"สะบายดี" ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวหลวงพระบางนี้นะครับ
กระทู้นี้จะขอรีวิวการเที่ยวหลวงพระบางด้วยตัวเอง วางแผนเอง หาข้อมูลเอง และหาเงินเอง ในการไปเที่ยว โดยจะบอกค่าใช้จ่ายรายละเอียดต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจอยากมาเที่ยวที่หลวงพระบางครับ เราไปเริ่มกันเลย
--------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ทริปนี้เป็นทริปที่เตรียมตัวน้อยมาก คิดปุ๊ป จองตั๋วปั๊ป ด้วยความที่อยากหาเรื่องเที่ยว และเป็นช่วงหยุดงานพอดี จึงตัดสินใจไปชิว ๆ ที่หลวงพระบาง ประเทศลาวครับ โดยไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2561 ด้วยสายการบิน THAI AIR ASIA ครับ
อย่างที่บอกว่าคิดปุ๊ป จองตั๋วปั๊ป ค่าเครื่องบินจึงเป็นราคาปกตินะครับ โดยเราเลือกสายการบินTHAI AIR ASIAครับ เนื่องจากถูกที่สุดแล้วครับ เราไปกันสองคนค่าตั๋วรวมน้ำหนักกระเป๋าก็อยู่ที่ 9860 บาทครับถือว่าพาหูดับกันได้เลยทีเดียว 555555
ส่วนที่พักนั้นเราเลยตกลงกันว่าจะพักไม่แพงมาก เพราะค่าเครื่องบินเราแพงแล้ว เราเลยได้ที่พักที่อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมาก และที่พักก็ไม่ได้ขี้เหร่ แถมยังราคาน่ารักด้วย โดยเราเลือกพักที่ MY LAO HOME HOTEL ครับทั้งหมดก็ ....................... บาทครับ
เมื่อตั๋วพร้อมแล้ว ที่พักพร้อมแล้ว เราก็ไปกันเลยจ้าาาาาาาาาาาาาาาา ><
—————
วันที่ 1
เราถึงดอนเมืองกันตั้งแต่เช้าตรู่ (เก้าโมง) แต่เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ตอน 11.30 น. (แอบเซ็ง) แต่ก็ดีกว่าไม่ทัน เราก็เลยไปกินข้าวกันแล้วกลับมาโหลดกระเป๋า เมื่อโหลดกระเป๋าเรียบร้อยจึงรีบเข้าไปข้างใน เพื่อจะได้มีเวลาช้อปปิ้งคิงพาเวอร์นั้นเอง ฮ่า ๆ
เมื่อซื้อของเสร็จเราก็พากันเดินไปเกท1 ซึ่งเกท1ที่ดอนเมืองเป็นเกทที่เราต้องนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่องที่รันเวย์ ก็จะตื่นเต้นหน่อยเพราะนี้คือครั้งแรก และนี้ก็คือเครื่องบินที่จะพาเราไปสู่ “หลวงพระบาง”
เพียงไม่กี่อึดใจเดียว (ประมาณชม.กว่า) เครื่องบินก็พาเราลงจอดสู่ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางเป็นที่เรียบร้อย บรรยากาศของสนามบินก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายมาก บันไดเลื่อนมี แอร์มี แต่ใช้ไม่ได้!! สมกับเป็นเมืองมรดกโลกจริงๆ วินเทจสุด ๆ เชียวละ ฮ่าๆ
ถึงแม้ภาษาลาวเราจะพอฟังเข้าใจ แต่ตัวอักษรก็ต้องมีงมกันสักพักจึงจะอ่านออก เราก็มาต่อแถวตม. ซึ่งช้าสมชื่อจริงๆ ทุก ๆ อย่างค่อยๆกระดึ้บๆ สมกับชื่อทริปของเรามาก ฮ่าๆ
