-- ผมเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนะครับ แต่อยากเล่าให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ เรียบเรียงอะไรไม่เก่ง ขอโทษทีนะครับ --
"ผมขอโทษ" ... เป็นคำที่ดูแล้วน่าเบื่อ ไม่มีใครอยากฟัง โดยเฉพาะคนที่เรารัก ... ผมกับภรรยา เราแต่งงานด้วยกันมา 3 ปี ใช้เวลาคบกัน 2 ปีกว่า ๆ ผมรักเค้ามาก อยากแต่งงานอยู่ด้วยกับเค้า เราแต่งงานกันโดยการจัดการกันเอง 2 คน ช่วยกันเก็บเงินเพื่อจะจัดงานแต่งด้วยกัน 1 ปี ช่วยกันทำสถานที่งานแต่ง ด้วยกัน 2 คนทุกอย่าง ฉากเวที ฉากผูกข้อมือ ฉากแบ็คดรอป เรามีความสุขมากเวลาช่วยกันทำ มันมีทั้งสุขและทุกข์ ในช่วงเวลาก่อนเตรียมงาน มั้งทั้งร้องไห้ หัวเราะ แต่เธอก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหน เราอยู่ข้างกันเสมอ เธอหวังอยากจะให้งานแต่งมันออกมาเหมือนดั่งที่เธอฝันและวาดไว้ โดยที่ไม่สิ้นเปลือง เราจัดงานแต่งกันที่บ้านของเธอ พ่อกับแม่เธอ เป็นคนดีมากที่สุด ไม่เรียกร้องค่าสินสอดอะไรกับผมเลย ผมเป็นคนที่โชคดีที่สุด ทั้งดีใจและเสียที่ไม่สามารถจัดงานให้ใหญ่โตเหมือนกับคนอื่น เนื่องจากทางบ้านของผม ไม่มีฐานะอะไรเลย (ลืมบอกไปแฟนผม รับราชการอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหนึ่ง เธอเป็นคนที่น่ารักมาก ผมเห็นเธอครั้งแรกผมตกหลุมรักเค้าเลยทันที พยายามจีบเธอทุกวิถีทาง กว่าเธอจะยอมคุยด้วยกับผม โดยสถานะเรานั้นต่างกันมาก ผมเป็นแค่เจ้าหน้าที่ธรรมดา ๆ คนนึง แต่เธอนั้นอยู่สูงกว่าผมมาก เอาเป็นว่าสุดท้ายเธอก็ยอมคุยกับผม ผมดีใจมากที่เธอมาคบกับผม) และแล้วก็ถึงวันงานแต่งงานของเรา ซึ่งตรงกับฤดูหนาวของภาคเหนือ ไม่คิดว่าวันสำคัญของเรา งานที่เธอวาดฝันไว้ กับของที่ช่วยกันเตรียมตลอดทั่งปี วันงานแต่งฝนตก ลมหนาว ทั้งวันทั้งคืน T_T ผมเห็นเธอร้องไห้ทั้งคืนก่อนวันแต่งงาน ผมเสียใจและสงสารแฟนผมมาก ที่วันงานของเราเจอฝน ลมหนาว แต่แล้วมันก็ผ่านพ้นคืนวันแต่งไปได้อยู่ โดยไม่ค่อยเป็นที่พอใจสักเท่าไหร่ เลยติดตราใจเรามาจนถึงทุกวันนี้
ก่อนแต่งงาน เธอได้ซื้อบ้าน สร้างบ้านด้วยตัวเธอเองคนเดียว ซึ่งผมไม่ได้ช่วยอะไรเธอได้เลยแม้แต่น้อย (รายได้ผมมันน้อยมาก) อีกทั้งภาระที่ผมยังมีอยู่อีก แล้วหลังแต่งงานเรา บ้านเธอก็เสร็จพอดี เราได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว 2 คน ซึ่งปัญหาที่ทำให้เธอต้องร้องไห้เสียใจ ก็ได้เกิดขึ้นที่นี่ ... (เดี๋ยวไว้มาต่อนะครับ)
