ขอเกริ่นก่อนนะครับ เมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผมไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ
ด้วยอาการที่ปวดบริเวณโคนหัวแม่เท้าข้างขวา ปวดมากแทบเดินไม่ได้ แต่ก็จำเป็นต้องเดินครับ ไปแตะมันไม่ได้เลย
(ก่อนหน้านี้กลางดึกผมปวดมากๆตอนตี 2 แต่ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเลยลงมาจากบนบ้านทานยาพารา)
ในวันนั้นหมอก็วินิจฉัยว่าอาจจะเป็นเก๊าท์ แต่ขอให้มาตรวจเลือดในวันที่ 29 ธันวาคม
พอถึงวันเจาะเลือดก็เจาะตามปกติ พบว่าค่ายูริกสูง 7.4 หมอก็บอกกับผมว่าเป็นเก๊าท์ พร้อมกับทานยาที่หมอสั่ง
หลังจากหาหมอทานยาแล้วอาการปวดก็มีบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรก
หลายเดือนต่อมา ประมาณเดือนมีนาคม ผมไปหาหมอที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เพื่อไปตรวจว่าเป็นเก๊าท์จริงๆมั้ย ใจจริงก็สารภาพว่าไม่ค่อยจะเชื่อโรพยาบาลแรกเท่าไหร่
แต่พอไปหาหมอ ก็เล่าอาการให้หมอฟังหมอก็ให้ไปเจาะเลือด ผมก็ไปเจาะเลือดตามหมอสั่ง
ผลออกมาคือ ค่ายูริก 5.4 หมอก็ถามว่าจะกินยามั้ยหรือไม่กินก็ได้ เพราะอาการปวดของผมมันไม่เด่นชัดถึงขั้นเป็นลอยนูนแดง
อีกอย่าหมอบอกว่าอาการของผมไม่น่าจะใช่โรคเก๊าท์ อาจจะปวดตามข้อเฉยๆ
แต่ผมก็ขอกินยา หมอก็จัดให้ และนัดอีกที 2 เดือนเพื่อติดตามอาการ
พอถึงกำหนดหมอนัด คือเดือนพฤษภาคม ผมก็ไปพบหมอ ซึ่งเป็นคนละคนกับคนแรก
หมอก็ซักประวัติ แล้วให้ไปเจาะเลือด ผลขอยูริกก็อยู่ประมาณ 5 (จำตัวเลยตรงๆไม่ได้ครับ)

ตอนนี้ผมมีอาการปวดบริเวณหัวแม่เท้าอยู่บ้างบางครั้ง บางครั้งก็ปวดพร้อมกัน 2 ข้าง
ถามว่าเคยสังเกตอาการมั้ยว่าจะเป็นหลังกินพวกของต้องห้ามมั้ย
อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้ขนาดนั้นครับ เพราะบางทีกินไก่ ก็มีทั้งปวดแล้วไม่ปวด บางทีสังเกตการกินชัดเจน
ว่าไม่ได้กินของต้องห้ามก็ดันปวด

ผลเลยอยากขอถามผู้รู้หรือคนที่มีประสบการณ์ครับ
1. ผมเป็นโรคเก๊าท์มั้ย
2. มีวิธีตรวจยังไงให้รู้ว่าเป็นโรคเก๊าท์ หรือไม่
3. ถ้าผมซื้อยามาเตรียมไว้ พอผมปวดผมก็กิน ทำแบบนี้ได้มั้ยคับ

รบกวนตอบด้วยนะครับ