อยากลองเขียนรีวิวการเดินทางที่ใดที่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศซักครั้งนึง การเริ่มนี่ยากกว่าที่คิดนะเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไงให้อ่านและเข้าใจแบบไม่ต้องยืดเยื้อ
เข้าเรื่องเลยละกันทริปนี้เริ่มกันที่ประเทศเพื่อนบ้าน "ลาว" นั่นเอง และค่าใช้จ่ายไม่ได้แพงเรียกได้ว่า แทบจะราคาพอกะเที่ยวไทยเลย อันดับแรกเลย การจองตั๋วเครื่องบิน ไงให้ถูก อาจจะต้องจองกันข้ามปีเลยกะว่าได้ เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกและดี
เพื่อนร่วมเดินทางครั้งนี้ ที่ไปได้กันจริง ๆ มีด้วยกันทั้งหมด 6 คน การเที่ยวก็ง่าย ไม่จำเป็นต้องเก่งเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะคนลาว ส่วนใหญ่ก็ฟังและพูดภาษาไทยได้ ใช้เวลาเที่ยวกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ไปกันเมื่อวันที่ 7-10 ตุลาคม 2566 เป็นช่วงเวลาที่คิดว่าอากาศดี เย็น ๆ แต่ดันมีพายุเข้าพอดี อาจจะโดนฝนบ้างเป็นบางวัน โปรแกรมที่เริ่มวางแผน
# ลาว ใช้เงิน กีบ (แลกไปเฉพาะสำหรับเป็นค่าเข้าวัด เพราะส่วนใหญ่ มีค่าเข้าวัด) เพราะสามารถใช้เงินบาทได้
# อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบ ณ วันที่ 07-10-2566 (600 กีบ = 1 บาท) แลกได้ที่สนามบินหลวงพระบาง ออกจาก ตม. เดินไปทางซ้ายมือ
# Sim Internet (ซื้อจากที่ไทยก็ได้ ทั้ง 3 ค่าย AIS ,TRUE,DTAC ราคาไม่ต่างกัน จะอยู่ที่ 399 บาท 6 GB แต่ซื้อ Sim ที่ลาวก็ได้ ราคาไม่แพง ของ Unite 4.5 G Speed 15 GB ราคา 100 บาท มีขายที่ สนามบินลาวทางออก เค้าจัดการเปลี่ยนใส่ sim ให้
# เวลาที่ลาว = เวลาที่ไทย (ไม่ต้องจำให้ยุ่งยาก)
# ที่สนามบิน มีรถบริการรับส่ง จาก สนามบิน ไปที่ รร. ตอนที่ไป ก็ติดต่อรถที่สนามบิน จะเป็นรถ Van (รถตู้) ไป 6 คน = 200,000 กีบ (ประมาณ 330 บาท )/ 1 คัน หรือจะติดต่อจากรร.ที่เราพักก็ได้ ว่า เค้ามีบริการ รับส่งสนามบินมั้ย?
# รร.ที่พัก ทั้ง 3 คืน "Villa Sayada" (รวมอาหารเช้า) ตกคนละ 385 บาท/ คืน ใกล้ คาเฟ่ ของกิน สามารถเดินไปตลาดมืดได้
วันที่ 1 สนบ.ดอนเมือง >สนบ.หลวงพระบาง >พระธาตุพูสี>Night Market
- แวะเก็บสัมภาระไว้ที่ รร.แล้วเดินกันมาสักการะ พระธาตุพูสี เป็นทางขึ้นบันได จำนวน 328 ขั้น เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก มีเสียค่าเข้าวัดคนละ 20,000 กีบ และมีวิวสวย ๆ ให้ชม รอชมพระอาทิตย์ตกดินได้เลย (แต่ตอนที่ขึ้นไป พระอาทิตย์ยังไม่ทันได้ตก เจอกะฝนซะก่อน เลยอดรอชม
มีแนะนำร้านข้าวเปียก (เต๋ยวเส้น) ร้านจะอยู่ใกล้กับ Joma Bakery Cafe ร้านจะเปิดช่วงเย็น ประมาณ 16.00 น.
