สวัสดีค่ะ^^ วันนี้ขอมารีวิวการทำเลสิกแบบ SBK Wavefront ของโรงพยาบาลปิยะเวทนะคะ
ขอแยกเป็น 3 หัวข้อนะคะ
1. ทำไมถึงทำเลสิก
2. ทำไมถึงทำเลสิกที่รพ.ปิยะเวท
3. ขั้นตอนและความรู้สึกก่อน/ระหว่าง/หลังทำ
****ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัว ข้อมูลบางอย่างหาจาก Google อาจถูกหรือผิดบ้าง ขออภัยล่วงหน้านะคะ****
****หากใครมีข้อมูลที่ถูกต้องสามารถแจ้งให้แก้ไขได้นะคะ ขอบคุณค่ะ****
1. ทำไมถึงทำเลสิก
อย่างแรกสายตาสั้นค่ะ 555 คือต้องย้อนไปก่อนประมาณ 2 ปีที่แล้ว ปกติของคนใส่แว่นเนอะ บางทีอยากสวยก็ต้องใส่คอนแทคเลนส์บ้าง
ซึ่งเราไม่ได้ใส่ทุกวันนะคะ ไปทำงานก็ใส่แว่นปกติ จะใส่คอนแทคเลนส์เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และไม่เคยใส่ข้างคืนค่ะ
จนวันนึงเรายืนอยู่รินถนน กำลังจะโบกรถ เฮ้ย ทำไมมองไม่เห็นทั้งที่ใส่แว่นปกติ เลยคิดว่าสงสัยสั้นเพิ่มอีกแล้ว
เลยไปร้านแว่นค่ะ ไปประมาณ 3 ร้าน ทั้งร้านดัง ร้านไม่ดัง อาการคือเครื่องวัดสายตาวัดค่าสายตาเราไม่ได้เลย คือค่าเพี้ยนไปหมดค่ะ
วัดแต่ละรอบไม่เท่ากันเลยสักรอบ แต่ละร้านพูดเหมือนกันค่ะว่าลองไปหาจักษุแพทย์ ตาน่าจะมีปัญหาแล้ว
ตอนนั้นใจเสียเลยนะคะ ความรู้สึกแบบใส่แว่นแต่ก็เห็นไม่ชัด แล้วไม่รู้ว่าผิดปกติอะไรที่ตรงไหน
จากนั้นเลยไปพบคุณหมอค่ะ สรุปกระจกตาเป็นแผล คุณหมอบอกว่าเหมือนเวลาผิวเราแห้งจนแตก ตาก็เหมือนแบบนั้นค่ะ
ทั้งๆที่เรามั่นใจเลยว่าเราน้ำตาเยอะมาก หาวทีน้ำตาจะไหลต้องเช็ดทุกครั้ง ซึ่งคุณหมอบอกสาเหตุเป็นเพราะคอนแทคเลนส์
ตั้งแต่นั้นมาก็รักษาตามาตลอดค่ะ 2 ปี หยอดยารักษา มีแอบใส่คอนแทคเลนส์อยู่ 2 ครั้ง คืองานบวชแฟนกับงานแต่งเพื่อน
นอกนั้นสาวแว่นเลยค่ะ จนช่วงกลางปีเริ่มสั่งเกตตัวเอง เวลาถ่ายรูปเซลฟี่ เราก็จะถอดแว่น แล้วก็มองกล้อง คือด้วยระยะมันใกล้
เราก็ต้องเห็นรูกล้องที่จะถ่ายถูกมั๊ยคะ ปรากฎว่าทุกรูปที่ออกมา คือตาไม่มองกล้องค่ะ คือเหมือนตาไม่โฟกัสค่ะ
*อันนี้อธิบายตามความรู้สึกเรานะคะ* ทุกรูปที่ถ่าย ตามันเอียงๆค่ะ แบบเหมือนเรามองรูอื่นไม่ใช่รูกล้อง พอเข้าใจมั๊ยคะ?
