เรื่องสั้น“ลิฟท์
คุณเคยแอบชอบใครสักคนในที่ทำงานเดียวกันหรือไม่...ผมเป็นเด็กที่พึ่งเข้ามาทำงานใหม่ ยังไม่ผ่านเทิร์นโปรเลย
ใจยังตุ้มๆต่อมๆอยู่เลยว่าจะมีโอกาสอยู่ที่นี่ต่อรึเปล่า แต่ผมภาวนาให้ได้อยู่ต่อเพื่อที่จะได้เห็นหน้า “เธอคนนั้น”
เธอเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล สวย ขาว หมวย ผิวละเอียดสุขภาพดี ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง
แถมเธอยังมีรอยยิ้มที่เปิดเผยจริงใจ ผมไม่อยากให้เธอหยุดยิ้มเลย...ให้ตายเหอะ!!!
ผมมีโอกาสขึ้นลิฟท์กับเธอสองต่อสองโดยบังเอิญหลายครั้งเพราะผมกับเธอทำงานอยู่ชั้นเดียวกันแต่อยู่คนละแผนก
ถ้าว่างจากงานผมมักไปเตร็ดเตร่แถวหน้าลิฟท์เสมอ เพื่อรอ....ใครบางคน
วันนี้ก็เช่นกัน...ผมทำทีเป็นแวะเข้าห้องน้ำ แล้วเดินมาเตร็ดเตร่หน้าลิฟท์ควักบุหรี่ขึ้นมาสูบ ไม่นานนักผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ๆ พวกเขาคงมาสูบบุหรี่เหมือนผม
“เฮ้ยแมน แกว่าลิฟท์ตัวนี้มันผิดปกติไปรึเปล่าวะ ข้าว่าพักนี้เวลาขึ้นลงมันสั่นแปลกๆ ราวกับว่าสลิงมันจะขาดยังไงยังงั้น”
“แต่เมื่อวานข้าเพิ่งเห็นฝ่ายซ่อมบำรุงปิดลิฟท์ตรวจเช็ค คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง อย่าคิดมาก จิตตกเปล่าๆ”
ผมได้ยินบทสนทนานั่นเต็ม 2 รูหู ผมอยากจะตอบพวกเขาออกไปเหลือเกินว่า
“ใช่...ผมก็รู้สึก”และคงไม่ใช่ผมแค่คนเดียว เพราะถ้าถึงขนาดฝ่ายซ่อมบำรุงมาดูแสดงว่ามันต้องมีปัญหาแน่ๆ
“ปีก่อนที่น้ำท่วม ลิฟท์ก็ค้าง ดีนะ..ที่ไม่มีใครติดอยู่ในนั้น เดี๋ยวนี้สภาพแวดล้อมบ้านเรามันแปลกขึ้นทุกวันฝนตก
น้ำท่วม ดินถล่ม แผ่นดินไหว ได้ยินข่าวไปทั่วโลก เฮ้อ..คิดแล้วกลุ้มว่ะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
ชายสองคนทันลิฟท์ที่เปิดเที่ยวนี้ พวกเขาเดินจากไป แต่คำพูดนั้นยังติดอยู่ในหัวผม
“ลิฟท์เคยค้าง....”ตอนนั้นผมยังไม่ได้ทำงานที่นี่เลยไม่รู้เรื่อง ใจผมหวั่นไหว หวังว่าประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอยนะ
ใกล้เวลาพักเที่ยงแล้ว...ผมกะว่าอีกประมาณ5 นาทีเธอจะเดินถึงลิฟท์พร้อมกลุ่มเพื่อนๆของเธอเพื่อลงไปโรงอาหารด้านล่าง คุณคิดว่าผมมาดักรอเพื่อลงลิฟท์พร้อมเธอเหรอ ผมไม่กล้าพอหรอกคุณ..
