ทำไงดีคะ แม่บ้านที่หอพัก ? ?

คือ เราจะไปทำงานใน กทม.  แฟนเราพาไปหาหอพัก เจอหอพักสภาพดีและค่อนข้างถูก วันไปดูห้อง เจ้าของหอพูดจาดีมากกกก เรากับแฟนเลยตัดสินใจจองห้องนี้  วันที่เข้าไปจ่ายค่ามัดจำหอ เราอยู่คนเดียวนะคะ แฟนเราจะมาหาบ้างบางที เราถามเจ้าของหอก่อนแล้วว่า พ่อแม่มาหาได้ไหม เจ้าของหอบอกว่า ได้ครับ แต่ระยะสั้นๆ เราก็โอเค เราบอกเขาไว้ก่อนจะได้ไม่มีปัญหา ส่วนแฟนเรามาหาบ้างเพราะเขาทำงานคนละที่กับเรา  เจ้าของหอบอกว่า ห้องนี้อ่ะติดกับห้องแม่บ้านพอดีเลย จ่ายค่ามัดจำเสร็จ เซ็นเอกสารเสร็จ เจ้าของหอพาไปเช็คห้องก่อน  แล้วบอกว่าเตียงอ่ะ อย่าเอาไปติดผนังฝั่งนี้นะ เพราะว่าแม่บ้านนอนหันเตียงมาทางห้องที่เราจะเช่าอยู่...  พอช่วงเราย้ายของเข้าห้อง แฟนเราไม่อยากให้เปิดประตูมาเห็นเตียง และเราก็ไม่อยากให้เตียงอยู่ติดห้องน้ำมาก เรากับแฟนจึงย้ายเตียงหันหัวไปทางห้องแม่บ้าน ซึ่งเราดูทิศด้วยก่อนจะทำ แต่ไม่ได้เอาเตียงไปชิดผนัง และหันตู้บังไม่ให้เห็นเตียง  สักพัก แม่บ้านมาเคาะประตู บอกเราว่าอย่าหันแบบนี้ "เขาหันหัวมาทางห้องเรา เวลาเรานอนไม่เท่ากัน เผื่อตอนกลางคืนได้ยินเสียงเขาสวดมนต์ เขาก็อยู่มาตั้งแต่สร้างตึกใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร" อ่ะโอเค อันนี้เราผิดที่หันไป เราเลยเอาเตียงมาไว้ฝั่งเดิม แต่ขยับมาบนสุดของห้องและห่างจากห้องน้ำ แต่เปิดประตูมาก็ยังเห็นเตียงอยู่  แต่ก็ไม่เป็นไร  เราก็ไม่ได้อะไรเกี่ยวกับตรงนี้   แล้วเราก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อไปเอาของใช้จากที่บ้าน และพาแม่มาช่วยจัดห้อง
           วันเรากลับมาหอ เราพาแม่มาด้วย และก็มีความคิดจะย้ายตู้จากที่ชิดประตู ติดผนังฝั่งห้องแม่บ้าน มาไว้ฝั่งที่เรานอน ตู้ก็จะอยู่หน้าห้องน้ำพอดี ห้องก็จะดูโล่งขึ้นมา รับแสงจากหน้าต่างได้มากขึ้น  เรากับแฟนเลยช่วยกันย้าย พอย้ายตู้เสร็จ แฟนเราก็เอาปลั๊กไฟที่เอามาจากบ้านมาให้เราใช้ลองเสียบกับปลั๊กไฟที่ผนังห้อง และแฟนเราก็กลับ แต่ลืมของ  แล้วเราก็ต้องเอาออกไปให้ ซึ่งประตูห้องมีกลอนรูดประตู เราล็อคไว้แล้วลืม จึงเผลอเปิดประตู เพราะรีบเอาของออกไปให้แฟน ทำให้เสียงประตูดังกระทบไปถึงห้องแม่บ้าน  แม่บ้านรีบออกมาจากห้องตัวเองและบอกเราว่าปิดประตูเบาๆหน่อย อันนี้เราผิด