ยอดรวมหนี้ในระบบทั้งสิ้นกลมๆ = 800,000 บาท
กลับมาทบทวนและหาข้อมูล อ่านเว็บเป็นเดือนๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้ง กฏหมายแพ่ง การยึดทรัพย์ คลีนิคแก้หนี้ ชมรมคนสู้หนี้ และประสบการณ์หลายๆท่านที่แชร์ให้ฟัง ให้อ่านจากหลายๆแห่ง เลยเลือกตัวเลือกที่ทำได้ในขณะนั้นและพอที่จะมั่นใจในการตัดสินใจ
โดยจากประสบการณ์การผม ดังต่อไปนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมด เก็บตังค์ไว้กินข้าวและเลี้ยงดูครอบครัว
: ก่อนหน้าจ่ายขั้นต่ำครับ แล้วก็กดออกมา เดือนๆนึงจ่ายขั้นต่ำเกือบแสน แต่ก็กดออกมาได้คืนบางส่วน สรุปคือ ไม่แนะนำให้ทำเลยครับ สรุปค่าจ่ายเกิน ค่านู้น ค่านี่ เสียยิบย่อยมาก เช่น จ่ายขั้นต่ำ 1 แสน จะสามารถกดคืนได้ไม่ถึง 9 หมื่น อารมณ์ประมาณเหมือนกู้เงินดอกเกิน 10% ยังงัยไม่รู้
***จำเป็นที่จะเก็บสลิปเดือนสุดท้าย รวมถึงยอดสุดท้ายตอนที่หยุดจ่ายไว้นะครับ
2. สรุปรายจ่ายต่อเดือน (จริง) ให้ได้ : บัญชีรายรับ-รายจ่าย
: เงินเข้าอ่ะ เราๆ ท่านๆทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ เดือนๆนึง ค่าใช้จ่ายจริงๆ เท่าไร เป็นการประเมินตัวเลขที่ยากนะ ค่ากิน ค่าใช้ ค่าเดินทาง ค่างวด ค่าใช้จ่ายจำเป็น รวมถึงค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ต้องเตรียมไว้จ่าย เช่น ประกันรถ ค่านำรถเข้าศูนย์ เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายพวกนี้เราต้องสรุปตัวเลขจริงให้ได้ เพื่อใช้ในการคำนวน รายรับ - รายจ่าย ถ้าไม่สมดุลย์ ก็จำเป็นที่ต้องตัดทอน ให้รายรับมากกว่ารายจ่ายให้ได้
3. ห้ามทำหนี้เพิ่ม และเก็บเงินสดให้ได้มากที่สุด
: เมื่อเรามีตัวเลข : รายรับ - รายจ่ายที่แน่นอน = ตัวเลขเงินเก็บที่เตรียมไว้สำหรับจ่ายหนี้...ตรงนี้จำเป็นมาก เพราะเท่าที่ศึกษาและประสบการณ์ เวลา Haircut จำเป็นที่จะต้องมีเงินสด จ่ายภายใน 1 งวด
4. รอเวลาที่เหมาะสม
: โดยปกติ ธนาคาร ฝ่ายทวงหนี้ เป็นปกติที่ เค้าจะต้องติดตามทวงถามเรา ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง (หน้าที่และเทคนิคเค้า) / โดย 3 เดือนแรก ก็ทวงถี่ๆ - เดือนที่ 4-6 เริ่มทวงน้อยลง จะเป็นบริษัททวงหนี้แล้ว และเดือนที่ 6-12 จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะหลังจาก 3-5 เดือน หนี้เราเป็นหนี้เสียแน่ๆแล้ว รวมถึงติด Blacklist เรียบร้อย ช่วงนี้ แต่ละแบงค์จะเริ่มมี ข้อเสนอมาให้เราบ้าง (แถวๆเดือนที่ 6-12) อาจจะเริ่มตั้งแต่ // จ่ายเฉพาะต้น (ลดดอกให้) หรือเริ่มมีส่วนลดบ้างแล้ว รวมถึง "ปรับโครงสร้างหนี้" หรือ ลดยอดผ่อน/เพิ่มงวดจ่าย ****ตรงนี้ไม่แนะนำนะครับ (ลองศึกษาข้อเสียเพิ่มเติมดู)
>> อย่างที่บอก จากที่ผมศึกษาผมรอ Haircut อย่างเดียวเลย โดยเค้าว่ากันว่า 50% ถือว่าเยอะมากๆ แล้ว โดยผมเองเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เมื่อแบงค์ไหนให้ส่วนลดที่ 50% และมีเงินพอ ก็จะรับข้อเสนอและจ่ายปิดจบไป
สรุป Timeline ของผม
- หยุดจ่าย มิย.62 (11ผลิตภัณฑ์ จาก 6 แบงค์ ยอดรวม 800k)
- พย.62 บัตรดอกบัวเสนอ -35%+ผ่อน 6 งวด *ข้อเสนอยังไม่เร้าใจ ยังไม่จ่าย
