เราเป็นนักศึกษากำลังศึกษาชั้นปีหนึ่งค่ะ
เริ่มแรกเราจองคิวรอบ8โมงครึ่ง
เราไปถึงตั้งแต่7โมง วันที่8 พค. 2561
แถวก็ยาวเลยออกมาแล้วค่ะ
ไปถึงก็ไปรับบัตรที่มีตราสัญลักษณ์เกี่ยวกับอเมริกา แล้วมายืนต่อคิว ระหว่างรอคิวเราก็ปิดมือถือเลยนะคะ เพราะถ้าลืมแล้วต้องกลับไปต่อคิวใหม่ อีกอย่างเราพกมาได้แค่เครื่องเดียวนะคะมือถือ ไม่งั้นต้องเอาไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากของใกล้ๆ ต้องเสียเวลากลับมาต่อคิวอีกค่ะ
***เรื่องนี้สำคัญนะคะ ความจริงเห็นคนพูดเตือนเรื่องนี่ก็บ่อยแต่ก็ยัฃมีคนลืมอยู่ต้องโดนไล่กลับไปต่อคิวใหม่เลยค่ะ เห็นกับตาตัวเองเลยค่ะ***
หลังจากเข้าไปข้างในเขาก็ให้เอาบัตรปชช. ยื่นไปตอนฝากของค่ะ
กระเป๋าเป้ใบใหญ่ไม่ควรเอาติดไปนะคะ เสร็จแล้วก็เดินผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ เข้าไปรอข้างใน จะมีคนนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ รอคนที่เคาท์เตอร์เรียกเป็นรอบๆค่ะ พอเขาเรียกถึงรอบเราแล้วก็ไปต่อคิว (ระหว่างรอก็ไปเข้าห้องน้ำได้นะคะ )
จุดนี้ไม่มีไรมากค่ะ เป็นพนักงานคนไทยเรียกดูเอกสารธรรมดาๆ เราทำวีซ่าF 1 ก็ต้องเตรียม I-20กับใบsevis ,passportให้ค่ะ
พอเสร็จแล้วเค้าก็ให้เราเดินไปอ่านป้ายสีเขียวเค้าเขียนว่าให้เราเอาปากกามาจดเลขEMS ไว้เช็คตอนส่งพาสปอร์ตค่ะ
**อย่าลืมเตรียมปากกาไปด้วยนะคะ**
พอเข้าไปข้างในก็เป็นจุดที่เราจะต้องสัมภาษณ์แล้วค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องเดินไปที่ช่อง11-15ซึ้งเป็นพนง.คนไทย คอยเรียบเรียงเอกสารให้ค่ะ ตอนนั้นเค้ามีขอดูstatementของเราด้วยค่ะ
ทีนี้ก็ไปต่อคิวรอสัมภาษณ์
อย่ายืนรอเฉยๆนะคะ คอยสังเกตว่า ช่องไหนคืนpassportเยอะๆ ซึ่งแสดงว่าไม่ผ่าน ซึ่งคนนั้นอาจจะเคี่ยว ให้ผ่านยากค่ะ ใ้ห้เราพยายามเลี่ยงค่ะ เช่นขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วค่อยกลับมาต่อคิวใหม่ก็ได้ค่ะ ระหว่างรอเราก็จะได้ยินเสียงเค้าสัมภาษณ์กันค่ะ เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แต่คนเป็นต่างชาติพูดไทยได้ค่ะ คิดว่าถ้าเราขอเค้าให้สัมภาษณ์ไทยก็คงได้ค่ะ
คราวที่เราไปเราก็สังเกต
ช่องแรกเป็นฝรั่งมีเคราผิวขาว ดูใจดีให้คนก่อนหน้าเราที่ใส่ชุดนศ. จุฬาผ่านด้วย เราเลยอยากได้ช่องนี้
คนที่สองเป็นเอเชียคิดว่าจะใจดีแต่แอบเคี่ยวค่ะ5555 ปฏิเสธไปเยอะอยู่
คนที่สามเป็นผู้หญิงสำเนียงดูฟังง่าย แต่ถามนาน และปฏิเสธเยอะอยู่ค่ะ
ส่วนอีกคนเป็นฝรั่งอ้วนๆ สัมภาษณ์คนที่มาเป็นครอบครัวยังไม่เสร็จซักที
ถึงตาเราแล้ว เรากำลังจะได้ช่องผญ ซึ่งเราไม่อยากได้5555 ซึ่งตอนนั้นผญเค้าก็เรียกnext please แล้วนะคะ แต่เราลังเลไม่อยากไปเลยเหลือบไปดูฝรั่งที่ดูใจดีๆเค้าสัมเสร็จพอดีและส่งสายตามาทางเราแล้วพยักหน้าเราเลยรีบเดินไปหาเค้าเลยค่ะ (ทุกอย่างเกิดขึ้นใน3วิ5555มันไวมาก ต้องมีไหวพริบนะคะ)
พอไปถึงเค้าก็ถาม
A:Hi How are you?
