มีเรื่องเล่าให้ฟังนะคะ..คือเราทำงานที่บริษัทหนึ่งที่เจ้าของเป็นชาวต่างชาติ บริษัทนี้ทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างคือเป็นงานระบบ ๆ หนึ่งซึ่งอาคารใหญ่ ๆ เช่นโรงงาน,โกดังสินค้าหรือห้างสรรพสินค้าต้องใช้ระบบนี้..ตอนเรามาสัมภาษณ์เราก็แนะนำโปรไฟล์ตัวเองไปแล้วว่าเรามาทางสาย Industrial นะ..เราไม่มีประสบการณ์ในเรืองการดูแบบงานโยธาหรืองานสถาปัตย์..ทุกอย่างเรียนรู้ได้แต่ต้องใช้เวลา..เราเริ่มงานตอนมกรา 61 คือตอนนี้เราก็พอดูแบบเป็นแล้ว..เข้าใจงานแล้ว..เพียงแต่เรื่องแบบเรายังไม่ชำนาญแค่นั้นเอง..แต่เรื่องทักษะการเจรจา..การคุยกับลูกค้า Relation กับลูกค้าเราพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่าเราทำได้ดีถึงดีมากด้วย..เพราะเราทำงานเป็น sale engineer มาเกือบ 10 ปี...ล่าสุดเหตุการ์ที่เกิดขึ้นคือ..มีงานสร้างโกดังสินค้า..ที่นี้ทาง Owner ได้เรียกบริษัทเราเข้าไปนำเสนอที่โครงการนี้เนื่องจากว่าทาง Owner เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเมื่อโครงการก่อนหน้านี้เพียงแต่คนดูแลโครงการเป็นคนละคนกัน..แต่เนื่องจากว่าโครงการนี้ผู้รับเหมาได้ราคามาจากอีกจ้าวนึงแล้วและกำลังจะทำการเปิดใบสั่งซื้อ(ซึ่งเป็นคู่แข่งเรา) แต่ทาง Owner สั่งให้เสนอราคาเทียบสองจ้าวซึ่งเค้าก็เรียกเราเข้าไป..วันที่ประชุมกัน..เรื่องแบบ..เรื่องสเปคงานทางผู้รับเหมาเอาตามแบบที่คู่แข่งได้วางไว้..เพียงแต่ให้ทางเราทำเสนอราคาในสโคปงานเดียวกัน..ถ้าใครมาถูกกว่าเค้าก็เอาคนนั้น..ทางเราก็แทบจะไม่ต้องออกแบบหรือทำอะไรเลยเพราะคู่แข่งทำไว้หมดแล้ว..เราแค่ทำราคาให้ถูกกว่าแค่นั้นเอง..เรากลับมาออฟฟิศรีบทำเอกสารและใบเสนอราคาวันรุ่งขึ้นเรารีบเอาไปลูกค้าแต่..ลูกค้าแทบจะไม่ดูเอกสารอย่างอื่นเลยนอกจากใบเสนอราคา..แล้วเค้าก็พูดมาว่า..ของเราแพงมาก..แพงกว่าอีกเจ้าสองแสนห้า...เราก็เลยพยายามหาวิธีให้ลูกค้าเปิดใบเสนอราคาของคู่แข่งให้ดู...(ทักษะการเจรจาต่อรอง)..ทางลูกค้าก็เลยหยิบใบเสนอราคามาเปิดให้ดู..โดยเปิดทีละแผ่นจนถึงแผ่นสุดท้ายที่เป็นตัวเลขราคา..เราก็จดไว้นะ..ประมาณ850,000 ได้..ลูกค้าบอกให้เรากลับไป Revise มา..เพราะเจ้านี้เค้าก็ยังไม่ได้ Revise มาเหมือนกัน..