ดิฉันมีเรื่องอึดอัดมาก โดนแก๊งคนอีสานตามรังควาญรวมเกือบ 1 ปีแล้ว ต้องย้ายหอพักหลายที่ อยู่หอพักถึง 3 ที่ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี ขอเล่าตั้งแต่แรกเริ่มเลยน่ะค่ะ
ดิฉันมาได้งานทำใน กทม ก็เลยมาได้หอพักในเขตห้วยขวาง โดยมีอีกหอพักอยู่ตรงกันข้ามหอที่ดิฉันพัก สมมติว่าชื่อ หอพัก ภ
หอพักที่ดิฉันพัก ในเกือบทุกคืนจะมีเสียงคนทะเลาะกันหน้าหอพักบ้าง หรือ มีวงเหล้าเสียงดัง ซึ่งก็ยังทนได้ คือ ไม่นานก็เลิก
เวลาดิฉันเอาผ้ามาตากที่ระเบียง คนเฝ้าและญาติเจ้าของหอพัก ภ. ที่ชอบมานั่งจับกลุ่มอยู่หน้าหอพักก็มักออกมาดูผ้าที่ดิฉันเอามาตาก จริงก็ไม่ชอบใจเลย ที่เค้าทำแบบนี้ แต่ก็ต้องทำเป็นเฉยๆ เพราะไม่อยากมีเรื่อง
พออยู่มาได้เกือบ 2 เดือนก็หอพัก ภ. ที่อยู่ตรงข้ามหอพักดิฉัน ก็ตั้งวงกินเหล้าเสียงดังมา ตั้งแต่ประมาณ 6 เย็น ถึงตี 2 ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย เสียงดังมากทั้งเสียงหัวเราะที่น่ารำคาญของไอ้ขี้เหล้า เสียงคุย เสียงเพลงอีสานอีก ดังมากๆ มีประมาณ 10 กว่าคน เหมือนใครมาเปิดสเตอริโอหน้าห้องไม่มีผิด พอดิฉันเดินเอาผ้าที่ซักไปตากที่ระเบียง พวกมันก็หันมามองกันหมด จ้องมองกัน พูดกันว่า "มันเอาผ้ามาตาก" (ขนาดอยู่คนละหอ มีถนนกั้นตรงกลางยังจะมองขนาดนี้) พอตากผ้าเสร็จ ดิฉันก็กลับเข้าห้องโทร 191 แจ้งตำรวจมาบอกให้พวกนี้เงียบๆหน่อย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้พวกมันได้ยินที่ดิฉันแจ้ง 191 แต่พวกมันก็มีท่าทีไม่หยุดเลย ดิฉันเลยเอามือถือคลิปตอนมันตั้งวงกินเหล้า โดยอยู่ในห้องถ่าย พอพวกมันเห็นก็รีบแยกย้ายเลิกวงเหล้า ซึ่งคืนนั้นตำรวจก็ไม่มา แถมเกือบชั่วโมงตำรวจยังโทรมาถามว่าจะให้มาอีกไหมด้วยนะ
ตั้งแต่นั้นมา ไอ้พวกแก๊งหอพัก ภ. ก็มักจะเขม่นห้องดิฉันตลอด เกือบทุกคืนตอนดึกมากๆในช่วงเวลาที่ทุกคนหลับ มันก็จะกินเหล้าแล้วมาตะโกนเสียงดังหน้าหอพัก แต่มันยืนอยู่ในรั้วของหอพักมัน น่ารำคาญมาก(ไอ้นี่มันชื่อไอ้เอ๋ เป็นลูกเขยเจ้าของหอพัก) บางทีก็เอาโดรนที่ติดดกล้องด้วย มาบินส่องห้องดิฉันถึง 3 ครั้ง พอครั้งที่ 3 ก็ปิดม่านแล้วแจ้งป้าเฝ้าหอพักทราบด้วย ซึ่งป้าหอไปบอกหอพักตรงข้ามก็เถียงกันเลยค่ะ ทีนี้มันก็โกรธมากจะเอาปืนมายิงหน้าห้องดิฉัน ซึ่งดิฉันอยู่ชั้น 4 ซึ่งดิฉันก็ได้ยินและอยู่เฉยๆ อยากรู้ว่าจะแน่จริงทำจริงรึป่าว เขาทำเรื่องไม่ไดีใส่ดิฉัน ซึ่งเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยคุยกันเลย จะโกรธแค้นหนักหนาก็แสดงออกมาเลย อยากเห็นว่าใช่อย่างที่ได้ยินไหม เวลาพวกมันด่าดังๆเข้าดิฉันก็เดินไปดูที่หน้าต่าง ก็มีหลายคนเลย