B:Hi I am good.
A: You are going to study English ,right?
B:Yes
A:How long will you stay there?
B:6 weeks
A:What do your parent do?
B:My father is a navy. My mom has her own business. She sells electronics machine and mobile phone at her store.
A:ok your father is a navy so what is his rank?
B: (ตอนนั้นเรานึกชื่อนาวาเอกพิเศษเป็นภาษาอังกฤษไม่ออกค่ะ เราตื่นเต้นเลยตอบไปว่านายพล เพราะคิดว่าคำนี้ดูcommonสุด พูดเป็นภาษาไทย เค้าคงเข้าใจ แต่ความจริงพ่อเราเป็นนาวาเอกพิเศษค่ะ 55555)
A: นายพลล ummm
แล้วเค้าก็เช็คข้อมูลในคอมค่ะ ตอนนี้นเราแอบคิดว่าเอาแล้วไง ถ้าเค้าจับได้ว่าเราพูดผิด จะโดนปฏิเสธไหมเนี่ย ไม่น่าตอบไปอย่างงั้นเลย จนตอนนี้ก็งงว่าทำไมถึงตอบแบบนั้นไป5555
A: What is your father's rankพร้อมทำคิ้วขมวดค่ะ
B:Can I speak in Thai?
A:Yes
B:นาวาเอกพิเศษ
A:okkk uhh... what do you study about ?your major
B:dentistry
A:To be a dentist?
B:Yes
A:wowww ...ok
And you study in university...or...
B:Yes Mahidol university
A:ok Have a nice trip in America
B : Thank you
เขาก็เก็บpassport เราไปค่ะ ตอนนั้นดีใจมากเลยค่ะ ผ่านแล้ว ตอนแรกแอบลุ้นตั้งนานว่าจะรอดไหมที่ตอบเรื่องตำแหน่งพ่อผิดไป เลยอยากฝากให้เพื่อนๆทุกคน ตั้งสติก่อนตอบนะคะ
เสร็จแล้วก็เดินออกมารับบะตรปชช. กับของที่ฝากไว้ข้างหน้าตอนเข้ามา คืนค่ะ
ไม่ต้องชำระค่าไปรษณีย์แล้วนะคะ ส่วนวีซ่าจะได้รับ3-5วันค่ะ
ปล. ตอนเราไปทำวีซ่าครั้งนี้เห็นคนโดนปฏิเสธเยอะเหมือนกัน เค้าเคร่งมากเพราะเค้าต้องการmake sure ว่าเราจะกลับประเทศไทยแน่นอนค่ะ ดังนั้นหลักฐานควรต้องชัดเจน อย่างเราไปเรียนภาษามีเอกสารตอบรับจากทางรร. แล้วก็ดูน่าเชื่อถือค่ะ
ส่วนหน้าคนที่โดนคืนพาสพอร์ตก็เศร้ามากค่ะ สงสารเลย
***เรื่องการแต่งตัวก็สำคัญนะคะ ถ้าเป็นนักเรียน,นศ. ยังไงก็ใส่ชุดนร. ,นศ. มาดีกว่าค่ะคนวัยทำงานก็แต่งตัวให้สุภาพ ตอนไปเห็นคนใส่เสื้อแขนกุดโดนปฏิเสธก็มีค่ะ***
ยังไงก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่สนใจนะคะ การทำวีซ่าขึ้นกับดวงด้วยจริงๆค่ะซึ่งเราเลือกไม่ได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมได้ค่ะ
ขอบคุณค่า
แชร์ประสบการณ์ ทำวีซ่าอเมริกา2018!
