นานๆ ผมจะมาตั้งกระทู้สักที เนื่องจากเป็นคนที่ชอบดูหนังมากๆ และมักจะไปดูที่ Lido, Scala เป็นประจำ
เลยอยากจะมาเล่าบรรยากาศวันอำลาลิโด้ และความทรงจำที่มีกับโรงหนังแห่งนี้ (รูปเยอะหน่อยนะครับ)
อย่างที่รู้กัน ณ เวลานี้ Lido โรงหนังที่รักของหลายๆ คน และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเรา ได้ปิดตัวลงแล้ว เมื่อวันที่ 31 May 2018 จริงๆ ก็พอจะรู้ข่าวมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ก็แอบลุ้นมาตลอดไม่ให้ข่าวนี้เป็นจริง จนวันนึงมีการ Confirm อย่างเป็นทางการ เราก็ตัดสินใจเลยว่าวันสุดท้ายของ Lido เราจะไปอยู่ที่ Lido ทั้งวันจนนาทีสุดท้าย แล้วเราก็เตรียมตัวพร้อมมากๆ เริ่มจาก
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าของวันสุดท้าย เราไปซื้อตั้งแต่วันแรกที่ขาย แล้วก็ตั้งใจซื้อที่นั่งสุดท้ายของโรง ทุกรอบ ในวันนั้นเพื่อเก็บตั๋วแบบไม่ฉีกเลย แล้วก็ซื้อเพิ่มในรอบที่จะดูจริงๆ
- สั่งทำเสื้อ (ที่ลอกแบบมาจากเสื้อ Marry is happy ของพี่เต๋อ) สั่งเสื้อกับร้าน monamafia shop แล้วก็ขอพี่แอนให้ช่วยเร่งผลิตให้หน่อย เพื่อให้ทันวันงาน
- สั่งทำ Postcard 1,000 ใบเอาไปแจกคนที่มาดูหนังวันนั้น, ตอนแจก Postcard รู้สึกเขินมากๆ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ใครได้ไปอยากให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกนึกถึงลิโด้นะ
- แล้วก็บังเอินไปเจอ Page Spacebar Design Studio ทำหนังสือ Scala เราก็สั่งเลยแบบไม่คิด ตั้งใจจะเอาไปให้ลุงๆ ป้าๆ ที่ Lido เซ็นเป็นที่ระลึก
ทุกอย่างเตรียมพร้อม แต่ใจลึกๆ ก็ไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย ยังอยากให้ Lido อยู่ต่อ เราเริ่มดูหนังที่ Lido ตั้งแต่อยู่ปี 1 ตอนนั้นโรง EGV Siam discovery ยังอยู่ ตั๋วราคานักศึกษา 80 บาท ซึ่งถูกกว่า Lido ที่ตอนนั้นเก็บ 100 แต่เราก็ยังชอบมาดูที่ Lido มากกว่า จำไม่ได้ว่าเรื่องแรกที่ดูคือเรื่องอะไร จำได้ว่าเรื่องแรกที่ดูในเครือ Apex คือ Paris, je t'aime แล้วก็ดูมาเรื่อยๆ ชอบหนังที่มาฉาย จะมีหนังที่ทำให้เราว้าว ประทับใจ ซาบซึ้ง ให้ดูเสมอๆ เช่น Always: Sunset on Third Street, Departure, Tomorrow I Will Date With Yesterdays You, Be With You
วันที่ 31 เรารีบออกจากบ้านแต่เช้า ไปถึง 10-11 โมง คนมาที่ Lido เยอะมาก บรรยากาศคึกคักมาก แม้จะมีความเศร้าปนอยู่ รู้สึกได้เลยว่าทุกคนมาด้วยความรัก Lido มาร่ำลาเพื่อนคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย เราดูหนังตั้งแต่รอบแรกไล่ตามนี้
12.00 Lido 1: See you up there หนังฝรั่งเศสเกี่ยวกับศิลปินอัฉริยะ ที่รอดตายจากสงครามโลกครั้งที่ 1
