โลกอันสดใสกับนายไกด์ปากดี ตอน 1


ติดตามเรื่องราวและการผจญภัยเพิ่มเติมได้ที่ Never Ending Wanderlust  
Facebook : https://www.facebook.com/Never-Ending-Wanderlust-333202827168152/
Instagram : https://www.instagram.com/wanderlust_neverending/

โลกอันสดใสกับนายไกด์ปากดี ตอน 2 https://ppantip.com/topic/37669701

สวัสดีครับกลับมาอีกครั้งกับกระทู้ใหม่ ไฉไลกว่าเดิม มารอบนี้ผมก็ยังมีเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของผมอีกเช่นเคยครับ (เรื่องเยอะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอยากจะฟังกันหรือเปล่าแต่อยากจะเล่า 555)

แรงบันดาลใจในการเขียนกระทู้นี้มาจากกระทู้ก่อนหน้านี้ครับ คืออยากจะไปจุดประกายหรือเป็นประโยชน์กับใคร ไม่มากก็น้อย
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ฉบับหมดเปลือก https://ppantip.com/topic/37607106
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ภาคต่อ https://ppantip.com/topic/37615183

ขอเกริ่นก่อนแล้วกันนะครับว่าจริงๆผมเป็นใคร มาจากไหน ปัจจุบันผมประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ หรือที่ใครๆก็ติดปากเรียกกันว่าไกด์นั่นเอง ผมประกอบอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี 2551 (วันที่เขียนกระทู้นี้คือวันที่ 8 พฤษภาคม 2561) ปีที่เกิดเหตุการณ์มากมายกับบ้านเมืองของเรา แต่อย่าไปพูดถึงมันเลย มาฟังเรื่องผมดีกว่าเดี๋ยวจะยาว 555

ถ้าลองถามใครก็ตามว่าคุณคิดอย่างไรกับอาชีพไกด์ เกือบ 100% จะตอบว่าเป็นอาชีพที่น่าอิจฉา ได้เที่ยวฟรีแถมได้เงินด้วย สิ่งนั้นผมก็ไม่เถียง แต่มันมีมากกว่านั้นน่ะสิ

ขออนุญาตย้อนกลับไปในวัยเด็กมัธยมมัธยมก่อนแล้วกันนะครับ ในตอนนั้นผมถือว่าเป็นเด็กที่โชคดีคนหนึ่งที่รู้ใจตัวเองมาตลอดว่าผมโตไปผมจะไปเป็นอะไร นั่นก็คือไกด์ ส่วนเรื่องแรงผลักดันน่ะเหรอ เหอๆ...ก็แค่พ่อแม่ไม่ได้พาเที่ยวแค่นั้นแหละครับ เพราะครอบครัวผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร

ผมเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด แต่หน้าตาทรยศบ้านเกิดตัวเองมาก 555 พ่อแม่ผมพาเที่ยวไกลสุดก็แค่ชะอำ บางแสนแค่นั้น พอจบมัธยมปลายผมก็ได้สอบเอ็นทรานซ์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยสาขาการโรงแรมและการท่องเที่ยว น้องๆรุ่นใหม่ที่อ่านอยู่ตอนนี้คงจะทำคิ้วขมวดแล้วอุทานว่า “มันคืออะไรแว๊” 555
แต่โชคชะตาก็ไม่เข้าข้างเลย เพราะผมสอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดเลยสักที่ ชีวิตเศร้ามากตอนนั้น 555 แต่ก็หาวิธีการใหม่นั่นคือการสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัย จนสุดท้ายผมสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยได้ที่หนึ่งแต่เป็นสาขาภาษาอังกฤษธุรกิจแทน คือประมาณว่าถ้าไม่ได้สาขาการท่องเที่ยวก็ขอเอาด้านภาษาก่อนแล้วกัน