แต่พอใส่แว่นถ่ายเวลาหันข้าง ตาจะเอียงไม่เท่ากันค่ะ เหมือนตาขวาเอียงไปละ180องศา ตาซ้ายอยู่ที่160องศา ประมาณนี้ค่ะ
พอถึงเวลาตรวจตาตามนัดจึงแจ้งคุณหมอ คุณหมอบอกว่าเพราะเลนส์กระจกแว่นหนาด้วยส่วนนึง และสั้นเยอะด้วย
**จริงๆคุณหมออธิบายละเอียดค่ะ แต่เราฟังแล้วงงๆ55 เลยจับใจความมาประมาณนี้
คุณหมอเลยแนะนำไปทำเลสิกค่ะ บอกตาดีขึ้นไม่มีรอยแล้ว อีกอย่างต่อไปคงอยากใส่คอนแทคเลนส์แน่ๆ ไปทำเลยจะได้จบ
เราเลยให้คุณหมอแนะนำค่ะว่าทำแบบไหนดี อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวของคุณหมอนะคะ
เนื่องจากเพื่อนเราเพิ่งทำแบบ ReLEx SMILE ไป เราจึงสนใจจะทำแบบนี้ ซึ่งคุณหมอบอกทำเลสิกธรรมดาพอค่ะ
ที่คุณหมอไม่แนะนำเพราะว่าคุณหมอไม่กล้ารับประกันผลข้างเคียง คืออย่างเลสิกมันมีมาหลายปีมากๆแล้ว
เรารู้ว่ามันมีผลอะไรอย่างไรบ้าง แต่ ReLEx SMILE มีมาไม่ถึง 10 ปี คือมันยังค่อนข้างใหม่ แต่คุณหมอให้ตัดสินใจเองนะคะ
คุณหมอก็ว่ามันดีที่แผลเล็ก ไม่รบกวนตามากค่ะ
ขั้นตอนต่อไป คือหาราคา สถานที่ และรายละเอียดอื่นๆค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.ทำไมถึงทำเลสิกที่รพ.ปิยะเวท
ขั้นแรกคือหาราคา ReLEx SMILE บอกตรงๆยังไม่ตัดใจจากวิธีนี้ ซึ่งมี 2 ที่ค่ะ ที่เราว่าราคาโอเค แต่ติดที่ไกลจากบ้าน
ถ้าต้องนัดตรวจ Follow up แล้วต้องขับไกลตลอดก็ไม่ไหว
ราคา ReLEx SMILE ที่เราเจอถูกสุดนะคะ ราคาอัพเดทเดือนกันยายน 60 ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงพยาบาลจุฬา 73,100 บาท
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า 80,000 บาท
ตอนแรกคิดนะคะ ทำดีมั๊ย ขับรถไกลปีละ 6-7 ครั้ง ก็พอได้นะ จนมาอ่านพันทิปนี่ละคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จำกระทู้นั้นไม่ได้แล้ว ที่ว่าตาคนเรามีคู่เดียว ควรจ่ายกับมัน แต่อย่าลืมว่าเราก็มีจมูกกับหน้าอกเหมือนกัน
ต้องแบ่งเงินไว้ส่วนนี้บ้าง 555 จำคำพูดเป๊ะๆไม่ได้นะคะ
เลยคิดว่าเออ ทำมันธรรมดานี่แหละ มันไม่ได้แย่ซะหน่อย คนอื่นก็ทำเยอะแยะ
เลยเริ่มหาข้อมูลเลสิกค่ะ อันดับแรกเลยนะคะ ดูราคา จากกระทู้นี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/35836273
บอกก่อนว่าเราดูทั้งแบบเลสิกและ Femto เนื่องจากเราสามารถเบิกค่ารักษาได้ แต่การทำเลสิกคือการทำศัลยกรรม เบิกไม่ได้
เราเลยเปรียบเทียบทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนค่ะ