กลุ่มเธอมีอยู่ 4 คน ถ้าไม่รวมเธอแล้ว ทุกคน สวย ถึก บึกบึน..ดูแกร่ง และแข็งแรง ไม่รู้กินอะไรกันมาถึงพัฒนาโครงสร้างตัวเองได้สมบูรณ์สุดๆ.. ผมนึกถึงเพลงเก่า..กินข้าวกับน้ำพริกสิจ้ะ ถึงได้หล่อได้สวย.....แต่ถ้าตัวขนาดเพื่อนๆของเธอผมว่าแต่ละมื้อต้องไม่ใช่แค่ข้าวกับน้ำพริกเท่านั้นต้องมีปลาทู 10 ตัวเป็นอย่างต่ำ และจานข้าวก็ต้องไม่ใช่จานธรรมดา.. แต่เป็นจานดาวเทียม.. แค่กลุ่มเธอกับเพื่อนขึ้นลิฟท์ผมก็มักจะได้ยินเสียงออดเตือนน้ำหนักเกินดังอยู่เสมอ ทายสิว่าใครต้องเป็นผู้เสียสละรอลิฟท์รอบต่อไป...
ติ๊กต่อก... ติ๊กต่อก....
ไม่ใช่เธอคนที่ผมรอคอยหรอก แต่เป็นเพื่อนเธอคนที่ตัวใหญ่ที่สุดต่างหาก ช่างเป็นผู้หญิงกำยำที่มีคุณธรรมในใจงดงามนัก
ผมภาวนาให้เจ้าที่ช่วยดลใจเธอคนนั้นเป็นผู้เสียสละแทนเพื่อนคนนี้. สักวันหนึ่งในอนาคตกาลอันใกล้...
แต่ดูยังไงก็ไม่มีวี่แวว..
ผมดูนาฬิกาข้อมือ เที่ยงครึ่งแล้วรึนี่ ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย
ตอนบ่ายผมยังมีงานต้องเคลียร์อีกเยอะ...
เดินลงบันไดดีกว่า..
แต่นี่มันตึก 20 ชั้น...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
ติ๊ง..........เสียงลิฟท์เปิด
“พ่อหนุ่มไปด้วยกันไหม” สาวบึกบึนคนนั้นถามผมด้วยน้ำเสียงเอื้ออาทร
ไปดี ไม่ไปดี ไปดี ไม่ไปดี...
“ไปก็ได้ครับ”ผมตัดสินใจก้าวเข้าไปในลิฟท์พร้อมเธอ
พรึ่บ...
เสียงประตูลิฟท์ปิดลงแล้ว ผมอยู่กับเพื่อนนางฟ้าของผม หรือนี่จะเป็นโอกาสดี..
“พ่อหนุ่มชื่ออะไร เห็นหน้าบ่อยๆ” สาวโครงสร้างใหญ่ถามผมแต่ไม่หันมามองหน้า
“....โ..โก..วิทครับ”ผมตอบด้วยความไม่มั่นใจ
“แอบชอบพิงค์อยู่เหรอ.”
ใจผมกระตุกวูบ
เธอดูรู้ได้ไงกันเนี่ย นี่ผมเก็บอาการไม่มิด แสดงออกทางสีหน้าและแววตามากมายขนาดนั้นเลยเหรอ
“......แล้วคุณ ชื่ออะไรเหรอครับ”
“น้ำผึ้ง” เธอตอบสั้นๆ
น่าจะชื่อราชินีผึ้งมากกว่า ตัวใหญ่ซะขนาดนั้น กับผิวสีคล้ำ ผมหยิก ปากหนา ไหล่ตั้งบึกบึน คงควบคมผึ้งตัวผู้ได้ทั้งรัง แต่คนเราเขาบอกอย่ามองกันแค่ที่หน้าตา...คบคนต้องดูกันไปนานๆ แต่ถ้าผมเลือกได้..ผมขอคบกับนางฟ้าพิงค์เพื่อนเธอแทน...ได้ไหมอ่ะ
“วันนี้มานั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันสิ จะแนะนำพิงค์ให้รู้จัก”
“อะไรนะครับ!!!” จริงๆผมได้ยินชัดเต็ม 2 รูหูเลยว่าเธอพูดอะไร
แต่ตกใจไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน บอกแล้วคนเราอย่าดูกันแค่ภายนอก
จิตใจของคุณน้ำผึ้งช่างงดงามเหลือเกิน..
