ประวัติศาสตร์ คือบันทึกเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่เคยเกิดมามีชีวิตอยู่ได้ทำไว้ แต่พฤติกรรมของมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวเสมอชนิดไร้กาลเวลาและสถานที่ ฉะนั้นข้อความในประวัติศาสตร์จึงคือการบันทึกเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกำลังเกิดขึ้นและที่จะเกิดต่อไปนั่นเอง
ในยุคปลายราชวงศ์หยวนที่มองโกลเข้าครอบครองจีนเกิดกลุ่มกบฏขึ้นมากมายโดยมีเป้าหมายหลักเดียวกันคือขับไล่มองโกลออกไป แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ห้ำหั่นกันเองด้วย
จูหยวนจางเป็นหนึ่งในกลุ่มพวกนั้น เขาสะสมกำลังพลได้หลายแสนคนปราบทุกกลุ่มราบคาบก่อนจะยาตราทัพเข้าปักกิ่ง (ต้าตู) ขับไล่มองโกลออกไปสถาปนาราชวงศ์หมิงตั้งตนเองเป็นฮ่องเต้ในที่สุด
แผ่นดินอยู่ในกำมือแล้ว ขุนศึกร่วมรบกลายเป็นเสี้ยนหนามที่ต้องขจัดทิ้งทีละคนแล้ว หลิวจีที่ปรึกษาคนสำคัญรู้ว่าตนเองก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้นจึงรีบลาออกจากตำแหน่งกลับไปอยู่บ้านนอกหวังว่าจะพ้นภัยนี้ไปได้ แต่ก็ไม่พ้น โดยขณะกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง จูหยวนจางได้ส่งคนทำทีไปเยี่ยมแต่ให้กินอาหารที่แสลงกับโรค สุดท้ายเสี้ยนหนามก็หายไปอีกหนึ่ง
หากมีคนไปถามเขาคงตอบว่า เจ้าหน้าที่จัดการไปตามกฎหมาย ผิดว่าไปตามผิด (ส่วนจะผิดกฏหมายหรือผิดใจกู นั่นมันอีกเรื่อง)
กับเหตุการณ์ที่เกิดอยู่ในเมืองไทย พ.ศ.นี้ หากเป็นคนทั่วไปก็จะบอกว่าจูหยวนจางกลับชาติมาเกิดเป็นคนไทยกำลังทำสิ่งที่เคยทำอยู่ แต่สำหรับผมแล้ว นี่คือพฤติกรรมเสร็จงานนาฆ่าโคถึกซึ่งเป็นพฤติกรรมร่วมของมนุษย์หนึ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนใครคือจูหยวนจาง ใครคือหลิวจี คุณแยกแยะเอาเอง
พุทธอิสระเอย ท่านรู้ทุกอย่าง แต่ไม่รู้จักโลก ไม่รู้จักมนุษย์ ไม่รู้ว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงสอนให้หลีกเร้น อยู่โดยไม่ยุ่งไม่เกี่ยวด้วย คล้ายดอกบัวที่เกิดในน้ำเติบโตในน้ำแต่อยู่ในแสงสว่างเลยพ้นไปจากน้ำ
คนเบื่อโลก
..เสร็จงานนาฆ่าโคถึก..
ในยุคปลายราชวงศ์หยวนที่มองโกลเข้าครอบครองจีนเกิดกลุ่มกบฏขึ้นมากมายโดยมีเป้าหมายหลักเดียวกันคือขับไล่มองโกลออกไป แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ห้ำหั่นกันเองด้วย
จูหยวนจางเป็นหนึ่งในกลุ่มพวกนั้น เขาสะสมกำลังพลได้หลายแสนคนปราบทุกกลุ่มราบคาบก่อนจะยาตราทัพเข้าปักกิ่ง (ต้าตู) ขับไล่มองโกลออกไปสถาปนาราชวงศ์หมิงตั้งตนเองเป็นฮ่องเต้ในที่สุด
แผ่นดินอยู่ในกำมือแล้ว ขุนศึกร่วมรบกลายเป็นเสี้ยนหนามที่ต้องขจัดทิ้งทีละคนแล้ว หลิวจีที่ปรึกษาคนสำคัญรู้ว่าตนเองก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้นจึงรีบลาออกจากตำแหน่งกลับไปอยู่บ้านนอกหวังว่าจะพ้นภัยนี้ไปได้ แต่ก็ไม่พ้น โดยขณะกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง จูหยวนจางได้ส่งคนทำทีไปเยี่ยมแต่ให้กินอาหารที่แสลงกับโรค สุดท้ายเสี้ยนหนามก็หายไปอีกหนึ่ง
หากมีคนไปถามเขาคงตอบว่า เจ้าหน้าที่จัดการไปตามกฎหมาย ผิดว่าไปตามผิด (ส่วนจะผิดกฏหมายหรือผิดใจกู นั่นมันอีกเรื่อง)
กับเหตุการณ์ที่เกิดอยู่ในเมืองไทย พ.ศ.นี้ หากเป็นคนทั่วไปก็จะบอกว่าจูหยวนจางกลับชาติมาเกิดเป็นคนไทยกำลังทำสิ่งที่เคยทำอยู่ แต่สำหรับผมแล้ว นี่คือพฤติกรรมเสร็จงานนาฆ่าโคถึกซึ่งเป็นพฤติกรรมร่วมของมนุษย์หนึ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนใครคือจูหยวนจาง ใครคือหลิวจี คุณแยกแยะเอาเอง
พุทธอิสระเอย ท่านรู้ทุกอย่าง แต่ไม่รู้จักโลก ไม่รู้จักมนุษย์ ไม่รู้ว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงสอนให้หลีกเร้น อยู่โดยไม่ยุ่งไม่เกี่ยวด้วย คล้ายดอกบัวที่เกิดในน้ำเติบโตในน้ำแต่อยู่ในแสงสว่างเลยพ้นไปจากน้ำ
คนเบื่อโลก