** อันนี้ความเห็นส่วนบุคคลแล้วนะคะ เรามองที่รีวิวและใกล้บ้าน บางทีดังแต่ไกลเราก็ไม่เอามาเป็นตัวเลือกนะคะ
** ราคาควรอัพเดทอีกทีนะคะ เพราะเราถามช่วงสิงหา - กันยายน 60 ค่ะ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
** บางที่เปิดแยกจากโรงพยาบาล แต่ใช้คุณหมอของโรงพยาบาลเรานับเป็นเอกชนนะคะ
อันดับแรก โรงพยาบาลรัฐ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มี 2 โรงพยาบาลที่เราสนใจ คือ
1.โรงพยาบาลกลาง
2. โรงพยาบาลตำรวจ
อันดับที่ 2 โรงพยาบาลเอกชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. โรงพยาบาลรามา Femto55,000 ค่าตรวจและค่ายาจ่ายแยก
2.โรงพยาบาลลาดพร้าว เลสิก38,000
3.โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์-วัดไร่ขิง สาขา สุขุมวิท เลสิก35,000 Femto55,000
4.โรงพยาบาลเวชธานี Femto59,000
5.โรงพยาบาลปิยะเวท เลสิก/sbk37,900
6.รัตนิน เลสิก62,000-79,000 Femto99,000
7.ศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ เลสิก48,000 Femto77,000 **ตอนที่ตั้งกระทู้มีแบบ SBK48,000 แล้วนะคะ
8.โรงพยาบาลวิภาวดี เลสิก49,000
เนื่องจากไปโรงพยาบาลรัฐราคาแทบไม่ต่างกับเอกชนเลยและคิวก็นาน เราเลยไปตัดสินใจที่เอกชนค่ะ
ซึ่งเราตัดลิสที่เป็นเลสิกออก แล้วเลือกแล้วดูรพ.ที่เป็นราคาเรียงจากต่ำไปสูง รวมค่าเก็บยิบย่อยสำหรับที่อื่นด้วยนะคะ
ก็จะมี โรงพยาบาลปิยะเวท ที่ราคาถูกสุดและเป็นแบบเหมาจ่ายแล้วค่ะ
ขั้นตอนต่อมาคืออ่านรีวิวค่ะ ถ้าถูกและดีรีวิวน้อยก็ไม่เอาค่ะ
อ่านรีวิวมีคุณหมอ 2 ท่าน คือคุณหมอตุลยา และคุณหมอชลธิชา ที่มีรีวิวนะคะ
อันดับแรกจองคุณหมอตุลยาค่ะ ซึ่งเดือนตุลา คุณหมอมีคิวว่างเหลือแค่วันจันทร์ และวันพฤหัสวันนึง
วันพฤหัสคือวันที่ 19 ค่ะ แต่เราจะไปงานที่สนามหลวงกลัวตาจะกระเทือน อยากทำก่อนสักอาทิตย์นึง
เลยเป็นคุณหมอชลธิชาค่ะ (คุณหมอเข้าวันอาทิตย์ - พฤหัส)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ขั้นตอนและความรู้สึกก่อน/ระหว่าง/หลังทำ
เนื่องจากไปตรวจ 9.30 ถ้าทำได้ก็ขอทำเลย วันไปทำเลยไม่ทาครีม แต่งหน้า ใส่เสื้อกระดุมหน้าไปเลยค่ะ
ใช้เวลาตรวจถึงประมาณ11โมง แล้วหยอดยาขยายม่านตา ไปทานข้าวครึ่งชั่วโมง กลับมาม่านตาขยายพอดี
ตรวจเสร็จ คุณได้ไปต่อค่ะ เข้าพบคุณหมอ ได้ทำแบบ SBK ตามที่ตั้งใจเลยค่ะ
