สวัสดีค่ะ
วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ + สอนวิธีการใช้ DiDi application แอปเรียกรถที่ประเทศจีนกันค่ะ
เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่ามีคนรีวิวไปแล้วหรือยัง แต่เราพยายามหาข้อมูลของเจ้าแอปนี้ก่อนไปปักกิ่งในพันทิพย์แล้วแต่ไม่เจอเลย เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะเอามาแชร์กับทุกคน
ตอนนี้เจ้าแอป DiDi เนี่ย เค้าออกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาแล้ว ซึ่งมันก็จะสะดวกกับด้าวมีความรู้ภาษาจีนเป็นศูนย์อย่างเรามากๆเลยแหละ
ก่อนอื่นเราสามารถโหลดเจ้าแอปนี้ได้จาก App store เลย หน้าตาแอปก็จะเป็นแบบรูปด้านล่างนะจ้ะ
ก่อนจะใช้งานเราขอบอก ข้อดี - ข้อเสีย ของเจ้าแอปนี่กันก่อนนะ
ข้อดี
• ตัดเงินอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต เพราะฉะนั้นตัดปัญหาโดนโก่งราคาไปได้เลย (ยกเว้นใช้กับแท็กซี่ เราต้องใส่จำนวนเงินตามเลขมิเตอร์ในแอปเอง + จ่ายค่าทางด่วนเองด้วยเงินสด)
• จองรถล่วงหน้าได้ จองให้มารับที่สนามบินก็ได้ จองให้คนอื่นก็ดี
• ตัวแอปมี auto translation ที่จะแปลประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีนให้เราเพื่อที่จะติดต่อกับคนขับ (คนขับก็ยังพูดอังกฤษไม่ได้อยู่ดีนะคะ)
• ค่อนข้างปลอดภัยเพราะเราจะมีข้อมูลคนขับรถ เลขทะเบียน
• มีแชทแบบ real time เป็นภาษาอังกฤษกับศูนย์ของ DiDi เผื่อเวลามีปัญหา เช่น การลืมของบนรถ เป็นต้น (คนตอบแชทตอบเร็วมาก บริการดีมาก)
• สามารถเสิชหาโลเคชั่นเป็นภาษาอังกฤษได้
• มีรูปแบบรถให้บริการหลากหลายมาก
1) Express แบ่งย่อยอีกเป็น 3 ประเภท
>> Express pool แชร์รถนั่งกันกับคนอื่นที่ไม่รู้จัก จ่ายราคาค่าโดยสารคงที่
>> Express นั่งคนเดียว หรือกลุ่มของเรา กับบริการระดับปกติทั่วไป
>> Selected upgrate นั่งคนเดียว หรือกับกลุ่มของเรา กับบริการระดับดีขึ้นมากว่า Express ปกติ
2) Premier บริการดี พร้อมน้ำดื่ม ราคาค่าเดินทางรวมค่าทางด่วนแล้วไม่ต้องควักเงินสดจ่ายเพิ่มนะคะ
3) Luxe รถหรู เอาไว้เรียกให้เจ้านายนั่ง หรือจะนั่งเองก็ไม่ว่ากัน
4) Taxi อันนี้ระบบจะไม่ตัดเงินผ่านบัตรอัตโนมัติ เราต้องพิมราคามิเตอร์ลงไปในแอปเอง + จ่ายค่าทางด่วนเอง
ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกกันได้เลยตามสบายนะคะ
สำหรับตัว จขกท เองเลือกใช้ Premier เนื่องจากเดินทางคนเดียวตอนกลางคืนและเป็นผู้หญิงเลยยอมจ่ายมากกว่าเพื่อซื้อความสบายใจ
ข้อเสีย
• ระบบแปลภาษายังไม่ครอบคลุมการสนทนาทั่วไป แปลได้เฉพาะประโยคที่แอปเซตมา หรือ คำง่ายๆเท่านั้น ดังนั้นถ้าเราหารถไม่เจอ เราอาจจะยังต้องสะกิดขอให้คนจีนแถวๆนั้นช่วยคุยกับคนขับรถให้เรานะ
• พื้นที่ให้บริการครอบคลุมแค่เมืองใหญ่ๆ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ นะคะ ก่อนใช้อย่าลืมตรวจสอบพื้นที่ให้บริการเค้าก่อนนะคะ
