ก่อนเล่าเรื่อง
เนื้อหาบางส่วนของนวนิยายเรื่องนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงของผู้แต่ง ผสมเรื่องเล่าจากครูอาจารย์ที่เคารพ และบางส่วนจากไตรปิฏก เพื่อความบันเทิงและมีอรรถรส และหวังนำมาช่วยจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวผู้อ่านเพื่อให้ตั้งใจทำในสิ่งที่ดีต่อตนเองและเพื่อนมนุษย์
…………………………
เรื่องเล่าของเด็กยุคใหม่
ที่อาจตกผลึกข้อสงสัยของใครหลายคน
ยุคโลกาภิวัตน์ที่พัฒนาก้าวกระโดดอย่างฮึกเหิม
กำลังบดบังเส้นทางกลับบ้านเดิมของจิตคน
การเผลอไปรับรู้ธรรมชาติของวัฏสงสาร อาจทำให้เราเริ่มตระหนักถึงการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าทุกลมหายใจ
เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้นว่ายากแล้ว
แต่การเกิดมาพร้อมในยุคที่ยังพอมีคำสอนของศาสนาหรือศาสดาที่ถูกตรงตามกฎของธรรมชาตินั้นยากยิ่งกว่ามาก
บ้านเดิมของจิตพวกเรานั้น ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ใสสว่าง เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์โดยไม่เกาะกุมสิ่งใด
นานแค่ไหนกันแล้ว กี่ชาติภพกันแล้วที่เราจากบ้านเดิมหลังนี้มา โดยลืมคิดที่จะกลับไปเยือน
ทางกลับบ้านของพวกเรานั้นมีหลายเส้นทางเหลือเกิน มีทั้งที่มีบอกไว้ในตำรา แต่อีกหลายเส้นทางก็อยู่นอกเหนือตำราขึ้นกับวาสนาของแต่ละคนว่าจะพบทางที่ใช่เมื่อใด วาสนาที่จะพบทางที่ไม่พาหลงให้วนเวียนกลับไปในวัฏสงสารอีก
อย่าว่าแต่การหาเส้นทางกลับบ้านเดิมเลย หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีบ้านหลังเดิมที่เราเคยจากมานานแสนนาน เพราะสมมติต่างๆ สร้างมายาภาพทำให้เรามัวหลงกับบ้านใหม่ ร่างกายใหม่ สมองใหม่ ที่มอบทั้งความสุขและความทุกข์ให้เรามาตลอดอย่างไม่เคยรู้จักเหน็ดเหนื่อยตามกฎของธรรมชาติที่นักวิทยาศาสตร์บางคนหรือนักปราชญ์หลายคนกำลังหาคำตอบมาหลายชั่วอายุคน
วาสนาที่กระตุ้นเตือนให้ตรึกนึกว่าเราอาจจะมีบ้านหลังแรกที่เราจากมา และเราควรรีบหาทางกลับบ้านได้แล้วนั้นเป็นเรื่องรับรู้ได้เฉพาะตน(ปัจจัตตัง) อาจอาศัยความทุกข์ ความไม่สมหวัง การพลัดพราก การตกผลึกทางปัญญา หรือกัลยาณมิตร ช่วยเปิดทางกระตุ้นเตือนนั้นในเวลาที่สถานการณ์ต่างๆมีความลงตัวของมันเอง
แต่อีกหลายชีวิตก็ทำเหมือนไม่รับรู้ หรือไม่สามารถรับรู้ได้เองตามกำลังสติของตนเสมือนบัวใต้โคลนตมที่รอวันเบ่งบานไม่ชาตินี้ก็ชาติถัดๆไป
"เตย" เด็กสาวผู้มีโอกาสได้เข้าไปรับรู้กฎธรรมชาติด้วยความบังเอิญ ผ่านการปฏิบัติธรรมเพียงช่วงสั้นๆเหมือนเคยทำสะสมไว้มาแต่ครั้งเก่าก่อน
ภาพนิมิตต่างๆทั้งจริงและไม่จริง เพื่อนร่วมวัฏสงสารที่เข้ามาเป็นครูให้เตยได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการเกิดมาเป็นมนุษย์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เตยมีความปรารถนาที่จะตามหาใครบางคนที่จากไปเพื่อจะได้รู้ว่าเขาคนนั้นสุขสบายดีหรือไม่
มาเอาใจช่วย"เตย"ในการตามหาใครคนนั้นและร่วมกันพิจารณาเพื่อนร่วมวัฏสงสารของเตยเพื่อให้เราได้มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตทุกลมหายใจ
แด่บิดามารดาและนายเวรของข้าพเจ้าทุกชาติภพ
(SongJaeA : ผู้เล่าเรื่อง)
