สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน
เราอยากมาแชร์ประสบการณ์เรียนต่อต่างประเทศที่ Switzerland ค่ะ
ก่อนอื่นบอกประวัติคร่าวๆของตัวเราเองก่อน
(โดยไม่ระบุชื่อสถาบันเพราะไม่อยากพาดพิง หรือโดนคนมองว่าอวดอ้างสถาบันค่ะ เพราะเรารักเคารพและมีความภูมิใจในสถาบันเรามาก)
เข้าเรื่องค่ะ
เราเรียนจบมอปลาย รร ดังในไทย
จบทั้งตรี (เกียรตินิยมอันดับ 1) และโท (GPA 3.48) ที่มหาลัยชื่อดังในเมืองไทยนะคะ
ตอนนี้มาเรียนปอโทใบที่ 2 ที่ Switzerland สาขาที่เรียนคือ M.Sc. Statistics (ซึ่งเนื้อหาแฝง data science ที่กำลังบูมมากในไทยตอนนี้อะค่ะ)
เรียนที่มหาลัยรัฐบาลของสวิส มีชื่อเสียงทางไฟแนนซ์และสถิติ
ตอนที่จะเข้ามาเรียนก้ไม่ได้คิดว่ามันเกี่ยวข้องกับ data science แต่เลือกเพราะเป็นคนชอบเรียนคณิตศาสตร์ประยุกต์มากว่าเพียวคณิตศาสตร์เลย กว่าจะหามหาลัยและผ่านการคัดเลือกจากใบสมัครก็ยากพอตัว เพราะมหาลัยรัฐบาลชื่อดังๆใน swiss รับยากมาก เกณฑ์เยอะ
แต่ค่าเทอมราคาถูกแบบใจหายมากค่ะ
เอาหล่ะ.....
สำหรับใครที่คิดว่า เรียนเมืองนอก เรียนง่าย เรียนยังไงก็จบ หรือว่า เมืองไทยเรียนยากสุดแล้ว
เราตอบเลยนะคะว่า """"ไม่จริง""""" ค่ะ อย่างน้อยๆก็จากประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง
การวัดเกณฑ์ของมหาลัยที่นี่ ข้อสอบจะต่างจากที่ไทยคือ ที่ไทยอาจารย์จะออกข้อสอบแนวๆที่ตัวเองสอนมา
อาจจะมียากบ้าง ง่ายบ้างปนๆกันไป แต่มหาลัยที่สวิสนี่ออกข้อสอบยากและประยุกต์จากที่สอนมาก
บางข้อของข้อสอบอาจจะไม่ได้เป็น absolute answer แต่อาจารย์อยากดูว่าเราคิดไปได้ไกลแค่ไหน
ไม่พอค่ะ เกณฑ์ผ่านไม่ได้อยู่ที่ 50% แต่ผ่านคือ 70% แล้วไม่ได้อิงกลุ่ม อิงเกณฑ์ล้วนๆ
ซึ่งหมายความว่าต่อให้ทั้งห้องทำไม่ได้เหมือนกัน ก็ตกกันทั้งห้อง ไม่ได้ว่าคนที่เก่งสุดจะรอดแต่ต้องเก่งและผ่านเกณฑ์ที่เค้าตั้งด้วย
ไม่พอนะคะ อย่างที่ไทยข้อสอบปีเราก้อาจจะอิงๆปีที่แล้ว หรือต่างไปเลยแต่จำนวนข้อที่ต่างไปเลยไม่เกิน 50% ของข้อสอบ
แต่ที่นี่ ข้อสอบย้อนหลัง 2 ปี จะถูกให้โดยอาจารย์ผู้สอนวิชานั้นๆ พร้อมเฉลย (แต่บางวิชาไม่มีเฉลยให้)
แต่พอเข้าห้องสอบไปสอบวิชานั้นๆ จะพบว่าปีเรานั้นช่างไม่มีอะไรคล้ายข้อสอบเก่าเลย ยากกว่า คำถามใหม่ๆเต็ม
อ้อแล้วที่สำคัญสอบตกคือตก มีสอบซ่อมได้ 1 รอบ ถ้าตกคือโดนออก
((ขยายความนะคะ คือ มีเพื่อนในคลาสเรียนสอบตกแล้วไปซ่อมแต่ไม่ผ่าน แล้วเค้าโดนออก เราเคยถามเค้าว่า ข้อสอบซ่อมไม่ง่ายขึ้นหรอ
