เป็นการเดินทางยาวๆต่างประเทศ ครั้งแรก ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วัน มีเพื่อนร่วมทางเป็นสมุนตัวใหญ่ๆ 2 คน ไปนานแล้วจนจะครบรอบ เพิ่งได้มารีวิวครั้งแรก ฝากด้วยนะคะ
Flight : XJ700 Air AsiaX
Photo by : iPhone7plus & Fuji x-a2
Lens : 35mm f2.0 & Lens kit 16-50
Host : Oh house
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนลด via Airbnb
https://abnb.me/e/HjU4PrkOnM
https://abnb.me/e/HjU4PrkOnM
**เฉพาะคนที่เพิ่งสมัครครั้งแรกและจองที่พักเลยนะคะจะได้ส่วนลด 1,200 บาทค่ะ**
Day 1 (Ewha Womans University / Hongdae)
https://ppantip.com/topic/37635980
Day 2 (Haneul Park / N-Seoul Tower/ Myeongdong Shopping Street)
https://ppantip.com/topic/37636057
Day 3 (วัดโชเกซา/ พระราชวังเคียงบกกุง/ ตลาดทงอิน/ เส้นจตุรัสควางฮวามุน/ คลองชองเกชอน)
https://ppantip.com/topic/37636142
Day 4 (Graffiti tunnel/ FNC Ent./ ร้านหมูย่างพ่อน้องมิน CNBLUE/ Lotte mart (Seoul station)/ ภารกิจ "หนูอยากกลับบ้าน")
https://ppantip.com/topic/37636290
Day 5 (Lotte mart/ Dongdaemun/ ตลาดนัดกลางคืนที่ DDP & LED Rose Garden)
https://ppantip.com/topic/37636877
Day 6 (Naksan Park & Ihwa Mural Village/ ตึกซัมชีกิล & อินซาดง/ ร้านขนม O'sulloc/ เดินเล่นแถวฮงแด)
https://ppantip.com/topic/37637002
Day 7 (Central Park ตามรอยสามแฝด)
https://ppantip.com/topic/37637420
Day-3
* วัดโชเกซา
* พระราชวังเคียงบกกุง
* ร้านTosokchon-Samgyetang
* ตลาดทงอิน
* เส้นจตุรัสควางฮวามุน
* คลองชองเกชอน
* ร้านโมกโยดงยูรมินักชี (ปลาหมึกผัดเผ็ด)
* ย่านฮงแด + Kakao
เริ่มต้นที่สไตล์เดิมแบบ+2 พวกเราเริ่มต้นวันด้วยความป่วยของหมู่คณะพวกเราพยายามหายาแก้อักเสบกันตั้งแต่คืนก่อน แต่เพราะกว่าเราจะตามล่าตัวยาที่ต้องซื้อเจอก็พบว่าร้านขายยาปิดหมดแล้ว วันนี้เราเลยเริ่มต้นจากการหาร้านขายยาก่อนเป็นอันดับแรก พวกเรานั่งจาก Hongik uni > สถานี Ankuk exit6
โผล่ขึ้นมาจะเจอแยกถนนค่ะ และเจอร้าน Miss Lee Cafe ที่ย้งเคยมากับน้องซอด้วย >~< แต่เราไม่ได้planเข้าค่ะ อ่ะอดปายยชักรูปเป็นที่ระทึกละเข้า G25 ตามล่าหายากันต่อ
เราเดินเข้าถนนอินซาดงโดยบังเอิญ เดินผ่านตึกซัมกิลที่เราจะแพลนมาในวันเสาร์เลยไม่ได้ take time กับเส้นนี้มากนักแต่พอดีพนักงานร้านG25 บอกว่าเดินตรงเข้ามาจะเจอร้านขายยา เราเลยเดินตามหา โชคดีเจอร้านตามที่พนักงานให้ลายแทงไว้เลยจัดการซื้อเสร็จสรรพ ละออกเดินทางตามแพลนจนถึงวัดโชเกซา
