[CR] Review ทำเลสิคแบบ SBK

กระทู้รีวิว
รีวิว ทำเลสิค ในชีวิตครั้งแรก และคงครั้งเดียว ^_^ !!
    ขอแบ่งเป็นสามช่วง คือ ช่วงหาข้อมูล, ช่วงที่ไปตรวจสายตาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และ ช่วงที่ไปทำเลสิคค่ะ
ช่วงที่หนึ่ง
    ก่อนจะทำเราก็หาข้อมูลอยู่ประมาณปีนึงได้ ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ว่าที่ไหนดี หมอไหนดี จะทำตาทั้งทีก็ต้องหาข้อมูลกันนานๆหน่อยเนอะ ตาเราคู่เดียว เพื่อนๆก็หาข้อมูลกันเยอะๆ นะคะ เอาที่เรามั่นใจที่สุดค่ะ

    จากการที่วนเวียนหาข้อมูลมานาน ก็มาสรุปที่ คุณหมอตุลยา ค่ะ (บอกก่อนเลยว่าไม่มีส่วนได้เสียใดๆทั้งสิ้นนะคะ และเสียตังค์เองแบบเต็มๆ เจ็บแบบจี๊ดๆ ฮ่าๆๆ) คือ เราจะหาคุณหมอก่อนหารพ.ค่ะ เพราะว่ายังไงก็ต้องมั่นใจในฝีมือคุณหมอก่อนเนอะ แต่ใครจะหาอะไรก่อนก็แล้วแต่สะดวกค่ะยิ้ม
    
    หลังจากนั้นก็มาหาข้อมูลว่าคุณหมอทำที่ไหนบ้าง และด้วยงบประมาณที่ตั้งไว้ สุดท้ายก็ลงเอยกับที่รพ.ปิยะเวท พระราม9 ค่ะ

ต่อกันช่วงที่สองเลยเนอะ
    ข้อมูลที่ได้มาก็คือสอบถามข้อมูล กับทางเลขาคุณหมอทาง Line เพื่อนัดวันตรวจว่าทำได้หรือไม่ เพื่อเป็นการทำใจในขั้นแรกก่อนที่จะต้องเสียตังค์จริงๆ > < !
    เนื่องจากเป็นมนุษย์ออฟฟิศ นั่งหน้าคอม จึงนัดตรวจเป็นหยุดเสาร์อาทิตย์ ได้วันที่ 3 มีนาคม 2561 แต่ว่าคุยขอรายละเอียด ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภา นะคะ เพราะเหมือนว่าคุณหมอจะมีคิวค่อนข้างเยอะ จึงควรนัดล่วงหน้าค่ะ (ใครติดต่อคุณหมอคนไหน ก็อย่าลืมเช็คคิวหรือว่าข้อมูลว่าจะต้องนัดล่วงหน้านานมั๊ย อยู่ในเวลาที่เราต้องการจะทำหรือไม่นะคะ)

วันที่ตรวจก็ไปที่รพ.ปิยะเวท
   - การเดินทาง ใครไปเองแนะนำให้ไปใต้ดินขึ้นที่สถานีเพชรบุรี ออกทางออกที่ 3 แล้วก็จะมีรถตู้ของรพ.จอดรอรับออกรถทุกๆชั่วโมงค่ะ
       -  การแต่งตัว วันตรวจแต่งได้ตามปกติเลยค่ะ ไม่มีข้อกำหนดอะไร ก็ใส่แว่นสายตาไป
   - ควรมีคนไปด้วยค่ะ ใครจะขับรถไปเองแล้วคิดว่าขับกลับได้ คิดผิดนะคะ เพราะจะมีการหยอดยาขยายม่านตาเพื่อตรวจด้วย ดังนั้น อีกสิ่งที่ต้องพกไปคือ แว่นกันแดดค่ะ สำคัญมากกกกกกเท่

    วันที่ไปรพ.ครั้งแรก ก็เดินเข้าไปทางขวามือ จะมีเค้าเตอร์ทำประวัติก่อน ยื่นแค่บัตรประชาชน ตรงนี้ยังไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วก็จะได้บัตรคนไข้มาหนึ่งใบ เค้าก็จะให้ขึ้นไปชั้น 6 จักษุ