ครืด..คราด...ครืด..คราด...ทำไมวันนี้เสียงลิฟท์ฟังดูแปลกๆ รึว่า..เรื่องที่สลิงลิฟท์จะขาดเป็นเรื่องจริง ใจผมไม่ดีเลย
ฉับไวกว่าผมยิ่งนัก น้ำผึ้งตัดสินใจกดเปิดประตูลิฟต์ที่ชั้น10
“ออกมาเร็วๆ” ไม่พูดเปล่าเธอยังคว้าข้อมือผม ดึงผมตัวปลิวละล่องไปกับเธอด้วย
โครม.!!!!!! ผมได้ยินเสียงลิฟต์ตกดังสนั่น...
ไม่อยากจะคิดสภาพเลยว่าถ้าน้ำผึงและผมยังอยู่ในลิฟท์อะไรจะเกิดขึ้น แต่มันยังไม่จบ!!!!
ทันใดนั้น มีแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่อง โดยไม่คาดฝัน ตัวตึกที่ผมกับน้ำผึ้งกำลังยืนอยู่ก็พังยวบลงมา
มันเป็นเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา แรงเขย่ามหาศาลถาโถมใส่ตัวผมและน้ำผึ้ง ร่างของเราทั้งสองร่วงลงสู่พื้นล่างโดยที่พวกเราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย
อ๊ากสสสสสสสสสสสส!!!!!!
ผมกับน้ำผึ้งกระเด็นไปคนละทิศละทาง ตอนนี้ซากปรักหักพังของตัวตึกทับผม ผมไม่สามารถขยับร่างกายได้ และเริ่มมีอาการหายใจไม่ออก ฝุ่นซีเมนต์เหม็นเอียนๆลอยฟุ้งเต็มไปหมด ผมเผลอสูดหายใจเข้าไปเต็มปอดเป็นผลให้สำลักออกมา
โคล้ก โค่ก ค๊อกกกกก แค่กกกกกก
ตอนนี้ผมหายใจไม่ออกแล้ว ผมเห็นขาตัวเองติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ที่แย่กว่านั้นผมไม่สามารถขยับขาได้
มันช่าง...เจ็บปวดเหลือเกิ
“โกวิท โกวิท” ผมได้ยินเสียงคนเรียกชื่อผม
“ผมอยู่นี่”ผมตะโกนในใจ และชูมือขึ้นสุดแขนเผื่อใครก็ได้จะมองเห็นผม ผมพยายามจะขยับตัวออกมาจากซากอาคารที่ทับผมอยู่ แต่ความพยายามของผมก็สูญเปล่า ตอนนี้ผมร้องไห้แบบไม่อายใครความเจ็บ ความหวาดกลัว ถาโถมเข้าปกคลุมจิตใจผม คุณน้ำผึ้งล่ะ..เธอปลอดภัยดีหรือเปล่า
“คุณน้ำผึ้ง คุณอยู่ไหน” ผมพยายามจะเอ่ยเสียงพูดด้วยความยากลำบาก ตอนนี้ในปากของผมเต็มไปด้วยเศษปูนซีเมนต์
ไร้วี่แววของเสียงตอบ เอ๊ะ...นั่นผมเห็นคุณน้ำผึ้งแล้ว เธอเดินตรงมาทางผม หัวเธอแตกเลือดไหลเป็นทางยาว ขาขวาเธอมีแผลเหวอะหวะ ดี..ที่เธอเอาตัวรอดได้ ไม่เพียงแค่นั้น...เธอกำลังเดินตรงมาเพื่อช่วยผม
“ขาผมติด” ผมพูดด้วยความยากลำบาก รู้สึกในปากซากๆเต็มไปด้วยเศษปูนซีเมนต์
น้าผึ้งเธอมองผมด้วยสายตาเป็นกังวล ตอนนี้บรรยากาศรอบๆฝุ่นซีเมนต์ลอยเต็มท้องฟ้า ผมได้ยินเสียงโหวกเหวกแตกตื่นของผู้คนอยู่ไกลๆ มีสักกี่คนนะที่ติดอยู่ใต้ซากตึกเหล่านี้ ไม่นานนักผมก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอีก
นี่มัน อาฟเตอร์ช็อกนี่...แผ่นดินเริ่มสะเทือนอีกครั้ง..