เรายอมรับ เราก็อธิบายไปว่าเราลืมว่าเราล็อคไว้ และแม่บ้านเขาก็มองเห็นปลั๊กไฟที่แฟนเราเสียบไว้ให้  แม่บ้านก็พูดขึ้นว่า "ไม่ได้อ่านกระดาษตรงประตูหรอ ไม่ให้เสียบปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดคาไว้ เพราะมันจะทำให้ไฟไหม้" คือแฟนเราเพิ่งเสียบปลั๊กอ่ะ ไม่ถึง 10 นาทีเลย แล้วเรากับแม่ก็ยังอยู่ในห้อง แล้วแม่บ้านก็ปิดประตูไป สักพัก เราคุยกับแม่ในห้องเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น สักพักเสียงประตูออกมาอีก แล้วพูดใส่เรากับแม่ว่า "รบกวนพูดกันเบาๆหน่อยค่ะ" พออีกสักพัก แม่บ้านมาเคาะประตูห้องเรา แล้วบอกว่าตู้เนี่ยห้ามย้ายนะ เจ้าของหอไม่ได้บอกหรอ คือแม่บ้านเขามองแล้วว่าเอาไว้ตรงนี้มันดีแล้ว เพราะเขาก็อยู่มานานแล้ว แม่เราก็อธิบายเหตุผลที่ไว้ย้าย  แม่บ้านก็ไม่พอใจ พอคุยไปสักพัก เราบอกว่า จะเอาตู้เย็นมาไว้ตรงนี้ แม่บ้านก็อ่อนข้อและบอกไว้ตรงนั้นก็ได้ แต่อย่าเอารองเท้ามาไว้ตรงนี้ (ตรงที่เก่าที่ตู้อยู่ คือมันติดประตูอ่ะค่ะ เวลาเข้าห้อง ใครๆก็ล้วนเอารองเท้าไว้ใกล้ๆประตูรึป่าว) เขาบอก เขานับถือศาสนาพุทธ เขาเอาพระไว้ตรงฝั่งนี้ ซึ่งมันตรงกับตรงนี้นะ ที่เราถอดรองเท้าวางไว้ เขาเลยอยากให้เอาตู้มาวางกั้นไว้ แม่เราเลยบอกโอเค เดี๋ยวเอารองเท้าไปไว้แถวๆระเบียง (แต่ในสัญญาไม่ได้ระบุนะคะว่า ห้ามย้ายตู้ เตียง หรือห้ามวางรองเท้าตรงนั้นนี้ภายในห้อง ระบุแค่ เกี่ยวกับห้ามย้านปลั๊กไฟ หลอดไฟ และห้ามวางรองเท้าไว้หน้าห้อง) เขาก็บอกเราว่าเขาอยากอยู่แบบสันติ ห้องนั้นห้องนี้มีคนนั้นคนนี้ นิสัยดีมาก ทำไรเบามาก ปิดประตูไรเบามาก (คือห้องอื่นเขาไม่ได้อยู่ติดห้องแม่บ้าน แต่ตอนกลางคืน เราก็ได้ยินเสียงห้องอื่นปิดประตูดังมากกก ทุกวันเลย แต่แม่บ้านไม่ได้ออกไปว่าอะไร) และบอกให้เราวางจานวางแก้วเบาๆ เสียงมันไม่ดังห้องเรา แต่มันไปดังห้องเขา  แล้วเขาก็บอกแม่เราว่า เห็นเจ้าของหอบอกว่าน้องมาเช่าอยู่คนเดียวไม่ใช่หรอ  คือแม่เราแค่มาช่วยจัดห้องอ่ะ ไม่กี่วัน เดี๋ยวก็กลับ  และแฟนเราก็ขับรถมาช่วยเคลียร์เพราะเราคอลไป พอแฟนเรามาถึง แฟนเราเลยบอกไปคุยตรงอื่น เพราะเกรงใจห้องอื่นๆ และคุยไปสักพัก ก็ดูจะลงตัว แม่บ้านก็บอกตามที่บอกกับเราว่า ให้วางจานวางแก้วเบาๆ โอเคแฟนเราแก้ปัญหาด้วยการไปเอาเสื่อมาให้เราใช้รองจานกับแก้วเวลากินข้าว  