!SPOILER ALERT!
.
.
.
.
.
ยูโซะอาศัยในอพาร์ทเมนต์เล็กๆแห่งหนึ่งกับมิตซุกิ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูแปลกประหลาดเมื่อ ฝ่ายชายที่เหมือนจะเป็นเจ้าของห้อง ทำงานโมเสคเซ็นเซอร์ภาพอะไรบางอย่าง จนกระทั่งเสียงครวญครางของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น มันแยกลำบากอยู่เหมือนกันว่าอาชีพของยูโซะคืออะไร มีโทรศัพท์ดังขึ้น ดูเหมือนจะเป็นเจ้านายของเขาที่เรียกร้องให้เขาทดลองการทำวิดิโอผู้ใหญ่แบบมาโซคิสม์-ซาดิสม์หมู่ การงานที่เขาทำอยู่ห่างไกลจากอาชีพกระแสหลักโดยสิ้นเชิง
ในระหว่างนั้นมิตซุกิต้องหันหลังให้ และเราก็เริ่มได้รู้ว่ามิตซุกิเป็นผีที่ติดตามฝ่ายชาย เพราะเขามองเห็นและสื่อสารกับเธอได้ เมื่อหลายสิบปีก่อนหลังจากที่เธอถูกฆาตกรรม จวบจนวันนี้คดีความเรื่องของเธอก็ยังอยู่กับที่
ยูโซะได้รับการติดต่อจากซุตซุกิพี่สาวของมิตซุกิที่ตอนนี้เป็นักเรียนนอก กำลังทำภาพยนตร์จบการศึกษา เธอเหมือนกับเพื่อนๆ ในรุ่นที่ทุรนทุรายในการหาเรื่องราวมาเล่า ฉากที่เราชอบมากๆ คือยูโซะตั้งคำถามถึงการเอาปมการตายของน้องสาวมาเล่า ที่จริงๆแล้วสำหรับเธอมันเป็นการบำบัดตัวเธอเอง เป็นการทำเพื่อตัวเธอเอง มากกว่าจะเพื่อน้องสาว มันมีประเด็นความหมิ่นเหม่ในกระบวนการทำภาพยนตร์อยู่ไม่น้อย แบบใน The Act of Killing (2012)
ศาสตร์ภาพยนตร์ที่ถูกยกยอให้เป็นสิ่งล้ำค่า ของภาพยนตร์ในแบบที่ซุตซุกิ สายตาที่เธอมองตอนที่รู้ว่ายูโซะเป็นร่างทรงและติดต่อกับน้องสาวเธอได้ หรือคำพูดที่บอกกับวิญญาณน้องสาวว่า "ทำไมเธอต้องมาจมปลักกับไอ้งั่งคนนี้ด้วย" มันสะท้อนอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน หนังโป๊กับหนังอาร์ต การที่ยูโซะ ชายบ้านๆ ไม่มั่นใจในตัวเอง "เขาถึงกับบอกว่า ผู้หญิงน่ารักแบบนั้น ไม่สนใจเขาหรอก" ไม่อาจป่าวประกาศอาชีพของตนเองได้อย่างภาคภูมิ ทว่าซุตซุกิ ลูกสาวจากครอบครัวฐานะดี กลับเล่าถึงเส้นทางการศึกษานอกประเทศในโลกที่หนึ่งด้วยความยินดีเต็มอก
ฉากที่น่าสนใจมากอีกหนึ่งฉากก็คือ พอพี่สาวสิงร่างยูโซะ ซุตซุกิกล้าเข้าไปแม้กระทั่งสวมกอดเขา พูดจาพะเน้าพะนอ แต่พอมิตซุกิออกจากร่าง ซุตซุกิกลับผละตัวออก แถมยังไปขอให้พี่สาวเขาสิงอีกสักรอบ