เศษอิฐร่วงกราว...ฝุ่นซีเมนต์ที่ตอนแรกเริ่มจางตอนนี้ก่อตัวหนาทึบ ผมมองไม่เห็นอะไรเลย
ทันใดนั้น...ผมก็รู้สึกว่ามีใครบางคนพยายามยกซากอาคารที่ทับขาผมออก
คุณน้ำผึ้งต้องเป็นคุณน้ำผึ้งแน่ๆ แต่...ผมมองอะไรไม่เห็นเลยไม่ทันตั้งตัว เศษอิฐก้อนใหญ่หล่นลงมาโดนหัวผม ความรู้สึกสุดท้ายก่อนที่สติผมจะดับไป
มีใครบางคนจับมือผมไว้.....
..........................
.............................
อุแว้ อุแว้ อุแว้..
“คุณได้ลูกผู้ชายค่ะ”
น้ำผึ้งได้ยินแค่นั้นจริงๆ...จากนั้นจะด้วยฤทธิ์ยาหรืออะไรก็สุดแล้วแต่..เธอสลบไปอีกครั้ง
“น้ำผึ้ง..เป็นไงบ้าง” พิงค์ ป่าน นก ยกทีมกันมาเยี่ยมเพื่อนสาวที่โรงพยาบาล
“มึนอ่ะ..แถมตอนคลอดเราสลบไปฝันแปลกๆ” น้ำผึ้งเล่าให้สามสาวเพื่อนสนิทฟัง
“ฝันว่าอะไรน่ะ”
น้ำผึ้งนึกทบทวน....เธอจะอธิบายฝันประหลาดให้เพื่อนฟังได้ยังไง?
........................
........................
..........................
หลังจากลาคลอดได้สักระยะหนึ่ง น้ำผึ้งก็กลับมาทำงานตามปกติ
แปลก...เรื่องราวที่เธอฝันในโรงพยาบาลตอนคลอดลูกมันเหมือนจริงมาก..เหมือนจริงจนเธอกลัว..
ติ๊ง........
เสียงลิฟท์เปิดออก..
โดยไม่คาดฝัน...เธอเห็นโกวิทอยู่ในลิฟท์ค้อมหัวลง ส่งยิ้มมาให้เธอ!!!!
“สวัสดีครับ”
โกวิทเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่...
แล้วเรื่องที่เธอเห็นตอนสลบไปนั่นล่ะ มันเป็นเพียงแค่ความฝัน หรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคต...
น้ำผึ้งผละจากประตูลิฟท์วิ่งเข้ามาในห้อง เธอจะไม่เก็บเรื่องนี้ไว้ทุกข์ใจคนเดียวอีกต่อไป!!!!! ด้วยความรีบร้อนน้ำผึ้งเผลอชนพิงค์ล้มลง พิงค์ทำแฟ้มที่อยู่ในมือตก กระดาษในนั้นกระจัดกระจาย ระหว่างที่กำลังสาละวนกับการเก็บกระดาษ พลันสายตาน้ำผึ้งก็ไปสะดุดเข้ากับใบเรซูเม่ใบหนึ่ง
ใบหน้าที่คุ้นเคยในภาพถ่ายนั่นคือโกวิท!!!!
