ความรับผิดชอบของนักเรียน การให้ความสนใจที่โรงเรียนไม่ว่าจะเป็นการอ่านที่ดีกับทักษะการเขียนที่ดีนั้น ไม่เพียงแค่จะช่วยให้วัยรุ่นได้เกรดเฉลี่ยที่ดีในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังคาดการณ์ได้ถึงความสำเร็จทั้งในการศึกษากับอาชีพการงานในช่วง 10 ปีต่อมาได้ ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีไอคิวที่สูง พ่อแม่มีฐานะทางเศรษฐกิจหรือมีบุคลิกภาพยังไงก็ตาม
“นักวิจัยทางด้านการศึกษา,นักวิทยาศาสตร์การเมืองกับนักเศรษฐศาสตร์ล้วนแล้วเป็นอาชีพที่กำลังเติบโตมากขึ้นและจะต้องมีทักษะความสามารถต่างๆ โดยทางด้านผู้ปกครอง คุณครูและทางโรงเรียนจะต้องเลี้ยงดูเด็กๆให้มีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าในช่วงต่อมาให้ได้” กล่าวโดยหัวหน้าวิจัยโดย Spengler “งานวิจัยของพวกเราพบว่าพฤติกรรมต่างๆที่โรงเรียนส่งผลกระทบต่อช่วงชีวิตต่อมาได้
Spengler กับคณะของเธอได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากสถาบันวิจัยโดยมีตัวอย่างชาวอเมริกันกว่า 346,660 คน โดยมีการรวบรวมคนที่เรียนชั้นมัธยมในช่วงปี 1960 พร้อมกับทำการเฝ้าติดตามข้อมูลกว่า 81,912 คน โดยทำการติดตามนักเรียนกว่า 11 ปีและติดตามอีก 1,952 คน ในช่วง 50 ปีต่อมา ในช่วงเริ่มแรกจะต้องทำการประเมินพฤติกรรมต่างๆกับทัศนคติที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพของนักเรียน ทั้งกระบวนการเรียนรู้ ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองกับเงื่อนไขปัจจัยทางด้านประชากร จากการสำรวจก็ได้ทำการประเมินระดับการศึกษา รายได้และอาชีพการงาน
การรับผิดชอบของนักเรียน การให้ความสนใจในโรงเรียนและการที่ไม่มีปัญหาทางด้านการอ่านกับการเขียนนั้น ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้เห็นถึงความสำเร็จในการศึกษาและสามารถหาอาชีพการงานที่ดีได้ทั้งช่วงวัย 11 ปีไปจนถึง 50 ปีหลังจากที่จบโรงเรียนมัธยมแล้ว เงื่อนไขปัจจัยต่างๆเหล่านี้ส่งผลให้พวกเขามีรายได้สูงในช่วงอายุ 50 ปี คนส่วนใหญ่มีรายได้มั่นคงเมื่อนักวิจัยได้ทำการตรวจสอบฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครอง กระบวนการเรียนรู้กับบุคลิกภาพอื่นๆอย่างเช่นจิตสำนึก
แม้ว่าการค้นพบพวกนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ทางด้าน Spengler ก็ได้บันทึกเอาไว้ว่า พฤติกรรมที่น่าเชื่อถือของพวกเขาในโรงเรียนเป็นตัวคาดการณ์ความสำเร็จในช่วงต่อมาได้
การวิเคราะห์อื่นๆนอกเหนือไปจากนั้นแล้วชี้ว่า ผลกระทบส่วนใหญ่ก็สามารถอธิบายได้จากผลที่ได้รับจากระดับการศึกษาซึ่งก็สอดคล้องกับที่ Spengler ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“พฤติกรรมกับบุคลิกภาพของนักเรียนเป็นตัวชี้วัดในโรงเรียนและนำไปสู่การศึกษาในระดับที่สูงกว่าได้ ซึ่งก็นำไปสู่การประกอบอาชีพการงานที่ดีและมีรายได้ที่ดีในช่วงต่อมา” เธอกล่าวต่อไปว่า “งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่พฤติกรรมต่างๆในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตในระยะยาวของคนๆนั้น”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
พฤติกรรมของเด็กมัธยมคาดการณ์ได้ถึงรายได้กับความสำเร็จในการประกอบอาชีพในช่วงต่อมาได้