คราวนี้คุณหมอนัดอีกทีบ่าย 2 ให้ม่านตาหดค่ะ ระหว่างนี้ก็ไปเคลมประกันรถกับคุณแฟน ชิวมากค่ะ
เรื่องรีวิวรายละเอียด เราอ่านกระทู้ของ 2 ท่านนี้เราว่าระเอียดดีนะคะ ขออนุญาตแปะ
https://ppantip.com/topic/32107198
https://ppantip.com/topic/36321892
**รีวิวของเราขอเน้นความรู้สึกนะคะ ถ้าขั้นตอน อ่านกระทู้ 2 ท่านนี้เลยค่ะ
เนื่องจากเราอ่านหลายรีวิว แล้วเจ็บมั่งอะไรมั่ง คือบอกตรงๆว่ากลัวนะก่อนไปทำ รีวิวของเราขอให้กำลังใจเพื่อนๆค่ะ
สิ่งที่แสบที่สุดคือยาชาค่ะ คือพยาบาลบอกชาแล้วนะคะ แต่ไอ้ชาแล้วเนี่ย หยอดกี่ทีก็ยังรู้สึกว่าแสบอยู่เลยค่าาาาาาาา
สิ่งที่เจ็บที่สุดคือเครื่องถ่างตาค่ะ รู้สึกเหมือนอะไรมาครูดตาขาว แล้วขยี้ไม่ได้ เจ็บแปปเดียวแหละค่ะ
สิ่งที่มันส์ที่สุดคือตอนเลเซอร์ตาค่ะ ตามที่คนอื่นบอกค่ะ เหมือนเอาที่ช๊อตยุงมาเปรี๊ยะๆตรงตา ซึ่งเราชอบมาก 555
อยากบอกคุณหมดว่าทำต่อก็ได้นะคะ กำลังมันเลย
สิ่งที่กลัวที่สุดคือเสียงเครื่องข้างๆหัวนี่แหละค่ะ ดังทีไรสะดุ้งตลอด
สิ่งที่วิตกตามคนอื่น คือหลังทำบางคนเจ็บ น้ำตาไหลนั่นนี่ แต่ตัวเองไม่เจ็บค่ะ สักนิดก็ไม่มี คือแค่ตามัวๆ
เวลากระพริบตาเหมือนมีอะไรอยู่ในตา แต่เราไม่เคืองนะคะ น้ำตาก็ไม่ไหล กินข้าว อาบน้ำ นอนหลับปกติ
หลังทำถามว่าตาแห้งมั๊ย คือเราเป็นคนติดตาหยอดตา ถ้าอยู่บ้านนี่หยอดทุก 10 นาที แต่มาทำงาน 20 - 30 นาทีครั้ง
ไม่รู้สึกตาแห้งเลยนะคะ แต่ใส่แว่นกันแดดตลอดเหมือนกัน แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ 555
ตอนนี้ตาสู้แสงได้มั๊ยหลังจากทำมา 3 วัน คือสู้ได้นะคะ นี่ก็ขับรถเจอไฟรถได้ แต่รู้สึกว่าไฟรถจ้าๆเหมือนกัน คงต้องลองดูหลังจากนี้เดือนนึงค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้เป็นข้อสังเกตเพิ่มเติมของเรานะคะ
1. บางโรงพยาบาลที่เราสอบถาม ถ้ามีแก้สายตาเอียงด้วย คิดค่าแก้นะคะ ที่ถามคิดข้างละหมื่นห้าค่ะ เราเลยตัดไป
ราคานี้เราว่าทำ ReLEx SMILE ไปเลยดีกว่า
2. SBK กับ Femto เป็นการทำที่กระจกตาชั้นเดียวกันค่ะ แต่ว่าจะตื้นกว่าแบบเลสิก ทำให้เคืองตาน้อยกว่าเลสิกและหายเร็วกว่าด้วย
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดแจ้งมาได้นะคะ) ถ้าจำไม่ผิดเป็นชั้น sub bowman ค่ะ แต่เลสิกจะเป็นอีกชั้นนึง ทำให้โรงพยาบาลที่มี Femto
จะไม่มี SBK ค่ะ
