“มาเลเซีย” เข้าขั้นวิกฤต หนี้สาธารณะพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ที่มา
https://www.facebook.com/ThailandSkyline/photos/a.485893644885568.1073741828.485891468219119/1143010835840509/?type=3&theater

#####################################################3



“มาเลเซีย” เข้าขั้นวิกฤต หนี้สาธารณะพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

เศรษฐกิจของ “มาเลเซีย” กำลังเข้าขั้นวิกฤต หลัง ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเผยว่า มาเลเซียกำลังประสบปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศที่พุ่งสูงถึง 1 ล้านล้านริงกิต หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท เนื่องมาจากงบประมาณบางส่วนถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
.
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้รัฐบาลมาเลเซียได้ตั้งขณะทำงานเพื่อสอบสวนการทุจริตการยักยอกเงินจำนวนมหาศาลจากกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ซึ่งถูกตั้งขึ้นมาในปี 2552 ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เพื่อนำงบไปพัฒนาด้านต่างๆ จนทำให้ทำเศรษฐกิจของมาเลเซียพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
.
สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) เผยว่ามีการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB ไปแล้วกว่า 172,800 ล้านบาท ซึ่งเงินบางส่วนจำนวน 21,790 ล้านบาท อยู่ในบัญชีเงินฝากของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค
.
ล่าสุดมาเลเซียมีมูลค่า GDP อยู่ที่ 9.31 ล้านล้านบาท และมีหนี้สาธารณะ 8 ล้านล้านบาท ในขณะที่ประเทศไทยมีมูลค่า GDP อยู่ที่ 15.1 ล้านล้านบาท และมีหนี้สาธารณะรวม 6.5 ล้านล้านบาท ซึ่งน้อยกว่ามาเลเซีย

#ThailandSkyline
reut.rs/2saXtXS
bit.ly/2KRUGdS
Photo: bit.ly/2IJX7Pa
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
ปัญหาหนักของมาเลเซียในระยะใกล้ๆนี้ก็คือ การถูกลดระดับเครดิตประเทศจากมูดี้(ภายใน6เดือนนี้) อดีตนายกฯนาจิบยืนยันมาตลอดว่าหนี้สาธารณะของมาเลเซียไม่เกิน55%จีดีพี(และส่งข้อมูลให้ธนาคารโลกตามนั้นด้วย) แต่ท่านมหาธีร์กลับมาบอกว่ามีหนี้ถึง1ล้านล้านริงกิต 65%ของจีดีพี แต่จากข้อมูลก็เห็นว่าจีดีพีมาเลเซีย9.31ล้านล้านบาทเทียบกับหนี้8ล้านล้านบาทนี่มันเกิน65%ของจีดีพีไปเยอะเลย แสดงว่าที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียตกแต่งตัวเลขหนี้สาธารณะมาตลอด ตรงนี้ทำให้ข้อที่หลายคนสงสัยมาตลอดว่ารัฐบาลมาเลเซียตกแต่งตัวเลขดีเกินจริงได้รับการยืนยัน และทำให้สงสัยต่อไปอีกว่า มีตัวเลขไหนถูกรัฐบาลตกแต่งให้ดีเกินจริงอีกบ้าง?  

     ถ้าจำไม่ผิดมูดี้ให้อันดับเครดิตมาเลเซียถึงAA(ถ้าผิดขออภัย) ซึ่งดีกว่าของไทยที่ได้BBB+ อยู่หลายขั้นเลย ทั้งๆที่ตัวเลขหนี้สาธาณะล่าสุดของไทย(ประกาศเมื่อ15พค.61) อยู่ที่ 41.04% หรือ6.45ล้านล้านบาท เป็นหนี้ระยะยาวเกิน90% และเป็นหนี้ภายในประเทศมากกว่า96%(เป็นพันธบัตรขายให้สถาบันการเงินในประเทศ) เป็นหนี้ต่างประเทศไม่ถึง4%หรือ2.7แสนล้านบาท(8.4พันล้านดอลล่า)ซึ่งน้อยกว่าเงินที่บ.เบียร์ช้างใช้ซื้อหุ้นบิ๊กซีกับบ.เบียร์ในเวียดนามเมื่อปี2560ซะอีก ปัญหาหนี้ต่างประเทศของไทยจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร(เข้าใจว่าส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาวจากญี่ปุ่น ดอกเบี้ยไม่ถึง1% จะรีบใช้หนี้ก่อนกำหนดก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะดอกเบี้ยต่ำมาก)

    ในขณะที่หนี้ของมาเลเซียเป็นหนี้ต่างประเทศระยะสั้นนั้นเกือบเท่ากับทุนสำรองฯเลยทีเดียว (ทุนสำรองมาเลเซียที่ประกาศล่าสุด ราว8หมื่นล้านเหรียญ /เทียบกับไทยคือ2.38แสนล้านเหรียญ+สัญญาฟอร์เวิร์ดอีกราวสามพันกว่าล้าน)

    ส่วนโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลไทยในปัจจุบันนั้น ได้ใช้นโยบายกำหนดสัดส่วนการใช้เงินไว้คือ จากเงินงบประมาณแผ่นดิน15%+PPP(ร่วมทุนเอกชน)60%+จากรัฐวิสาหกิจ(เช่นการทางพิเศษ,การท่าอากาศยาน ฯลฯ)5% +และเงินกู้20% และหลังจากโครงการสร้างเสร็จแล้วก็จะขายเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯเพื่อเข้าตลาดหุ้นต่อไปเพื่อลดหนี้สาธารณะ(เช่น ทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์ใหม่ ลงทุนเสร็จก็จะขายเข้ากองทุน ได้เงินกลับมาลงทุนสร้างทางด่วนเส้นใหม่ๆ หมุนเวียนต่อๆไปโดยไม่ต้องกู้เงิน) ทั้งนี้ก็น่าจะทำให้หนี้สาธารณะของไทยไม่เพ่ิมขึ้นเร็วเกินไป เพราะมีสัดส่วนเงินกู้ไม่มากนัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่