เมื่อถึงแผนกจักษุแล้ว ตรงนี้ก็ยื่นบัตรคนไข้ พร้อมแจ้งว่านัดไว้มาตรวจตาก่อนทำค่ะ ยังไม่ทำวันนี้ (แต่ถ้าใครที่พร้อมจ่าย จะตรวจและทำวันเดียวกันก็ได้นะคะ แต่จขกท.ไม่พร้อม ฮ่าๆๆ) แล้วก็ตรงนี้เสียเงิน 100 บาทถ้วน เป็นค่าทำประวัติหรือค่าตรวจค่ะ เบามากเมื่อเทียบกับที่อื่นที่เช็คมาว่าถ้าตรวจแล้วทำคนละวันก็จะเสีย 500 อัพ แล้วแต่ที่เช็คกันดีๆนะคะ

การตรวจมีตามนี้ (อาจจะไม่เป๊ะนะคะ เพราะตอนนั้นไม่ได้จดไว้ ไม่คิดว่าจะมารีวิวอะไร แต่ตอบคำถามเพื่อน และเพื่อนก็บอกว่าทำเถอะ เป็นประโยชน์สำหรับคนหาข้อมูลอยู่) อ่ะต่อดีกว่า
- ตรวจวัดความดันที่แขนตามปกติ
- ตรวจมองบอลลูน ในห้องแรกจะมีสองเครื่อง ไม่แน่ใจเครื่องที่สองถัดจากบอลลูนว่าตรวจอะไร ขออภัย อมยิ้ม07
- แล้วก็ออกมารอเข้าห้องที่สอง ตรวจอ่านตัวเลข ปิดตาซ้ายขวา ตามปกติ
- ต่อด้วยหยอดยาขยายม่านตาค่ะ เคยได้ยินพ่อเล่าว่าจะแสบมาก ก็เพิ่งเข้าใจพ่อวันนี้ แสบจริงๆค่ะ แต่ก็จะไม่นานมาก แต่จะค่อยๆสู้แสงไม่ได้นะคะ นี้คือเหตุผลที่ต้องนำแว่นกันแดดมาใส่ค่ะ
- ห้องที่สาม ขอเรียกว่า ห้องมืด เพราะตอนตรวจมันมืดน้า เพราะเค้าปิดไฟ โป๊ะ (มุกสามบาทสี่บาทก็เล่นนิดนึง คลายความกังวล สำหรับคนที่จะไปตรวจเนอะ อิอิ) ก็จะเป็นห้องวัดความหนากระจกตา จะมีสองเครื่องเหมือนห้องแรก แต่ชุดใหญ่ไฟกระพริบมากกว่า อาจจะสะดุ้งนิดหน่อย เพราะมีลมเป่าตา ทำตามที่พยาบาลบอกว่ามองตาไปทางไหน หลับตาข้างไหน ซึ่งจะเร็วมาก ฟังแล้วก็ทำตามวนไปค่ะ
- จบแล้วก็รอพบคุณหมอ เพื่อฟังผลว่าจะสามารถทำได้รึป่าว
- พบหมอ หมอจะส่องตรวจตานิดหน่อย กระจกตาหนาปกติ หนาดีทำแบบ SBK ได้ เย้ ผลคือ คุณ ณ ณ ณ .​ . ทำได้นะคะ จบคำหมอ ก็ยิ้มแก้มปริ ปนน้ำตาซึม นานาเล่นน้ำ ได้เสียตังค์สมใจแล้วสินะ ฮ่าๆๆ !!แต่ๆๆ ยังไม่จบแค่นี้นะคะ หมอแจ้งว่าต้องไปตรวจกับคุณหมอเฉพาะทางจอประสาทตาอีกที ว่ามีปัญหาเรื่องจอประสาทตาหรือไม่ ถ้ามีก็อดทำน้า คุณหมอกล่าว งือออ ใจแป้วลงมาหน่อยนึงค่ะ ดีใจได้ไม่นาน ฮ่าๆ
- หลังจากหยอดตาแล้วจะมีพยาบาลพาเดินตลอดค่ะ เพราะเกรงว่าเราจะมองไม่ถนัด ไปห้องถัดไปค่ะ เจอกับคุณหมอน่ารักเป็นหมอเฉพาะทาง ก็เอาคางทาบปกติ หมอจะมีไฟส่องตาดูจอประสาทตา เป็นครั้งแรกที่มองเห็นเส้นเลือดฝอยบนตาตัวเองเป็นเหมือนภาพมันวิ้งๆ เห็นลอยๆ หมอก็จะบอกให้มองซ้ายบน บน ขวาบน ขวากลาง ขวาล่าง ล่าง อะไรไปตามลำดับทีละข้างค่ะ ผลคือไม่มีปัญหาอะไร ทำได้ เย้ๆๆ โล่งแล้วเรา
- SBK คือ แยกชั้นกระจกตาด้วยใบมีด(PRK+Lasik)