**ถ้าเขียนแล้วงงๆขอโทษด้วยนะคะ เราไม่ได้กะจะรีวิว เพราะเราว่าในพันทิปมีรีวิวเยอะแล้ว แต่เราแค่รู้สึกว่าบางทีพันทิปทำเราจิตตก
ก็เลยอยากมาบอกเพื่อนๆว่าไม่มีอะไรที่น่ากลัวและเจ็บเลย ไม่ต้องคิดมากค่ะ สำหรับเพื่อนที่ดู Final Destination แบบเราแล้วจะไปทำ
มันไม่มีแบบในหนังแน่นอนค่ะ แต่อย่าเพิ่งไปดูขั้นตอนการทำนะคะ จนถึงตอนนี้เราไม่ดูขั้นตอนทำเลยค่ะ
[CR] รีวิวการทำเลสิคกับคุณหมอชลธิชา รพ.ปิยะเวท
ขอแยกเป็น 3 หัวข้อนะคะ
1. ทำไมถึงทำเลสิก
2. ทำไมถึงทำเลสิกที่รพ.ปิยะเวท
3. ขั้นตอนและความรู้สึกก่อน/ระหว่าง/หลังทำ
****ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัว ข้อมูลบางอย่างหาจาก Google อาจถูกหรือผิดบ้าง ขออภัยล่วงหน้านะคะ****
****หากใครมีข้อมูลที่ถูกต้องสามารถแจ้งให้แก้ไขได้นะคะ ขอบคุณค่ะ****
1. ทำไมถึงทำเลสิก
อย่างแรกสายตาสั้นค่ะ 555 คือต้องย้อนไปก่อนประมาณ 2 ปีที่แล้ว ปกติของคนใส่แว่นเนอะ บางทีอยากสวยก็ต้องใส่คอนแทคเลนส์บ้าง
ซึ่งเราไม่ได้ใส่ทุกวันนะคะ ไปทำงานก็ใส่แว่นปกติ จะใส่คอนแทคเลนส์เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และไม่เคยใส่ข้างคืนค่ะ
จนวันนึงเรายืนอยู่รินถนน กำลังจะโบกรถ เฮ้ย ทำไมมองไม่เห็นทั้งที่ใส่แว่นปกติ เลยคิดว่าสงสัยสั้นเพิ่มอีกแล้ว
เลยไปร้านแว่นค่ะ ไปประมาณ 3 ร้าน ทั้งร้านดัง ร้านไม่ดัง อาการคือเครื่องวัดสายตาวัดค่าสายตาเราไม่ได้เลย คือค่าเพี้ยนไปหมดค่ะ
วัดแต่ละรอบไม่เท่ากันเลยสักรอบ แต่ละร้านพูดเหมือนกันค่ะว่าลองไปหาจักษุแพทย์ ตาน่าจะมีปัญหาแล้ว
ตอนนั้นใจเสียเลยนะคะ ความรู้สึกแบบใส่แว่นแต่ก็เห็นไม่ชัด แล้วไม่รู้ว่าผิดปกติอะไรที่ตรงไหน
จากนั้นเลยไปพบคุณหมอค่ะ สรุปกระจกตาเป็นแผล คุณหมอบอกว่าเหมือนเวลาผิวเราแห้งจนแตก ตาก็เหมือนแบบนั้นค่ะ
ทั้งๆที่เรามั่นใจเลยว่าเราน้ำตาเยอะมาก หาวทีน้ำตาจะไหลต้องเช็ดทุกครั้ง ซึ่งคุณหมอบอกสาเหตุเป็นเพราะคอนแทคเลนส์
ตั้งแต่นั้นมาก็รักษาตามาตลอดค่ะ 2 ปี หยอดยารักษา มีแอบใส่คอนแทคเลนส์อยู่ 2 ครั้ง คืองานบวชแฟนกับงานแต่งเพื่อน
นอกนั้นสาวแว่นเลยค่ะ จนช่วงกลางปีเริ่มสั่งเกตตัวเอง เวลาถ่ายรูปเซลฟี่ เราก็จะถอดแว่น แล้วก็มองกล้อง คือด้วยระยะมันใกล้
เราก็ต้องเห็นรูกล้องที่จะถ่ายถูกมั๊ยคะ ปรากฎว่าทุกรูปที่ออกมา คือตาไม่มองกล้องค่ะ คือเหมือนตาไม่โฟกัสค่ะ
*อันนี้อธิบายตามความรู้สึกเรานะคะ* ทุกรูปที่ถ่าย ตามันเอียงๆค่ะ แบบเหมือนเรามองรูอื่นไม่ใช่รูกล้อง พอเข้าใจมั๊ยคะ?
