เห็นว่า พระแสงดาบในแผ่นดินประจุบันนี้ไม่คม คิดกลัวแต่ดาบในอนาคต

ประกาศที่ ๑๖ พ.ศ. ๒๓๙๙
๙๘. ประกาศเรื่องให้หนังสือคุ้มภาษีอากรโดยพลการ
(ปีมะโรง อัฐศก)

มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศแก่ข้าราชการบรรดาที่ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดทั้งปวง ตั้งแต่เจ้าต่างกรมแลเจ้ายังไม่ได้ตั้งกรมลงไปจนถึงคนที่ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดชั่งหนึ่ง เบี้ยหวัด ๑๕ ตำลึง ๑๐ ตำลึงเป็นที่สุด ให้ทราบว่า เงินซึ่งพระราชทานแจกเบี้ยหวัดแก่ข้าราชการทุกปี ๆ นั้น มิใช่เงินได้มาแต่บ้านเมืองอื่นนอกประเทศ คือเงินในจำนวนภาษีอากรนั้นเอง ถ้าเจ้าต่างกรมแลเจ้ายังไม่ได้ตั้งกรมอันใด แลข้าราชการผู้ใดได้มีหนังสือปิดตราคุ้มห้ามภาษีอากรสมพักศรค่าน้ำค่านาตลาด ให้ไปไว้สำหรับตัวบ่าวไพร่แลพวกพ้องเท่าใด ก็ให้ไปเร่งเก็บเอาหนังสือนั้นกลับคืนมาเสียให้สิ้นเชิง แต่ในก่อนเบี้ยหวัดปีมะโรง นักษัตร อัฐศกนี้ แล้วให้ทำทานบนถวายในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์ ในคำทานบนให้ว่า ข้าพเจ้ามิได้ให้หนังสือคุ้มภาษีอากรไปกับบ่าวไพร่ผู้ใดผู้หนึ่งเลย หรือข้าพเจ้าได้ให้หนังสือคุ้มภาษีอากรไปกับผู้นั้น ๆ แต่ข้าพเจ้าได้เก็บคืนมาเสร็จแล้ว ถ้ามีผู้จับหนังสือภาษีอากรมีชื่อแลดวงตราของข้าพเจ้าชำระได้ความจริงแล้ว ให้หักเอาเบี้ยหวัดของข้าพเจ้าในปีมะโรง นักษัตร อัฐศกนี้ไว้ให้สิ้น ถ้าผู้ใดได้ถวายทานบนอย่างนี้ในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์แล้วก็จะทรงพระกรุณาโปรด พระราชทานเบี้ยหวัดแก่ผู้นั้นเต็มคงที่ไม่ลดหย่อน ถ้าผู้ใดมิได้ทำทานบนถวายในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์ ตามพระบรมราชโองการดำรัสไซร้ จะพระราชทานเบี้ยหวัดแก่ผู้นั้นแต่ ๒ ส่วน ลดเสียส่วน ๑ ที่เคยได้รับพระราชทาน ๓๐ ชั่งจะพระราชทานแต่ ๒๐ ชั่ง ที่ ๒๐ ชั่งจะพระราชทานแต่ ๑๒ ชั่ง ที่ ๑๕ ชั่งจะพระราชทานแต่ ๑๐ ชั่ง ที่ ๑๒ ชั่งจะพระราชทาน ๘ ชั่ง ที่ ๑๐ ชั่งจะพระราชทาน ๖ ชั่ง ลดตลอดลงไปจนถึงเบี้ยหวัด ๑๕ ตำลึงจะพระราชทานแต่ ๑๐ ตำลึง เบี้ยหวัด ๑๐ ตำลึงจะพระราชทานแต่ ๗ ตำลึงเป็นที่สุดเพียงนั้น ที่ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดต่ำกว่า ๑๐ ตำลึงลงไป แม้นมิได้ถวายทานบนก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระราชทานคงไว้ตามที่

อนึ่ง ผู้ที่ถวายทานบนแล้ว สืบไปภายหน้ามีผู้จับหนังสือคุ้มห้ามภาษีอากรเป็นชื่อแลดวงตราของผู้นั้นชำระได้ความจริง ก็จะหักเบี้ยหวัดในปีนั้นเสีย ถ้าเป็นแต่เจ้ากรม ปลัดกรม สมุหบาญชี พี่เลี้ยงข้าในกรมในเจ้าต่างกรมแลยังไม่ได้ตั้งกรม ลอบลักอ้างนามใส่ไปในหนังสือคุ้มห้ามภาษีอากร เจ้ามิได้ทรงทราบด้วย หรือเสมียนทนายลอบอ้างเอาชื่อนายใส่ไปในหนังสือคุ้มภาษีอากร นายมิได้รู้เห็น ถ้าเป็นอย่างนี้มีผู้จับได้ ชำระได้ความว่าเจ้านายมิได้รู้เห็นจริงแล้ว ให้ลงพระราชอาญาผู้ให้หนังสือนั้นส่งไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง

อนึ่ง ถ้าข้าราชการในพระราชวัง ให้หนังสือคุ้มภาษีอากรไปไว้กับบ่าวไพร่พวกพ้องผู้ใดผู้หนึ่ง ถ้ามีผู้จับได้ ชำระเป็นสัจ จะให้ปรับไหมรายละ ๓ ชั่งบ้าง ๕ ชั่งบ้าง ตามข้อความฉกรรจ์แลมิได้ฉกรรจ์ ถ้าเร่งเงินค่าปรับไหมไม่ได้ จะให้ลงพระราชอาญาส่งไป ณ คุกจ่ายใช้ราชการ คิดค่างานเดือนลดให้ทุกเดือนกว่าจะครบจำนวนเงินค่าปรับไหมนั้น

อนึ่ง ผู้สำเร็จราชการแลกรมการเมืองใด ๆ กลับเข้ากับคนผิด เกียดกันคนที่ถือหนังสือคุ้มห้ามภาษีอากรไว้ มิได้ส่งตัวมาชำระ ทั้งนี้ก็เพราะผู้สำเร็จราชการเมืองกรมการคิดเห็นว่า พระแสงดาบในแผ่นดินประจุบันนี้ไม่คม คิดกลัวแต่ดาบในอนาคตภายหน้า เพราะฉะนั้นก็จะต้องให้ผู้สำเร็จราชการเมืองกรมการ รู้จักคมพระแสงดาบในแผ่นดินประจุบันนี้เสียบ้าง

หมายประกาศนี้ออกในปีมะโรง นักษัตร อัฐศก ๑๒๑๘
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่