หลังจากเราผ่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เดินออกมา สิ่งแรกที่เจออยู่ซ้ายมือคือร้านขายซิม (แต่ผมไปซื้อในเมือง เหมือนจะถูกกว่า) เดินออกไปอีกนิดจะเจอที่แรกเงิน ช่วงที่ไปเรทแลกอยู่ที่ 10,000 กีบ ต่อ 37 บาท โดยประมาณครับ เราเลยแลกมาคนล4,000 บาท เราจึงถือเงินกีบทั้งหมด 1056,000 กีบ ครับ
ข้าง ๆ กันจะเป็นที่จองแท๊กซี่เข้าเมือง เขาคิด 50,000 กีบ(186บาท) ต่อ 3 คน แต่เรามาสองก็เลยซื้อไป แต่พอเดินไปถึงรถ ที่ไหนได้มีคนอื่นอีกด้วย เราก็นึกว่าจะมีแค่เราสองคน งงตรงนี้ฮ่า รถเป็นตู้ย่อมๆ น่ารักดีครับ
ตอนที่เราไปถึงฝนก๋พรมลงมาครับ บรรยากาศดีมาก ระหว่างนั่งรถเข้าเมืองก็ชมบรรยากาศสองข้างทางไปเรื่อยๆครับ สงบ ชิว สมเป็นเมืองมรดกโลกจริงๆครับ
เพียง 20 นาทีรถก็พาเรามาถึงที่พักครับ โดยเราพักกันที่ MyLaoHome Hotel ซึ่งอยู่ในซอยโจมาครับ ซึ่งซอยนี้เป็นซอยที่เดินไปตลาดมืด เดินออกมาใส่บาตร เดินไปร้านกาแฟประชานิยม และไปตลาดเช้าได้ง่ายมากครับ ใครที่จะมาขอแนะนำที่พักในซอยนี้นะครับ
ที่พักน่ารักดีครับ ภายนอกตกแต่งเป็นสไตล์บ้านคนลาวในอดีต ร่มรื่น สงบเงียบดีครับ พนักงานต้อนรับเป็นผู้ชายทั้งหมด น่ารักดีมากครับ พอไปถึงก็มีแนะนำสถานที่ต่าง ๆในเมืองหลวงพระบางให้ด้วย ^^ (พูดไทยกับเขาได้เลยนะครับ)
ส่วนด้านในที่พักก็เรียบง่ายดีครับ แอร์เย็น เตียงนุ่ม ทีวีมีให้ ตู้เย็นมีให้ สมกับราคามาก ๆ ครับ ^^
พอเราเก็บข้าวของกันเรียบร้อย เราก็จะออกไปเดินเล่นหาอะไรทานกันที่ตลาดมืด โดยเริ่มจากการเดินดูสินค้าต่าง ๆ ที่แม่ค้านำมาขายกัน จากที่สังเกตดูแล้ว สินค้าจะขายคล้าย ๆ กัน คือพวกเสื้อผ้า ผ้าทอมือ ผ้านุ่งไหม ทำนองนี้ครับ ซึ่งบางอย่างเชียงใหม่บ้านเราก็มีขายครับ 555
เดินมาเกือบสุด เราจะเจอทางขึ้นไปพระธาตุพูสี ซึ่งจำได้ว่าเคยเห็นภาพหอพระบางกลางคืน น่าจะเป็นจุดนี้ พอขึ้นไปแล้วหันหลังมาดู ทำให้ผมขนลุกมากครับ เพราะหอพระบางดูขลัง และสวยมากเมื่อต้องไฟ
พอเดินมาสุดตลาดมืดก็จะเป็นพวกร้านนั่งดื่มชิว ๆ ครับ ใครที่ชอบดื่ม ชอบฝรั่ง ต้องโซนนี้เลยครับ เยอะเชียว 555
ผมไม่ใช่พวกชอบดื่ม เลยเลี้ยวเข้าร้านน้ำผลไม้ปั่นครับ รสชาติก็เหมือนน้ำผลไม้ทั่วไป แก้วละ 10,000 กีบ (38 บาท) และเห็นว่าป้าแกขายเครปด้วย เลยลองสั่งมากิน เครปแผ่นละ 10,000 (38 บาท) เครปเขาจะไม่กรอบแบบบ้านเรา แต่จะนุ่มกรอบน้อยๆ ละมุนดีครับ ^^
ก่อนกลับก็แวะไปซื้อน้ำเปล่าขวดใหญ่ โค้ก และเลย์ ที่ร้านของชำ ซึ่งของทุกอย่างเหมือนบ้านเราเลยครับ เพราะส่วนใหญ่ก็รับมาจากไทยครับ ราคาต่างกันแบบไม่น่าเกลียด
อิ่มท้องเราแล้วจึงเข้าที่พัก เพื่อนนอนเอาแรงในวันต่อไปครับ
----------------------------------
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 1