ความรับผิดชอบของนักเรียน การให้ความสนใจที่โรงเรียนไม่ว่าจะเป็นการอ่านที่ดีกับทักษะการเขียนที่ดีนั้น ไม่เพียงแค่จะช่วยให้วัยรุ่นได้เกรดเฉลี่ยที่ดีในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังคาดการณ์ได้ถึงความสำเร็จทั้งในการศึกษากับอาชีพการงานในช่วง 10 ปีต่อมาได้ ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีไอคิวที่สูง พ่อแม่มีฐานะทางเศรษฐกิจหรือมีบุคลิกภาพยังไงก็ตาม
“นักวิจัยทางด้านการศึกษา,นักวิทยาศาสตร์การเมืองกับนักเศรษฐศาสตร์ล้วนแล้วเป็นอาชีพที่กำลังเติบโตมากขึ้นและจะต้องมีทักษะความสามารถต่างๆ โดยทางด้านผู้ปกครอง คุณครูและทางโรงเรียนจะต้องเลี้ยงดูเด็กๆให้มีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าในช่วงต่อมาให้ได้” กล่าวโดยหัวหน้าวิจัยโดย Spengler “งานวิจัยของพวกเราพบว่าพฤติกรรมต่างๆที่โรงเรียนส่งผลกระทบต่อช่วงชีวิตต่อมาได้
Spengler กับคณะของเธอได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากสถาบันวิจัยโดยมีตัวอย่างชาวอเมริกันกว่า 346,660 คน โดยมีการรวบรวมคนที่เรียนชั้นมัธยมในช่วงปี 1960 พร้อมกับทำการเฝ้าติดตามข้อมูลกว่า 81,912 คน โดยทำการติดตามนักเรียนกว่า 11 ปีและติดตามอีก 1,952 คน ในช่วง 50 ปีต่อมา ในช่วงเริ่มแรกจะต้องทำการประเมินพฤติกรรมต่างๆกับทัศนคติที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพของนักเรียน ทั้งกระบวนการเรียนรู้ ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองกับเงื่อนไขปัจจัยทางด้านประชากร จากการสำรวจก็ได้ทำการประเมินระดับการศึกษา รายได้และอาชีพการงาน
การรับผิดชอบของนักเรียน การให้ความสนใจในโรงเรียนและการที่ไม่มีปัญหาทางด้านการอ่านกับการเขียนนั้น ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้เห็นถึงความสำเร็จในการศึกษาและสามารถหาอาชีพการงานที่ดีได้ทั้งช่วงวัย 11 ปีไปจนถึง 50 ปีหลังจากที่จบโรงเรียนมัธยมแล้ว เงื่อนไขปัจจัยต่างๆเหล่านี้ส่งผลให้พวกเขามีรายได้สูงในช่วงอายุ 50 ปี คนส่วนใหญ่มีรายได้มั่นคงเมื่อนักวิจัยได้ทำการตรวจสอบฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครอง กระบวนการเรียนรู้กับบุคลิกภาพอื่นๆอย่างเช่นจิตสำนึก
แม้ว่าการค้นพบพวกนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ทางด้าน Spengler ก็ได้บันทึกเอาไว้ว่า พฤติกรรมที่น่าเชื่อถือของพวกเขาในโรงเรียนเป็นตัวคาดการณ์ความสำเร็จในช่วงต่อมาได้
การวิเคราะห์อื่นๆนอกเหนือไปจากนั้นแล้วชี้ว่า ผลกระทบส่วนใหญ่ก็สามารถอธิบายได้จากผลที่ได้รับจากระดับการศึกษาซึ่งก็สอดคล้องกับที่ Spengler ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“พฤติกรรมกับบุคลิกภาพของนักเรียนเป็นตัวชี้วัดในโรงเรียนและนำไปสู่การศึกษาในระดับที่สูงกว่าได้ ซึ่งก็นำไปสู่การประกอบอาชีพการงานที่ดีและมีรายได้ที่ดีในช่วงต่อมา” เธอกล่าวต่อไปว่า “งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่พฤติกรรมต่างๆในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตในระยะยาวของคนๆนั้น”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com