ทุกวันดิฉันต้องออกไปทำงานแล้วก็กลับเข้าหอพัก ทีนี้ก็ได้ยินพวกมันพูดอีกว่า ดิฉันถ่ายรูปพวกมันไว้ทุกคน และแอบจับตาดูพวกมันตลอด ซึ่งมันคุยแบบนี้ทุกวัน แถมยังชี้มาที่ห้องดิฉันอีกน่ะ ซึ่งตอนแรกดิฉันก็คิดว่าคงไม่ใช่ห้องเราหรอก พอเวลามีเสียงดังข้างนอกดิฉันก็มาตรงหน้าต่างห้อง ก็โดนพรรคพวกของหอพัก ภ. ตะโกนด่าเลบว่า "มองอะไรหนักหนาวะ หา" ดิฉันงงค่ะ เหมือนโดนหาเรื่อง และรู้สึกโกรธมากแต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร
พออยู่ได้ 4 เดือน พวกมันก็เอาใหญ่เลยค่ะ เย็นวันนั้นดิฉันเห็นผู้ชาย 3-4 คนืนอยู่บนชั้น 7 ของหอพัก ภ. มันส่องกล้อง สักพักมันก็รีบดับไฟในห้อง แล้วทีนี้ดิฉันก็รีบปิดผ้าม่านหน้าต่าง เป็นห้องพัดลมด้วย ร้อนมาก เป็นแบบนี้ หลายวัน จะได้ยินเสียงที่พวกมันคุยกันลามกหยาบคายมากค่ะ ไปแอบดูห้องนั้นห้องนี้ ขาวอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอห้องดิฉันปิดม่าน มันก็โมโห บอกว่า ทำไมมันปิดม่าน หา... คือทุเรศมาก แล้ววันนั้นคือวันที่ทนไม่ไหวก็เลยโทร 191 อีกครั้ง งวดนี้ตำรวจมา พวกมันโกรธมาก บอกว่า ห้องนี้แหละ ตอนเช้าก็ไปฟ้องป้าหอดิฉันว่า มันไม่ได้ทำห้องนี้แหละหาเรื่องพวกมัน (โกหกหน้าด้านมาก ดิฉันได้ยินและเห็นเต็มตาว่ามันยืนส่อง) พอสิ้นเดือนก็ย้ายหอ
ย้ายหอพักมาอยู่ซอยอื่นแต่ก็ในเขตห้วยขวาง เหมือนหนีเสือปะจรเข้ เป็นหอพักที่มีแต่พรรคพวกของมันอยู่หลายคนเลย ดิฉันไปอยู่ชั้น 3 หน้าห้องกับข้างห้องก็พวกมัน ข้างหอพักก็เป็นที่ทำงานของพวกมัน ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์...ดาว ทีนี้พอเอาผ้ามาตากที่ระเบียงก็มายืนมอง มันบอกว่า ใช่เลย สีนี้แหละ ไอ้ห้องนั้นแน่นอน ซึ่งดิฉันรู้สึกงงงวยมากว่า ทำไมจะหาเรื่องขนาดนี้ ไอ้หน้าห้องก็มักแอบฟังว่าดิฉันคุยโทรศัพท์ว่าอะไร จนพวกมันรู้ชื่อ ว่าชื่ออะไร ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอแก๊งคนอีสานตามรังควาญขนาดนี้ เวลาตื่นนอนตอนเช้านาฬิกาปลุก มันก็จะคุยกันว่า "มันตื่นแล้ว มันตื่นเช้าเนอะ อยากรู้ว่ามมันทำงานที่ไหน จะออกไปตามมันไหม" ทุกเช้าเลย คือย้ายหอครั้งนี้ซวยกว่าเก่าอีกค่ะ ต่อมาไอ้เอ๋ก็มากินเหล้าข้างหอพักนี้ คือนั่งตั้งวงในโรงที่เก็บของโรงพิมพ์ กินจนถึงเช้าทุกวัน คือย้ายจากที่เดิมมากินที่นี่ แล้วมันก็มาโวยวายว่ามีตำรวจมาดูมัน เพราะโดนคนแจ้งความไว้ มันโกรธมาก หาว่าดิฉันทำอีก ซึ่งดิฉันงงค่ะ ไม่รู้เรื่องอะไร แต่ได้ยินว่า พรรคพวกมันก็พยายามหาว่าใครแจ้งตำรวจ (พูดชื่อดิฉัน ว่าอี... น่าเกลียดมาก) มีอยู่คืนนึง เป็นคืนวันศุกร์ เวลา ตี 1 ครึ่ง มีคนมาเขย่าลูกบิด และเคาะประตูห้องพัก ดิฉันส่องที่ตาแมวก็ไม่มีใคร แต่ดิฉันมั่นใจว่ามีคนยืนอยู่หลังประตูจึงไม่เปิดออกไป เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที มีผู้ชายคุยกัน 2 คนว่า "มันไม่ยอมเปิด...เฮ้อ" พอเช้ามา หมวกกันน็อคก็โดนข่วนเป็นเส้นลึก อยู่หอพักนี้ได้ 2 อาทิตย์ก็ย้ายอีก
ตอนนี้เลยมาอยู่หอพักหญิงแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว ซึ่งนึกว่าเรื่องจะจบ แต่มาเจอผู้หญิงในแก๊งมัน ชื่อ อิ้ง ซึ่งอยู่ข้างห้องดิฉันอีก ผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กฝึกงานเซเว่นจากภาคอีสาน 3 วันแรกที่ดิฉันมาอยู่ ก็ได้ยินแต่อีพวกนี้ด่าทอดิฉันต่างๆนานา ในชื่อเดียวกับดิฉันอีก แล้วก็เอาแต่คุยโทรศัพท์กับไอ้เอ๋ตลอด (ห้องนํ้าอยู่นอกห้องตรงระเบียง รวมถึงห้องพักไม่เก็บเสียง) ซึ่งดิฉันคิดว่าคงไม่ใช่เราหรอก แต่พอไปๆมาๆ ก็เริ่มแน่ใจว่ามันด่าเราแน่ เพราะมันพูดตรงหมด คืนนั้นดิฉันเดินไปหาที่ห้องมันเลย ไปถามเลยว่า เคยรู้จักกันมาก่อนไหม เมื่อกี้ด่าดิฉันรึป่าว อีพวกนี้ก็บอกว่าไม่ใช่ๆ แต่คุณรู้ไหม หลังจากนั้น เวลาดิฉันเดินขึ้นหอพัก มันกับพวกเด็กเซเว่นก็เอามือถือมาถ่ายรูปถ่ายวีดิโอซึ่งหน้า วันต่อมา ดิฉันเจอพวกมัน ดิฉันก็ถ่ายรูปมันมั่งสิ พวกมันก็รีบหลบหน้ากันใหญ่เลย มันแสดงให้รู้หลายอย่างเลยว่า ถ้าไม่คิดร้ายแต่แรก จะทำแบบนี้ทำไม อีกอย่างตั้งแต่ย้ายมาหอพักหญิง อีอิ้งกับอีเต้ย ข้างห้องก็จะโทรบอกไอ้แก๊งมันที่เป็นผู้ชายว่าดิฉันจะออกห้องแล้วให้ไปดักตาม ทุกเช้าค่ะ ดิฉันจำหน้ามันได้ แต่พอยกกล้องมาถ่าย ก็รีบหลบหน้าทันที start รถมอไซด์หนีทันที เป็นแบบนี้มา 2 เดือนแล้ว อีข้างห้องพวกนี้บ่อยครั้งจะตะโกนที่ระเบียงมาว่าห้องดิฉันว่า "อีข้างห้อง เมื่อไหร่จะออกไปสักที" พอดิฉันไปบอกป้าหอ แกก็ไม่รับรู้อะไร บอกไม่มีไม่จริงอย่างเดียว ต่อมาอีข้างห้องมันก็ไปฟ้องป้าหอว่า ห้องดิฉันมีปัญหากับมันแหละค่ะ เค้าถึงมายืนหน้าห้องดิฉัน และเข้าไปฟังห้องอีพวกนั้นอยู่บ่อยครั้ง คงจะโกหกใส่ความดิฉันสารพัดเลย มันทำให้ดิฉันรู้แล้วว่า คนอีสานไม่น่าคบเลย น่ารังเกียจมาก ดิฉันอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ แต่มาโดนแบบนี้ เกลียดมากค่ะ