วิธีลงทะเบียนแอป
หลังจากดาวน์โหลด app มาแล้ว เราสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ไทยลงทะเบียน (Registration) และยืนยันตัวตนได้เลย (Verification) แค่นี้แอปก็พร้อมใช้งาน
ส่วนข้อมูลบัตรเครดิต เราไม่จำเป็นต้องใส่ตอนลงทะเบียนก็ได้นะคะ ค่อยใส่ข้อมูลเวลาจะใช้ก็ได้
วิธีใช้แอปเมื่อมาถึงจีน
> เพื่อความสะดวก ให้เปลี่ยนตั้งค่าเบอร์มือถือในแอปมาเป็นเบอร์ที่เราจะใช้ที่จีนนะคะ เผื่อว่าถ้าคนขับจะติดต่อเราเค้าจะได้โทรมาได้ แต่จริงๆไม่เปลี่ยนก็ใช้ได้เหมือนกัน
ใครที่อยากจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เป็นเบอร์ที่ติดต่อได้ในจีนก็แค่เข้าไปตั้งค่า
Setting > Account and Security > Change phone number
หลังจากนั้นเราก็เลือกในแอปเลยว่าจะให้เค้ามารับที่ไหน รถแบบไหนที่เราจะใช้บริการ
อย่างรูปด้านบน ข้อมูลที่ป้อนให้แอปไปคือ
From: Capital international airport terminal 3
Car type: Premier
City: Beijing
พอเราใส่ข้อมูลไป แอปก็จะโชว์รถประเภทที่เราเลือกที่อยู่ใกล้ๆเรามา พร้อมทั้งเวลาโดยประมาณที่เค้าจะมารับเรา
ปล. ถ้าเรียกจากสนามบินก็ใจเย็นกันนิดนึงเนอะ เพราะจำนวนรถในสนามบินค่อนข้างเยอะ คนขับจะใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อที่จะมารับเรานะคะ
หลังจากนั้นเราก็ใส่ปลายทางไปนะคะ ว่าเราจะไปที่ไหน พอใส่ปลายทางเสร็จ แอปก็จะประมาณราคาค่าโดยสารคร่าวๆมาให้เรา
แต่ราคาจ่ายจริงจะแพงกว่าราคาประมาณอยู่ราวๆ 20-40 หยวน สำหรับรถประเภท Premier นะคะ ก็บวกๆประมาณๆเพิ่มไปเอา
ถ้าเราโอเคกับราคา และเชคว่าจุดรับ-ส่ง และปลายทางเป็นไปตามที่เราต้องการแล้ว ก็กด Request a car ได้เลยยยยย ~~~~~~
จากนั้นก็รอซักแปบนะคะ พอมีคนขับรับงาน แอปเราก็จะโชว์รายละเอียดชื่อคนขับ ทะเบียนรถ สีรถขึ้นมา
เราก็เมจเสจไปหาเค้าหน่อยก็ได้ค่ะ ว่าเราอยู่ตรงที่จุดนัดพบแล้ว มารับได้เลย
พอรถมาก็เอาแอปโชว์หน้าข้อมูลให้เค้าดูค่ะเพื่อยืนยันว่าฉันเองนะที่เป็นคนเรียกเธอ
ระหว่างนั่งรถเราก็สามารถตรวจสอบเส้นทางแบบ real time พร้อมทั้งค่าโดยสารได้จากในแอปเลยค่ะ
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง เราก็เซย์แต้งกิ้ว แล้วก็บอกลาคุณคนขับได้เลย ค่าโดยสารจะตัดอัตโนมัติจากบัตรเครดิต (ค่าทางด่วนไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะเค้าชาร์จไปแล้วสำหรับรถแบบ Premier)
แถมอีกหน่อย ถ้าเรามีข้อติชมการบริการยังไงเราสามรถเข้าไปรีวิวคนขับคนนั้นหลังจากจบการให้บริการได้ด้วยนะคะ
อย่างรถที่เรานั่ง เราทำซิมมือถือหล่นหายในรถ พอถึงปลายทางคุณลุงก็ช่วยเราหาใหญ่เลย น่ารักมากๆ คุณลุงสุภาพมากๆด้วย
หวังว่าข้อมูลกระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะเดินทางไปจีนเองไม่มากก็น้อยนะคะ
