สมมติฉุดวังวน - ตอนที่ 3 กายละเอียด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

"เตย ร้องไห้ทำไมลูก เจ็บตรงไหนมั้ยเนี่ย"
ป้าดารีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงฉันให้ยืนขึ้น และประคองฉันที่ร้องไห้อย่างเสียสติด้วย
ความตกใจ และพาเดินไปที่ม้านั่งหินอ่อนข้างทางเดินที่มีตลอดทุก 2เมตรตามทาง

"เมื่อกี้ เตยเห็นงูสีดำตัวใหญ่มากเลยคะป้า เตยไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ เตยกลัวมากๆ" ฉันร้องไห้เหมือนเด็กขี้แง ตัวสั่นไม่หยุด
ป้าดาดึงฉันเข้าไปกอด แล้วลูบหัวเบาๆ

"ป้าก็เห็นจ๊ะ ป้าเห็นตั้งแต่วันที่หนูเดินทางมาแล้ว ป้าว่า เขามากับหนูนะ แต่ป้าว่าเขามาดี เหมือนมาคุ้มครองหนูนะลูก"

ฉันเงยหน้าไปมองป้าดาที่กำลังกอดฉันไว้

"ทำไมเขาไม่อยู่ในที่ของเขาหล่ะคะป้า ทำไมต้องมาให้หนูเห็นด้วย"

"เตย ยังเด็ก ภูมิธรรมยังไม่มาก ถ้าเตยมีปัญญารู้แจ้ง เตยจะพบว่า จริงๆแล้ว เรามีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันถึง 31ภพภูมิเลยนะลูก ภพภูมิกายหยาบก็มี ภพมนุษย์กับสัตว์เดรัจฉาน ที่เหลือเป็นภพภูมิกายละเอียดทั้งนั้น บางภพภูมิก็ซ้อนทับกับมิติของโลกเรา หากคลื่นจูนกันได้เราก็จะสัมผัสความจริงตรงนี้ได้ มันคือความจริงของธรรมชาติที่ปิดบังเราทั้งหลายไว้ลูก มนุษย์เราคิดว่าตัวเองแน่ที่สุดแล้ว เราตัดสินทุกอย่างด้วยตาเนื้อ หารู้ไม่ว่า ธรรมชาติยังซ่อนความจริงอะไรไว้มากมายที่มนุษย์ไม่รู้ เพราะเครื่องมือในการเห็นสิ่งละเอียด ก็ต้องสร้างขึ้นด้วยจิตที่ละเอียด"


"ถ้าเตยเจอเขาอีก เตยควรทำอย่างไรคะ เตยกลัวจนขนลุกไปหมดคะป้าตอนนี้"

"แผ่เมตตาให้เขาก็ได้ หรืออุทิศบุญที่เตยได้มาปฏิบัติที่นี่ให้ก็ได้ พูดสำทับในใจว่าขอให้มาในรูปที่ดีก็ได้ บางทีเราไม่รู้ว่าเขาเป็นนายเวรของเรา หรือเคยเป็นญาติกับเรามาก่อน การให้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ยิ่งให้บุญกับเขา เรายิ่งมีบุญเพิ่มนะลูก งูใหญ่ท่านนั้นที่เตยเห็นน่าจะเป็นพญานาค ท่านเป็นเดรัจฉานกึ่งเทพชั้นจาตุมหาราชิกาหรือสวรรค์ชั้น 1" ป้าดายิ้มให้ และยังกอดฉันไว้อยู่

"ป้าดาเล่าเรื่องพญานาคให้ฟังหน่อยสิคะ แล้วคำว่านาค ทำไมมาอยู่กับการบวชนาคหล่ะคะ"

"ถ้าอยากรู้จริงๆ ป้าจะเล่าให้ฟังเป็นนิทาน หนูจะได้หายกลัว ตั้งใจฟังนะลูก

ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงกำเนิดแห่งพญานาคเอาไว้อย่างน่าสนใจว่าสามารถเกิดจากไข่ เกิดจากครรภ์ เกิดจากเถ้าไคลหรือที่ชื้นแฉะ และผุดเกิดขึ้นเองเป็นตัวเต็มวัยคล้ายเทวดา สามแบบแรกป้าไม่ค่อยได้พบเห็น เห็นแต่แบบสุดท้าย