ที่หาข้อมูลคือเป็นวัดเล็กที่มักจะมีจัดงานตกแต่งภายในสวยงามแต่พอมาถึงจริงๆมันไม่ใช่อ่ะค่ะ หน้าวัดเหมือนมีไซต์ก่อสร้าง ข้างวัดมีเตนท์ผู้ประท้วงซึ่งเดินผ่านก็ยังไม่รู้ว่าเค้าประท้วงอะไรเลยตกลงกันว่ารีบไหว้รีบออก 5 นาทีจบปึง!! ออกไปวังเคียงบกกุงต่อ
เราเดินออกมาละตรงตามเส้นถนน ใช้ google map เข้าว่า อาศัยถามทางกับร้านข้างทางด้วยจนเดินออกมาผ่านสถานทูตอเมริการะหว่างทางเจอart museum เข้าไปแวะสักหน่อย พอเดินเพลินๆก็โผล่ตรงเส้นข้างๆอนุเสาวรีย์พระเจ้าเซจงพอดี เราก็เดินต่อมาจนถึงแยกพระราชวัง ตลอดทางเราเจอตำรวจเฝ้าเวรยามตลอด พอดีตอนมาถึงมีข่าวเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพอดี แต่คนที่นี่ไม่มีความแตกตื่นอะไรเลย ใช้ชีวิตอย่างสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เลยเข้าใจว่าเค้าโดนขู่กันเป็นราย ชม. จนชินและเลิกตื่นเต้นแล้วอ่ะ
มาถึงแล้ว เลยขอชักภาพหน้าวัง ประเด็นคือเราต้องตั้งกล้องไว้ตรงแยกไฟแดงอ่ะค่ะ เพื่อจะได้ฉากหลังเป็นทางเข้าวัง งือ ทุลักทุเลพอสมควร เวลารถติดไฟแดงที เค้าก็มองเราที ถามว่าเขินอายมั้ย ก็ไม่อ่ะค่ะ อยากได้รูปสวยก็ต้องทนไปเนอะ
พวกเราตั้งใจมาวังให้ถึงก่อน 11.00 น. เพื่อจะได้มาทันพิธีการเปลี่ยนยามเฝ้าประตูที่ประตูกวางฮวามุน แต่...ใช่แล้วล่ะเรามาไม่ทัน 5555 เลยตกลงกันว่าเราจะเข้าวังไปก่อนละค่อยเดินมาตรงนี้อีกทีตอนบ่ายสอง เพราะจะมีการเปลี่ยนอีกรอบ พวกเราเลยเข้าไปดูข้างในก่อน วันนี้ที่เรามาเป็นวันพุธ ซึ่งที่นี่ปกติจะเสียค่าเข้าชมประมาณ 3,000 วอน (จะมีที่ขายตั๋วเข้าหน้าปากทางเข้าหลังจากที่เดินเข้าประตูกวางฮวามุนเข้ามา) แต่ถ้าเกิดใส่ชุดฮันบกเข้าจะได้เข้าฟรี และทุกวันพุธ จะไม่เสียค่าเข้า อุ๊ยตายยย!!! ไม่ได้วางแผนอะไรเลยนะเนี่ยไม่รู้มาก่อนว่าสันพุธเข้าฟรี อุ๊ยตายๆๆ
พระราชวังเคียงบกกุง มีพื้นที่ค่อนข้างมาก สัดส่วนเป็นเหมือนที่เราเคยเห็นมนละครพีเรียดของเกาหลีซึ่งเราไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้เลือกเอา tour guide มาฟังระหว่างเดินด้วย อาศัยดูไปเรื่อยชอบก็ถ่ายรูปประมาณนั้น ที่เข้ามาพอจะแยกได้เองเป็นประมาณ 5 ส่วน หน้า กลาง หลัง ข้างๆอีกสองฝั่งโดยประมาณ พวกเราก็เดินเล่นเดินถ่ายรูปไป โดยเดินแบบวนทวนเข็มนาฬิกาจนไปเจอโซนที่มีการขายชาและชุดขนมในวัง พวกเราเลยตัดสินใจลองชิมค่ะ