ไปๆมาๆ อีอิ้งมันทนไม่ไหว ก็ย้ายออกไปอยู่แถวสีลม เย็นวันนั้นไอ่เอ๋มันขับรถมารับที่หอพัก ไอ้เอ๋มันจ้องเขม็งมาที่ดิฉัน พอดิฉันยกกล้องมาถ่ายมันรีบก้มหน้าหลบกล้องแต่ดิฉันก็ยืนจนกว่าจะได้รูปที่เห็นหน้ามัน
มาทราบทีหลังว่า แม่บ้านที่ทำงานเป็นญาติกับอีเต้ยข้างห้อง ดิฉันก็สงสัยอยู่ ทำไมแม่บ้านคนนี้พักหลังมองหน้าดิฉันแบบไม่เป็นมิตรทำหน้าทำตาน่าเกลียดใส่ประจำ แม่บ้านมาก่อกวนดิฉันโดย หน้าจอคอมเป็นรอยเปื้อนและมีรอยนิ้วมือเต็มเลย แล้วถูกค้นโต๊ะ(โชคดีของไม่หาย) ดิฉันรีบแจ้งให้ที่ทำงานทราบ ซึ่งพอกลับมาหอพักก็ได้ยินอีพวกนี้คุยโทรศัพท์ใหญ่เลยว่า แกล้งดิฉันอะไรบ้าง ฟังแล้วอยากโมโหมาก
พอวันต่อมา อีแม่บ้านคนนี้ก็ไปแต่งเรื่องบอกหัวหน้าว่า ดิฉันไปด่ามัน ไปมองมันแบบไม่ได้ทุกครั้งที่เข้าห้องนํ้า ซึ่งดิฉันไม่ได้ทำเลยน่ะค่ะ
แม่บ้านจะนั่งอยู่หน้าห้องนํ้า มันจะรอให้เหลือดิฉันคนเดียวในห้องนํ้าแล้วถึงรีบเข้ามา เป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ ได้ยินว่า จะถ่ายรูปตอนกำลังทำกิจอยู่ด้วย
ควรทำยังไงดีค่ะ ขอท่านผู้รู้ เมตตาช่วยทีค่ะ
ถูกแก๊งคนอีสานตามรังควาญ
ดิฉันมาได้งานทำใน กทม ก็เลยมาได้หอพักในเขตห้วยขวาง โดยมีอีกหอพักอยู่ตรงกันข้ามหอที่ดิฉันพัก สมมติว่าชื่อ หอพัก ภ
หอพักที่ดิฉันพัก ในเกือบทุกคืนจะมีเสียงคนทะเลาะกันหน้าหอพักบ้าง หรือ มีวงเหล้าเสียงดัง ซึ่งก็ยังทนได้ คือ ไม่นานก็เลิก
เวลาดิฉันเอาผ้ามาตากที่ระเบียง คนเฝ้าและญาติเจ้าของหอพัก ภ. ที่ชอบมานั่งจับกลุ่มอยู่หน้าหอพักก็มักออกมาดูผ้าที่ดิฉันเอามาตาก จริงก็ไม่ชอบใจเลย ที่เค้าทำแบบนี้ แต่ก็ต้องทำเป็นเฉยๆ เพราะไม่อยากมีเรื่อง
พออยู่มาได้เกือบ 2 เดือนก็หอพัก ภ. ที่อยู่ตรงข้ามหอพักดิฉัน ก็ตั้งวงกินเหล้าเสียงดังมา ตั้งแต่ประมาณ 6 เย็น ถึงตี 2 ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย เสียงดังมากทั้งเสียงหัวเราะที่น่ารำคาญของไอ้ขี้เหล้า เสียงคุย เสียงเพลงอีสานอีก ดังมากๆ มีประมาณ 10 กว่าคน เหมือนใครมาเปิดสเตอริโอหน้าห้องไม่มีผิด พอดิฉันเดินเอาผ้าที่ซักไปตากที่ระเบียง พวกมันก็หันมามองกันหมด จ้องมองกัน พูดกันว่า "มันเอาผ้ามาตาก" (ขนาดอยู่คนละหอ มีถนนกั้นตรงกลางยังจะมองขนาดนี้) พอตากผ้าเสร็จ ดิฉันก็กลับเข้าห้องโทร 191 แจ้งตำรวจมาบอกให้พวกนี้เงียบๆหน่อย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้พวกมันได้ยินที่ดิฉันแจ้ง 191 แต่พวกมันก็มีท่าทีไม่หยุดเลย ดิฉันเลยเอามือถือคลิปตอนมันตั้งวงกินเหล้า โดยอยู่ในห้องถ่าย พอพวกมันเห็นก็รีบแยกย้ายเลิกวงเหล้า ซึ่งคืนนั้นตำรวจก็ไม่มา แถมเกือบชั่วโมงตำรวจยังโทรมาถามว่าจะให้มาอีกไหมด้วยนะ
ตั้งแต่นั้นมา ไอ้พวกแก๊งหอพัก ภ. ก็มักจะเขม่นห้องดิฉันตลอด เกือบทุกคืนตอนดึกมากๆในช่วงเวลาที่ทุกคนหลับ มันก็จะกินเหล้าแล้วมาตะโกนเสียงดังหน้าหอพัก แต่มันยืนอยู่ในรั้วของหอพักมัน น่ารำคาญมาก(ไอ้นี่มันชื่อไอ้เอ๋ เป็นลูกเขยเจ้าของหอพัก) บางทีก็เอาโดรนที่ติดดกล้องด้วย มาบินส่องห้องดิฉันถึง 3 ครั้ง พอครั้งที่ 3 ก็ปิดม่านแล้วแจ้งป้าเฝ้าหอพักทราบด้วย ซึ่งป้าหอไปบอกหอพักตรงข้ามก็เถียงกันเลยค่ะ ทีนี้มันก็โกรธมากจะเอาปืนมายิงหน้าห้องดิฉัน ซึ่งดิฉันอยู่ชั้น 4 ซึ่งดิฉันก็ได้ยินและอยู่เฉยๆ อยากรู้ว่าจะแน่จริงทำจริงรึป่าว เขาทำเรื่องไม่ไดีใส่ดิฉัน ซึ่งเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยคุยกันเลย จะโกรธแค้นหนักหนาก็แสดงออกมาเลย อยากเห็นว่าใช่อย่างที่ได้ยินไหม เวลาพวกมันด่าดังๆเข้าดิฉันก็เดินไปดูที่หน้าต่าง ก็มีหลายคนเลย
ทุกวันดิฉันต้องออกไปทำงานแล้วก็กลับเข้าหอพัก ทีนี้ก็ได้ยินพวกมันพูดอีกว่า ดิฉันถ่ายรูปพวกมันไว้ทุกคน และแอบจับตาดูพวกมันตลอด ซึ่งมันคุยแบบนี้ทุกวัน แถมยังชี้มาที่ห้องดิฉันอีกน่ะ ซึ่งตอนแรกดิฉันก็คิดว่าคงไม่ใช่ห้องเราหรอก พอเวลามีเสียงดังข้างนอกดิฉันก็มาตรงหน้าต่างห้อง ก็โดนพรรคพวกของหอพัก ภ. ตะโกนด่าเลบว่า "มองอะไรหนักหนาวะ หา" ดิฉันงงค่ะ เหมือนโดนหาเรื่อง และรู้สึกโกรธมากแต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร
พออยู่ได้ 4 เดือน พวกมันก็เอาใหญ่เลยค่ะ เย็นวันนั้นดิฉันเห็นผู้ชาย 3-4 คนืนอยู่บนชั้น 7 ของหอพัก ภ. มันส่องกล้อง สักพักมันก็รีบดับไฟในห้อง แล้วทีนี้ดิฉันก็รีบปิดผ้าม่านหน้าต่าง เป็นห้องพัดลมด้วย ร้อนมาก เป็นแบบนี้ หลายวัน จะได้ยินเสียงที่พวกมันคุยกันลามกหยาบคายมากค่ะ ไปแอบดูห้องนั้นห้องนี้ ขาวอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอห้องดิฉันปิดม่าน มันก็โมโห บอกว่า ทำไมมันปิดม่าน หา... คือทุเรศมาก แล้ววันนั้นคือวันที่ทนไม่ไหวก็เลยโทร 191 อีกครั้ง งวดนี้ตำรวจมา พวกมันโกรธมาก บอกว่า ห้องนี้แหละ ตอนเช้าก็ไปฟ้องป้าหอดิฉันว่า มันไม่ได้ทำห้องนี้แหละหาเรื่องพวกมัน (โกหกหน้าด้านมาก ดิฉันได้ยินและเห็นเต็มตาว่ามันยืนส่อง) พอสิ้นเดือนก็ย้ายหอ