    จบขั้นตอนแล้วก็นัดวันทำได้เลย คือช่วงประจวบเหมาะเราจะมีไปเที่ยวทะเลต้นเดือนพฤษภาคมพอดี ตอนนี้ต้นเดือนมีนาคม ทำให้จะต้องเว้นหลังทำตา 1 เดือน ถึงจะลงน้ำได้ จึงเลือกเป็นวันสิ้นเดือน 31 มีนาคม 2561 ค่ะ ซึ่งหมอคิวได้อยู่ ไม่งั้นต้องรอไปอีกสองสามเดือนเลย แอบโดนแม่บ่นนิดนึงว่า จะเอาพอดีเลยหรอ แต่คุณหมอช่วยคอนเฟิร์มว่าได้ก็เลยโอเคค่ะ ผ่านด่านหมอ ผ่านด่านแม่ และผ่านด่านเงินตัวเอง ก็จัดไปค่า รออะไร เพื่อโลกที่สดใสอีกครั้งminiheart

    ปล. สายตาก่อนทำ 375 กับ 450 ค่ะ การทำหมอบอกว่าสบายมาก ฟังคุณหมอก็สบายใจขึ้นระดับนึงค่ะ

ช่วงที่สาม (ช่วงที่สำคัญที่สุด)
ข้อที่ต้องปฏิบัติก่อนทำ ประมาณนี้นะคะ
- งดคอนแทคเลนแบบแข็ง 7 วัน แบบนิ่ม 3 วัน
- ใส่เสื้อแบบกระดุมหน้าไป ห้ามแต่งหน้า ฉีดน้ำหอม เด็ดขาด เพราะจะมีผลต่อเครื่องยิงเลเซอร์ ยอมหน้าสดวันนึงเนอะ
- สระผมก่อนนะคะ เพราะจะต้องงดไปหลายวัน

ก่อนทำ อย่าดูรีวิวใดๆ แบบละเอียด ว่ามันมีอุปกรณ์ขั้นตอนใดบ้างเป็นวีดิโอเป็นภาพ จะทำให้เรากังวล (อันนี้เราเป็นนะ คืออ่านเจอจากรีวิวอื่น เลยแบบเอาว่ะ ไม่ดู ทำเสร็จแล้วค่อยดูล่ะกัน 😄) เพราะจริงๆ เวลาทำเราจะไม่เห็นภาพเหมือนตอนที่เราดูนะ

    วันที่ตื่นเต้นมาถึงแล้ว ฮึบ มือแอบเย็นเบาๆ ก็ขึ้นไปชั้น 6 ก่อน แล้วเค้าจะให้ใบลงมาจ่ายเงินที่ชั้น 1 ค่ะ ตอนรอจ่ายเงินและรับยา รอเรียกตามเลขคิวที่เราได้นะคะ ไม่ต้องตกใจแบบจขกท. ว่าเอ้ยเลยไปแล้วรึป่าว ปรากฎว่าอ่อ เค้าไม่ได้เรียงลำดับนะจ้ะ แต่จะอยู่ที่การจัดยาว่าคิวใครจะเสร็จก่อน เภสัชก็จะอธิบายการใช้ยาแต่ละชนิด พูดเร็วมา ฟังไม่ทันก็ถามได้นะคะ เภสัชน่ารักเหมือนหนูนา หนึ่งธิดาเลย แอบมองชื่อเบาๆ ว่าเอ๊ะ ชื่ออะไร อิอิ
    เนื่องจากพี่พยาบาลแจ้งให้ทานข้าว หรือหาขนมปังขึ้นมาทานนะ เพราะว่าผ่าเสร็จแล้วต้องทานยาแก้ปวด มีหลายคนจะมวนท้องค่ะ ก็เลยแวะซื้อขนมปังชั้น 1 ขึ้นมาทาน
    เรียบร้อยก็หอบถุงยาขึ้นไปที่ชั้น 6 ค่ะ พยาบาลจะพาไปยังห้องล้างหน้าล้างตา เพื่อทำความสะอาดหน้า (จขกท. แอบเขียนคิ้วมาเบาๆ ก็ยังโดนลบนะคะ ฮ่าๆๆ โหมดขาดคิ้วไม่ได้) ล้างไม่สะอาดยังไงก็โดนไปเช็ดบนเขียงก่อนอยู่ดีค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ หัวเราะ
    พยาบาลจะเอาชุดสีชมพูมาให้ใส่ (ใส่ให้มากกว่า) พร้อมให้ใส่ที่คลุมผม และไม่ต้องรัดผมนะคะ เพราะว่าต้องนอนราบไปกับเขียง เดี๋ยวจะเจ็บหัวค่ะ เสร็จแล้วก็หยอดยาชารอเข้าห้องผ่าตัด ระหว่างนี้ก็จะมีการอธิบายการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแล้ว ก็ทานขนมปังไประหว่างฟัง หลักๆก็จะตามนี้ค่ะ