14.15 Lido 2: Terminal หนังโคตร Thriller ได้ลุ้นตลอด คาดเดาไม่ได้เลย พอหนังจบก็มีเวลาเล็กน้อยระหว่างรอรอบต่อไป เลยแวะไปกินข้าวร้านประจำที่เคยอยู่ใน Lido มาก่อน "ร้านต้นโอ๊ก" ร้านนี้เคยอยู่ Lido ชั้น 2 เราก็ชอบไปกิน เพราะอยู่ใกล้ อาหารอร่อย กินเสร็จก็ชอบไปกินร้าน "กล้วยกล้วย" ต่อก่อนเข้าโรง
18.30 Lido 2: Foolish Wive หนังจากเทศกาลหนังเงียบจากประเทศรัสเซีย เรื่องนี้ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่แค่ได้ฟังเปียนโนเล่นสดระหว่างดูหนังก็คุ้มมากๆ แล้ว
และรอบสุดท้ายของ Lido เวลาตามหน้าตั๋ว 20.45 Kids on the slope หนังญี่ปุ่นเล่าเรื่องมิตรภาพของเพื่อนและเพลง Jazz หนังดีนะ แต่ตอนที่ดูอารมไ่ม่ได้อยู่กับหนังเท่าไรเลย ในใจคิดตลอดว่าไม่อยากให้หนังเรื่องนี้จบ ไม่อยากออกจากโรง เพราะถ้าหนังจบเมื่อไร Lido ก็จะปิดแล้ว
ใจหายจริงๆ นะที่จะไม่ได้ดูหนังที่ Lido อีกแล้ว เราอยู่ในโรงจน End credit จบ ทุกคนปรบมือกันสนั่น และพี่ๆ ในห้องฉากก็ปรบมือด้วย และตะโกนขอบคุณทุกคน Moment นั้นซึ้งมากๆ แล้วพี่เค้าก็มี Surprise เล็กๆ เอา Clip สัมภาษณ์ป้าขาย Popcorn, คุณลุงสูธเหลือง, พี่ Operator มาให้ทุกคนดู คนดูก็ได้น้ำตาคลอกันอีกรอบ
**ถ้าอยากดู Clip เราเอาไปลงใน Twitter ลองตามไปดูได้นะ
https://twitter.com/obiwinds/status/1002433632441532416
เรายื้อเวลามากๆ ให้อยู่ในโรงนานที่สุด เลยขอพี่ขึ้นไปดูห้องฉาย แล้วก็คิดว่าถ้าได้ดูหนังในห้องฉายก็คงดีนะ เสียดายที่ไม่ได้ขอตั้งแต่แรก แต่พี่ก็บอกว่า ในนี้ดูไม่สนุกหรอก เพราะเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าควรจะกลับได้แล้ว เกรงใจพี่ๆ เขา (อยู่นานจริงๆ 555)
อันนี้เป็น Program หนังวันสุดท้ายบนห้องฉาย
พอเดินออกจากโรงเท่านั้นละ เราก็ได้เห็นภาพประทับใจสุดท้าย พี่ๆ พนักงานทุกคน ตั้งแต่เจ้าของ พี่ทำบัญชี พี่ขายขนม พี่สูธเหลือง ยืนรอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มาดูหนัง ขนลุกมากๆ ตื้นตันมากๆ ที่ได้อยู่จนนาทีสุดท้ายจริงๆ ตอนนี้เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ แต่คนยังอยู่กันเยอะมากๆ ทั้งคนที่มาดูหนัง ทั้งนักข่าว และพนักงานทุกคน ทุกคนถ่ายรูปกัน พูดคุยร่ำลากัน ทั้งรอยยิ้มและนำ้ตาปนๆ กันไป บรรยายอารมไม่ถูกเลยจริงๆ
สักพักเราก็เห็นม่านหลังประตูค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับคุณลุงคือกุญแจมาล็อคประตู วินาทีนั้นใจหายอีกรอบ เป็นรอบสุดท้าย มันเป็นวินาทีที่ปิดตำนาน 50 ปีของ Lido ณ เวลาประมาณตี 1 วันที่ 1 June 2018
สุดท้ายอยากจะขอบคุณพี่ๆ พนักงาน Lido ทุกคนที่มอบความสุขให้คนดูหนังมาตลอด ขอบคุณจริงๆ
และอยากให้ไปสนับสนุน Scala ต่อไปนะ