ถ้าคนเราตายไป เราก็จะได้พบกับสวรรค์ แต่สำหรับมิตซุกิแล้ว พื้นที่ที่เธออยู่และยังยึดโยงกลับเป็นบนโลกนี้ จากครอบครัวร่ำรวยที่เธอสัมผัสมาทั้งชีวิต น่าสนใจว่าทำไมเธอยังอยู่กับชายคนนี้ เพียงแค่ว่าเขาคุยกับเธอได้ ทำให้เธอไม่เปลี่ยวเหงาหรือ แต่จริงๆ เธอก็น่าจะไปเกิดใหม่ในภพภูมิหน้าได้ ความเหงาจึงไม่น่าใช่ข้ออ้าง การรอให้ยูโซะบอกรักเธอจึงอาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผูกพันธ์อารมณ์ของเธอไว้กับห้องเล็กแคบๆ ชีวิตติดดินของชนชั้นล่าง คนชายขอบสังคมนี้
และไม่แน่เหมือนกันว่าการที่มิตซุกิไม่ได้ดูกระตือรือล้น ประหลาดใจ หรือร่วมทุกร่วมโศกกับพี่สาวเธอตอนที่ซุตซุกิรู้ว่าพี่สาวอยู่ด้วย รู้เห็นทุกการกระทำของเธอ รวมถึงการนินทาพี่สาว
มิตซุกิกลับกลอกคำพูดจากที่พูดเกลียดชังพี่สาวตอนอยู่ร้านกาแฟ เมื่อความตายของเธอทำให้ครอบครัวที่เธอรักพังทลาย พอมาอยู่หน้ากล้อง เธอกลับแสดงความห่วงหาอาทรประหนึ่งว่าสามารถเอาชีวิตของเธอแลกแทนเสียดีกว่า นอกจากนี่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่สาวจึงอาจไม่สู้ดีนักในช่วงที่เธอยังมีชีวิต ยังพูดถึงพลังอำนาจของการกระทำมนุษย์ต่อหน้ากล้อง ผิดจากฉากที่เธอเล่าถึงชีวิตโดยไม่มีกล้องที่ร้านกาแฟ
ความจริงใจ ใสซื่อของคนชายขอบคนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอแอบทำให้นึกถึง Klose ของ อสมาภรณ์ สมัครพันธ์ อยู่เหมือนกัน เป็นเส้นโยงใยที่เกี่ยวมนุษย์สองคนเข้าหากันในรูปแบบที่ดูเป็นเฮเทอโร แต่เอาจริงๆ มิตซุกิ ก็เป็นวิญญาณ มิตซุกิถามยูโซะว่ารู้เรื่องพวกเราได้ยังไง เขาตอบว่าสมัยนี้มีหนทางมากมายที่จะรู้ ฉากสัมภาษณ์มันจะมีความเลือนลางระหว่างผีเข้าหรือการหลอกลวงของยูโซะ
นี่จึงอาจเป็นไปได้ว่าเป็นการอุปโลกน์ซุตซุกิขึ้นมาของยูโซะ และเป็นรูปวิถีความรักในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ใช่ภาพจำของนิยามความรักตามขนบ พร้อมๆกัน ฉากสัมภาษณ์สำหรับเราแล้วจึงเป็นสังเวียนการต่อสู้ แก้แค้นของประชาชนได้เจ็บช้ำอย่างมาก (ยูโซะใส่เสื้อสีขาวในธงชาติญี่ปุ่นหมายถึงคนญี่ปุ่น) ต่อชนชั้นสูง มิตซุกิใส่เสื้อสีแดง (ธงชาติสีแดงหมายถึงราชวงศ์)
ปล. ฉากยูโซะกับซุตซุกิเต้นรำกันและบทสนทนจากที่ออกเสียง ค่อยๆเลือนหายไป กลายเป็นว่าเขาสื่อสารกันทางจิต มันงดงามมากๆ
HEAVEN IS STILL FAR AWAY (Ryusuke Hamaguchi, 38 min, 2016)
.