เรารีบกลับมาออฟฟิศมาบอกเจ้านายต่างชาติ (เป็นคนสิงคโปรพูดไทยได้) ...เราก็บอกไปว่าราคาเราแพงนะ..แพงกว่าคู่แข่ง..แพงกว่าเท่าไหร่..เราบอกหมด..เจ้านายด่าลูกค้ากลับมาว่ามัน..เป็นไปไม่ได้ที่ราคาจะมาถูกขนาดนั้น..บอกว่ารู้จักลูกค้าคนนี้ดี..ขอราคาตลอดแต่ไม่เคยซื้อแถมกวน Teen อีกต่างหาก...แล้วก็ถามเรากลับมาว่าใบเสนอราคาได้ดูทุกแผ่นไหม..เราก็บอกไปตามความจริงนะ...บอกหมดทุกอย่าง..แต่เค้าไม่เชื่อ..บอกว่าลูกค้าให้ดูไม่หมดหรอก...เราก็ยืนยันนะว่าดูหมดทุกแผ่น..เจ้านายถามกลับมาอีกว่าแล้วได้ถ่ายรูปใบเสนอราคามาใหม..เราก็บอกว่าไม่ได้ถ่าย..(ใครจะกล้าถ่ายแค่เค้าให้ดูก็บุญเท่าไหร่แล้ว) เค้าก็ด่าลูกค้าอีก..แถมด่าเราด้วยว่าทำไมไม่ดึงใบเสนอราคาจากลูกค้ามาดูเลย...แถมคนไทยที่เป็นเลขาก็เออออไปกับเจ้านายด้วยนะบอกว่าให้ดึงมาดูเลย..ซึ่งเจ้านายเคยทำ..คือเราอึ้งจนพูดไม่ออก..ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ คือเสียมารยาทมากบอกเลย..แถมด่าลูกค้าสารพัด..อย่างนั้นอย่างนี้..แล้วก็ถามเรากลับด้วยนะคิดว่าลูกค้าคนนี้ไหม..เราก็ตอบไปว่าไม่นะ..กับเราเค้าก็พูดจาดีมาก ๆ ....สำหรับเรานะเรื่องราคาที่คู่แข่งทำได้ถูกกว่าเพราะว่าคู่แข่งเค้ามีผลิตภัณฑ์นำเข้ามาเองทุกตัว..แต่ของเราบางอย่างต้องไปซื้อจากข้างนอกมาแล้วก็มาบวกราคาเพิ่มเอา..คือเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็รู้สาเหตุแล้วว่าทำไมราคาของเราถึงแพง..แถมบริษัทเราเวลาซื้อของก็ไม่เคยเทียบราคาเลยซื้อกับเจ้าเดิม ๆ แถมซื้อผ่านตัวแทนมาอีก 2 ต่อ..แล้วทำไมราคามันจะไม่แพงละคะ...
***เรื่องงานด่าเรา..เรารับได้ถ้าเราทำงานไม่ได้ดั่งใจ..แต่ด่าเราที่เราไม่ดึงใบเสนอราคาคู่แข่งมาจากมือลูกค้า..แถมด่าลูกค้าอีก..เราไม่ชอบเอามาก ๆ ณ เวลานั้น..สถานการณ์ตอนนั้นเราไปคนเดียวไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเป็นยังไง..แค่เค้ากางใบเสนอราคาคู่แข่งให้ดูก็บุญแล้ว...ที่หนักสุดคือคนไทยที่ไม่เคยออกไปหาลูกค้าเหมือนเราแต่ดันเออออไปกับเค้าด้วยนี่แหละ..เราตัดสินใจลาออกสิ้นเดือนนี้เลย...ไม่เสียดายเงินเดือนด้วย..ไม่แปลกใจว่าทำไมบริษัทเปิดมา 10 กว่าปีถึงไม่พัฒนา...ไม่แปลกใจว่าทำไมเงินเดือนถึงออกไม่ตรง...ไม่แปลกใจว่าทำไมไม่จ่ายประกันสังคมให้เรา...