พญานาค เป็นทิพย์ภาวะจำพวกหนึ่ง อาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกของสวรรค์ชั้น “จาตุมหาราชิกา” หรือสวรรค์ชั้นแรกในทั้งหมด 6 ชั้นเป็นชาวสวรรค์ที่อาศัยอยู่ในน้ำและบนบก มีอิทธิฤทธิ์และกำลังยิ่งใหญ่มหาศาล มีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอน มีตาและมีเกล็ดมากมายหลายสีแตกต่างกันไป เมื่อเวลาออกหาอาหารกินจะแปรสภาพเป็น ”งู” ส่วนในเวลาปกติจะอยู่ในสภาวะของนาคก็ได้ หรือแม้กระทั้งภาวะของมนุษย์ก็สามารถทำได้

พญานาคที่เกิดบนบกและในน้ำ มีการดำเนินชีวิตเหมือนกัน คือเป็นไปด้วยอำนาจทิพย์ สุดแต่จิตปรารถนา สามารถไปไหนมาไหนได้ทุกที่ และเสวยสมบัติทิพย์เหมือนเทวดา ส่วนฤทธิ์และอำนาจของพญานาคจะมีมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับกรรมที่เคยสร้างไว้ในอดีตชาติเป็นตัวส่งผล รวมทั้งรูปลักษณ์ของพญานาคก็จะแตกต่างกันไปด้วย พญานาคตนใดบำเพ็ญเพียรภาวนาสร้างกุศลจะยิ่งมีลักษณะงดงาม และสามารถเนรมิตกายได้หลายรูปแบบ เตยจำพญานาคที่เตยเห็นเมื่อสักครู่ได้มั้ยว่ามีลักษณะอย่างไร"

"ลำตัวสีดำ ยาวประมาณไม่ได้ค่ะ กว้างสามคนโอบ มีหงอนที่หัวสีเหลืองๆ ประมาณนี้คะ"

"จริงๆท่านจะเนรมิตรกายยังไงก็ได้ คนเห็นแต่ละคนก็จะเห็นแตกต่างกันไป ใน ขันธะปริตตะคาถา พระไตรปิฎก แสดงไว้ว่า พญานาคนั้น มี 4 ตระกูล คือ 1. วิรูปักษ์ (ตระกูลสีทอง) 2. เอราปถ (ตระกูลสีเขียว) 3. ฉัพพยาปุตตะ (ตระกูลสีรุ้ง) 4. กัณหาโคตรมะ (ตระกูลสีดำ)

4 ตระกูลนี้ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ และได้กระจัดกระจายขยายเผ่าพันธุ์ออกเป็น 2 สาย คือ “นาคบก” อาศัยในป่าหิมพานต์ เรียกว่า ”ถลชะ” และพวกที่อาศัยในมหาสมุทร (น้ำ) เรียกว่า “ชลชะ”

ถึงแม้พญานาคจะสามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ แต่ในสภาวะ 5 อย่างนี้ พญานาคจะต้องปรากฎร่างเป็นนาคเช่นเดิม คือ ขณะเกิดเป็นนาค ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับโดยไม่ได้สติ และหมดบุญเมื่อสิ้นใจ

พระไตรปิฎก กล่าวว่า ในครั้งพุทธกาลเคยมีพญานาคแปลงกายเป็นมนุษย์เข้ามาบวช บ่ายวันหนึ่งได้เผลอนอนหลับในกุฏิ และเมื่อขาดสติก็ได้คืนสู่ภาวะเดิม คือ เป็นร่างพญานาคตัวใหญ่นอนขดม้วนห่อหุ้มด้วยผ้าจีวรอยู่ เมื่อภิกษุทั้งหลายผ่านไปเจอก็ตกใจ ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงทราบจึงให้พระภิกษุนาคนั้นสึกออกไป เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน นาคตนนั้นผิดหวังมาก จึงขอถวายคำว่า นาค ไว้ใช้เรียกผู้ที่เข้ามาขอบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในความศรัทธาของตน”