เริ่มแรกเราจองคิวรอบ8โมงครึ่ง
เราไปถึงตั้งแต่7โมง วันที่8 พค. 2561
แถวก็ยาวเลยออกมาแล้วค่ะ
ไปถึงก็ไปรับบัตรที่มีตราสัญลักษณ์เกี่ยวกับอเมริกา แล้วมายืนต่อคิว ระหว่างรอคิวเราก็ปิดมือถือเลยนะคะ เพราะถ้าลืมแล้วต้องกลับไปต่อคิวใหม่ อีกอย่างเราพกมาได้แค่เครื่องเดียวนะคะมือถือ ไม่งั้นต้องเอาไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากของใกล้ๆ ต้องเสียเวลากลับมาต่อคิวอีกค่ะ
***เรื่องนี้สำคัญนะคะ ความจริงเห็นคนพูดเตือนเรื่องนี่ก็บ่อยแต่ก็ยัฃมีคนลืมอยู่ต้องโดนไล่กลับไปต่อคิวใหม่เลยค่ะ เห็นกับตาตัวเองเลยค่ะ***
หลังจากเข้าไปข้างในเขาก็ให้เอาบัตรปชช. ยื่นไปตอนฝากของค่ะ
กระเป๋าเป้ใบใหญ่ไม่ควรเอาติดไปนะคะ เสร็จแล้วก็เดินผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ เข้าไปรอข้างใน จะมีคนนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ รอคนที่เคาท์เตอร์เรียกเป็นรอบๆค่ะ พอเขาเรียกถึงรอบเราแล้วก็ไปต่อคิว (ระหว่างรอก็ไปเข้าห้องน้ำได้นะคะ )
จุดนี้ไม่มีไรมากค่ะ เป็นพนักงานคนไทยเรียกดูเอกสารธรรมดาๆ เราทำวีซ่าF 1 ก็ต้องเตรียม I-20กับใบsevis ,passportให้ค่ะ
พอเสร็จแล้วเค้าก็ให้เราเดินไปอ่านป้ายสีเขียวเค้าเขียนว่าให้เราเอาปากกามาจดเลขEMS ไว้เช็คตอนส่งพาสปอร์ตค่ะ
**อย่าลืมเตรียมปากกาไปด้วยนะคะ**
พอเข้าไปข้างในก็เป็นจุดที่เราจะต้องสัมภาษณ์แล้วค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องเดินไปที่ช่อง11-15ซึ้งเป็นพนง.คนไทย คอยเรียบเรียงเอกสารให้ค่ะ ตอนนั้นเค้ามีขอดูstatementของเราด้วยค่ะ
ทีนี้ก็ไปต่อคิวรอสัมภาษณ์
อย่ายืนรอเฉยๆนะคะ คอยสังเกตว่า ช่องไหนคืนpassportเยอะๆ ซึ่งแสดงว่าไม่ผ่าน ซึ่งคนนั้นอาจจะเคี่ยว ให้ผ่านยากค่ะ ใ้ห้เราพยายามเลี่ยงค่ะ เช่นขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วค่อยกลับมาต่อคิวใหม่ก็ได้ค่ะ ระหว่างรอเราก็จะได้ยินเสียงเค้าสัมภาษณ์กันค่ะ เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แต่คนเป็นต่างชาติพูดไทยได้ค่ะ คิดว่าถ้าเราขอเค้าให้สัมภาษณ์ไทยก็คงได้ค่ะ
คราวที่เราไปเราก็สังเกต
ช่องแรกเป็นฝรั่งมีเคราผิวขาว ดูใจดีให้คนก่อนหน้าเราที่ใส่ชุดนศ. จุฬาผ่านด้วย เราเลยอยากได้ช่องนี้
คนที่สองเป็นเอเชียคิดว่าจะใจดีแต่แอบเคี่ยวค่ะ5555 ปฏิเสธไปเยอะอยู่
คนที่สามเป็นผู้หญิงสำเนียงดูฟังง่าย แต่ถามนาน และปฏิเสธเยอะอยู่ค่ะ
ส่วนอีกคนเป็นฝรั่งอ้วนๆ สัมภาษณ์คนที่มาเป็นครอบครัวยังไม่เสร็จซักที
ถึงตาเราแล้ว เรากำลังจะได้ช่องผญ ซึ่งเราไม่อยากได้5555 ซึ่งตอนนั้นผญเค้าก็เรียกnext please แล้วนะคะ แต่เราลังเลไม่อยากไปเลยเหลือบไปดูฝรั่งที่ดูใจดีๆเค้าสัมเสร็จพอดีและส่งสายตามาทางเราแล้วพยักหน้าเราเลยรีบเดินไปหาเค้าเลยค่ะ (ทุกอย่างเกิดขึ้นใน3วิ5555มันไวมาก ต้องมีไหวพริบนะคะ)
พอไปถึงเค้าก็ถาม
A:Hi How are you?