จนเมื่อจบจากมหาวิทยาลัยมาแล้ว งานแรกที่ผมเริ่มต้นชีวิตจริงนั่นก็คือการเป็นพนักงานต้อนรับในรีสอร์ท สนามกอล์ฟ 5 ดาวที่ปากช่อง ใจจริงอยากจะไปเป็นไกด์เลยแต่ยังเป็นไม่ได้ เพราะผมไม่ได้จบการท่องเที่ยวโดยตรง จึงต้องมีการอบรมการเป็นมัคคุเทศก์ก่อน แต่การเงินก็ยังไม่พร้อม จึงทำงานอยู่ที่รีสอร์ทแห่งนี้เป็นเวลา 1 ปี กับอีก 7 เดือน แล้วจึงลาออกไปสมัครเรียนไกด์ แล้วอบรมอีก 3 เดือน

การอบรมบัตรไกด์นั้นนับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมภาคภูมิใจมาก เพราะระยะเวลา 3 เดือนนั้น ช่างเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ความพยายามและพื้นที่สมองเยอะมาก เนื่องจากทางอาจารย์จะป้อนข้อมูลทุกสิ่งอย่างที่เราจะต้องใช้ในอนาคตของการเป็นไกด์ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศาสตร์ และทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย จริงๆผมก็ชอบเรื่องพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าผมมีเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้น 555

การอบรม นอกจากการเรียนผ่านตำราแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการออกภาคสนามไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหนือ ใต้ ออก ตก ต้องไปให้ครบ และจะต้องกลับมาวัดระดับความรู้ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากมาก

เมื่อผ่านไป  3 เดือนก็เป็นเวลาของการสอบวัดผลของจริง การสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการสอบแบบข้อเขียนและแบบปากเปล่า
แบบข้อเขียน ยกตัวอย่างเช่นการตอบคำถามจากรูปภาพ 1 รูปภาพต้องมี 4 คำตอบ กล่าวคือ 1 รูปภาพนั้น คุณจะต้องตอบว่ารูปภาพนั้นเป็นรูปภาพอะไร เช่นรูปภาพของพระพุทธรูป ต้องตอบว่านามของพระพุทธรูปองค์นั้นคืออะไร เป็นศิลปะแบบใด อยู่ที่ไหน และอยู่ในพุทธศตวรรษที่เท่าไหร่ ภายใน 2 นาที นับว่าเป็นโจทย์ที่หินมาก เพราะตอบยังไม่ทันจะเสร็จ รูปภาพก็เลื่อนไปแล้ว 555

ส่วนข้อสอบแบบปากเปล่านั้น คือการให้จับฉลากขึ้นมาแล้วให้พากษ์ข้อมูลแบบทันทีทันใดนั่นเอง

เมื่อจบหลักสูตรการอบรมมัคคุเทศก์แล้ว ตอนนั้นหัวใจพองโตมาก พร้อมกับความรู้ที่แน่นสมองจนแทบจะระเบิดออกมา แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในปี 2551 ตอนนั้นบ้านเมืองเราอยู่ในยุคระส่ำระสายเล็กน้อย จึงทำให้เส้นทางการเป็นไกด์ของผมเหมือนโดนฝังลงดินเลยทีเดียว 555

เมื่อไม่สามารถเป็นไกด์ได้ในช่วงแรก ผมกับเพื่อนอีกคนจึงตัดสินใจจากบ้านเกิดเมืองนอนไปเป็นคนต่างด้าวในประเทศกัมพูชา...อ่านไม่ผิดหรอกครับ คนต่างด้าวในประเทศกัมพูชาครับ 555

กล่าวคือตอนนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยจะสู้ดีนัก บวกกับการจะเข้าวงการไกด์ในช่วงแรกไม่ใช่เรื่องง่าย การที่เราจะทำให้บริษัททัวร์เรียกใช้เราในช่วงแรกเป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน ผมกับเพื่อนเลยไปสมัครงานเป็นพนักงานดูแลลูกค้าที่บ่อนคาสิโนที่ชายแดนในเขตปอยเปต