แม่บ้านก็โอเค และบอกว่า "ถ้าป้าฟังวิทยุ มีเสียงวิทยุก็เป็นเรื่องปกตินะ" เราก็เอะใจอยู่นะประโยคนี้ ตอนแรกก็ไม่ได้อะไร และแม่บ้านก็มาเคาะห้องเราอีกแล้วบอกว่า อยู่ไปซัก 3 เดือนก่อน ค่อยถามเจ้าของหอว่ามีห้องว่างไหมแล้วค่อยย้ายห้องก็ได้ (คือเราถามว่าสัญญาที่นี่ 6 เดือนใช่ไหมคะ คือเราจะย้ายออก ถ้าเป็นแบบนี้) พอวันที่เราได้ยินเสียง แม่บ้านฟังเสียงวิทยุเท่านั้นแหละ คือดังมากกกกกก (เราเลยถ่ายคลิปเก็บไว้) แต่เราไม่ได้เคาะห้องแม่บ้านนะคะ เราไม่อะไรอยู่แล้ว ก็ต่างต่างอยู่ได้ไม่กี่วัน
            คืนหนึ่ง เราถอดปลั๊กที่แม่เสียบสายชาร์จไว้ (ปลั๊กมี 2 จุด คือ ติดผนังห้องแม่บ้าน กับ เตียงเรา) เราว่าเราก็ไม่ได้ถอดปลั๊กรุนแรงอะไรนะคะ แต่มีเสียงทุบผนัง 2 ครั้งมาจากห้องแม่บ้านทันทีหลังจากที่เราถอดปลั๊ก  พอวันถัดมา ตอนเย็นเรากับแม่ออกไปซื้อของกินปากซอย เห็นแม่บ้านนั่งอยู่ร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอเดินกลับมา คนที่ร้านนั้นมองเรากับแม่ด้วยสายตาที่แบบ... มองแรงอ่ะค่ะ ทั้งร้านเลย (3 คน แม่บ้านกลับหอแล้ว) มีคนหนึ่งนะคะ มองแบบเหยียดมากเลย มองแรงแล้วก้มหน้าอ่ะค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าเราคิดไปเอง พอกลับถึงหอเลยถามแม่ว่าเห็นเหมือนกันไหม แม่ก็บอกว่าเห็นเหมือนกัน แล้วปัจจุบันเราก็พาแม่กลับมาบ้านแล้วค่ะ แต่เราจะไปใหม่ในอีกไม่กี่วัน เพราะเราเริ่มทำงานเร็วๆนี้ 
             คือเราอึดอัดมากเลยค่ะ เราทักไปถามเจ้าของหอว่า "มีห้องว่างชั้นที่เราล่างอีกไหมคะ"  เขาบอก "ไม่มีครับ"  แล้วเราก็เลยตอบไปอีกว่า "ถ้ามีรบกวนแจ้งหนูหน่อยได้ไหมคะ"  เขาก็ไม่อ่านประมาณ 2 วันได้  เราก็ดูแชทอีกครั้ง เห็นเขาอ่าน  แต่ไม่ตอบเรา  คือเรางงว่าทำไมเขาไม่ถามเหตุผลเราบ้างเลย ไม่สนใจผู้เช่าเลยว่า เกิดอะไรขึ้นยังไง ไม่ฟังเราเลย ไม่สนใจเราเลย เราเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนนะคะ  แต่เดี๋ยวเราก็ไปทำงานแล้ว และไม่ค่อยได้อยู่ห้อง ก็เลยจะพยายามไม่สนใจ และมีอีกประเด็นคือ เจ้าของหอมาบอกเราตอนที่เซ็นสัญญาอะไรเสร็จหมดแล้วว่า แถวนี้ขโมยเยอะนะครับ ตำรวจเขาแนะนำให้ล็อคล้อรถด้วย เวลาจอด  แบบ ห้ะ ... 55555555555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่