พิงค์ทำท่าเขินอาย ก่อนขยับมาใกล้แล้วกระซิบกับน้ำผึ้ง
" เด็กใหม่อ่ะ....จะมาเริ่มทำงานพรุ่งนี้ เนี่ย..สเป็คฉันเลย อร๊ายยยย เขิลลล "
คุณพระช่วย!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เรื่องสั้น4
คุณเคยแอบชอบใครสักคนในที่ทำงานเดียวกันหรือไม่...ผมเป็นเด็กที่พึ่งเข้ามาทำงานใหม่ ยังไม่ผ่านเทิร์นโปรเลย
ใจยังตุ้มๆต่อมๆอยู่เลยว่าจะมีโอกาสอยู่ที่นี่ต่อรึเปล่า แต่ผมภาวนาให้ได้อยู่ต่อเพื่อที่จะได้เห็นหน้า “เธอคนนั้น”
เธอเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล สวย ขาว หมวย ผิวละเอียดสุขภาพดี ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง
แถมเธอยังมีรอยยิ้มที่เปิดเผยจริงใจ ผมไม่อยากให้เธอหยุดยิ้มเลย...ให้ตายเหอะ!!!
ผมมีโอกาสขึ้นลิฟท์กับเธอสองต่อสองโดยบังเอิญหลายครั้งเพราะผมกับเธอทำงานอยู่ชั้นเดียวกันแต่อยู่คนละแผนก
ถ้าว่างจากงานผมมักไปเตร็ดเตร่แถวหน้าลิฟท์เสมอ เพื่อรอ....ใครบางคน
วันนี้ก็เช่นกัน...ผมทำทีเป็นแวะเข้าห้องน้ำ แล้วเดินมาเตร็ดเตร่หน้าลิฟท์ควักบุหรี่ขึ้นมาสูบ ไม่นานนักผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ๆ พวกเขาคงมาสูบบุหรี่เหมือนผม
“เฮ้ยแมน แกว่าลิฟท์ตัวนี้มันผิดปกติไปรึเปล่าวะ ข้าว่าพักนี้เวลาขึ้นลงมันสั่นแปลกๆ ราวกับว่าสลิงมันจะขาดยังไงยังงั้น”
“แต่เมื่อวานข้าเพิ่งเห็นฝ่ายซ่อมบำรุงปิดลิฟท์ตรวจเช็ค คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง อย่าคิดมาก จิตตกเปล่าๆ”
ผมได้ยินบทสนทนานั่นเต็ม 2 รูหู ผมอยากจะตอบพวกเขาออกไปเหลือเกินว่า
“ใช่...ผมก็รู้สึก”และคงไม่ใช่ผมแค่คนเดียว เพราะถ้าถึงขนาดฝ่ายซ่อมบำรุงมาดูแสดงว่ามันต้องมีปัญหาแน่ๆ
“ปีก่อนที่น้ำท่วม ลิฟท์ก็ค้าง ดีนะ..ที่ไม่มีใครติดอยู่ในนั้น เดี๋ยวนี้สภาพแวดล้อมบ้านเรามันแปลกขึ้นทุกวันฝนตก
น้ำท่วม ดินถล่ม แผ่นดินไหว ได้ยินข่าวไปทั่วโลก เฮ้อ..คิดแล้วกลุ้มว่ะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
ชายสองคนทันลิฟท์ที่เปิดเที่ยวนี้ พวกเขาเดินจากไป แต่คำพูดนั้นยังติดอยู่ในหัวผม
“ลิฟท์เคยค้าง....”ตอนนั้นผมยังไม่ได้ทำงานที่นี่เลยไม่รู้เรื่อง ใจผมหวั่นไหว หวังว่าประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอยนะ
ใกล้เวลาพักเที่ยงแล้ว...ผมกะว่าอีกประมาณ5 นาทีเธอจะเดินถึงลิฟท์พร้อมกลุ่มเพื่อนๆของเธอเพื่อลงไปโรงอาหารด้านล่าง คุณคิดว่าผมมาดักรอเพื่อลงลิฟท์พร้อมเธอเหรอ ผมไม่กล้าพอหรอกคุณ..
