คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
เหนื่อยแล้วหยุดทันที ไม่ควรทำ
กับการเผาผลาญ มาช่วยคิดแบบหยาบๆง่ายๆก็หัวใจยังเต้นอยู่มันก็ยังดำเนินการอยู่ (อ้างอิงจากโซนหัวใจกับการเผาผลาญพลังงาน) เช่นขณะวิ่งหัวใจอยู่โซน3 พอหยุด มันก็ยังเป็นโซน3อยู่ แต่ลดระดับลงมา ซึ่งจะลงเร็วและลดจนถึงแค่ไหนขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละคน พอคุณไปเริ่มวิ่งใหม่อีก หัวใจและโซนหัวใจก็จะเริ่มเร่งขึ้นมาอีกตามระดับความเหนื่อย
หากใช้การวิ่งนี้เพื่อควบคุมไขมัน ก็จะเกิดช่องว่างระหว่างวิ่งกับหยุดวิ่ง ช่วงความเหนื่อยหรือโซนหัวใจ เช่น ถ้าขณะวิ่งอยู่โซนแฟ็ตเบิร์นหรือโซน2 พอหยุดแล้วหัวใจมันตกลงมากลายเป็นพัก เราก็จะเสียเวลาไปฟรีๆตรงนี้เรียกว่าไม่ได้ประโยชน์ ประมาณว่าไหนๆก็เข้าฟิตเนสแล้ว จะให้เสียเวลาฟรี เหนื่อยฟรีไปทำไม ถึงแม้มันจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพลังงานก็เถอะกลับกันถ้าขณะวิ่งเป็นโซน3 พักเป็นโซน2 ก็ยังได้ประโยชน์จากการพักอยู่
เคยมีการเตือนเกี่ยวกับการยุดพักแบบฉับพลันระหว่างออกกำลังกาย แบบที่ท่านทำอยู่ว่าอาจทำให้เกิดหัวใจวาย หรือหัวใจเต้นผิดปกติ อาจทำให้เสียชีวิตได้ ไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่ลดความเสี่ยงที่จะเกิด ลองไปหาอ่านเอานะ
คำแนะนำคือ ควรเปลี่ยนจากหยุดเป็นเดิน คือมีแรงก็วิ่ง เมื่อยล้าก็ผ่อนลงมาเป็นเดินพอแรงกลับมาก็วิ่งต่อ = เดินสลับวิ่ง หัวใจทำงานต่อเนื่อง การเผาผลาญต่อเนื่อง เพิ่มความแข็งแรง +ความอดทน
แบบนี้น่าจะดีกว่านะ
กับการเผาผลาญ มาช่วยคิดแบบหยาบๆง่ายๆก็หัวใจยังเต้นอยู่มันก็ยังดำเนินการอยู่ (อ้างอิงจากโซนหัวใจกับการเผาผลาญพลังงาน) เช่นขณะวิ่งหัวใจอยู่โซน3 พอหยุด มันก็ยังเป็นโซน3อยู่ แต่ลดระดับลงมา ซึ่งจะลงเร็วและลดจนถึงแค่ไหนขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละคน พอคุณไปเริ่มวิ่งใหม่อีก หัวใจและโซนหัวใจก็จะเริ่มเร่งขึ้นมาอีกตามระดับความเหนื่อย
หากใช้การวิ่งนี้เพื่อควบคุมไขมัน ก็จะเกิดช่องว่างระหว่างวิ่งกับหยุดวิ่ง ช่วงความเหนื่อยหรือโซนหัวใจ เช่น ถ้าขณะวิ่งอยู่โซนแฟ็ตเบิร์นหรือโซน2 พอหยุดแล้วหัวใจมันตกลงมากลายเป็นพัก เราก็จะเสียเวลาไปฟรีๆตรงนี้เรียกว่าไม่ได้ประโยชน์ ประมาณว่าไหนๆก็เข้าฟิตเนสแล้ว จะให้เสียเวลาฟรี เหนื่อยฟรีไปทำไม ถึงแม้มันจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพลังงานก็เถอะกลับกันถ้าขณะวิ่งเป็นโซน3 พักเป็นโซน2 ก็ยังได้ประโยชน์จากการพักอยู่