#อำลาลิโด้ #Lido #LidoForever #GoodbyeLido
อำลาลิโด้ 1968 - 2018
เลยอยากจะมาเล่าบรรยากาศวันอำลาลิโด้ และความทรงจำที่มีกับโรงหนังแห่งนี้ (รูปเยอะหน่อยนะครับ)
อย่างที่รู้กัน ณ เวลานี้ Lido โรงหนังที่รักของหลายๆ คน และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเรา ได้ปิดตัวลงแล้ว เมื่อวันที่ 31 May 2018 จริงๆ ก็พอจะรู้ข่าวมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ก็แอบลุ้นมาตลอดไม่ให้ข่าวนี้เป็นจริง จนวันนึงมีการ Confirm อย่างเป็นทางการ เราก็ตัดสินใจเลยว่าวันสุดท้ายของ Lido เราจะไปอยู่ที่ Lido ทั้งวันจนนาทีสุดท้าย แล้วเราก็เตรียมตัวพร้อมมากๆ เริ่มจาก
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าของวันสุดท้าย เราไปซื้อตั้งแต่วันแรกที่ขาย แล้วก็ตั้งใจซื้อที่นั่งสุดท้ายของโรง ทุกรอบ ในวันนั้นเพื่อเก็บตั๋วแบบไม่ฉีกเลย แล้วก็ซื้อเพิ่มในรอบที่จะดูจริงๆ
- สั่งทำเสื้อ (ที่ลอกแบบมาจากเสื้อ Marry is happy ของพี่เต๋อ) สั่งเสื้อกับร้าน monamafia shop แล้วก็ขอพี่แอนให้ช่วยเร่งผลิตให้หน่อย เพื่อให้ทันวันงาน
- สั่งทำ Postcard 1,000 ใบเอาไปแจกคนที่มาดูหนังวันนั้น, ตอนแจก Postcard รู้สึกเขินมากๆ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ใครได้ไปอยากให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกนึกถึงลิโด้นะ
- แล้วก็บังเอินไปเจอ Page Spacebar Design Studio ทำหนังสือ Scala เราก็สั่งเลยแบบไม่คิด ตั้งใจจะเอาไปให้ลุงๆ ป้าๆ ที่ Lido เซ็นเป็นที่ระลึก
ทุกอย่างเตรียมพร้อม แต่ใจลึกๆ ก็ไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย ยังอยากให้ Lido อยู่ต่อ เราเริ่มดูหนังที่ Lido ตั้งแต่อยู่ปี 1 ตอนนั้นโรง EGV Siam discovery ยังอยู่ ตั๋วราคานักศึกษา 80 บาท ซึ่งถูกกว่า Lido ที่ตอนนั้นเก็บ 100 แต่เราก็ยังชอบมาดูที่ Lido มากกว่า จำไม่ได้ว่าเรื่องแรกที่ดูคือเรื่องอะไร จำได้ว่าเรื่องแรกที่ดูในเครือ Apex คือ Paris, je t'aime แล้วก็ดูมาเรื่อยๆ ชอบหนังที่มาฉาย จะมีหนังที่ทำให้เราว้าว ประทับใจ ซาบซึ้ง ให้ดูเสมอๆ เช่น Always: Sunset on Third Street, Departure, Tomorrow I Will Date With Yesterdays You, Be With You
วันที่ 31 เรารีบออกจากบ้านแต่เช้า ไปถึง 10-11 โมง คนมาที่ Lido เยอะมาก บรรยากาศคึกคักมาก แม้จะมีความเศร้าปนอยู่ รู้สึกได้เลยว่าทุกคนมาด้วยความรัก Lido มาร่ำลาเพื่อนคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย เราดูหนังตั้งแต่รอบแรกไล่ตามนี้
12.00 Lido 1: See you up there หนังฝรั่งเศสเกี่ยวกับศิลปินอัฉริยะ ที่รอดตายจากสงครามโลกครั้งที่ 1
