ผมมองว่า คนเราที่มองว่า พ.ร.บ.สงฆ์ ทำให้สงฆ์กลายเป็นผู้ต้องหา ทั้งๆ ที่กินเงินภาษีอากรจากรัฐ จากประชาชน แต่จะให้แยกอำนาจศาสนาจักรออกจากการกำกับดูแลของอาณาจักร พร้อมทิ้งท้ายว่า รัฐยังแก้ปัญหาการทุจริตไม่ได้ ผมก็บอกเลยว่า ประชาชนยังทุจริต ยังแบ่งก๊กแบ่งเหล่า ต่อให้แยกศาสนาจักรออกจากอาณาจักร โดยไม่มี พ.ร.บ.ใดควบคุมกำกับดูแลได้ ผมเชื่อ ประชาชนสังกัดศาสนาจักรจะสามารถโค่นล้มอำนาจรัฐ และเป็นเหมือนการนำ ศาสนาจักรอยู่เหนืออาณาจักรได้ในที่สุด โดยยึดคำสอนของศาสดา มาเป็นกฎหมาย บังคับใช้ในที่สุด และทำให้ศาสดาของแต่ละศาสนาหันมาเข่นฆ่ากันเองเพียงเพราะต้องการยกให้ศาสนาของตนอยู่เหนือศาสนาอื่นๆ และนำไปสู่การนำหลักคำสอนของศาสนาตนมาเป็นกฎหมายควบคุมทั้งอาณาจักรและศาสนาจักรได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่เกิน 10 ปี หลังแยกศาสนาจักรให้เป็นเอกเทศ ไม่มี พ.ร.บ. ใด้ควบคุมกำกับดูแลได้ ประชาชนจะแบ่งแยกออกจากกันได้ง่าย และการเมืองจะเข้ามาครอบงำโดยผ่านกระบวนการทางศาสนา ทำให้การทุจริตทำได้ง่าย และปราศจากการตรวจสอบ เพราะเอนเอียงไปตามความลำเอียงของประชาชน ที่ไร้ขื่อแปร ซึ่งเห็นตัวอย่างได้จากอังกฤษ หรือในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะในประเทศคอมมิวนิสต์ ที่เห็นถึงการเมืองที่อาศัยศาสนามาทุจริตประชาชน จนจำเป็นต้องกวาดล้างพวกนักการศาสนาที่หลอกให้ประชาชนและสร้างกลไกทางการเมืองผ่านกลไกศาสนา
อยากให้ลองตรองดู อย่าเอาแค่พวกนักวิชาการที่มุ่งหวังเอาแต่สิ่งที่คิดว่าดี มาหลอกให้ ศาสนาจักรออกจากอาณาจักร และทำให้ศาสนาจักรตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง ซึ่งน่ากลัวมาก หากนักการศาสนากับนักการเมืองสามารถใช้อำนาจศาสนจักรมาเพื่อการหาเสียง ระดมทุน และครอบงำอาณาจักร