เคยมีการเตือนเกี่ยวกับการยุดพักแบบฉับพลันระหว่างออกกำลังกาย แบบที่ท่านทำอยู่ว่าอาจทำให้เกิดหัวใจวาย หรือหัวใจเต้นผิดปกติ อาจทำให้เสียชีวิตได้ ไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่ลดความเสี่ยงที่จะเกิด ลองไปหาอ่านเอานะ
คำแนะนำคือ ควรเปลี่ยนจากหยุดเป็นเดิน คือมีแรงก็วิ่ง เมื่อยล้าก็ผ่อนลงมาเป็นเดินพอแรงกลับมาก็วิ่งต่อ = เดินสลับวิ่ง หัวใจทำงานต่อเนื่อง การเผาผลาญต่อเนื่อง เพิ่มความแข็งแรง +ความอดทน
แบบนี้น่าจะดีกว่านะ
แสดงความคิดเห็น
อยากสอบถามเรื่องการวิ่งค่ะ (พึ่งเริ่มต้น)
เราจดตารางเวลาการวิ่งตลอด วิ่งบนลู่ speed 6.7 สถิติวิ่งต่อเนื่องไม่พักเลย ได้ 35-40 นาที แต่เบื่อมากกก เหมือนแต่ละนาทีมันช้า ขาพร้อมจะล้า พร้อมจะหยุดตลอด แต่จะฝืนต่อเวลาจนสุดแรง สัก 5 นาที แล้วเดิน cool down
ทีนี้เราเปลี่ยนวิธีการวิ่งใหม่ ทำมาได้ 3-4 ครั้งแล้วค่ะ รู้สึกว่ามันเวิร์คสำหรับเราคือ วิ่ง 15 นาที แล้วเบรคแบบหยุดกึ้กเลย เอาขาเหยียบข้างๆสายพาน จิบน้ำ 1 นาที จากนั้นก้อวิ่งต่ออีก 15 นาทีหยุด 1 นาที ทำแบบนี้เป็นเซต กลายเป็นว่า เราสามารถวิ่งได้ 4-5 เซตเลยแล้วแต่ครั้ง เทียบเท่าว่าเราวิ่ง ได้ 60-75 นาที คือมันทำให้เราวิ่งได้ระยะทาง และใช้เวลานานขึ้นไปโดยปริยาย ที่สำคัญคือทำให้เราไม่เบื่อ เหมือนวิ่งแปปๆ 15 นาทีแระได้เบรคจิบน้ำแระ 5555
คำถามคือ.. สิ่งที่เราทำอยู่นี้ วิ่งๆหยุดๆ เป็นอันตรายต่อขาเราไหม
คือเราไม่ได้วิ่งเร็ว แต่ก้อแอบกังวล แล้วเราสังเกตเห็นคนอื่นเขาวิ่ง พอเหนื่อยเขาจะเริ่มเดิน แล้วกลับมาวิ่งใหม่ คือเราเคยทำแล้ว มันไม่เวิร์ค มันทำให้เราเหนื่อยกับเซตต่อไปมากขึ้น บางทีเราหยุดอยู่กับที่ พักเซตเกิน 1 นาที คือซัก 2-3 นาที แล้วกลับมาวิ่งอีก ล้าเลย!! คือเข้าใจว่า คงหยุดพักเกิน 1 นาทีไม่ได้สำหรับตัวเราอ่ะค่ะ คือเราไม่แน่ใจว่าที่ทำอยู่มันผลดีหรือเสีย อ่านมาก้อเยอะ ที่เค้าบอกว่าวิ่งไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด เด็วร่ายกายจะปรับโหมดให้ทนในการล้าได้เอง (อันนี้เคยลองแล้ว แต่อย่างที่บอกด้านบน คือมันเบื่อ เหมือนวิ่งไม่มีจุดหมาย 555 สุดท้าย เวลาเฉลี่ยที่ทนได้ไม่นานพอกับที่ทำเป็นเซต)
คืออยากทราบว่า.. การที่หยุดกึ้กเป็นเซตๆแบบนี้ มันส่งผลต่อการเผาผลาญไหม ที่เค้าบอกว่า 20 นาทีแรกจะใช้ไกลโตเจน กับคาโบ เผาก่อน หลังจากนั้น ถึงใช้ไขมัน แล้วเราหยุดเป็นเซตแบบนี้ คือมันยังเผาผลาญอย่างต่อเนื่องแบบที่เราอ่านมารึป่าวคะ หรือยังไง รบกวนผู้รู้อธิบายทีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล. มีผุ้รู้มาแนะนำข้อมูล เราเข้าใจผิดมาตลอดเรื่อง pace กับ speed.. ดังนั้น เราจึงวิ่งด้วยความเร็ว speed 6.7 ค่ะ วิ่งเหยาะๆ