เค้าบอกว่าระดับความยากเท่าเดิมกะข้อสอบแรก แต่โจทย์ใหม่หมดนะ อ้อๆเราลืมบอกค่ะว่า คณะเรามีคนเรียนทั้งหมด 8 คน เป็นเด็กสวิสกะฝรั่งเศส 6 คน และเอเชีย 2 คน คือเรากะเด็กจีน ตอนนี้มีถอดใจลาออกไป 3 คน (เด็กจีนที่สนิทกะเราตอนแรกเป็นหนึ่งในที่ถอดใจลาออก) แล้วมีคนสอบไม่ผ่านโดนออกไปอีก 2 คน ตอนนี้เหลือกันน้อยมาก))
ที่จะบอกคือมันไม่เหมือนที่ไทยนะคะ สอบตก อาจารย์ให้ซ่อม ซ่อมดีไม่ดียังไงอาจารย์ท่านมีเมตตา ยังไงก้ให้ผ่าน
แต่อาจารย์ที่นี่คือเป๊ะ เกณฑ์เป็นเกณฑ์ไม่ยืดหยุ่นอะไรเลย ขนาดลงทะเบียนเรียนไม่ทันต้องรอเรียนปีหน้าเอาและช้าไปอีกปีนึงก็ไม่เห็นใจ
รุ่นพี่ หรือ พี่รหัส ที่คอยส่งต่อชีท หรือสอนติวหนังสือให้ก้ไม่มี ต้องเรียนเอง ช่วยตัวเอง พยายามเอง
เพื่อนๆสังคมก็เป็นแบบ individual สูงมากๆ
แล้วถ้าใครยิ่งตรีเรียนมาอย่างแต่จะมาเรียนโทอีกอย่างที่แหวกแนวไปเลย อาจจะตามเนื้อหาใหม่ๆในปอโทยาก
เพราะทุกอย่างใหม่หมด แล้วเราต้องมา catch up เองเยอะมาาาาาากๆๆ ทำให้มีความเครียดสูง
อ้อ !!! แล้วก้ถ้าใครคิดจะมาเรียนยุโรป ยกเว้นประเทศอังกฤษ อาจจะควรรู้ภาษาถิ่นมานิดนึง อย่างน้อยก็ A2 อะไรแบบนี้นะคะ
ไม่ยังงั้นชีวิตอาจจะอยู่ยาก และโดดเดี่ยว แปลกแยกเกินไปค่ะ
ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นส่วนนึงที่อยากเอามาแชร์ให้ผู้ที่สนใจมาเรียนต่อได้อ่านกันนะคะ
มีคำถามก็โพสทิ้งไว้ได้นะคะ หรือหลังไมค์มาได้
)))))
แล้วเจอกานใหม่ครั้งหน้าค่ะ เกี่ยวกับชีวิตการเรียนและการใช้ชีวิตต่างแดนที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คนไทยมักคิดว่าอยู่เมืองนอกแล้วชีวิติดี
ป.ล. 1) อันนี้เป็นกระทู้เรื่องค่ารายจ่าย ค่าครองชีพที่ Switzerland นะคะ
https://ppantip.com/topic/36898517
ป.ล. 2) กระทู้เรื่องใครคิดอยากทำ gap year หรือ อยากล่าฝัน อยากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ กับมุมที่อยากให้ลองอ่านก่อนตัดสินใจทำ
https://ppantip.com/topic/37740999
ป.ล. 3) อันนี้เป็นลิ้งค์เพื่อใครอยากรู้ว่าต้องทำใจเรื่องอะไรบ้างเวลามาอยู่ที่สวิสนะคะ
https://ppantip.com/topic/37744380
ป.ล. 4) การศึกษาทางเลือกที่นอกเหนือจากการเรียนต่อมหาลัยในสวิส
https://ppantip.com/topic/37783442
ป.ล. 5) ลิ้งค์เรื่องคนแบบไหนมาอยู่สวิสแล้วจะมีความสุขค่ะ
https://ppantip.com/topic/37770486