[How to] วิธีใช้ DiDi application (Uber ของประเทศจีน)
วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ + สอนวิธีการใช้ DiDi application แอปเรียกรถที่ประเทศจีนกันค่ะ
เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่ามีคนรีวิวไปแล้วหรือยัง แต่เราพยายามหาข้อมูลของเจ้าแอปนี้ก่อนไปปักกิ่งในพันทิพย์แล้วแต่ไม่เจอเลย เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะเอามาแชร์กับทุกคน
ตอนนี้เจ้าแอป DiDi เนี่ย เค้าออกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาแล้ว ซึ่งมันก็จะสะดวกกับด้าวมีความรู้ภาษาจีนเป็นศูนย์อย่างเรามากๆเลยแหละ
ก่อนอื่นเราสามารถโหลดเจ้าแอปนี้ได้จาก App store เลย หน้าตาแอปก็จะเป็นแบบรูปด้านล่างนะจ้ะ
ก่อนจะใช้งานเราขอบอก ข้อดี - ข้อเสีย ของเจ้าแอปนี่กันก่อนนะ
ข้อดี
• ตัดเงินอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต เพราะฉะนั้นตัดปัญหาโดนโก่งราคาไปได้เลย (ยกเว้นใช้กับแท็กซี่ เราต้องใส่จำนวนเงินตามเลขมิเตอร์ในแอปเอง + จ่ายค่าทางด่วนเองด้วยเงินสด)
• จองรถล่วงหน้าได้ จองให้มารับที่สนามบินก็ได้ จองให้คนอื่นก็ดี
• ตัวแอปมี auto translation ที่จะแปลประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีนให้เราเพื่อที่จะติดต่อกับคนขับ (คนขับก็ยังพูดอังกฤษไม่ได้อยู่ดีนะคะ)
• ค่อนข้างปลอดภัยเพราะเราจะมีข้อมูลคนขับรถ เลขทะเบียน
• มีแชทแบบ real time เป็นภาษาอังกฤษกับศูนย์ของ DiDi เผื่อเวลามีปัญหา เช่น การลืมของบนรถ เป็นต้น (คนตอบแชทตอบเร็วมาก บริการดีมาก)
• สามารถเสิชหาโลเคชั่นเป็นภาษาอังกฤษได้
• มีรูปแบบรถให้บริการหลากหลายมาก
1) Express แบ่งย่อยอีกเป็น 3 ประเภท
>> Express pool แชร์รถนั่งกันกับคนอื่นที่ไม่รู้จัก จ่ายราคาค่าโดยสารคงที่
>> Express นั่งคนเดียว หรือกลุ่มของเรา กับบริการระดับปกติทั่วไป
>> Selected upgrate นั่งคนเดียว หรือกับกลุ่มของเรา กับบริการระดับดีขึ้นมากว่า Express ปกติ
2) Premier บริการดี พร้อมน้ำดื่ม ราคาค่าเดินทางรวมค่าทางด่วนแล้วไม่ต้องควักเงินสดจ่ายเพิ่มนะคะ
3) Luxe รถหรู เอาไว้เรียกให้เจ้านายนั่ง หรือจะนั่งเองก็ไม่ว่ากัน
4) Taxi อันนี้ระบบจะไม่ตัดเงินผ่านบัตรอัตโนมัติ เราต้องพิมราคามิเตอร์ลงไปในแอปเอง + จ่ายค่าทางด่วนเอง
ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกกันได้เลยตามสบายนะคะ
สำหรับตัว จขกท เองเลือกใช้ Premier เนื่องจากเดินทางคนเดียวตอนกลางคืนและเป็นผู้หญิงเลยยอมจ่ายมากกว่าเพื่อซื้อความสบายใจ
ข้อเสีย
• ระบบแปลภาษายังไม่ครอบคลุมการสนทนาทั่วไป แปลได้เฉพาะประโยคที่แอปเซตมา หรือ คำง่ายๆเท่านั้น ดังนั้นถ้าเราหารถไม่เจอ เราอาจจะยังต้องสะกิดขอให้คนจีนแถวๆนั้นช่วยคุยกับคนขับรถให้เรานะ
• พื้นที่ให้บริการครอบคลุมแค่เมืองใหญ่ๆ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ นะคะ ก่อนใช้อย่าลืมตรวจสอบพื้นที่ให้บริการเค้าก่อนนะคะ