เดินเข้ามาส่วนที่ขายขนมเราจะเจอนางในต้นเครื่องยืนอยู่ตรงเครื่องแคชเชียร์คอยเก็บตังเราก่อนที่จะกินขนม ขั้นตอนก็คือมห้เลือก set ที่จะกินคือมีสองแบบ แบบถูกกับแบบแพง 555 ด้วยความที่เรามาถีงที่ล้าววว เราก็เลยเลือกแบบแพง จากนั้นเค้าก็ให้เลือกชา เนื่องจากนังส้มบอกว่าแบบชาโอมีจาดี ช่วยให้ชุ่มคอ ดังนั้นเาาเลยเลือกอันนี้ จ่ายเงินเสร็จสรรพเดินเข้าไปนั่งรอในโถงเตรียมตัวเป็นนางสนมกินขนมพระราชาได้เลย (ส่วนตัวขอบอกว่าขนมเซตนี้เอาไว้ถ่ายสวยๆพอ รสชาติงั้นๆไม่อร่อยเลย น่าสงสารพระราชาสมัยก่อนที่ต้องมีTea break แบบนี้ เลยไม่แปลกใจทำไมในหนังเวลาพระราชาหนีออกมานอกวังถึงดูตื่นเต้นกับของภายนอกนัก)
กินเสร็จก็เหลืออีก 30 นาทีจะบ่ายสอง พวกเราเลยรีบเดินออกมาตรงประตูกวางฮวามุนอีกรอบ เพื่อมารอดูพิธีการเปลี่ยนเวรยามเฝ้าประตูตอนแรกก็เข้าใจว่าแป๊บเดียว แต่พอเรามาถึง จนท.ดึงแถบกันออกเป็น area ใหญ่พอประมาณ เลยแบบไม่ใช่ละไม่ใช่แค่เปลี่ยนแป๊บเดียวด้านหน้าละ พวกเราเลยเดินเข้ามาตรงโซนที่เค้ากั้นไว้เพื่อรอดูพิธีการต่อ (พิธีการมีประมาณ 10 นาทีนิดๆ ไว้อัพคลิปทีหลัง มีขบวนพาเหรดทหารเดินออกมาเป่าปี่เป่าแตรแลกเปลี่ยนHigh5 แลกเวรกันละจบ ตลอดพิธีจะมีคำอธิบายเป็นสี่ภาษา เกา-อังกฤษ-จีน-ญี่ปุ่น เลือกฟังเอาตามถนัด)
หลังจากเสร็จพิธีพวกเราก็เริ่มหิวกันแล้ว บวกกับเราเดินกันเกือบรอบวังเลยตัดสินใจว่าไปหาข้าวกลาววันกินกันดีกว่าพวกเราเลือกที่จะไปกินร้านไก่ตุ๋นโสมเจ้าดังที่อยู่ใกล้ๆวัง...จริงๆก็ไม่ใกล้หรอกไม่ใกล้เลย เดินประมาณ 10 นาทีได้ แต่ถ้าใครมาจากบ้านหรือรถใต้ดินให้ลงสถานี gyeongbokgung exit 2 เข้าถนน Jahamun-ro 5 gill เจ้าซอยมาอยู่ซ้ายมือเจอเลย
พอดีว่าเรามาช่วงเลยมื้อเที่ยงของคนที่เกาไปแล้วเราเลยไม่ต้องต่อคิวยาว มาถึงก็ได้โต๊ะนั่งเลยสบายๆ เราสั่งไก่ตุ๋นโสมแบบ original และพาจอน เป็นทีเรียบร้อย พรักงานก็จะเอาอุปกรณ์การกินมาวางให้ ในเมนูที่ใช้สั่งจะมีคำอธิบายบอกเป็นขั้นๆว่าต้องกินยังไงบ้าง จากนั้นเราก็เห็นแก้วชาเล็กๆมีน้ำสีเหลือง มันคือน้ำโสม ซึ่งรสชาติ เชรี่ยมาก (ของมีประโยชน์รสชาติมักจะไม่ค่อยโสภานักหรอก) เค้าบอกว่าให้กินก่อนหรือระหว่างมื้อรัยก็ว่าไป พออาหารมาเสิร์ฟ พวกเราก็บรรเลงเลย ไก่ตุ๋นโสมร้านนี้อร่อย น้ำแกงกลมกล่อม คือถ้าคนที่ไม่ชอบก็อาจจะเฉยๆ แต่สำหรับพวกเราที่ชอบกินน้ำแกงกินอะไรพวกนี้อยู่แล้ว เราว่ารสชาติมันอร่อยดี กินกับพาจอนก็ฟินไปเลย และกิมจิร้านนี้ก็อร่อยทุกแบบ สรุปเราเลยให้คะแนนร้านนี้ไปเลย สิบเต็ม