ส่วน Night Market สินค้าเหมือนบ้านเรา โซนเหนือ เชียงใหม่ เทียบเท่า ถนนคนเดิน "วัวลาย" หรือ "ท่าแพ" อย่างพวก กระเป๋า เสื้อ กางเกง ลายช้าง จะขายเหมือน ๆ กันทุกร้าน (ราคาต่อรองได้นะ)
วันที่ 2 น้ำตกตาดแก้ว > น้ำตกตาดกวางสี > Joma Bakery Cafe (มี 2 สาขา)>Pizza เตาถ่าน "๋Joli Restaurant"
- รร.ที่พัก ชื่อ Villa Sayada ห้องกว้างขวางมาก (รวมอาหารเช้า) มีพวก น้ำดื่ม (ร้อน-เย็น) กาแฟ ชา บริการตลอด 24 ชม. สามารถออกมาเติม มาดื่มได้ น้องที่ดูแลก็อัธยาศัยดี (อาหารเช้า ที่นี่ง่าย ๆ จะเป็นไข่ดาว ไข่แผ่น (ไข่เจียว) ไข่ม้วน ,น้ำส้ม , กาแฟ , และผลไม้ตามฤดูกาล
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราติดต่อรถเช่า บริเวณที่รร. เดินไปตามทางก็จะมีรถเช่า ให้เราติดต่อ ราคาเป็นกันเอง วันนี้ เราจะออกไปนอกเมือง อาจจะใช้เวลา เกือบๆ วัน จะไปน้ำตกที่สวยที่สุดที่หลวงพระบาง
# ปล. รถเช่า สามารถติดต่อได้ ชื่อ คุณทอง เบอร์ติดต่อ แปะไว้ที่รถ
- ที่แรก เป็น "น้ำตกตาดแก้ว" ที่นี่น้ำตกสวย และเป็นร้านอาหารบรรยากาศดี แต่เราไม่ทาน มาเพื่อถ่ายรูป 555+
หลังจากถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน (โชคดีมากที่ไปช่วงเช้า เลยยังไม่มีคน แล้ว เค้าก็ไม่ได้ว่า ที่มาถ่ายรูปอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นคาเฟ่ (ในไทย) ต้องมีเรียกเก็บก่อน คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ) จากนั้นไปต่อกันที่น้ำตกตาดกวางสี รถจะไปจอดยังลาดจอดรถ แล้วต้องนั่งรถของที่น้ำตกไป บริการฟรี (ซึ่งมันรวมอยู่ในค่าเข้าแล้ว) สามารถขึ้นไป-กลับได้ ค่าเข้าคนละ 25,000 กีบ
น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกสีสวยมาก น้ำเย็นใส คนจะนิยมไปถ่ายตรงสะพานแดง แต่คนเยอะมาก (ตามภาพเลย)
ได้เวลาก็เตรียมทางกลับเข้าในเมือง ระหว่างทาง แวะทานไอศกรีม "กะแล่มนมควาย" ตอนนี้ ราคาถ้วยละ 40,000 กีบ มีหลายรสชาดให้เลือกกิน รสชาดปกติ พวก วานิลลา หรือจะพวก สมุนไพร ก็มีให้ลองกินกัน
- มาแล้ว ถ้าไม่มาร้านคาเฟ่ "Joma Bakery Cafe" เหมือนมาไม่ถึง เพราะเป็นที่คนส่วนใหญ่จะแวะมาทานกัน มีทั้งเครื่องดื่ม เค้ก ให้ลองลิ้มลองกัน ร้านทำมาน่ารัก บรรยากาศในร้าน มีทั้งชั้นล่าง และชั้น 2
วันที่ 3 ตักบาตรข้าวเหนียว > ตลาดเช้า > วัดเชียงทอง และวัดใกล้เคียง > ร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม>พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง
(ปล. วัดแสนสุขาราม อยู่ในช่วงปรับปรุงวัดอยู่) > ร้านขนม Zulic Bread Factory & Cafe
- เช้านี้ ตื่นมาเพื่อ ตักบาตรข้าวเหนียว พระจะเริ่มเดิน ประมาณ 05.00 เป็นต้นไป แบ่งกันเป็นสาย ๆ พระแต่ละสาย จะเดินกันมาหลายรูป แนะนำให้ซื้อชุดใส่บาตรกับทาง รร.ดีกว่า ถ้าตลาดตอนเช้าอยู่ไกล (ชุดนึงก็อยู่ประมาณ 150-200 บาท ) จะมีข้าวเหนียว 1 กระติ๊บ ขนม และ ผ้าคาดบ่า ให้ และใส่หน้าบ้าน แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศ ก็เดินไปตักบาตรแถว วัดแสนสุขาราม หรือตลาดเช้า
พวกเราเจอกลโกงของคนบางกลุ่มที่หากินกับนักท่องเที่ยว การซื้อชุดใส่บาตรตอนเช้า จะมีแม่ค้ามาให้ซื้อบอกชุดละ 60,000 กีบ ก็นำพวกเราไปนั่งตรงบริเวณ ที่พระจะเดินมาบิณฑบาตร แต่ด้วยความชุลมุน พวกแม่ค้า เหมือนยัดเยียด ของใส่บาตร พอของหมดก็เอาตะกร้าใส่ของมาเติมให้ตลอด ทั้งที่บอกแล้วไม่เอา สุดท้าย พวกเราโดนโกงไปเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท ไทย ก็เลยไปแจ้งกับน้องที่อยู่ที่ รร.ฟัง (น้องก็รับฟัง แล้วบอกเคยมี นักท่องเที่ยวเจอแบบนี้ บ่อย เค้าเลยแนะนำให้ซื้อกับทางรร.ดีกว่า เป็นข้อเตือนใจเลย) ถือว่าทำบุญไป จิตใจร่ม ๆ เราก็บ่นกันบลาๆๆๆๆๆ
ไม่อยากให้เสียอารมณ์เพราะวันนี้ เป็นวันที่เราจะเที่ยวในเมือง เก็บพวกวัดต่าง ๆ เริ่มต้น วันแรก "วัดเชียงทอง" วัดที่ทุกคนต้องมา ถ่ายรูป กันตรงบานหน้าต่าง ถ้าไม่ถ่าย นี่ถือว่า มาไม่ถึงหลวงพระบางเลยน้า 555+
วันนี้ เหมือนจะไม่ดี แต่ยังมีความโชคดีได้เจอกับท่าน ว.วชิรเมธี ด้วย (อยู่ไทยไม่มีโอกาสได้เจอ บางที ไปถึงไร่เชิญตะวัน เชียงราย อาจจะไม่ได้เจอท่าน) มีโอกาส ขอถ่ายรูปกับท่านซะหน่อย
แวะที่ "พิธิภัณฑ์หลวงพระบาง" มีเข้าชม 2 รอบด้วยกัน รอบเช้า เวลา 08.00-11.30 น. และ รอบบ่ายเวลา 13.30-16.00 น. ค่าเข้าคนละ 30,000 กีบ
ปล. การเข้าชม ให้เก็บกระเป๋า ,มือถือ , ไว้จุดที่ Locker ก่อนเข้าไปชม ความสวยงาม ทุกอย่าง มีการดูแล เก็บรักษา ไว้อย่างดี
มื้อเที่ยง ขอแนะนำ ร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม (ตำหลวงพระบาง)
คาเฟ่อีกที่ที่อยากแนะนำ ครัวซองดีงาม หอม "Zurich Bread Factory&Cafe"
วันที่ 4 เดินเล่นรอบ ๆ เมือง > เช็คเอ้าจาก รร. > สนบ.หลวงพระบาง > สนบ.ดอนเมือง