- ธค.62 แบงค์ม่วงเสนอ -37% *ข้อเสนอยังไม่เร้าใจ ยังไม่จ่าย / แบงค์ฟ้า นัดไปศาลแพ่ง
- มค.63 แบงค์U เสนอ -20% *ข้อเสนอยังไม่เร้าใจ ยังไม่จ่าย / บัตรดอกบัว เสนอ 50%+ผ่อน 5 งวด รับข้อเสนอ **จ่ายตามข้อเสนอ** / แบงค์เขียวเครดิตเสนอ -50% ส่วนบัตรเงินสดยังไม่มีข้อเสนอ *แจ้งสนใจแต่ยังไม่จ่าย
- หลังจากนั้นก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ เริ่มหลงๆ ลืมๆ สรุปตอนจ่ายเลย
- เมย.62 แบงค์U จาก 185k จ่ายจริง 105k และ แบงค์เขียว จาก 215k จ่ายจริง 105k รวมหนี้ทั้งบัตรเครดิต+เงินสด+สินเชื่อ ข้อเสนอ ณ ตอนนั้น 50% **จ่ายตามข้อเสนอทั้ง 2 แบงค์
- กพ.62 แบงค์ฟ้า ขึ้นศาล และศาลสั่งจ่าย กค.62 เดือนละ 2000 จ่ายให้หมดเป็นภายใน 2 ปี ดอก 10%ต่อปี(จ่ายเดือนละ 2000 เดือนที่ 24 ต้องปิดทั้งหมด)
- มิย.62 แบงค์ม่วง ขึ้นศาล และศาลสั่งจ่าย พย.62 เดือนละ 2500 และจ่ายให้หมดภายใน 2 ปี ดอก 10%ต่อปี (จ่ายปีแรก 2500 ปีถัดไป 3500 เดือนที่ 24 ต้องปิดทั้งหมด)
- กค.62 แบงค์ฟ้าส้ม บัตรเครดิต ขึ้นศาล และศาลสั่งจ่าย ธค.62 เดือนละ 1900 และจ่ายให้หมดภายใน 3 ปี ไม่มีดอก
- มีค.64 แบงค์ฟ้าส้ม สินเชื่อ เสนอ จาก 50k จ่าย 47k ผ่อน (10k+10k+26k) หลังจากหยุดจ่ายมาแล้วเกือบ 2 ปี **จ่ายตามข้อเสนอ
- กย.64 เงินเริ่มเหลือ เหลือเฉพาะ 3 แบงค์ที่จ่ายตามศาลสั่ง ลองโทรไป ขอปิดจบ สรุปว่า มีส่วนลดหลายหมื่น เลยขอปิดจบทันที โดย แบงค์ม่วง จากยอด 120k ผ่อน 2500x10งวด + ปิดจบ 77k รวมจ่ายจริง 100k (ลดได้ 20k ปิดจบหลังศาลสั่ง) / แบงค์ฟ้า จาก 120k ผ่อน 2000x14งวด + ปิดจบ 88k รวมจ่ายจริง 116k (ลดได้ 4k ปิดจบหลังศาลสั่ง) ***จ่ายหลังศาลสั่งจะมีค่าใช้อื่นๆไม่ได้ใส่เข้ามาจำไม่ได้ อาทิ พวกค่าติดตามทวงถาม ค่าศาล ค่าทนาย Save จริงหลังจากศาลสั่งก้อนสุดท้าย ราวๆ 40k
สามารถปลดหนี้ ในระบบประมาณ 3 ปี ณ ตอนนี้รู้สึก สบายและโล่งใจ
เป็นกำลังใจ ให้กับทุกคนนะครับ หนี้สินมีทางออกเสมอ
ปล.บางแบงค์เคยเสนอ 30% 50% ให้ผมด้วยนะ แต่อาจจะอยู่ในช่วงไม่มีเงินสด เลยไม่สามารถรับข้อเสนอได้ เลยจำเป็นต้องขึ้นศาล 3 ศาล
สรุป
1 แบงค์เขียว บัตรเงินสด = 80k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
2 แบงค์เขียว บัตรเครดิต = 135k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
3 แบงค์ฟ้าส้ม บัตรเครดิต = 55k (ขึ้นศาล)
4 แบงค์ฟ้าส้ม สินเชื่อ = 50k (ขึ้นศาล)
5 แบงค์ม่วง บัตรเครดิต = 120k (ขึ้นศาล / ขอปิดจบมีส่วนลดตอนมีตังค์หลังจากศาลสั่ง)
6 แบงค์ฟ้า บัตรเครดิต = 60k (ขึ้นศาล / ขอปิดจบมีส่วนลดตอนมีตังค์หลังจากศาลสั่ง)
7 แบงค์ฟ้า บัตรเงินสด = 60k (ขึ้นศาล / ขอปิดจบมีส่วนลดตอนมีตังค์หลังจากศาลสั่ง)
8 บัตรเครดิต ดอกบัว = 50k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
9 แบงค์U บัตรเครดิต = 70k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
10 แบงค์U บัตรเครดิต = 45k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
11 แบงค์U สินเชื่อ = 70k (ลด 50% จากต้น,ดอก,ค่าติดตามทวงถาม)
ยอดรวมหนี้ในระบบทั้งสิ้นกลมๆ = 800,000 บาท จ่ายจริง 600,000 บาท ลดจริง 25% ในระยะเวลา 3 ปี