กลุ่มเธอมีอยู่ 4 คน ถ้าไม่รวมเธอแล้ว ทุกคน สวย ถึก บึกบึน..ดูแกร่ง และแข็งแรง ไม่รู้กินอะไรกันมาถึงพัฒนาโครงสร้างตัวเองได้สมบูรณ์สุดๆ.. ผมนึกถึงเพลงเก่า..กินข้าวกับน้ำพริกสิจ้ะ ถึงได้หล่อได้สวย.....แต่ถ้าตัวขนาดเพื่อนๆของเธอผมว่าแต่ละมื้อต้องไม่ใช่แค่ข้าวกับน้ำพริกเท่านั้นต้องมีปลาทู 10 ตัวเป็นอย่างต่ำ และจานข้าวก็ต้องไม่ใช่จานธรรมดา.. แต่เป็นจานดาวเทียม.. แค่กลุ่มเธอกับเพื่อนขึ้นลิฟท์ผมก็มักจะได้ยินเสียงออดเตือนน้ำหนักเกินดังอยู่เสมอ ทายสิว่าใครต้องเป็นผู้เสียสละรอลิฟท์รอบต่อไป...
ติ๊กต่อก... ติ๊กต่อก....
ไม่ใช่เธอคนที่ผมรอคอยหรอก แต่เป็นเพื่อนเธอคนที่ตัวใหญ่ที่สุดต่างหาก ช่างเป็นผู้หญิงกำยำที่มีคุณธรรมในใจงดงามนัก
ผมภาวนาให้เจ้าที่ช่วยดลใจเธอคนนั้นเป็นผู้เสียสละแทนเพื่อนคนนี้. สักวันหนึ่งในอนาคตกาลอันใกล้...
แต่ดูยังไงก็ไม่มีวี่แวว..
ผมดูนาฬิกาข้อมือ เที่ยงครึ่งแล้วรึนี่ ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย
ตอนบ่ายผมยังมีงานต้องเคลียร์อีกเยอะ...
เดินลงบันไดดีกว่า..
แต่นี่มันตึก 20 ชั้น...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
ติ๊ง..........เสียงลิฟท์เปิด
“พ่อหนุ่มไปด้วยกันไหม” สาวบึกบึนคนนั้นถามผมด้วยน้ำเสียงเอื้ออาทร
ไปดี ไม่ไปดี ไปดี ไม่ไปดี...
“ไปก็ได้ครับ”ผมตัดสินใจก้าวเข้าไปในลิฟท์พร้อมเธอ
พรึ่บ...
เสียงประตูลิฟท์ปิดลงแล้ว ผมอยู่กับเพื่อนนางฟ้าของผม หรือนี่จะเป็นโอกาสดี..
“พ่อหนุ่มชื่ออะไร เห็นหน้าบ่อยๆ” สาวโครงสร้างใหญ่ถามผมแต่ไม่หันมามองหน้า
“....โ..โก..วิทครับ”ผมตอบด้วยความไม่มั่นใจ
“แอบชอบพิงค์อยู่เหรอ.”
ใจผมกระตุกวูบ
เธอดูรู้ได้ไงกันเนี่ย นี่ผมเก็บอาการไม่มิด แสดงออกทางสีหน้าและแววตามากมายขนาดนั้นเลยเหรอ
“......แล้วคุณ ชื่ออะไรเหรอครับ”
“น้ำผึ้ง” เธอตอบสั้นๆ
น่าจะชื่อราชินีผึ้งมากกว่า ตัวใหญ่ซะขนาดนั้น กับผิวสีคล้ำ ผมหยิก ปากหนา ไหล่ตั้งบึกบึน คงควบคมผึ้งตัวผู้ได้ทั้งรัง แต่คนเราเขาบอกอย่ามองกันแค่ที่หน้าตา...คบคนต้องดูกันไปนานๆ แต่ถ้าผมเลือกได้..ผมขอคบกับนางฟ้าพิงค์เพื่อนเธอแทน...ได้ไหมอ่ะ
“วันนี้มานั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันสิ จะแนะนำพิงค์ให้รู้จัก”
“อะไรนะครับ!!!” จริงๆผมได้ยินชัดเต็ม 2 รูหูเลยว่าเธอพูดอะไร
แต่ตกใจไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน บอกแล้วคนเราอย่าดูกันแค่ภายนอก
จิตใจของคุณน้ำผึ้งช่างงดงามเหลือเกิน..