- วันสุดท้ายที่อยู่ในหลวงพระบาง มันช่างผ่านไปไวมาก วันนี้ พวกเราก็จะเดินเล่นรอบ ๆ เมือง ชมบรรยากาศริมน้ำ อาคารบ้านเรือน เค้าดูสวยงามมาก ใครที่ชอบความไม่เร่งรีบ อยากใช้ชีวิต สบาย ๆ ตื่นมา ปั่นจักรยาน เช่ามอเตอร์ไซด์ หากาแฟ แล้วนั่งแช่ หรืออ่านหนังสือ ก็ทำได้ที่นี่ ถ้าหลงรักวิถีชีวิตนี้ แนะนำ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายไม่แพงด้วย
เดินชิว ๆ ขับขี่ กันก็ไม่ได้บีบแตรแปร๋นๆ ควันก็ไม่เยอะ
(ปล. ใครใช้เงินกีบไม่หมด แลกคืน อาจจะเรทไม่เท่ากับที่แลกนะ แต่ไม่เยอะ หรือว่า จะซื้อของฝากที่สนามบิน )
ปักหมุด: ร้าน Amazon ที่นี่ราคาถูก อย่างกาแฟร้อน ตกแก้วละ ไม่ถึง 30 บาท / ชาเขียวปั่น แก้วละ 40 บาท
คาเฟ่ที่นี่ ราคาไม่แรง แล้วอร่อยด้วย มาอยู่ 4 วัน นี่เข้าคาเฟ่ หลายร้าน เลย ถ้าเป็นที่ไทยนี่ ร้านนึง ก็ตกเป็นพันบาท
สรุปค่าใช้จ่ายทริปหลวงพระบาง
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หลวงพระบาง ตกประมาณคนละ 2,450-3,500 บาท (ไม่รวมโหลดกระเป๋า)
- ค่าโรงแรม 3 คืน (Villa Sayada ) รวมอาหารเช้า คนละ 1,160 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ ต่าง ๆ, ค่ารถ,ค่าอหาร คนละ 1,600 บาท
ทั้งทริป ไม่น่าจะเกินคนละ 5,500 บาท
ลาว-หลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน
อยากลองเขียนรีวิวการเดินทางที่ใดที่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศซักครั้งนึง การเริ่มนี่ยากกว่าที่คิดนะเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไงให้อ่านและเข้าใจแบบไม่ต้องยืดเยื้อ เข้าเรื่องเลยละกันทริปนี้เริ่มกันที่ประเทศเพื่อนบ้าน "ลาว" นั่นเอง และค่าใช้จ่ายไม่ได้แพงเรียกได้ว่า แทบจะราคาพอกะเที่ยวไทยเลย อันดับแรกเลย การจองตั๋วเครื่องบิน ไงให้ถูก อาจจะต้องจองกันข้ามปีเลยกะว่าได้ เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกและดี
เพื่อนร่วมเดินทางครั้งนี้ ที่ไปได้กันจริง ๆ มีด้วยกันทั้งหมด 6 คน การเที่ยวก็ง่าย ไม่จำเป็นต้องเก่งเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะคนลาว ส่วนใหญ่ก็ฟังและพูดภาษาไทยได้ ใช้เวลาเที่ยวกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ไปกันเมื่อวันที่ 7-10 ตุลาคม 2566 เป็นช่วงเวลาที่คิดว่าอากาศดี เย็น ๆ แต่ดันมีพายุเข้าพอดี อาจจะโดนฝนบ้างเป็นบางวัน โปรแกรมที่เริ่มวางแผน