    ได้เวลาขึ้นเขียงค่ะ มีพยาบาลสามคนหรือสองคนไม่แน่ใจ แล้วก็คุณหมอประจำที่ พยาบาลจะคอยบอกให้ค่อยๆนอนลงแล้วไถ่ตัวขึ้นเพราะเดี๋ยวล้มนอนแล้วหัวจะโป๊กเครื่องมือได้นะคะ เห็นจอใหญ่ปลายเตียงคงเป็นภาพฉายตาให้คุณหมอได้เห็นตอนผ่าตาเรา ตอนนอนก็จะมีผ้าห่มตัวไว้ค่ะ มือเย็นมาก ทำตาซ้ายเอามือซ้ายบีบมือขวา ทำตาขวาเอามือขวาบีบมือซ้าย บีบสลับไปมา พยาบาลก็จะอธิบายให้มองจุดแดงเขียว ดังนั้นต้องมีสติมากๆ ส่วนเราท่องในใจว่า แกมีตาคู่เดียวๆๆ ท่องไปจ้องไปค่ะ อย่าให้รู้สึกว่ากรอกตาไปไหน พยาบาลจะแจ้งเราว่าเสียเครื่องแยกชั้นกระจกตาเป็นเสียงแบบนี้ดังหน่อย กลิ่นการทำเลสิคเป็นกลิ่นนี้นะ ไหม้แบบ ไม้ตียุงช็อตอ่ะ ไหม้มาก หมอก็เริ่มแปะขนตาบนล่าง พร้อมใส่ที่ถ่างตา ดังนั้นกระพริบไม่ได้แน่นอน และหยอดยาชา สี่หยดได้ ระหว่างที่เปิดชั้นกระจกตาจะมองไม่เห็นอะไร แต่ยังไงก็ต้องจำจุดแดงเขียวไว้นะคะ ท่องไว้ค่ะตาคู่เดียวๆๆ หรือใครจะท่องอะไรก็ได้เพื่อให้มีสติมากที่สุด พอเสร็จแล้วหมอจะปิดกระจกตา พร้อมค่อยๆเอาเครื่องมือออก แล้วก็เรียบร้อยค่า ออกมานั่งรอ ระหว่างรอพยาบาลจะมาถอดชุดและที่คลุมผมออก รวมกับการหยอดยาที่ได้มากับน้ำตาเทียม แล้วก็ปิดที่ครอบตาค่ะ ไม่ต้องพยายามแอบส่องแอบมองเธออยู่นะจ้ะ ผ่านรูเล็กๆน้า หลับตาไว้ก่อน รอหมอเช็คแผลหลังผ่า ถ้าไม่มีรอยย่นอะไรก็โอเค รอรถเข็นมารับไปชั้น 1 รอเรียกรถกลับบ้านค่ะ
ตรวจหลังทำหนึ่งวัน
วันรุ่งขึ้นหมอก็จะนัดมาดูแผลค่ะ ได้เช็คกับหมอผู้หญิงอีกคน วัดค่าสายตาก็ยังไม่แจ่มมากนัก พบหมอ หมอก็ทาสีที่ด้านในตาล่าง เหมือนย้อมสีเพื่อดูแผล ก็โอเคนะคะ หมอบอกว่าแผลดีแล้ว นัดอีกที 1 สัปดาห์ค่ะ

ข้อควรปฏิบัติ 1 สัปดาห์แรก
- ห้ามตาโดนน้ำ 7 วันเด็ดขาด เพราะว่าเป็นช่วงที่แผลอาจจะยังไม่สนิทดี เนื่องจากมีการแยกชั้นกระจกตา เป็นช่วงที่แผลจะติดเชื้อง่ายที่สุด
- ขยันหยอดน้ำตาเทียมทุกชม.
- หยอดยาแก้อักเสบสี่เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
- ปิดที่ครอบตาทุกคืนก่อนนอน
- ทำความสะอาดรอบดวงตาด้วยน้ำเกลือเท่านั้น และห้ามหยดลงในตานะคะ
- วันแรกที่กลับไปแนะนำให้นอนๆๆ และนอนค่ะ รอตื่นเข้ามาแกะที่ครอบตาออก อ่อ แต่อย่าลืมทานยาแก้ปวดไปนะคะ สองสามวันแรกทานได้ก็ทานไปก่อน แต่ถ้าไม่ปวดก็ไม่ต้องทานก็ได้
- วีคแรกแนะนำให้ใส่แว่นดำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ เพื่อป้องกันดวงตาของเราเอง
- ปล. เราก็แอบล้างโฟมที่แก้มกับหน้าผากนะ เพราะว่ามันไม่ไหวจริงๆ แต่ก็ต้องระวังมากจริงๆนะคะ เบามือและค่อยๆเช็ดออก ปลอดภัยไว้ก่อนนะคะ ท่องไว้ อดทนค่ะ อดทน ฮึบๆ