วิธีลงทะเบียนแอป
หลังจากดาวน์โหลด app มาแล้ว เราสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ไทยลงทะเบียน (Registration) และยืนยันตัวตนได้เลย (Verification) แค่นี้แอปก็พร้อมใช้งาน
ส่วนข้อมูลบัตรเครดิต เราไม่จำเป็นต้องใส่ตอนลงทะเบียนก็ได้นะคะ ค่อยใส่ข้อมูลเวลาจะใช้ก็ได้
วิธีใช้แอปเมื่อมาถึงจีน
> เพื่อความสะดวก ให้เปลี่ยนตั้งค่าเบอร์มือถือในแอปมาเป็นเบอร์ที่เราจะใช้ที่จีนนะคะ เผื่อว่าถ้าคนขับจะติดต่อเราเค้าจะได้โทรมาได้ แต่จริงๆไม่เปลี่ยนก็ใช้ได้เหมือนกัน
ใครที่อยากจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เป็นเบอร์ที่ติดต่อได้ในจีนก็แค่เข้าไปตั้งค่า
Setting > Account and Security > Change phone number
หลังจากนั้นเราก็เลือกในแอปเลยว่าจะให้เค้ามารับที่ไหน รถแบบไหนที่เราจะใช้บริการ
อย่างรูปด้านบน ข้อมูลที่ป้อนให้แอปไปคือ
From: Capital international airport terminal 3
Car type: Premier
City: Beijing
พอเราใส่ข้อมูลไป แอปก็จะโชว์รถประเภทที่เราเลือกที่อยู่ใกล้ๆเรามา พร้อมทั้งเวลาโดยประมาณที่เค้าจะมารับเรา
ปล. ถ้าเรียกจากสนามบินก็ใจเย็นกันนิดนึงเนอะ เพราะจำนวนรถในสนามบินค่อนข้างเยอะ คนขับจะใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อที่จะมารับเรานะคะ
หลังจากนั้นเราก็ใส่ปลายทางไปนะคะ ว่าเราจะไปที่ไหน พอใส่ปลายทางเสร็จ แอปก็จะประมาณราคาค่าโดยสารคร่าวๆมาให้เรา
แต่ราคาจ่ายจริงจะแพงกว่าราคาประมาณอยู่ราวๆ 20-40 หยวน สำหรับรถประเภท Premier นะคะ ก็บวกๆประมาณๆเพิ่มไปเอา
ถ้าเราโอเคกับราคา และเชคว่าจุดรับ-ส่ง และปลายทางเป็นไปตามที่เราต้องการแล้ว ก็กด Request a car ได้เลยยยยย ~~~~~~
จากนั้นก็รอซักแปบนะคะ พอมีคนขับรับงาน แอปเราก็จะโชว์รายละเอียดชื่อคนขับ ทะเบียนรถ สีรถขึ้นมา
เราก็เมจเสจไปหาเค้าหน่อยก็ได้ค่ะ ว่าเราอยู่ตรงที่จุดนัดพบแล้ว มารับได้เลย
พอรถมาก็เอาแอปโชว์หน้าข้อมูลให้เค้าดูค่ะเพื่อยืนยันว่าฉันเองนะที่เป็นคนเรียกเธอ
ระหว่างนั่งรถเราก็สามารถตรวจสอบเส้นทางแบบ real time พร้อมทั้งค่าโดยสารได้จากในแอปเลยค่ะ
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง เราก็เซย์แต้งกิ้ว แล้วก็บอกลาคุณคนขับได้เลย ค่าโดยสารจะตัดอัตโนมัติจากบัตรเครดิต (ค่าทางด่วนไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะเค้าชาร์จไปแล้วสำหรับรถแบบ Premier)
แถมอีกหน่อย ถ้าเรามีข้อติชมการบริการยังไงเราสามรถเข้าไปรีวิวคนขับคนนั้นหลังจากจบการให้บริการได้ด้วยนะคะ
อย่างรถที่เรานั่ง เราทำซิมมือถือหล่นหายในรถ พอถึงปลายทางคุณลุงก็ช่วยเราหาใหญ่เลย น่ารักมากๆ คุณลุงสุภาพมากๆด้วย
หวังว่าข้อมูลกระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะเดินทางไปจีนเองไม่มากก็น้อยนะคะ