หน้าที่ของตำแหน่งนี้ก็คือการดูแลลูกค้าที่มาพักและมาเล่นการพนัน โดยเกือบ 100% ของคนที่มาเล่นเป็นคนไทยครับ ส่วนคนกัมพูชาเองนั้นไม่สามารถเข้ามาเล่นได้ในคาสิโนเพราะเป็นกฏหมายของที่นั่นที่ให้ดูดเงินของชาวต่างชาติเข้าประเทศเท่านั้น คนในประเทศไม่มีสิทธิ์เล่นที่นั่นโดยเด็ดขาด

ตำแหน่งงาน เพื่อนร่วมงาน ทุกอย่างมันก็ดีอยู่หรอกครับ เว้นแต่...ที่พักนี่สิ
หากลองนึกภาพตามหรือใครที่เคยไปเที่ยวชายแดนไทย - กัมพูชา บริเวณพื้นที่ระหว่างทั้ง 2 ชายแดนจะมีพื้นที่อยู่ตรงกลาง พื้นที่ตรงนั้นจะเต็มไปด้วยคาสิโนเยอะแยะมากมาย ซึ่งเมื่อผมต้องทำงาน ผมก็ทำงานในพื้นที่แห่งนี้ครับปกติ แต่...พอเลิกงานเนี่ยสิ ทางคาสิโนเขามีสวัสดิการเป็นหอพักฟรีให้กับพนักงาน และหอพักนั้น...ก็อยู่ในเขตประเทศกัมพูชา คือเขาให้ขึ้นรถของโรงแรมแล้วขับผ่านด่านได้เลยโดยไม่มีการตรวจค้นแต่อย่างใด จากนั้นเขาก็จะเอาพนักงานทุกคนไปไว้ที่หอพัก ซึ่งเวลาจะออกไปซื้อของ แม้ร้านค้านั้นจะไม่ไกลมากนัก แต่ก็ระแวงวิ่งไปวิ่งมา สายตาสอดส่องกันจ้าละหวั่น เพราะกลัวโดนตำรวจของกัมพูชาจับ เนื่องจากผมไม่มีวีซ่าพำนักในประเทศกัมพูชานั่นเอง 555 โอ้ย...ชีวิต

แต่ทำได้ไม่นานมากนักก็ออก เพราะสภาพจิตใจไม่ไหวจริง ทำไมเราต้องมาหลบซ่อนๆแบบนี้ เลยกลับมาตั้งหลักที่ประเทศไทยอีกรอบ
กลับมาคราวนี้โชคดีมาก เพราะผมได้มีโอกาสนำทัวร์ให้กับบริษัททัวร์ไทย โดยเน้นไปที่เส้นทางภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตอนนั้นค่าตัวไกด์อาจจะไม่มากมายนัก แต่ก็นับว่าเป็นโอกาสเริ่มต้นเส้นทางไกด์ที่ดีทีเดียว ช่วงนั้นขึ้นภาคเหนือทุกอาทิตย์ ผ่านถนนโค้งปราบเซียนของแม่ฮ่องสอนทุกอาทิตย์ เห็นลูกค้าอ้วกแตกทุกอาทิตย์เพราะเมารถ 555 นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆ


หลังจากนั้นผมก็เริ่มเลิกรับทัวร์ประเภทนี้ เนื่องจากการนั่งรถนานๆข้ามวันข้ามคืน ทำเป็นประจำ ระยะเวลานาน การที่เรานอนบนรถแล้วหลังของเราจมเบาะนั้น เป็นสิ่งที่อันตรายมาก และแล้ววันนั้นก็มาถึง

มีอยู่วันหนึ่ง ผมอยู่ที่บ้านกับพ่อ และผมได้จามออกมาแบบปกติแบบคนคัดจมูก แต่สิ่งที่ตามมาคือการนอนลงไปดิ้นลงกับพื้น เพราะหลังของผมตอนนั้นเจ็บมาก เจ็บแบบเหมือนใครเอาของแข็งมาทุบแรงๆที่หลังผมเลย ตอนนั้นผมได้แต่นอนนิ่งกับพื้น ไม่สามารถขยับได้เลย จนพ่อมาเห็นและพยายามจะพยุงผมขึ้นแต่ผมต้องห้ามพ่อไว้ เพราะมันเจ็บจนผมร้องไห้เลยทีเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัก 10 นาที อาการก็หายไป