ตรวจตาหลังทำหนึ่งสัปดาห์
    คราวนี้ได้เช็คเรื่องค่าสายตาเหมือนเดิม ดีขึ้นเยอะกว่าวันที่สองหลังทำค่ะ หมอบอกว่าแผลสวยแล้ว แต่งตาได้แล้วนะ (แต่จขกท.ไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไหร่ ก็ไม่ดีใจอะไรมากนัก แค่ดีใจที่แผลโอเคแล้ว) ส่วนแสงกระจายนั้นข้ึนกับสายตาแต่ละคนนะคะ จขกท. หมอบอกว่าก่อนทำมองแสงกระจายอยู่แล้ว หลังทำอาจจะไม่ได้หายไป แต่ ณ ตอนนี้ผ่านมาเดือนนึง ดีขึ้นทุกวันค่ะ วันล่ะนิดรู้สึกได้ว่าดีขึ้นค่ะ จะสังเกตได้ในตอนกลางคืนชัดเจนกว่ากลางวัน พวกแสงไฟรถ แสงจากเสาไฟค่ะ

    อ่อลืมบอก แต่จขกท.ไปตรวจจริงๆคือสิบวันนะคะ เนื่องจากไม่สะดวก ระหว่างนั้นก็เลยอดทนปิดตานอนต่อ เพราะเราไม่รู้เลยว่าแผลดีจริงรึยัง เซฟตัวเองไว้ก่อน พอดีสำลีและน้ำเกลือเหลือด้วย

    ขอแนะนำว่าตรวจตรงเวลาได้ก็จะดีกว่านะคะ แล้วก็ถ้าใครตาแห้งมากๆ ก็หยอดน้ำตาเทียมวนไปนะคะ เราก็หยอดบ่อยอยู่ในครึ่งเดือนแรก เพราะทำคอมทั้งวันด้วย แต่จะครบเดือนตาก็ไม่ค่อยแห้งมากแล้ว วันนึงหยอดสองสามครั้งไม่เกิน

    ทิ้งท้าย ดีใจกว่าแต่งตาได้ คือ ถามหมอว่า “แล้วเดือนหน้าหนูจะเล่นน้ำทะเลได้มั๊ยคะ” หมอตอบทันควันว่า “ได้สิ ได้เลย สบายม้าก แต่ว่าต้องงดว่ายน้ำ 1 เดือนนะ” เลยบอกหมอว่า โอเคค่ะ อยากจะกระโดดกอดหมอเลย ฮ่าๆๆ

ส่วนราคา
ราคานั้นขึ้นกับการจัดโปรโมชั่นของแต่ละที่และแต่ล่ะช่วงค่ะ ต้องสอบถามเองอีกทีนะคะ แต่ที่จขกท.ทำคือ 37,900 บาทค่ะ รวมทุกอย่างแล้ว ไปตรวจก็ไม่ต้องเสียอะไรแล้วค่ะ นอกจากค่ารถเค้าล้อเล่น

ถ้าผิดพลาดยังไง ตกหล่นตรงไหน หรืออ่านไม่รู้เรื่อง ก็ขออภ้ยกับกระทู้รีวิวแรกด้วยนะค้า ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ลองถามไว้ใต้กระทู้นี้ดูนะคะ จะพยายามเข้ามาตอบให้ค่ะ หรือทิ้งอีเมลไว้ก็ได้ค่ะ

ปิดการรีวิวไปด้วยภาพทะเลสวยๆนะคะ ดำน้ำสบาย ไร้กังวล อิอิ. . โลกสดใสแล้ว ใส่มาตั้ง 18 ปีแล้ว ยังไงขอให้ทุกคนหาข้อมูลเยอะๆนะคะ เอาที่คิดว่าเรามั่นใจจริงๆ จขกท.เพียงแค่อยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเท่านั้นค่าอมยิ้ม02
ชื่อสินค้า:   เลสิค แบบ SBK รพ.ปิยะเวท
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่