แต่พอใส่แว่นถ่ายเวลาหันข้าง ตาจะเอียงไม่เท่ากันค่ะ เหมือนตาขวาเอียงไปละ180องศา ตาซ้ายอยู่ที่160องศา ประมาณนี้ค่ะ
พอถึงเวลาตรวจตาตามนัดจึงแจ้งคุณหมอ คุณหมอบอกว่าเพราะเลนส์กระจกแว่นหนาด้วยส่วนนึง และสั้นเยอะด้วย
**จริงๆคุณหมออธิบายละเอียดค่ะ แต่เราฟังแล้วงงๆ55 เลยจับใจความมาประมาณนี้
คุณหมอเลยแนะนำไปทำเลสิกค่ะ บอกตาดีขึ้นไม่มีรอยแล้ว อีกอย่างต่อไปคงอยากใส่คอนแทคเลนส์แน่ๆ ไปทำเลยจะได้จบ
เราเลยให้คุณหมอแนะนำค่ะว่าทำแบบไหนดี อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวของคุณหมอนะคะ
เนื่องจากเพื่อนเราเพิ่งทำแบบ ReLEx SMILE ไป เราจึงสนใจจะทำแบบนี้ ซึ่งคุณหมอบอกทำเลสิกธรรมดาพอค่ะ
ที่คุณหมอไม่แนะนำเพราะว่าคุณหมอไม่กล้ารับประกันผลข้างเคียง คืออย่างเลสิกมันมีมาหลายปีมากๆแล้ว
เรารู้ว่ามันมีผลอะไรอย่างไรบ้าง แต่ ReLEx SMILE มีมาไม่ถึง 10 ปี คือมันยังค่อนข้างใหม่ แต่คุณหมอให้ตัดสินใจเองนะคะ
คุณหมอก็ว่ามันดีที่แผลเล็ก ไม่รบกวนตามากค่ะ
ขั้นตอนต่อไป คือหาราคา สถานที่ และรายละเอียดอื่นๆค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.ทำไมถึงทำเลสิกที่รพ.ปิยะเวท
ขั้นแรกคือหาราคา ReLEx SMILE บอกตรงๆยังไม่ตัดใจจากวิธีนี้ ซึ่งมี 2 ที่ค่ะ ที่เราว่าราคาโอเค แต่ติดที่ไกลจากบ้าน
ถ้าต้องนัดตรวจ Follow up แล้วต้องขับไกลตลอดก็ไม่ไหว
ราคา ReLEx SMILE ที่เราเจอถูกสุดนะคะ ราคาอัพเดทเดือนกันยายน 60 ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนแรกคิดนะคะ ทำดีมั๊ย ขับรถไกลปีละ 6-7 ครั้ง ก็พอได้นะ จนมาอ่านพันทิปนี่ละคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลยคิดว่าเออ ทำมันธรรมดานี่แหละ มันไม่ได้แย่ซะหน่อย คนอื่นก็ทำเยอะแยะ
เลยเริ่มหาข้อมูลเลสิกค่ะ อันดับแรกเลยนะคะ ดูราคา จากกระทู้นี้ค่ะ https://ppantip.com/topic/35836273
บอกก่อนว่าเราดูทั้งแบบเลสิกและ Femto เนื่องจากเราสามารถเบิกค่ารักษาได้ แต่การทำเลสิกคือการทำศัลยกรรม เบิกไม่ได้
เราเลยเปรียบเทียบทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนค่ะ