14.15 Lido 2: Terminal หนังโคตร Thriller ได้ลุ้นตลอด คาดเดาไม่ได้เลย พอหนังจบก็มีเวลาเล็กน้อยระหว่างรอรอบต่อไป เลยแวะไปกินข้าวร้านประจำที่เคยอยู่ใน Lido มาก่อน "ร้านต้นโอ๊ก" ร้านนี้เคยอยู่ Lido ชั้น 2 เราก็ชอบไปกิน เพราะอยู่ใกล้ อาหารอร่อย กินเสร็จก็ชอบไปกินร้าน "กล้วยกล้วย" ต่อก่อนเข้าโรง
18.30 Lido 2: Foolish Wive หนังจากเทศกาลหนังเงียบจากประเทศรัสเซีย เรื่องนี้ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่แค่ได้ฟังเปียนโนเล่นสดระหว่างดูหนังก็คุ้มมากๆ แล้ว
และรอบสุดท้ายของ Lido เวลาตามหน้าตั๋ว 20.45 Kids on the slope หนังญี่ปุ่นเล่าเรื่องมิตรภาพของเพื่อนและเพลง Jazz หนังดีนะ แต่ตอนที่ดูอารมไ่ม่ได้อยู่กับหนังเท่าไรเลย ในใจคิดตลอดว่าไม่อยากให้หนังเรื่องนี้จบ ไม่อยากออกจากโรง เพราะถ้าหนังจบเมื่อไร Lido ก็จะปิดแล้ว
ใจหายจริงๆ นะที่จะไม่ได้ดูหนังที่ Lido อีกแล้ว เราอยู่ในโรงจน End credit จบ ทุกคนปรบมือกันสนั่น และพี่ๆ ในห้องฉากก็ปรบมือด้วย และตะโกนขอบคุณทุกคน Moment นั้นซึ้งมากๆ แล้วพี่เค้าก็มี Surprise เล็กๆ เอา Clip สัมภาษณ์ป้าขาย Popcorn, คุณลุงสูธเหลือง, พี่ Operator มาให้ทุกคนดู คนดูก็ได้น้ำตาคลอกันอีกรอบ
**ถ้าอยากดู Clip เราเอาไปลงใน Twitter ลองตามไปดูได้นะ
https://twitter.com/obiwinds/status/1002433632441532416
เรายื้อเวลามากๆ ให้อยู่ในโรงนานที่สุด เลยขอพี่ขึ้นไปดูห้องฉาย แล้วก็คิดว่าถ้าได้ดูหนังในห้องฉายก็คงดีนะ เสียดายที่ไม่ได้ขอตั้งแต่แรก แต่พี่ก็บอกว่า ในนี้ดูไม่สนุกหรอก เพราะเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าควรจะกลับได้แล้ว เกรงใจพี่ๆ เขา (อยู่นานจริงๆ 555)
อันนี้เป็น Program หนังวันสุดท้ายบนห้องฉาย
พอเดินออกจากโรงเท่านั้นละ เราก็ได้เห็นภาพประทับใจสุดท้าย พี่ๆ พนักงานทุกคน ตั้งแต่เจ้าของ พี่ทำบัญชี พี่ขายขนม พี่สูธเหลือง ยืนรอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มาดูหนัง ขนลุกมากๆ ตื้นตันมากๆ ที่ได้อยู่จนนาทีสุดท้ายจริงๆ ตอนนี้เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ แต่คนยังอยู่กันเยอะมากๆ ทั้งคนที่มาดูหนัง ทั้งนักข่าว และพนักงานทุกคน ทุกคนถ่ายรูปกัน พูดคุยร่ำลากัน ทั้งรอยยิ้มและนำ้ตาปนๆ กันไป บรรยายอารมไม่ถูกเลยจริงๆ
สักพักเราก็เห็นม่านหลังประตูค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับคุณลุงคือกุญแจมาล็อคประตู วินาทีนั้นใจหายอีกรอบ เป็นรอบสุดท้าย มันเป็นวินาทีที่ปิดตำนาน 50 ปีของ Lido ณ เวลาประมาณตี 1 วันที่ 1 June 2018
สุดท้ายอยากจะขอบคุณพี่ๆ พนักงาน Lido ทุกคนที่มอบความสุขให้คนดูหนังมาตลอด ขอบคุณจริงๆ
และอยากให้ไปสนับสนุน Scala ต่อไปนะ
#อำลาลิโด้ #Lido #LidoForever #GoodbyeLido