- ค่ารถเข้าเมือง 50,000 กีบ ( 186 บาท )
- ค่าซิมลาวเทเรคอม 30,000 กีบ 2 คน ก็ 60,000 (227 บาท)
- ค่าน้ำผลไม้ปั่น 2 แก้ว แก้วละ 10,000 กีบ รวมเป็น 20,000 กีบ ( 80 กว่าบาท )
- ค่าเครปใส่กล้วยกับชอคโกแลต 10,000 กีบ ( 56 บาท )
- ค่าหมูสามชั้นทอดกับข้าวเหนียว 23,000 กีบ (87 บาท) * อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ อิอิ
- ค่าโค้ก น้ำเปล่า เลย์ 23,000 ( 87 บาท )
*****รวมทั้งสิ้น 186,000 กีบ ( 704.55 บาท หารสองก็คนละ 352 บาทครับ*****
จบตอนที่ 1 แล้ว ฝากติดตามตอนที่ 2 ด้วยนะครับ (เดี๋ยวจะรีบกลับมเขียนนะ)
[CR] (ตอน 1) ทริป "ย่างช้า ๆ อย่างหลวงพระบาง 2018" 4 วัน 3 คืน
—————
วันที่ 1
เราถึงดอนเมืองกันตั้งแต่เช้าตรู่ (เก้าโมง) แต่เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ตอน 11.30 น. (แอบเซ็ง) แต่ก็ดีกว่าไม่ทัน เราก็เลยไปกินข้าวกันแล้วกลับมาโหลดกระเป๋า เมื่อโหลดกระเป๋าเรียบร้อยจึงรีบเข้าไปข้างใน เพื่อจะได้มีเวลาช้อปปิ้งคิงพาเวอร์นั้นเอง ฮ่า ๆ
เมื่อซื้อของเสร็จเราก็พากันเดินไปเกท1 ซึ่งเกท1ที่ดอนเมืองเป็นเกทที่เราต้องนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่องที่รันเวย์ ก็จะตื่นเต้นหน่อยเพราะนี้คือครั้งแรก และนี้ก็คือเครื่องบินที่จะพาเราไปสู่ “หลวงพระบาง”
เพียงไม่กี่อึดใจเดียว (ประมาณชม.กว่า) เครื่องบินก็พาเราลงจอดสู่ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางเป็นที่เรียบร้อย บรรยากาศของสนามบินก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายมาก บันไดเลื่อนมี แอร์มี แต่ใช้ไม่ได้!! สมกับเป็นเมืองมรดกโลกจริงๆ วินเทจสุด ๆ เชียวละ ฮ่าๆ
ถึงแม้ภาษาลาวเราจะพอฟังเข้าใจ แต่ตัวอักษรก็ต้องมีงมกันสักพักจึงจะอ่านออก เราก็มาต่อแถวตม. ซึ่งช้าสมชื่อจริงๆ ทุก ๆ อย่างค่อยๆกระดึ้บๆ สมกับชื่อทริปของเรามาก ฮ่าๆ
หลังจากเราผ่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เดินออกมา สิ่งแรกที่เจออยู่ซ้ายมือคือร้านขายซิม (แต่ผมไปซื้อในเมือง เหมือนจะถูกกว่า) เดินออกไปอีกนิดจะเจอที่แรกเงิน ช่วงที่ไปเรทแลกอยู่ที่ 10,000 กีบ ต่อ 37 บาท โดยประมาณครับ เราเลยแลกมาคนล4,000 บาท เราจึงถือเงินกีบทั้งหมด 1056,000 กีบ ครับ
ข้าง ๆ กันจะเป็นที่จองแท๊กซี่เข้าเมือง เขาคิด 50,000 กีบ(186บาท) ต่อ 3 คน แต่เรามาสองก็เลยซื้อไป แต่พอเดินไปถึงรถ ที่ไหนได้มีคนอื่นอีกด้วย เราก็นึกว่าจะมีแค่เราสองคน งงตรงนี้ฮ่า รถเป็นตู้ย่อมๆ น่ารักดีครับ
ตอนที่เราไปถึงฝนก๋พรมลงมาครับ บรรยากาศดีมาก ระหว่างนั่งรถเข้าเมืองก็ชมบรรยากาศสองข้างทางไปเรื่อยๆครับ สงบ ชิว สมเป็นเมืองมรดกโลกจริงๆครับ