** อันนี้ความเห็นส่วนบุคคลแล้วนะคะ เรามองที่รีวิวและใกล้บ้าน บางทีดังแต่ไกลเราก็ไม่เอามาเป็นตัวเลือกนะคะ
** ราคาควรอัพเดทอีกทีนะคะ เพราะเราถามช่วงสิงหา - กันยายน 60 ค่ะ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
** บางที่เปิดแยกจากโรงพยาบาล แต่ใช้คุณหมอของโรงพยาบาลเรานับเป็นเอกชนนะคะ
อันดับแรก โรงพยาบาลรัฐ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันดับที่ 2 โรงพยาบาลเอกชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากไปโรงพยาบาลรัฐราคาแทบไม่ต่างกับเอกชนเลยและคิวก็นาน เราเลยไปตัดสินใจที่เอกชนค่ะ
ซึ่งเราตัดลิสที่เป็นเลสิกออก แล้วเลือกแล้วดูรพ.ที่เป็นราคาเรียงจากต่ำไปสูง รวมค่าเก็บยิบย่อยสำหรับที่อื่นด้วยนะคะ
ก็จะมี โรงพยาบาลปิยะเวท ที่ราคาถูกสุดและเป็นแบบเหมาจ่ายแล้วค่ะ
ขั้นตอนต่อมาคืออ่านรีวิวค่ะ ถ้าถูกและดีรีวิวน้อยก็ไม่เอาค่ะ
อ่านรีวิวมีคุณหมอ 2 ท่าน คือคุณหมอตุลยา และคุณหมอชลธิชา ที่มีรีวิวนะคะ
อันดับแรกจองคุณหมอตุลยาค่ะ ซึ่งเดือนตุลา คุณหมอมีคิวว่างเหลือแค่วันจันทร์ และวันพฤหัสวันนึง
วันพฤหัสคือวันที่ 19 ค่ะ แต่เราจะไปงานที่สนามหลวงกลัวตาจะกระเทือน อยากทำก่อนสักอาทิตย์นึง
เลยเป็นคุณหมอชลธิชาค่ะ (คุณหมอเข้าวันอาทิตย์ - พฤหัส)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ขั้นตอนและความรู้สึกก่อน/ระหว่าง/หลังทำ
เนื่องจากไปตรวจ 9.30 ถ้าทำได้ก็ขอทำเลย วันไปทำเลยไม่ทาครีม แต่งหน้า ใส่เสื้อกระดุมหน้าไปเลยค่ะ
ใช้เวลาตรวจถึงประมาณ11โมง แล้วหยอดยาขยายม่านตา ไปทานข้าวครึ่งชั่วโมง กลับมาม่านตาขยายพอดี
ตรวจเสร็จ คุณได้ไปต่อค่ะ เข้าพบคุณหมอ ได้ทำแบบ SBK ตามที่ตั้งใจเลยค่ะ
คราวนี้คุณหมอนัดอีกทีบ่าย 2 ให้ม่านตาหดค่ะ ระหว่างนี้ก็ไปเคลมประกันรถกับคุณแฟน ชิวมากค่ะ
เรื่องรีวิวรายละเอียด เราอ่านกระทู้ของ 2 ท่านนี้เราว่าระเอียดดีนะคะ ขออนุญาตแปะ
https://ppantip.com/topic/32107198
https://ppantip.com/topic/36321892
**รีวิวของเราขอเน้นความรู้สึกนะคะ ถ้าขั้นตอน อ่านกระทู้ 2 ท่านนี้เลยค่ะ
เนื่องจากเราอ่านหลายรีวิว แล้วเจ็บมั่งอะไรมั่ง คือบอกตรงๆว่ากลัวนะก่อนไปทำ รีวิวของเราขอให้กำลังใจเพื่อนๆค่ะ