ครืด..คราด...ครืด..คราด...ทำไมวันนี้เสียงลิฟท์ฟังดูแปลกๆ รึว่า..เรื่องที่สลิงลิฟท์จะขาดเป็นเรื่องจริง ใจผมไม่ดีเลย
ฉับไวกว่าผมยิ่งนัก น้ำผึ้งตัดสินใจกดเปิดประตูลิฟต์ที่ชั้น10
“ออกมาเร็วๆ” ไม่พูดเปล่าเธอยังคว้าข้อมือผม ดึงผมตัวปลิวละล่องไปกับเธอด้วย
โครม.!!!!!! ผมได้ยินเสียงลิฟต์ตกดังสนั่น...
ไม่อยากจะคิดสภาพเลยว่าถ้าน้ำผึงและผมยังอยู่ในลิฟท์อะไรจะเกิดขึ้น แต่มันยังไม่จบ!!!!
ทันใดนั้น มีแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่อง โดยไม่คาดฝัน ตัวตึกที่ผมกับน้ำผึ้งกำลังยืนอยู่ก็พังยวบลงมา
มันเป็นเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา แรงเขย่ามหาศาลถาโถมใส่ตัวผมและน้ำผึ้ง ร่างของเราทั้งสองร่วงลงสู่พื้นล่างโดยที่พวกเราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย
อ๊ากสสสสสสสสสสสส!!!!!!
ผมกับน้ำผึ้งกระเด็นไปคนละทิศละทาง ตอนนี้ซากปรักหักพังของตัวตึกทับผม ผมไม่สามารถขยับร่างกายได้ และเริ่มมีอาการหายใจไม่ออก ฝุ่นซีเมนต์เหม็นเอียนๆลอยฟุ้งเต็มไปหมด ผมเผลอสูดหายใจเข้าไปเต็มปอดเป็นผลให้สำลักออกมา
โคล้ก โค่ก ค๊อกกกกก แค่กกกกกก
ตอนนี้ผมหายใจไม่ออกแล้ว ผมเห็นขาตัวเองติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ที่แย่กว่านั้นผมไม่สามารถขยับขาได้
มันช่าง...เจ็บปวดเหลือเกิ
“โกวิท โกวิท” ผมได้ยินเสียงคนเรียกชื่อผม
“ผมอยู่นี่”ผมตะโกนในใจ และชูมือขึ้นสุดแขนเผื่อใครก็ได้จะมองเห็นผม ผมพยายามจะขยับตัวออกมาจากซากอาคารที่ทับผมอยู่ แต่ความพยายามของผมก็สูญเปล่า ตอนนี้ผมร้องไห้แบบไม่อายใครความเจ็บ ความหวาดกลัว ถาโถมเข้าปกคลุมจิตใจผม คุณน้ำผึ้งล่ะ..เธอปลอดภัยดีหรือเปล่า
“คุณน้ำผึ้ง คุณอยู่ไหน” ผมพยายามจะเอ่ยเสียงพูดด้วยความยากลำบาก ตอนนี้ในปากของผมเต็มไปด้วยเศษปูนซีเมนต์
ไร้วี่แววของเสียงตอบ เอ๊ะ...นั่นผมเห็นคุณน้ำผึ้งแล้ว เธอเดินตรงมาทางผม หัวเธอแตกเลือดไหลเป็นทางยาว ขาขวาเธอมีแผลเหวอะหวะ ดี..ที่เธอเอาตัวรอดได้ ไม่เพียงแค่นั้น...เธอกำลังเดินตรงมาเพื่อช่วยผม
“ขาผมติด” ผมพูดด้วยความยากลำบาก รู้สึกในปากซากๆเต็มไปด้วยเศษปูนซีเมนต์
น้าผึ้งเธอมองผมด้วยสายตาเป็นกังวล ตอนนี้บรรยากาศรอบๆฝุ่นซีเมนต์ลอยเต็มท้องฟ้า ผมได้ยินเสียงโหวกเหวกแตกตื่นของผู้คนอยู่ไกลๆ มีสักกี่คนนะที่ติดอยู่ใต้ซากตึกเหล่านี้ ไม่นานนักผมก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอีก
นี่มัน อาฟเตอร์ช็อกนี่...แผ่นดินเริ่มสะเทือนอีกครั้ง..