B:Hi I am good.
A: You are going to study English ,right?
B:Yes
A:How long will you stay there?
B:6 weeks
A:What do your parent do?
B:My father is a navy. My mom has her own business. She sells electronics machine and mobile phone at her store.
A:ok your father is a navy so what is his rank?
B: (ตอนนั้นเรานึกชื่อนาวาเอกพิเศษเป็นภาษาอังกฤษไม่ออกค่ะ เราตื่นเต้นเลยตอบไปว่านายพล เพราะคิดว่าคำนี้ดูcommonสุด พูดเป็นภาษาไทย เค้าคงเข้าใจ แต่ความจริงพ่อเราเป็นนาวาเอกพิเศษค่ะ 55555)
A: นายพลล ummm
แล้วเค้าก็เช็คข้อมูลในคอมค่ะ ตอนนี้นเราแอบคิดว่าเอาแล้วไง ถ้าเค้าจับได้ว่าเราพูดผิด จะโดนปฏิเสธไหมเนี่ย ไม่น่าตอบไปอย่างงั้นเลย จนตอนนี้ก็งงว่าทำไมถึงตอบแบบนั้นไป5555
A: What is your father's rankพร้อมทำคิ้วขมวดค่ะ
B:Can I speak in Thai?
A:Yes
B:นาวาเอกพิเศษ
A:okkk uhh... what do you study about ?your major
B:dentistry
A:To be a dentist?
B:Yes
A:wowww ...ok
And you study in university...or...
B:Yes Mahidol university
A:ok Have a nice trip in America
B : Thank you
เขาก็เก็บpassport เราไปค่ะ ตอนนั้นดีใจมากเลยค่ะ ผ่านแล้ว ตอนแรกแอบลุ้นตั้งนานว่าจะรอดไหมที่ตอบเรื่องตำแหน่งพ่อผิดไป เลยอยากฝากให้เพื่อนๆทุกคน ตั้งสติก่อนตอบนะคะ
เสร็จแล้วก็เดินออกมารับบะตรปชช. กับของที่ฝากไว้ข้างหน้าตอนเข้ามา คืนค่ะ
ไม่ต้องชำระค่าไปรษณีย์แล้วนะคะ ส่วนวีซ่าจะได้รับ3-5วันค่ะ
ปล. ตอนเราไปทำวีซ่าครั้งนี้เห็นคนโดนปฏิเสธเยอะเหมือนกัน เค้าเคร่งมากเพราะเค้าต้องการmake sure ว่าเราจะกลับประเทศไทยแน่นอนค่ะ ดังนั้นหลักฐานควรต้องชัดเจน อย่างเราไปเรียนภาษามีเอกสารตอบรับจากทางรร. แล้วก็ดูน่าเชื่อถือค่ะ
ส่วนหน้าคนที่โดนคืนพาสพอร์ตก็เศร้ามากค่ะ สงสารเลย
***เรื่องการแต่งตัวก็สำคัญนะคะ ถ้าเป็นนักเรียน,นศ. ยังไงก็ใส่ชุดนร. ,นศ. มาดีกว่าค่ะคนวัยทำงานก็แต่งตัวให้สุภาพ ตอนไปเห็นคนใส่เสื้อแขนกุดโดนปฏิเสธก็มีค่ะ***
ยังไงก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่สนใจนะคะ การทำวีซ่าขึ้นกับดวงด้วยจริงๆค่ะซึ่งเราเลือกไม่ได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมได้ค่ะ
ขอบคุณค่า