ต่อ ใน comment นะคะ
[CR] Trip Korea 7 วัน ของสามสาวใน Seoul - Day 3
Flight : XJ700 Air AsiaX
Photo by : iPhone7plus & Fuji x-a2
Lens : 35mm f2.0 & Lens kit 16-50
Host : Oh house
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Day 1 (Ewha Womans University / Hongdae)
https://ppantip.com/topic/37635980
Day 2 (Haneul Park / N-Seoul Tower/ Myeongdong Shopping Street)
https://ppantip.com/topic/37636057
Day 3 (วัดโชเกซา/ พระราชวังเคียงบกกุง/ ตลาดทงอิน/ เส้นจตุรัสควางฮวามุน/ คลองชองเกชอน)
https://ppantip.com/topic/37636142
Day 4 (Graffiti tunnel/ FNC Ent./ ร้านหมูย่างพ่อน้องมิน CNBLUE/ Lotte mart (Seoul station)/ ภารกิจ "หนูอยากกลับบ้าน")
https://ppantip.com/topic/37636290
Day 5 (Lotte mart/ Dongdaemun/ ตลาดนัดกลางคืนที่ DDP & LED Rose Garden)
https://ppantip.com/topic/37636877
Day 6 (Naksan Park & Ihwa Mural Village/ ตึกซัมชีกิล & อินซาดง/ ร้านขนม O'sulloc/ เดินเล่นแถวฮงแด)
https://ppantip.com/topic/37637002
Day 7 (Central Park ตามรอยสามแฝด)
https://ppantip.com/topic/37637420
Day-3
* วัดโชเกซา
* พระราชวังเคียงบกกุง
* ร้านTosokchon-Samgyetang
* ตลาดทงอิน
* เส้นจตุรัสควางฮวามุน
* คลองชองเกชอน
* ร้านโมกโยดงยูรมินักชี (ปลาหมึกผัดเผ็ด)
* ย่านฮงแด + Kakao
เริ่มต้นที่สไตล์เดิมแบบ+2 พวกเราเริ่มต้นวันด้วยความป่วยของหมู่คณะพวกเราพยายามหายาแก้อักเสบกันตั้งแต่คืนก่อน แต่เพราะกว่าเราจะตามล่าตัวยาที่ต้องซื้อเจอก็พบว่าร้านขายยาปิดหมดแล้ว วันนี้เราเลยเริ่มต้นจากการหาร้านขายยาก่อนเป็นอันดับแรก พวกเรานั่งจาก Hongik uni > สถานี Ankuk exit6
โผล่ขึ้นมาจะเจอแยกถนนค่ะ และเจอร้าน Miss Lee Cafe ที่ย้งเคยมากับน้องซอด้วย >~< แต่เราไม่ได้planเข้าค่ะ อ่ะอดปายยชักรูปเป็นที่ระทึกละเข้า G25 ตามล่าหายากันต่อ
เราเดินเข้าถนนอินซาดงโดยบังเอิญ เดินผ่านตึกซัมกิลที่เราจะแพลนมาในวันเสาร์เลยไม่ได้ take time กับเส้นนี้มากนักแต่พอดีพนักงานร้านG25 บอกว่าเดินตรงเข้ามาจะเจอร้านขายยา เราเลยเดินตามหา โชคดีเจอร้านตามที่พนักงานให้ลายแทงไว้เลยจัดการซื้อเสร็จสรรพ ละออกเดินทางตามแพลนจนถึงวัดโชเกซา