“อ๋อ เตยเข้าใจละค่ะ”(ฉันร้องอ๋อขึ้นมาทันที)

“ต่อจากนั้นมาพระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติไม่ให้สัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะเป็นนาค ครุฑ หรือสัตว์อื่นๆ บวชอีกเป็นอันขาด และก่อนที่อุปัชฌาย์จะอุปสมบทให้แก่ผู้ขอบวชจะต้องถาม อันตรายิกธรรม หรือข้อขัดข้องที่จะทำให้ผู้นั้นบวชเป็นพระภิกษุไม่ได้ รวม 8 ข้อเสียก่อน ในจำนวน 8 ข้อนั้น มีข้อหนึ่งถามว่า "ท่านเป็นมนุษย์หรือเปล่า" และจึงเรียกการบวชนี้ว่า "บวชนาค"

นอกจากนั้นในคัมภีร์ทางศาสนายังกล่าวว่า เคยมีพญานาคตนหนึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์เข้ามาเฝ้าพระพุทธองค์ โดยได้ทูลขอให้พระพุทธองค์ตั้งกฎบัญญัติ ห้ามมิให้พระภิกษุทั้งหลายฉันเนื้องูทุกชนิด ซึ่งในเรื่องนี้พระพุทธองค์ก์ทรงอนุญาตและได้บัญญัติ “พระวินัย” ขึ้นมา

เตยเคยได้ยินพญานาคที่ขึ้นแผ่พังพานป้องกันฝนให้พระพุทธเจ้าได้มั้ยลูก ปางนาคปรกอ่ะ (ฉันพยักหน้า) ตอนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้ว ได้เสด็จไปตามเมืองต่างๆ เพื่อแสดงธรรมเทศนา มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ "มุจลินท์" ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข อยู่ 7 วัน คราวเดียวกันนั้นมีฝนตกพรำๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด 7 วัน ได้มีพญานาคชื่อมุจลินทร์ เข้ามาวงด้วยขด 7 รอบพร้อมกับแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้ว คลายขนดออก แปลงเพศเป็นชายหนุ่มยืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า ความเชื่อดังกล่าวทำให้เป็นที่มาของการสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก

สายพันธุ์ของพญามุจลินท์นาคราช คือ พญานาค 7 เศียร ซึ่งสืบสายพันธุ์มาจนถึง พญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว ส่วนฝั่งไทยคือ พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย แต่เป็นพญานาคเศียรเดียว ซึ่งกล่าวกันว่า ทั้ง 2 ราชาพญานาคนี้เป็นสหายกัน


เรื่องราชาแห่งนาคทั้ง 2 นี้ หลวงปู่ท่านหนึ่งที่ป้าเคารพเคยกล่าวไว้ว่า ในผืนแผ่นน้ำของประเทศไทยของเรานั้น มีพญานาคราชเป็นใหญ่นามว่า พญาศรีสุทโธ ท่านชอบจำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรม มีนิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ชอบมาปฏิบัติธรรมที่พระธาตุพนม

ส่วนฝั่งลาวนั้น มีพญาศรีสัตตนาคราช เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวง เป็นพญานาคที่ทรงฤทธิ์ ทรงอำนาจเหนือกว่าพญานาคทั้งหลายใน 2 แผ่นดินนี้ แต่ท่านเป็นพญานาคที่ชอบจำศีลและประพฤติปฏิบัติธรรมเหมือนพญาศรีสุทโธนาคราช โดยชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน จนถึงกับมีการให้พันธะสัญญาแก่กันว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการความช่วยเหลือก็จะช่วยกันอย่างเต็มที่เต็มกำลังสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้อยใหญ่ประการใด

พญาศรีสัตตนาคราช มีความเด่นสง่าด้วยมี 7 เศียร ซึ่งถือได้ว่าเป็นตระกูลพญานาคที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหมด


จริงๆแล้ว นาคทั้งหลายนั้นมีใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก แต่เมื่อไม่ได้โอกาสบวช จึงเลือกทำหน้าที่ดูแลและคุ้มครองพระพุทธศาสนาในอีกมิติหนึ่ง
เป็นไงฟังเพลินเลย สนุกมั้ยลูก ฟังหูไว้หูนะ อย่าไปเชื่อทั้งหมด ฟังพอให้รู้ว่ามีก็พอ อย่าเอาไปคิดคร่ำครวญให้ปวดหัวเนอะ หายกลัวรึยัง ถ้าเจออีกจะกลัวมั้ย" ป้าดาถามพลางหัวเราะ

"ยังกลัวๆอยู่เลยคะ เตยเป็นคนกลัวงูด้วย เจองูใหญ่ขนาดนั้น ฉี่เตยจะราดเอาสิคะป้าดา"ป้าดาขำอีกชุดใหญ่

"แล้วไปไงมาไงถึงมาเดินจงกรมหลังทานข้าวกลางวันละเนี่ย ง่วงใช่มั้ย"

ฉันพยักหน้าและยิ้มๆ

"เตยนั่งสมาธิแล้วใจไม่สงบเลยคะป้าดา"

"กังวลอะไรลูกบอกป้าสิ"

"แม่เตยเพิ่งเสียไปเดือนที่แล้ว จากการกระทำที่ประมาทของแฟนใหม่แม่ เตยโกรธเขามากๆเลยคะ มันเข้ามาในความคิดเตยบ่อยๆ"

"รู้จักนิวรณ์ 5 มั้ย"

"คืออะไรเหรอคะ"

"นิวรณ์ แปลว่า เครื่องปิดกั้นหรือขัดขวางไม่ให้บรรลุความดี ไม่เปิดโอกาสให้ทำความดี และเป็นเครื่องกั้นความดีไว้ไม่ให้เข้าถึงจิต เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ปฏิบัติบรรลุธรรมไม่ได้หรือทำให้เลิกล้มความตั้งใจปฏิบัติไป
นิวรณ์มี 5 อย่าง คือ

หนึ่ง กามฉันทะ คือ ความพอใจ ติดใจ หลงใหลใฝ่ฝัน ในกามโลกีย์ทั้งปวง

สอง พยาบาท คือ ความไม่พอใจ ความโกรธแค้นใจ

สาม ถีนมิทธะ คือ ความขี้เกียจ ง่วงเหงาหาวนอน ท้อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย ไร้กำลังทั้งกายใจ ไม่ฮึกเหิม

สี่ อุทธัจจะกุกกุจจะ คือ ความคิดซัดส่าย ตลอดเวลา ไม่สงบนิ่งอยู่ในความคิดใด ๆ

และสุดท้าย วิจิกิจฉา คือ ความไม่แน่ใจ ลังเลใจ สงสัย กังวล ไม่เต็มที่ ไม่มั่นใจ

"เตยเชื่อในกฏแห่งกรรมมั้ยลูก"

"เชื่อนะคะป้า"

"กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ จำคำป้าไว้นะ

แม่ของเตยและแฟนแม่อาจเคยสร้างกรรมกันมาก่อน พอชาตินี้ได้เวลาก็สนองกัน เรามีความพลัดพรากเป็นธรรมดาลูก ป้าเข้าใจคนสูญเสียแม่ทำใจได้ยาก เพราะคือคนที่เรารักมากที่สุดคนหนึ่งบนโลกใบนี้ถูกมั้ยลูก (ฉันพยักหน้า น้ำตาปริ่มๆจะไหล)
ป้าเข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเปรียบเทียบความทุกข์ของหนูกับความทุกข์ของคนอื่น เพราะความทุกข์ที่เกิดกับใครล้วนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขาทั้งนั้น แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าหนูจมอยู่ในความทุกข์ หนูจะพลาดโอกาสสำคัญนั่นคือ การเก็บเกี่ยวความสุขทางใจในขณะที่หนูยังมีชีวิตอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่