เศษอิฐร่วงกราว...ฝุ่นซีเมนต์ที่ตอนแรกเริ่มจางตอนนี้ก่อตัวหนาทึบ ผมมองไม่เห็นอะไรเลย
ทันใดนั้น...ผมก็รู้สึกว่ามีใครบางคนพยายามยกซากอาคารที่ทับขาผมออก
คุณน้ำผึ้งต้องเป็นคุณน้ำผึ้งแน่ๆ แต่...ผมมองอะไรไม่เห็นเลยไม่ทันตั้งตัว เศษอิฐก้อนใหญ่หล่นลงมาโดนหัวผม ความรู้สึกสุดท้ายก่อนที่สติผมจะดับไป
มีใครบางคนจับมือผมไว้.....
..........................
.............................
อุแว้ อุแว้ อุแว้..
“คุณได้ลูกผู้ชายค่ะ”
น้ำผึ้งได้ยินแค่นั้นจริงๆ...จากนั้นจะด้วยฤทธิ์ยาหรืออะไรก็สุดแล้วแต่..เธอสลบไปอีกครั้ง
“น้ำผึ้ง..เป็นไงบ้าง” พิงค์ ป่าน นก ยกทีมกันมาเยี่ยมเพื่อนสาวที่โรงพยาบาล
“มึนอ่ะ..แถมตอนคลอดเราสลบไปฝันแปลกๆ” น้ำผึ้งเล่าให้สามสาวเพื่อนสนิทฟัง
“ฝันว่าอะไรน่ะ”
น้ำผึ้งนึกทบทวน....เธอจะอธิบายฝันประหลาดให้เพื่อนฟังได้ยังไง?
........................
........................
..........................
หลังจากลาคลอดได้สักระยะหนึ่ง น้ำผึ้งก็กลับมาทำงานตามปกติ
แปลก...เรื่องราวที่เธอฝันในโรงพยาบาลตอนคลอดลูกมันเหมือนจริงมาก..เหมือนจริงจนเธอกลัว..
ติ๊ง........
เสียงลิฟท์เปิดออก..
โดยไม่คาดฝัน...เธอเห็นโกวิทอยู่ในลิฟท์ค้อมหัวลง ส่งยิ้มมาให้เธอ!!!!
“สวัสดีครับ”
โกวิทเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่...
แล้วเรื่องที่เธอเห็นตอนสลบไปนั่นล่ะ มันเป็นเพียงแค่ความฝัน หรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคต...
น้ำผึ้งผละจากประตูลิฟท์วิ่งเข้ามาในห้อง เธอจะไม่เก็บเรื่องนี้ไว้ทุกข์ใจคนเดียวอีกต่อไป!!!!! ด้วยความรีบร้อนน้ำผึ้งเผลอชนพิงค์ล้มลง พิงค์ทำแฟ้มที่อยู่ในมือตก กระดาษในนั้นกระจัดกระจาย ระหว่างที่กำลังสาละวนกับการเก็บกระดาษ พลันสายตาน้ำผึ้งก็ไปสะดุดเข้ากับใบเรซูเม่ใบหนึ่ง
ใบหน้าที่คุ้นเคยในภาพถ่ายนั่นคือโกวิท!!!!
พิงค์ทำท่าเขินอาย ก่อนขยับมาใกล้แล้วกระซิบกับน้ำผึ้ง
" เด็กใหม่อ่ะ....จะมาเริ่มทำงานพรุ่งนี้ เนี่ย..สเป็คฉันเลย อร๊ายยยย เขิลลล "
คุณพระช่วย!!!!!!!!!!!!!!!!!!