ที่หาข้อมูลคือเป็นวัดเล็กที่มักจะมีจัดงานตกแต่งภายในสวยงามแต่พอมาถึงจริงๆมันไม่ใช่อ่ะค่ะ หน้าวัดเหมือนมีไซต์ก่อสร้าง ข้างวัดมีเตนท์ผู้ประท้วงซึ่งเดินผ่านก็ยังไม่รู้ว่าเค้าประท้วงอะไรเลยตกลงกันว่ารีบไหว้รีบออก 5 นาทีจบปึง!! ออกไปวังเคียงบกกุงต่อ
เราเดินออกมาละตรงตามเส้นถนน ใช้ google map เข้าว่า อาศัยถามทางกับร้านข้างทางด้วยจนเดินออกมาผ่านสถานทูตอเมริการะหว่างทางเจอart museum เข้าไปแวะสักหน่อย พอเดินเพลินๆก็โผล่ตรงเส้นข้างๆอนุเสาวรีย์พระเจ้าเซจงพอดี เราก็เดินต่อมาจนถึงแยกพระราชวัง ตลอดทางเราเจอตำรวจเฝ้าเวรยามตลอด พอดีตอนมาถึงมีข่าวเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพอดี แต่คนที่นี่ไม่มีความแตกตื่นอะไรเลย ใช้ชีวิตอย่างสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เลยเข้าใจว่าเค้าโดนขู่กันเป็นราย ชม. จนชินและเลิกตื่นเต้นแล้วอ่ะ
มาถึงแล้ว เลยขอชักภาพหน้าวัง ประเด็นคือเราต้องตั้งกล้องไว้ตรงแยกไฟแดงอ่ะค่ะ เพื่อจะได้ฉากหลังเป็นทางเข้าวัง งือ ทุลักทุเลพอสมควร เวลารถติดไฟแดงที เค้าก็มองเราที ถามว่าเขินอายมั้ย ก็ไม่อ่ะค่ะ อยากได้รูปสวยก็ต้องทนไปเนอะ
พวกเราตั้งใจมาวังให้ถึงก่อน 11.00 น. เพื่อจะได้มาทันพิธีการเปลี่ยนยามเฝ้าประตูที่ประตูกวางฮวามุน แต่...ใช่แล้วล่ะเรามาไม่ทัน 5555 เลยตกลงกันว่าเราจะเข้าวังไปก่อนละค่อยเดินมาตรงนี้อีกทีตอนบ่ายสอง เพราะจะมีการเปลี่ยนอีกรอบ พวกเราเลยเข้าไปดูข้างในก่อน วันนี้ที่เรามาเป็นวันพุธ ซึ่งที่นี่ปกติจะเสียค่าเข้าชมประมาณ 3,000 วอน (จะมีที่ขายตั๋วเข้าหน้าปากทางเข้าหลังจากที่เดินเข้าประตูกวางฮวามุนเข้ามา) แต่ถ้าเกิดใส่ชุดฮันบกเข้าจะได้เข้าฟรี และทุกวันพุธ จะไม่เสียค่าเข้า อุ๊ยตายยย!!! ไม่ได้วางแผนอะไรเลยนะเนี่ยไม่รู้มาก่อนว่าสันพุธเข้าฟรี อุ๊ยตายๆๆ
พระราชวังเคียงบกกุง มีพื้นที่ค่อนข้างมาก สัดส่วนเป็นเหมือนที่เราเคยเห็นมนละครพีเรียดของเกาหลีซึ่งเราไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้เลือกเอา tour guide มาฟังระหว่างเดินด้วย อาศัยดูไปเรื่อยชอบก็ถ่ายรูปประมาณนั้น ที่เข้ามาพอจะแยกได้เองเป็นประมาณ 5 ส่วน หน้า กลาง หลัง ข้างๆอีกสองฝั่งโดยประมาณ พวกเราก็เดินเล่นเดินถ่ายรูปไป โดยเดินแบบวนทวนเข็มนาฬิกาจนไปเจอโซนที่มีการขายชาและชุดขนมในวัง พวกเราเลยตัดสินใจลองชิมค่ะ