เพียง 20 นาทีรถก็พาเรามาถึงที่พักครับ โดยเราพักกันที่ MyLaoHome Hotel ซึ่งอยู่ในซอยโจมาครับ ซึ่งซอยนี้เป็นซอยที่เดินไปตลาดมืด เดินออกมาใส่บาตร เดินไปร้านกาแฟประชานิยม และไปตลาดเช้าได้ง่ายมากครับ ใครที่จะมาขอแนะนำที่พักในซอยนี้นะครับ
ที่พักน่ารักดีครับ ภายนอกตกแต่งเป็นสไตล์บ้านคนลาวในอดีต ร่มรื่น สงบเงียบดีครับ พนักงานต้อนรับเป็นผู้ชายทั้งหมด น่ารักดีมากครับ พอไปถึงก็มีแนะนำสถานที่ต่าง ๆในเมืองหลวงพระบางให้ด้วย ^^ (พูดไทยกับเขาได้เลยนะครับ)
ส่วนด้านในที่พักก็เรียบง่ายดีครับ แอร์เย็น เตียงนุ่ม ทีวีมีให้ ตู้เย็นมีให้ สมกับราคามาก ๆ ครับ ^^
พอเราเก็บข้าวของกันเรียบร้อย เราก็จะออกไปเดินเล่นหาอะไรทานกันที่ตลาดมืด โดยเริ่มจากการเดินดูสินค้าต่าง ๆ ที่แม่ค้านำมาขายกัน จากที่สังเกตดูแล้ว สินค้าจะขายคล้าย ๆ กัน คือพวกเสื้อผ้า ผ้าทอมือ ผ้านุ่งไหม ทำนองนี้ครับ ซึ่งบางอย่างเชียงใหม่บ้านเราก็มีขายครับ 555
เดินมาเกือบสุด เราจะเจอทางขึ้นไปพระธาตุพูสี ซึ่งจำได้ว่าเคยเห็นภาพหอพระบางกลางคืน น่าจะเป็นจุดนี้ พอขึ้นไปแล้วหันหลังมาดู ทำให้ผมขนลุกมากครับ เพราะหอพระบางดูขลัง และสวยมากเมื่อต้องไฟ
พอเดินมาสุดตลาดมืดก็จะเป็นพวกร้านนั่งดื่มชิว ๆ ครับ ใครที่ชอบดื่ม ชอบฝรั่ง ต้องโซนนี้เลยครับ เยอะเชียว 555
ผมไม่ใช่พวกชอบดื่ม เลยเลี้ยวเข้าร้านน้ำผลไม้ปั่นครับ รสชาติก็เหมือนน้ำผลไม้ทั่วไป แก้วละ 10,000 กีบ (38 บาท) และเห็นว่าป้าแกขายเครปด้วย เลยลองสั่งมากิน เครปแผ่นละ 10,000 (38 บาท) เครปเขาจะไม่กรอบแบบบ้านเรา แต่จะนุ่มกรอบน้อยๆ ละมุนดีครับ ^^
ก่อนกลับก็แวะไปซื้อน้ำเปล่าขวดใหญ่ โค้ก และเลย์ ที่ร้านของชำ ซึ่งของทุกอย่างเหมือนบ้านเราเลยครับ เพราะส่วนใหญ่ก็รับมาจากไทยครับ ราคาต่างกันแบบไม่น่าเกลียด
อิ่มท้องเราแล้วจึงเข้าที่พัก เพื่อนนอนเอาแรงในวันต่อไปครับ
----------------------------------
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 1
- ค่ารถเข้าเมือง 50,000 กีบ ( 186 บาท )
- ค่าซิมลาวเทเรคอม 30,000 กีบ 2 คน ก็ 60,000 (227 บาท)
- ค่าน้ำผลไม้ปั่น 2 แก้ว แก้วละ 10,000 กีบ รวมเป็น 20,000 กีบ ( 80 กว่าบาท )
- ค่าเครปใส่กล้วยกับชอคโกแลต 10,000 กีบ ( 56 บาท )
- ค่าหมูสามชั้นทอดกับข้าวเหนียว 23,000 กีบ (87 บาท) * อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ อิอิ
- ค่าโค้ก น้ำเปล่า เลย์ 23,000 ( 87 บาท )
*****รวมทั้งสิ้น 186,000 กีบ ( 704.55 บาท หารสองก็คนละ 352 บาทครับ*****
จบตอนที่ 1 แล้ว ฝากติดตามตอนที่ 2 ด้วยนะครับ (เดี๋ยวจะรีบกลับมเขียนนะ)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น