ll มันรู้สึกแย่มาก ที่ทำให้ภรรยาที่ผมรักต้องเสียใจ ll
"ผมขอโทษ" ... เป็นคำที่ดูแล้วน่าเบื่อ ไม่มีใครอยากฟัง โดยเฉพาะคนที่เรารัก ... ผมกับภรรยา เราแต่งงานด้วยกันมา 3 ปี ใช้เวลาคบกัน 2 ปีกว่า ๆ ผมรักเค้ามาก อยากแต่งงานอยู่ด้วยกับเค้า เราแต่งงานกันโดยการจัดการกันเอง 2 คน ช่วยกันเก็บเงินเพื่อจะจัดงานแต่งด้วยกัน 1 ปี ช่วยกันทำสถานที่งานแต่ง ด้วยกัน 2 คนทุกอย่าง ฉากเวที ฉากผูกข้อมือ ฉากแบ็คดรอป เรามีความสุขมากเวลาช่วยกันทำ มันมีทั้งสุขและทุกข์ ในช่วงเวลาก่อนเตรียมงาน มั้งทั้งร้องไห้ หัวเราะ แต่เธอก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหน เราอยู่ข้างกันเสมอ เธอหวังอยากจะให้งานแต่งมันออกมาเหมือนดั่งที่เธอฝันและวาดไว้ โดยที่ไม่สิ้นเปลือง เราจัดงานแต่งกันที่บ้านของเธอ พ่อกับแม่เธอ เป็นคนดีมากที่สุด ไม่เรียกร้องค่าสินสอดอะไรกับผมเลย ผมเป็นคนที่โชคดีที่สุด ทั้งดีใจและเสียที่ไม่สามารถจัดงานให้ใหญ่โตเหมือนกับคนอื่น เนื่องจากทางบ้านของผม ไม่มีฐานะอะไรเลย (ลืมบอกไปแฟนผม รับราชการอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหนึ่ง เธอเป็นคนที่น่ารักมาก ผมเห็นเธอครั้งแรกผมตกหลุมรักเค้าเลยทันที พยายามจีบเธอทุกวิถีทาง กว่าเธอจะยอมคุยด้วยกับผม โดยสถานะเรานั้นต่างกันมาก ผมเป็นแค่เจ้าหน้าที่ธรรมดา ๆ คนนึง แต่เธอนั้นอยู่สูงกว่าผมมาก เอาเป็นว่าสุดท้ายเธอก็ยอมคุยกับผม ผมดีใจมากที่เธอมาคบกับผม) และแล้วก็ถึงวันงานแต่งงานของเรา ซึ่งตรงกับฤดูหนาวของภาคเหนือ ไม่คิดว่าวันสำคัญของเรา งานที่เธอวาดฝันไว้ กับของที่ช่วยกันเตรียมตลอดทั่งปี วันงานแต่งฝนตก ลมหนาว ทั้งวันทั้งคืน T_T ผมเห็นเธอร้องไห้ทั้งคืนก่อนวันแต่งงาน ผมเสียใจและสงสารแฟนผมมาก ที่วันงานของเราเจอฝน ลมหนาว แต่แล้วมันก็ผ่านพ้นคืนวันแต่งไปได้อยู่ โดยไม่ค่อยเป็นที่พอใจสักเท่าไหร่ เลยติดตราใจเรามาจนถึงทุกวันนี้
ก่อนแต่งงาน เธอได้ซื้อบ้าน สร้างบ้านด้วยตัวเธอเองคนเดียว ซึ่งผมไม่ได้ช่วยอะไรเธอได้เลยแม้แต่น้อย (รายได้ผมมันน้อยมาก) อีกทั้งภาระที่ผมยังมีอยู่อีก แล้วหลังแต่งงานเรา บ้านเธอก็เสร็จพอดี เราได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว 2 คน ซึ่งปัญหาที่ทำให้เธอต้องร้องไห้เสียใจ ก็ได้เกิดขึ้นที่นี่ ... (เดี๋ยวไว้มาต่อนะครับ)