ใครที่คิดอยากเรียนต่อต่างประเทศ ขอเตือนให้ลองอ่านกระทู้นี้ก่อนนะคะ
เราอยากมาแชร์ประสบการณ์เรียนต่อต่างประเทศที่ Switzerland ค่ะ
ก่อนอื่นบอกประวัติคร่าวๆของตัวเราเองก่อน
(โดยไม่ระบุชื่อสถาบันเพราะไม่อยากพาดพิง หรือโดนคนมองว่าอวดอ้างสถาบันค่ะ เพราะเรารักเคารพและมีความภูมิใจในสถาบันเรามาก)
เข้าเรื่องค่ะ
เราเรียนจบมอปลาย รร ดังในไทย
จบทั้งตรี (เกียรตินิยมอันดับ 1) และโท (GPA 3.48) ที่มหาลัยชื่อดังในเมืองไทยนะคะ
ตอนนี้มาเรียนปอโทใบที่ 2 ที่ Switzerland สาขาที่เรียนคือ M.Sc. Statistics (ซึ่งเนื้อหาแฝง data science ที่กำลังบูมมากในไทยตอนนี้อะค่ะ)
เรียนที่มหาลัยรัฐบาลของสวิส มีชื่อเสียงทางไฟแนนซ์และสถิติ
ตอนที่จะเข้ามาเรียนก้ไม่ได้คิดว่ามันเกี่ยวข้องกับ data science แต่เลือกเพราะเป็นคนชอบเรียนคณิตศาสตร์ประยุกต์มากว่าเพียวคณิตศาสตร์เลย กว่าจะหามหาลัยและผ่านการคัดเลือกจากใบสมัครก็ยากพอตัว เพราะมหาลัยรัฐบาลชื่อดังๆใน swiss รับยากมาก เกณฑ์เยอะ
แต่ค่าเทอมราคาถูกแบบใจหายมากค่ะ
เอาหล่ะ.....
สำหรับใครที่คิดว่า เรียนเมืองนอก เรียนง่าย เรียนยังไงก็จบ หรือว่า เมืองไทยเรียนยากสุดแล้ว
เราตอบเลยนะคะว่า """"ไม่จริง""""" ค่ะ อย่างน้อยๆก็จากประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง
การวัดเกณฑ์ของมหาลัยที่นี่ ข้อสอบจะต่างจากที่ไทยคือ ที่ไทยอาจารย์จะออกข้อสอบแนวๆที่ตัวเองสอนมา
อาจจะมียากบ้าง ง่ายบ้างปนๆกันไป แต่มหาลัยที่สวิสนี่ออกข้อสอบยากและประยุกต์จากที่สอนมาก
บางข้อของข้อสอบอาจจะไม่ได้เป็น absolute answer แต่อาจารย์อยากดูว่าเราคิดไปได้ไกลแค่ไหน
ไม่พอค่ะ เกณฑ์ผ่านไม่ได้อยู่ที่ 50% แต่ผ่านคือ 70% แล้วไม่ได้อิงกลุ่ม อิงเกณฑ์ล้วนๆ
ซึ่งหมายความว่าต่อให้ทั้งห้องทำไม่ได้เหมือนกัน ก็ตกกันทั้งห้อง ไม่ได้ว่าคนที่เก่งสุดจะรอดแต่ต้องเก่งและผ่านเกณฑ์ที่เค้าตั้งด้วย
ไม่พอนะคะ อย่างที่ไทยข้อสอบปีเราก้อาจจะอิงๆปีที่แล้ว หรือต่างไปเลยแต่จำนวนข้อที่ต่างไปเลยไม่เกิน 50% ของข้อสอบ
แต่ที่นี่ ข้อสอบย้อนหลัง 2 ปี จะถูกให้โดยอาจารย์ผู้สอนวิชานั้นๆ พร้อมเฉลย (แต่บางวิชาไม่มีเฉลยให้)
แต่พอเข้าห้องสอบไปสอบวิชานั้นๆ จะพบว่าปีเรานั้นช่างไม่มีอะไรคล้ายข้อสอบเก่าเลย ยากกว่า คำถามใหม่ๆเต็ม
อ้อแล้วที่สำคัญสอบตกคือตก มีสอบซ่อมได้ 1 รอบ ถ้าตกคือโดนออก
((ขยายความนะคะ คือ มีเพื่อนในคลาสเรียนสอบตกแล้วไปซ่อมแต่ไม่ผ่าน แล้วเค้าโดนออก เราเคยถามเค้าว่า ข้อสอบซ่อมไม่ง่ายขึ้นหรอ