ย้ายหอพักมาอยู่ซอยอื่นแต่ก็ในเขตห้วยขวาง เหมือนหนีเสือปะจรเข้ เป็นหอพักที่มีแต่พรรคพวกของมันอยู่หลายคนเลย ดิฉันไปอยู่ชั้น 3 หน้าห้องกับข้างห้องก็พวกมัน ข้างหอพักก็เป็นที่ทำงานของพวกมัน ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์...ดาว ทีนี้พอเอาผ้ามาตากที่ระเบียงก็มายืนมอง มันบอกว่า ใช่เลย สีนี้แหละ ไอ้ห้องนั้นแน่นอน ซึ่งดิฉันรู้สึกงงงวยมากว่า ทำไมจะหาเรื่องขนาดนี้ ไอ้หน้าห้องก็มักแอบฟังว่าดิฉันคุยโทรศัพท์ว่าอะไร จนพวกมันรู้ชื่อ ว่าชื่ออะไร ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอแก๊งคนอีสานตามรังควาญขนาดนี้ เวลาตื่นนอนตอนเช้านาฬิกาปลุก มันก็จะคุยกันว่า "มันตื่นแล้ว มันตื่นเช้าเนอะ อยากรู้ว่ามมันทำงานที่ไหน จะออกไปตามมันไหม" ทุกเช้าเลย คือย้ายหอครั้งนี้ซวยกว่าเก่าอีกค่ะ ต่อมาไอ้เอ๋ก็มากินเหล้าข้างหอพักนี้ คือนั่งตั้งวงในโรงที่เก็บของโรงพิมพ์ กินจนถึงเช้าทุกวัน คือย้ายจากที่เดิมมากินที่นี่ แล้วมันก็มาโวยวายว่ามีตำรวจมาดูมัน เพราะโดนคนแจ้งความไว้ มันโกรธมาก หาว่าดิฉันทำอีก ซึ่งดิฉันงงค่ะ ไม่รู้เรื่องอะไร แต่ได้ยินว่า พรรคพวกมันก็พยายามหาว่าใครแจ้งตำรวจ (พูดชื่อดิฉัน ว่าอี... น่าเกลียดมาก) มีอยู่คืนนึง เป็นคืนวันศุกร์ เวลา ตี 1 ครึ่ง มีคนมาเขย่าลูกบิด และเคาะประตูห้องพัก ดิฉันส่องที่ตาแมวก็ไม่มีใคร แต่ดิฉันมั่นใจว่ามีคนยืนอยู่หลังประตูจึงไม่เปิดออกไป เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที มีผู้ชายคุยกัน 2 คนว่า "มันไม่ยอมเปิด...เฮ้อ" พอเช้ามา หมวกกันน็อคก็โดนข่วนเป็นเส้นลึก อยู่หอพักนี้ได้ 2 อาทิตย์ก็ย้ายอีก
ตอนนี้เลยมาอยู่หอพักหญิงแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว ซึ่งนึกว่าเรื่องจะจบ แต่มาเจอผู้หญิงในแก๊งมัน ชื่อ อิ้ง ซึ่งอยู่ข้างห้องดิฉันอีก ผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กฝึกงานเซเว่นจากภาคอีสาน 3 วันแรกที่ดิฉันมาอยู่ ก็ได้ยินแต่อีพวกนี้ด่าทอดิฉันต่างๆนานา ในชื่อเดียวกับดิฉันอีก แล้วก็เอาแต่คุยโทรศัพท์กับไอ้เอ๋ตลอด (ห้องนํ้าอยู่นอกห้องตรงระเบียง รวมถึงห้องพักไม่เก็บเสียง) ซึ่งดิฉันคิดว่าคงไม่ใช่เราหรอก แต่พอไปๆมาๆ ก็เริ่มแน่ใจว่ามันด่าเราแน่ เพราะมันพูดตรงหมด คืนนั้นดิฉันเดินไปหาที่ห้องมันเลย ไปถามเลยว่า เคยรู้จักกันมาก่อนไหม เมื่อกี้ด่าดิฉันรึป่าว อีพวกนี้ก็บอกว่าไม่ใช่ๆ แต่คุณรู้ไหม หลังจากนั้น เวลาดิฉันเดินขึ้นหอพัก มันกับพวกเด็กเซเว่นก็เอามือถือมาถ่ายรูปถ่ายวีดิโอซึ่งหน้า วันต่อมา ดิฉันเจอพวกมัน ดิฉันก็ถ่ายรูปมันมั่งสิ พวกมันก็รีบหลบหน้ากันใหญ่เลย มันแสดงให้รู้หลายอย่างเลยว่า ถ้าไม่คิดร้ายแต่แรก จะทำแบบนี้ทำไม อีกอย่างตั้งแต่ย้ายมาหอพักหญิง อีอิ้งกับอีเต้ย ข้างห้องก็จะโทรบอกไอ้แก๊งมันที่เป็นผู้ชายว่าดิฉันจะออกห้องแล้วให้ไปดักตาม ทุกเช้าค่ะ ดิฉันจำหน้ามันได้ แต่พอยกกล้องมาถ่าย ก็รีบหลบหน้าทันที start รถมอไซด์หนีทันที เป็นแบบนี้มา 2 เดือนแล้ว อีข้างห้องพวกนี้บ่อยครั้งจะตะโกนที่ระเบียงมาว่าห้องดิฉันว่า "อีข้างห้อง เมื่อไหร่จะออกไปสักที" พอดิฉันไปบอกป้าหอ แกก็ไม่รับรู้อะไร บอกไม่มีไม่จริงอย่างเดียว ต่อมาอีข้างห้องมันก็ไปฟ้องป้าหอว่า ห้องดิฉันมีปัญหากับมันแหละค่ะ เค้าถึงมายืนหน้าห้องดิฉัน และเข้าไปฟังห้องอีพวกนั้นอยู่บ่อยครั้ง คงจะโกหกใส่ความดิฉันสารพัดเลย มันทำให้ดิฉันรู้แล้วว่า คนอีสานไม่น่าคบเลย น่ารังเกียจมาก ดิฉันอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ แต่มาโดนแบบนี้ เกลียดมากค่ะ
ไปๆมาๆ อีอิ้งมันทนไม่ไหว ก็ย้ายออกไปอยู่แถวสีลม เย็นวันนั้นไอ่เอ๋มันขับรถมารับที่หอพัก ไอ้เอ๋มันจ้องเขม็งมาที่ดิฉัน พอดิฉันยกกล้องมาถ่ายมันรีบก้มหน้าหลบกล้องแต่ดิฉันก็ยืนจนกว่าจะได้รูปที่เห็นหน้ามัน
มาทราบทีหลังว่า แม่บ้านที่ทำงานเป็นญาติกับอีเต้ยข้างห้อง ดิฉันก็สงสัยอยู่ ทำไมแม่บ้านคนนี้พักหลังมองหน้าดิฉันแบบไม่เป็นมิตรทำหน้าทำตาน่าเกลียดใส่ประจำ แม่บ้านมาก่อกวนดิฉันโดย หน้าจอคอมเป็นรอยเปื้อนและมีรอยนิ้วมือเต็มเลย แล้วถูกค้นโต๊ะ(โชคดีของไม่หาย) ดิฉันรีบแจ้งให้ที่ทำงานทราบ ซึ่งพอกลับมาหอพักก็ได้ยินอีพวกนี้คุยโทรศัพท์ใหญ่เลยว่า แกล้งดิฉันอะไรบ้าง ฟังแล้วอยากโมโหมาก
พอวันต่อมา อีแม่บ้านคนนี้ก็ไปแต่งเรื่องบอกหัวหน้าว่า ดิฉันไปด่ามัน ไปมองมันแบบไม่ได้ทุกครั้งที่เข้าห้องนํ้า ซึ่งดิฉันไม่ได้ทำเลยน่ะค่ะ
แม่บ้านจะนั่งอยู่หน้าห้องนํ้า มันจะรอให้เหลือดิฉันคนเดียวในห้องนํ้าแล้วถึงรีบเข้ามา เป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ ได้ยินว่า จะถ่ายรูปตอนกำลังทำกิจอยู่ด้วย
ควรทำยังไงดีค่ะ ขอท่านผู้รู้ เมตตาช่วยทีค่ะ