BYD เผชิญภาระหนี้สินทะยานแตะ 73 พันล้านดอลลาร์: การขยายตัวรวดเร็วสร้างความกังวลว่าจะซ้ำรอย Evergrande
ในช่วงเวลาไม่นานนี้ บริษัท BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน ได้เผชิญกับสถานการณ์ทางการเงินที่ท้าทาย โดยหนี้สินรวมของบริษัทได้พุ่งสูงถึง 73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท) โดยมี
อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ถึง 78% ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์
Evergrande ที่เคยมีอัตราหนี้สินสูงถึง 77.9% ก่อนจะเผชิญกับวิกฤตในปี 2019
การขยายตัวอย่างรวดเร็วและผลกระทบที่ตามมา
ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ BYD ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับเจ็ดของโลกจากยอดขาย แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งนั้น
บริษัทกลับต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างมากเพื่อชำระหนี้ ในการประเมินล่าสุด หากรัฐบาลยุติการให้เงินอุดหนุน BYD อาจต้องขายรถยนต์เกือบ 20 ล้านคัน ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายร้อยปีที่อัตราการขายปัจจุบันถึงจะสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด
ความกังวลในคุณภาพผลิตภัณฑ์
BYD ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น รุ่น Yuan มีปัญหาทั้งด้านการรั่วของแบตเตอรี่และการชาร์จ ผู้ใช้งานหลายรายรายงานว่ารถยนต์ของ BYD มักมีปัญหาด้านความทนทาน และการออกแบบที่เน้นเพียงการดึงดูดความสนใจโดยใช้ฟังก์ชันเสริมที่ไม่จำเป็นแทนที่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพ
ปัญหาด้านการเงินที่รุนแรง
รายงานการเงินของ BYD ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวมประมาณ 764.3 พันล้านหยวน (ประมาณ 3.8 ล้านล้านบาท) ในขณะที่หนี้สินรวมสูงถึง 595.5 พันล้านหยวน โดย BYD ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยปีละประมาณ 30 พันล้านหยวน (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) ซึ่งสร้างความกังวลว่า หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล บริษัทอาจไม่สามารถรักษาสถานะการเงินไว้ได้
ความเห็นจากนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังซึ่งเคยถือหุ้นใน BYD ได้เริ่มขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่องจนเหลือไม่ถึง 5% ทำให้เกิดความกังวลว่าเขาอาจไม่เชื่อมั่นในความสามารถของ BYD ในการฟื้นตัวทางการเงิน ผู้สังเกตการณ์จากภาคการเงินจีนเตือนว่าหาก BYD เผชิญปัญหาการล้มละลาย อาจเกิดผลกระทบลูกโซ่ในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของจีน ที่พึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างมาก
แนวโน้มในอนาคต
หากรัฐบาลจีนไม่สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ได้อย่างยั่งยืน การล้มละลายของ BYD อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงวิกฤตที่กำลังจะมาถึงสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่มีโครงสร้างหนี้สูงและพึ่งพาเงินอุดหนุนในการดำเนินงาน
ที่มา : China Observer
เคส N...a นั่น ยังระดับ Startup
เคสนี้ ...ยอดขายรถไฟฟ้า อันดับ 1 ของโลกเลยนะเว้ย
ข้างนอกสุกใส ข้างใน...
ร้อนๆ หนาวๆ ...BYD เผชิญภาระหนี้สิน 73 พันล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับสถานการณ์ของ Evergrande
ในช่วงเวลาไม่นานนี้ บริษัท BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน ได้เผชิญกับสถานการณ์ทางการเงินที่ท้าทาย โดยหนี้สินรวมของบริษัทได้พุ่งสูงถึง 73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท) โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ถึง 78% ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Evergrande ที่เคยมีอัตราหนี้สินสูงถึง 77.9% ก่อนจะเผชิญกับวิกฤตในปี 2019
การขยายตัวอย่างรวดเร็วและผลกระทบที่ตามมา
ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ BYD ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับเจ็ดของโลกจากยอดขาย แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งนั้น บริษัทกลับต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างมากเพื่อชำระหนี้ ในการประเมินล่าสุด หากรัฐบาลยุติการให้เงินอุดหนุน BYD อาจต้องขายรถยนต์เกือบ 20 ล้านคัน ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายร้อยปีที่อัตราการขายปัจจุบันถึงจะสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด
ความกังวลในคุณภาพผลิตภัณฑ์
BYD ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น รุ่น Yuan มีปัญหาทั้งด้านการรั่วของแบตเตอรี่และการชาร์จ ผู้ใช้งานหลายรายรายงานว่ารถยนต์ของ BYD มักมีปัญหาด้านความทนทาน และการออกแบบที่เน้นเพียงการดึงดูดความสนใจโดยใช้ฟังก์ชันเสริมที่ไม่จำเป็นแทนที่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพ
ปัญหาด้านการเงินที่รุนแรง
รายงานการเงินของ BYD ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวมประมาณ 764.3 พันล้านหยวน (ประมาณ 3.8 ล้านล้านบาท) ในขณะที่หนี้สินรวมสูงถึง 595.5 พันล้านหยวน โดย BYD ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยปีละประมาณ 30 พันล้านหยวน (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) ซึ่งสร้างความกังวลว่า หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล บริษัทอาจไม่สามารถรักษาสถานะการเงินไว้ได้
ความเห็นจากนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังซึ่งเคยถือหุ้นใน BYD ได้เริ่มขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่องจนเหลือไม่ถึง 5% ทำให้เกิดความกังวลว่าเขาอาจไม่เชื่อมั่นในความสามารถของ BYD ในการฟื้นตัวทางการเงิน ผู้สังเกตการณ์จากภาคการเงินจีนเตือนว่าหาก BYD เผชิญปัญหาการล้มละลาย อาจเกิดผลกระทบลูกโซ่ในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของจีน ที่พึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างมาก
แนวโน้มในอนาคต
หากรัฐบาลจีนไม่สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ได้อย่างยั่งยืน การล้มละลายของ BYD อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงวิกฤตที่กำลังจะมาถึงสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่มีโครงสร้างหนี้สูงและพึ่งพาเงินอุดหนุนในการดำเนินงาน
ที่มา : China Observer
เคส N...a นั่น ยังระดับ Startup
เคสนี้ ...ยอดขายรถไฟฟ้า อันดับ 1 ของโลกเลยนะเว้ย
ข้างนอกสุกใส ข้างใน...