เค้าบอกว่าระดับความยากเท่าเดิมกะข้อสอบแรก แต่โจทย์ใหม่หมดนะ อ้อๆเราลืมบอกค่ะว่า คณะเรามีคนเรียนทั้งหมด 8 คน เป็นเด็กสวิสกะฝรั่งเศส 6 คน และเอเชีย 2 คน คือเรากะเด็กจีน ตอนนี้มีถอดใจลาออกไป 3 คน (เด็กจีนที่สนิทกะเราตอนแรกเป็นหนึ่งในที่ถอดใจลาออก) แล้วมีคนสอบไม่ผ่านโดนออกไปอีก 2 คน ตอนนี้เหลือกันน้อยมาก))
ที่จะบอกคือมันไม่เหมือนที่ไทยนะคะ สอบตก อาจารย์ให้ซ่อม ซ่อมดีไม่ดียังไงอาจารย์ท่านมีเมตตา ยังไงก้ให้ผ่าน
แต่อาจารย์ที่นี่คือเป๊ะ เกณฑ์เป็นเกณฑ์ไม่ยืดหยุ่นอะไรเลย ขนาดลงทะเบียนเรียนไม่ทันต้องรอเรียนปีหน้าเอาและช้าไปอีกปีนึงก็ไม่เห็นใจ
รุ่นพี่ หรือ พี่รหัส ที่คอยส่งต่อชีท หรือสอนติวหนังสือให้ก้ไม่มี ต้องเรียนเอง ช่วยตัวเอง พยายามเอง
เพื่อนๆสังคมก็เป็นแบบ individual สูงมากๆ
แล้วถ้าใครยิ่งตรีเรียนมาอย่างแต่จะมาเรียนโทอีกอย่างที่แหวกแนวไปเลย อาจจะตามเนื้อหาใหม่ๆในปอโทยาก
เพราะทุกอย่างใหม่หมด แล้วเราต้องมา catch up เองเยอะมาาาาาากๆๆ ทำให้มีความเครียดสูง
อ้อ !!! แล้วก้ถ้าใครคิดจะมาเรียนยุโรป ยกเว้นประเทศอังกฤษ อาจจะควรรู้ภาษาถิ่นมานิดนึง อย่างน้อยก็ A2 อะไรแบบนี้นะคะ
ไม่ยังงั้นชีวิตอาจจะอยู่ยาก และโดดเดี่ยว แปลกแยกเกินไปค่ะ
ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นส่วนนึงที่อยากเอามาแชร์ให้ผู้ที่สนใจมาเรียนต่อได้อ่านกันนะคะ
มีคำถามก็โพสทิ้งไว้ได้นะคะ หรือหลังไมค์มาได้ )))))
แล้วเจอกานใหม่ครั้งหน้าค่ะ เกี่ยวกับชีวิตการเรียนและการใช้ชีวิตต่างแดนที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คนไทยมักคิดว่าอยู่เมืองนอกแล้วชีวิติดี
ป.ล. 1) อันนี้เป็นกระทู้เรื่องค่ารายจ่าย ค่าครองชีพที่ Switzerland นะคะ
https://ppantip.com/topic/36898517
ป.ล. 2) กระทู้เรื่องใครคิดอยากทำ gap year หรือ อยากล่าฝัน อยากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ กับมุมที่อยากให้ลองอ่านก่อนตัดสินใจทำ
https://ppantip.com/topic/37740999
ป.ล. 3) อันนี้เป็นลิ้งค์เพื่อใครอยากรู้ว่าต้องทำใจเรื่องอะไรบ้างเวลามาอยู่ที่สวิสนะคะ
https://ppantip.com/topic/37744380
ป.ล. 4) การศึกษาทางเลือกที่นอกเหนือจากการเรียนต่อมหาลัยในสวิส
https://ppantip.com/topic/37783442
ป.ล. 5) ลิ้งค์เรื่องคนแบบไหนมาอยู่สวิสแล้วจะมีความสุขค่ะ
https://ppantip.com/topic/37770486