แต่หลังจากนั้นผมได้ไปหาหมอเพื่อสอบถามอาการที่เกิดขึ้น หมอบอกว่าสาเหตุของอาการนี้ก็คือมาจากกิจวัตรประจำวัน และผลมาจากอาชีพของผมนั่นก็คือไกด์ เพราะต้องนั่งรถเป็ระยะเวลานาน จนหลังเสียรูปและอักเสบ

ผมได้ถามหมอว่าพอจะมีวิธีรักษาหรือไม่ คุณหมอยิ้มละมุนพร้อมกับตอบว่า ก็ต้องเลิกเป็นไกด์แหละครับ พอได้ยินเท่านั้นผมนี่ซีดเลยครับ 555 เพราะผมเพิ่งจะเริ่มเป็นไกด์ อุตส่าห์เรียนมาและเป็นอาชีพที่ผมรักมากด้วย ผมเลยขอดันทุรัง รักษาหลังจนทุเลาและรับงานทัวร์ต่อไป

ตอนนั้นก็คิดหนักเหมือนกัน เพราะหากเรายังดึงดันทำอาชีพนี้ต่อไป ก็มีแต่ส่งผลร้ายกับร่างกายของเรา แต่ทำยังไงได้ ก็ใจมันรักการเป็นไกด์ไปแล้วนี่ 555

การนำทัวร์ อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าคนทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นงานที่ง่าย แค่พานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใดที่หนึ่ง แล้วก็พูดไปเรื่อยๆแค่นั้น แต่ความเป็นจริงมันซับซ้อนกว่านั้นหลายเท่าตัวนัก

ขึ้นชื่อว่างานบริการ คือการทำงานเพื่อรองรับความต้องการที่มองไม่เห็น เพราะมันเป็นความรู้สึกเท่านนั้น แต่ไกด์ต้องทำให้มันออกมาเป็นภาพให้ได้ กล่าวคือคนที่เป็นไกด์นั้นจะต้องมีความสามารถในการเดาหรืออ่านใจคนออกว่าในอีก 10 นาที หรือในอนาคตอันใกล้ อะไรจะเกิดขึ้น ลูกค้าต้องการอะไร เราต้องเตรียมการไว้ก่อน

อย่างเช่น หากมีบางสถานที่ที่ไกด์ไม่เคยไป พอเราพาลูกค้าเข้าไปในสถานที่นั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องมองหาเป็นอันดับแรกนั่นคือ...ห้องน้ำครับ มักจะเป็นคำถามแรกเสมอ เพราะคนเราจะเข้าห้องน้ำเสมอหลังจากการเดินทางมายาวนาน

การะเป็นไกด์ที่ดีนั้น จะต้องมีองค์ประกอบหลายประการ เช่นคุณจะต้องเป็นนักประวัติศาสตร์ นักบริการ นักแปล Entertainer เป็นนักแสดง หรือแม้แต่เป็นพ่อครัวในบางครั้ง เรียกได้ว่าเป็นมันทุกอย่างแหละครับ 555

ในส่วนของงานด้านนี้ ถึงแม้ว่าผมอาจจะอยู่มาไม่นานมากนักเมื่อเทียบกับไกด์รุ่นใหญ่ แต่ผมก็แทบจะสัมผัสงานทัวร์มาทุกแขนง โดยแต่ละแขนงนั้นก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป แบ่งออกเป็นหลักๆคือ

ทัวร์ไทยเที่ยวไทย (Domestic) คือการพานักท่องเที่ยวไทยเที่ยวประเทศไทยนั่นเอง
ทัวร์ต่างชาติเที่ยวไทย (Inbound) คือการพานักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวประเทศไทย
และทัวร์ไทยเที่ยวนอก (Outbound) คือการพานักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวต่างประเทศ

ในคราวหน้าผมจะมาอธิบายถึงทัวร์แต่ละประเภทนะครับ

ขอขอบคุณที่สนใจในกระทู้นี้นะครับ
ขอบคุณครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่