.
.
.
.
ยูโซะอาศัยในอพาร์ทเมนต์เล็กๆแห่งหนึ่งกับมิตซุกิ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูแปลกประหลาดเมื่อ ฝ่ายชายที่เหมือนจะเป็นเจ้าของห้อง ทำงานโมเสคเซ็นเซอร์ภาพอะไรบางอย่าง จนกระทั่งเสียงครวญครางของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น มันแยกลำบากอยู่เหมือนกันว่าอาชีพของยูโซะคืออะไร มีโทรศัพท์ดังขึ้น ดูเหมือนจะเป็นเจ้านายของเขาที่เรียกร้องให้เขาทดลองการทำวิดิโอผู้ใหญ่แบบมาโซคิสม์-ซาดิสม์หมู่ การงานที่เขาทำอยู่ห่างไกลจากอาชีพกระแสหลักโดยสิ้นเชิง
ในระหว่างนั้นมิตซุกิต้องหันหลังให้ และเราก็เริ่มได้รู้ว่ามิตซุกิเป็นผีที่ติดตามฝ่ายชาย เพราะเขามองเห็นและสื่อสารกับเธอได้ เมื่อหลายสิบปีก่อนหลังจากที่เธอถูกฆาตกรรม จวบจนวันนี้คดีความเรื่องของเธอก็ยังอยู่กับที่
ยูโซะได้รับการติดต่อจากซุตซุกิพี่สาวของมิตซุกิที่ตอนนี้เป็นักเรียนนอก กำลังทำภาพยนตร์จบการศึกษา เธอเหมือนกับเพื่อนๆ ในรุ่นที่ทุรนทุรายในการหาเรื่องราวมาเล่า ฉากที่เราชอบมากๆ คือยูโซะตั้งคำถามถึงการเอาปมการตายของน้องสาวมาเล่า ที่จริงๆแล้วสำหรับเธอมันเป็นการบำบัดตัวเธอเอง เป็นการทำเพื่อตัวเธอเอง มากกว่าจะเพื่อน้องสาว มันมีประเด็นความหมิ่นเหม่ในกระบวนการทำภาพยนตร์อยู่ไม่น้อย แบบใน The Act of Killing (2012)
ศาสตร์ภาพยนตร์ที่ถูกยกยอให้เป็นสิ่งล้ำค่า ของภาพยนตร์ในแบบที่ซุตซุกิ สายตาที่เธอมองตอนที่รู้ว่ายูโซะเป็นร่างทรงและติดต่อกับน้องสาวเธอได้ หรือคำพูดที่บอกกับวิญญาณน้องสาวว่า "ทำไมเธอต้องมาจมปลักกับไอ้งั่งคนนี้ด้วย" มันสะท้อนอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน หนังโป๊กับหนังอาร์ต การที่ยูโซะ ชายบ้านๆ ไม่มั่นใจในตัวเอง "เขาถึงกับบอกว่า ผู้หญิงน่ารักแบบนั้น ไม่สนใจเขาหรอก" ไม่อาจป่าวประกาศอาชีพของตนเองได้อย่างภาคภูมิ ทว่าซุตซุกิ ลูกสาวจากครอบครัวฐานะดี กลับเล่าถึงเส้นทางการศึกษานอกประเทศในโลกที่หนึ่งด้วยความยินดีเต็มอก
ฉากที่น่าสนใจมากอีกหนึ่งฉากก็คือ พอพี่สาวสิงร่างยูโซะ ซุตซุกิกล้าเข้าไปแม้กระทั่งสวมกอดเขา พูดจาพะเน้าพะนอ แต่พอมิตซุกิออกจากร่าง ซุตซุกิกลับผละตัวออก แถมยังไปขอให้พี่สาวเขาสิงอีกสักรอบ