สมมติฉุดวังวน - บทนำ
ก่อนเล่าเรื่อง
เนื้อหาบางส่วนของนวนิยายเรื่องนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงของผู้แต่ง ผสมเรื่องเล่าจากครูอาจารย์ที่เคารพ และบางส่วนจากไตรปิฏก เพื่อความบันเทิงและมีอรรถรส และหวังนำมาช่วยจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวผู้อ่านเพื่อให้ตั้งใจทำในสิ่งที่ดีต่อตนเองและเพื่อนมนุษย์
…………………………
เรื่องเล่าของเด็กยุคใหม่
ที่อาจตกผลึกข้อสงสัยของใครหลายคน
ยุคโลกาภิวัตน์ที่พัฒนาก้าวกระโดดอย่างฮึกเหิม
กำลังบดบังเส้นทางกลับบ้านเดิมของจิตคน
การเผลอไปรับรู้ธรรมชาติของวัฏสงสาร อาจทำให้เราเริ่มตระหนักถึงการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าทุกลมหายใจ
เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้นว่ายากแล้ว
แต่การเกิดมาพร้อมในยุคที่ยังพอมีคำสอนของศาสนาหรือศาสดาที่ถูกตรงตามกฎของธรรมชาตินั้นยากยิ่งกว่ามาก
บ้านเดิมของจิตพวกเรานั้น ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ใสสว่าง เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์โดยไม่เกาะกุมสิ่งใด
นานแค่ไหนกันแล้ว กี่ชาติภพกันแล้วที่เราจากบ้านเดิมหลังนี้มา โดยลืมคิดที่จะกลับไปเยือน
ทางกลับบ้านของพวกเรานั้นมีหลายเส้นทางเหลือเกิน มีทั้งที่มีบอกไว้ในตำรา แต่อีกหลายเส้นทางก็อยู่นอกเหนือตำราขึ้นกับวาสนาของแต่ละคนว่าจะพบทางที่ใช่เมื่อใด วาสนาที่จะพบทางที่ไม่พาหลงให้วนเวียนกลับไปในวัฏสงสารอีก
อย่าว่าแต่การหาเส้นทางกลับบ้านเดิมเลย หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีบ้านหลังเดิมที่เราเคยจากมานานแสนนาน เพราะสมมติต่างๆ สร้างมายาภาพทำให้เรามัวหลงกับบ้านใหม่ ร่างกายใหม่ สมองใหม่ ที่มอบทั้งความสุขและความทุกข์ให้เรามาตลอดอย่างไม่เคยรู้จักเหน็ดเหนื่อยตามกฎของธรรมชาติที่นักวิทยาศาสตร์บางคนหรือนักปราชญ์หลายคนกำลังหาคำตอบมาหลายชั่วอายุคน
วาสนาที่กระตุ้นเตือนให้ตรึกนึกว่าเราอาจจะมีบ้านหลังแรกที่เราจากมา และเราควรรีบหาทางกลับบ้านได้แล้วนั้นเป็นเรื่องรับรู้ได้เฉพาะตน(ปัจจัตตัง) อาจอาศัยความทุกข์ ความไม่สมหวัง การพลัดพราก การตกผลึกทางปัญญา หรือกัลยาณมิตร ช่วยเปิดทางกระตุ้นเตือนนั้นในเวลาที่สถานการณ์ต่างๆมีความลงตัวของมันเอง
แต่อีกหลายชีวิตก็ทำเหมือนไม่รับรู้ หรือไม่สามารถรับรู้ได้เองตามกำลังสติของตนเสมือนบัวใต้โคลนตมที่รอวันเบ่งบานไม่ชาตินี้ก็ชาติถัดๆไป
"เตย" เด็กสาวผู้มีโอกาสได้เข้าไปรับรู้กฎธรรมชาติด้วยความบังเอิญ ผ่านการปฏิบัติธรรมเพียงช่วงสั้นๆเหมือนเคยทำสะสมไว้มาแต่ครั้งเก่าก่อน
ภาพนิมิตต่างๆทั้งจริงและไม่จริง เพื่อนร่วมวัฏสงสารที่เข้ามาเป็นครูให้เตยได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการเกิดมาเป็นมนุษย์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เตยมีความปรารถนาที่จะตามหาใครบางคนที่จากไปเพื่อจะได้รู้ว่าเขาคนนั้นสุขสบายดีหรือไม่
มาเอาใจช่วย"เตย"ในการตามหาใครคนนั้นและร่วมกันพิจารณาเพื่อนร่วมวัฏสงสารของเตยเพื่อให้เราได้มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตทุกลมหายใจ
แด่บิดามารดาและนายเวรของข้าพเจ้าทุกชาติภพ
(SongJaeA : ผู้เล่าเรื่อง)