สิ่งที่แสบที่สุดคือยาชาค่ะ คือพยาบาลบอกชาแล้วนะคะ แต่ไอ้ชาแล้วเนี่ย หยอดกี่ทีก็ยังรู้สึกว่าแสบอยู่เลยค่าาาาาาาา
สิ่งที่เจ็บที่สุดคือเครื่องถ่างตาค่ะ รู้สึกเหมือนอะไรมาครูดตาขาว แล้วขยี้ไม่ได้ เจ็บแปปเดียวแหละค่ะ
สิ่งที่มันส์ที่สุดคือตอนเลเซอร์ตาค่ะ ตามที่คนอื่นบอกค่ะ เหมือนเอาที่ช๊อตยุงมาเปรี๊ยะๆตรงตา ซึ่งเราชอบมาก 555
อยากบอกคุณหมดว่าทำต่อก็ได้นะคะ กำลังมันเลย
สิ่งที่กลัวที่สุดคือเสียงเครื่องข้างๆหัวนี่แหละค่ะ ดังทีไรสะดุ้งตลอด
สิ่งที่วิตกตามคนอื่น คือหลังทำบางคนเจ็บ น้ำตาไหลนั่นนี่ แต่ตัวเองไม่เจ็บค่ะ สักนิดก็ไม่มี คือแค่ตามัวๆ
เวลากระพริบตาเหมือนมีอะไรอยู่ในตา แต่เราไม่เคืองนะคะ น้ำตาก็ไม่ไหล กินข้าว อาบน้ำ นอนหลับปกติ
หลังทำถามว่าตาแห้งมั๊ย คือเราเป็นคนติดตาหยอดตา ถ้าอยู่บ้านนี่หยอดทุก 10 นาที แต่มาทำงาน 20 - 30 นาทีครั้ง
ไม่รู้สึกตาแห้งเลยนะคะ แต่ใส่แว่นกันแดดตลอดเหมือนกัน แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ 555
ตอนนี้ตาสู้แสงได้มั๊ยหลังจากทำมา 3 วัน คือสู้ได้นะคะ นี่ก็ขับรถเจอไฟรถได้ แต่รู้สึกว่าไฟรถจ้าๆเหมือนกัน คงต้องลองดูหลังจากนี้เดือนนึงค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้เป็นข้อสังเกตเพิ่มเติมของเรานะคะ
1. บางโรงพยาบาลที่เราสอบถาม ถ้ามีแก้สายตาเอียงด้วย คิดค่าแก้นะคะ ที่ถามคิดข้างละหมื่นห้าค่ะ เราเลยตัดไป
ราคานี้เราว่าทำ ReLEx SMILE ไปเลยดีกว่า
2. SBK กับ Femto เป็นการทำที่กระจกตาชั้นเดียวกันค่ะ แต่ว่าจะตื้นกว่าแบบเลสิก ทำให้เคืองตาน้อยกว่าเลสิกและหายเร็วกว่าด้วย
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดแจ้งมาได้นะคะ) ถ้าจำไม่ผิดเป็นชั้น sub bowman ค่ะ แต่เลสิกจะเป็นอีกชั้นนึง ทำให้โรงพยาบาลที่มี Femto
จะไม่มี SBK ค่ะ
**ถ้าเขียนแล้วงงๆขอโทษด้วยนะคะ เราไม่ได้กะจะรีวิว เพราะเราว่าในพันทิปมีรีวิวเยอะแล้ว แต่เราแค่รู้สึกว่าบางทีพันทิปทำเราจิตตก
ก็เลยอยากมาบอกเพื่อนๆว่าไม่มีอะไรที่น่ากลัวและเจ็บเลย ไม่ต้องคิดมากค่ะ สำหรับเพื่อนที่ดู Final Destination แบบเราแล้วจะไปทำ
มันไม่มีแบบในหนังแน่นอนค่ะ แต่อย่าเพิ่งไปดูขั้นตอนการทำนะคะ จนถึงตอนนี้เราไม่ดูขั้นตอนทำเลยค่ะ