ถ้าคนเราตายไป เราก็จะได้พบกับสวรรค์ แต่สำหรับมิตซุกิแล้ว พื้นที่ที่เธออยู่และยังยึดโยงกลับเป็นบนโลกนี้ จากครอบครัวร่ำรวยที่เธอสัมผัสมาทั้งชีวิต น่าสนใจว่าทำไมเธอยังอยู่กับชายคนนี้ เพียงแค่ว่าเขาคุยกับเธอได้ ทำให้เธอไม่เปลี่ยวเหงาหรือ แต่จริงๆ เธอก็น่าจะไปเกิดใหม่ในภพภูมิหน้าได้ ความเหงาจึงไม่น่าใช่ข้ออ้าง การรอให้ยูโซะบอกรักเธอจึงอาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผูกพันธ์อารมณ์ของเธอไว้กับห้องเล็กแคบๆ ชีวิตติดดินของชนชั้นล่าง คนชายขอบสังคมนี้
และไม่แน่เหมือนกันว่าการที่มิตซุกิไม่ได้ดูกระตือรือล้น ประหลาดใจ หรือร่วมทุกร่วมโศกกับพี่สาวเธอตอนที่ซุตซุกิรู้ว่าพี่สาวอยู่ด้วย รู้เห็นทุกการกระทำของเธอ รวมถึงการนินทาพี่สาว
มิตซุกิกลับกลอกคำพูดจากที่พูดเกลียดชังพี่สาวตอนอยู่ร้านกาแฟ เมื่อความตายของเธอทำให้ครอบครัวที่เธอรักพังทลาย พอมาอยู่หน้ากล้อง เธอกลับแสดงความห่วงหาอาทรประหนึ่งว่าสามารถเอาชีวิตของเธอแลกแทนเสียดีกว่า นอกจากนี่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่สาวจึงอาจไม่สู้ดีนักในช่วงที่เธอยังมีชีวิต ยังพูดถึงพลังอำนาจของการกระทำมนุษย์ต่อหน้ากล้อง ผิดจากฉากที่เธอเล่าถึงชีวิตโดยไม่มีกล้องที่ร้านกาแฟ
ความจริงใจ ใสซื่อของคนชายขอบคนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอแอบทำให้นึกถึง Klose ของ อสมาภรณ์ สมัครพันธ์ อยู่เหมือนกัน เป็นเส้นโยงใยที่เกี่ยวมนุษย์สองคนเข้าหากันในรูปแบบที่ดูเป็นเฮเทอโร แต่เอาจริงๆ มิตซุกิ ก็เป็นวิญญาณ มิตซุกิถามยูโซะว่ารู้เรื่องพวกเราได้ยังไง เขาตอบว่าสมัยนี้มีหนทางมากมายที่จะรู้ ฉากสัมภาษณ์มันจะมีความเลือนลางระหว่างผีเข้าหรือการหลอกลวงของยูโซะ
นี่จึงอาจเป็นไปได้ว่าเป็นการอุปโลกน์ซุตซุกิขึ้นมาของยูโซะ และเป็นรูปวิถีความรักในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ใช่ภาพจำของนิยามความรักตามขนบ พร้อมๆกัน ฉากสัมภาษณ์สำหรับเราแล้วจึงเป็นสังเวียนการต่อสู้ แก้แค้นของประชาชนได้เจ็บช้ำอย่างมาก (ยูโซะใส่เสื้อสีขาวในธงชาติญี่ปุ่นหมายถึงคนญี่ปุ่น) ต่อชนชั้นสูง มิตซุกิใส่เสื้อสีแดง (ธงชาติสีแดงหมายถึงราชวงศ์)
ปล. ฉากยูโซะกับซุตซุกิเต้นรำกันและบทสนทนจากที่ออกเสียง ค่อยๆเลือนหายไป กลายเป็นว่าเขาสื่อสารกันทางจิต มันงดงามมากๆ