เดินเข้ามาส่วนที่ขายขนมเราจะเจอนางในต้นเครื่องยืนอยู่ตรงเครื่องแคชเชียร์คอยเก็บตังเราก่อนที่จะกินขนม ขั้นตอนก็คือมห้เลือก set ที่จะกินคือมีสองแบบ แบบถูกกับแบบแพง 555 ด้วยความที่เรามาถีงที่ล้าววว เราก็เลยเลือกแบบแพง จากนั้นเค้าก็ให้เลือกชา เนื่องจากนังส้มบอกว่าแบบชาโอมีจาดี ช่วยให้ชุ่มคอ ดังนั้นเาาเลยเลือกอันนี้ จ่ายเงินเสร็จสรรพเดินเข้าไปนั่งรอในโถงเตรียมตัวเป็นนางสนมกินขนมพระราชาได้เลย (ส่วนตัวขอบอกว่าขนมเซตนี้เอาไว้ถ่ายสวยๆพอ รสชาติงั้นๆไม่อร่อยเลย น่าสงสารพระราชาสมัยก่อนที่ต้องมีTea break แบบนี้ เลยไม่แปลกใจทำไมในหนังเวลาพระราชาหนีออกมานอกวังถึงดูตื่นเต้นกับของภายนอกนัก)
กินเสร็จก็เหลืออีก 30 นาทีจะบ่ายสอง พวกเราเลยรีบเดินออกมาตรงประตูกวางฮวามุนอีกรอบ เพื่อมารอดูพิธีการเปลี่ยนเวรยามเฝ้าประตูตอนแรกก็เข้าใจว่าแป๊บเดียว แต่พอเรามาถึง จนท.ดึงแถบกันออกเป็น area ใหญ่พอประมาณ เลยแบบไม่ใช่ละไม่ใช่แค่เปลี่ยนแป๊บเดียวด้านหน้าละ พวกเราเลยเดินเข้ามาตรงโซนที่เค้ากั้นไว้เพื่อรอดูพิธีการต่อ (พิธีการมีประมาณ 10 นาทีนิดๆ ไว้อัพคลิปทีหลัง มีขบวนพาเหรดทหารเดินออกมาเป่าปี่เป่าแตรแลกเปลี่ยนHigh5 แลกเวรกันละจบ ตลอดพิธีจะมีคำอธิบายเป็นสี่ภาษา เกา-อังกฤษ-จีน-ญี่ปุ่น เลือกฟังเอาตามถนัด)
หลังจากเสร็จพิธีพวกเราก็เริ่มหิวกันแล้ว บวกกับเราเดินกันเกือบรอบวังเลยตัดสินใจว่าไปหาข้าวกลาววันกินกันดีกว่าพวกเราเลือกที่จะไปกินร้านไก่ตุ๋นโสมเจ้าดังที่อยู่ใกล้ๆวัง...จริงๆก็ไม่ใกล้หรอกไม่ใกล้เลย เดินประมาณ 10 นาทีได้ แต่ถ้าใครมาจากบ้านหรือรถใต้ดินให้ลงสถานี gyeongbokgung exit 2 เข้าถนน Jahamun-ro 5 gill เจ้าซอยมาอยู่ซ้ายมือเจอเลย
พอดีว่าเรามาช่วงเลยมื้อเที่ยงของคนที่เกาไปแล้วเราเลยไม่ต้องต่อคิวยาว มาถึงก็ได้โต๊ะนั่งเลยสบายๆ เราสั่งไก่ตุ๋นโสมแบบ original และพาจอน เป็นทีเรียบร้อย พรักงานก็จะเอาอุปกรณ์การกินมาวางให้ ในเมนูที่ใช้สั่งจะมีคำอธิบายบอกเป็นขั้นๆว่าต้องกินยังไงบ้าง จากนั้นเราก็เห็นแก้วชาเล็กๆมีน้ำสีเหลือง มันคือน้ำโสม ซึ่งรสชาติ เชรี่ยมาก (ของมีประโยชน์รสชาติมักจะไม่ค่อยโสภานักหรอก) เค้าบอกว่าให้กินก่อนหรือระหว่างมื้อรัยก็ว่าไป พออาหารมาเสิร์ฟ พวกเราก็บรรเลงเลย ไก่ตุ๋นโสมร้านนี้อร่อย น้ำแกงกลมกล่อม คือถ้าคนที่ไม่ชอบก็อาจจะเฉยๆ แต่สำหรับพวกเราที่ชอบกินน้ำแกงกินอะไรพวกนี้อยู่แล้ว เราว่ารสชาติมันอร่อยดี กินกับพาจอนก็ฟินไปเลย และกิมจิร้านนี้ก็อร่อยทุกแบบ สรุปเราเลยให้คะแนนร้านนี้ไปเลย สิบเต็ม
ต่อ ใน comment นะคะ