# ลาว ใช้เงิน กีบ (แลกไปเฉพาะสำหรับเป็นค่าเข้าวัด เพราะส่วนใหญ่ มีค่าเข้าวัด) เพราะสามารถใช้เงินบาทได้
# อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบ ณ วันที่ 07-10-2566 (600 กีบ = 1 บาท) แลกได้ที่สนามบินหลวงพระบาง ออกจาก ตม. เดินไปทางซ้ายมือ
# Sim Internet (ซื้อจากที่ไทยก็ได้ ทั้ง 3 ค่าย AIS ,TRUE,DTAC ราคาไม่ต่างกัน จะอยู่ที่ 399 บาท 6 GB แต่ซื้อ Sim ที่ลาวก็ได้ ราคาไม่แพง ของ Unite 4.5 G Speed 15 GB ราคา 100 บาท มีขายที่ สนามบินลาวทางออก เค้าจัดการเปลี่ยนใส่ sim ให้
# เวลาที่ลาว = เวลาที่ไทย (ไม่ต้องจำให้ยุ่งยาก)
# ที่สนามบิน มีรถบริการรับส่ง จาก สนามบิน ไปที่ รร. ตอนที่ไป ก็ติดต่อรถที่สนามบิน จะเป็นรถ Van (รถตู้) ไป 6 คน = 200,000 กีบ (ประมาณ 330 บาท )/ 1 คัน หรือจะติดต่อจากรร.ที่เราพักก็ได้ ว่า เค้ามีบริการ รับส่งสนามบินมั้ย?
# รร.ที่พัก ทั้ง 3 คืน "Villa Sayada" (รวมอาหารเช้า) ตกคนละ 385 บาท/ คืน ใกล้ คาเฟ่ ของกิน สามารถเดินไปตลาดมืดได้
ส่วน Night Market สินค้าเหมือนบ้านเรา โซนเหนือ เชียงใหม่ เทียบเท่า ถนนคนเดิน "วัวลาย" หรือ "ท่าแพ" อย่างพวก กระเป๋า เสื้อ กางเกง ลายช้าง จะขายเหมือน ๆ กันทุกร้าน (ราคาต่อรองได้นะ)
วันที่ 2 น้ำตกตาดแก้ว > น้ำตกตาดกวางสี > Joma Bakery Cafe (มี 2 สาขา)>Pizza เตาถ่าน "๋Joli Restaurant"
- รร.ที่พัก ชื่อ Villa Sayada ห้องกว้างขวางมาก (รวมอาหารเช้า) มีพวก น้ำดื่ม (ร้อน-เย็น) กาแฟ ชา บริการตลอด 24 ชม. สามารถออกมาเติม มาดื่มได้ น้องที่ดูแลก็อัธยาศัยดี (อาหารเช้า ที่นี่ง่าย ๆ จะเป็นไข่ดาว ไข่แผ่น (ไข่เจียว) ไข่ม้วน ,น้ำส้ม , กาแฟ , และผลไม้ตามฤดูกาล
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราติดต่อรถเช่า บริเวณที่รร. เดินไปตามทางก็จะมีรถเช่า ให้เราติดต่อ ราคาเป็นกันเอง วันนี้ เราจะออกไปนอกเมือง อาจจะใช้เวลา เกือบๆ วัน จะไปน้ำตกที่สวยที่สุดที่หลวงพระบาง
# ปล. รถเช่า สามารถติดต่อได้ ชื่อ คุณทอง เบอร์ติดต่อ แปะไว้ที่รถ
- ที่แรก เป็น "น้ำตกตาดแก้ว" ที่นี่น้ำตกสวย และเป็นร้านอาหารบรรยากาศดี แต่เราไม่ทาน มาเพื่อถ่ายรูป 555+
(ปล. วัดแสนสุขาราม อยู่ในช่วงปรับปรุงวัดอยู่) > ร้านขนม Zulic Bread Factory & Cafe
- เช้านี้ ตื่นมาเพื่อ ตักบาตรข้าวเหนียว พระจะเริ่มเดิน ประมาณ 05.00 เป็นต้นไป แบ่งกันเป็นสาย ๆ พระแต่ละสาย จะเดินกันมาหลายรูป แนะนำให้ซื้อชุดใส่บาตรกับทาง รร.ดีกว่า ถ้าตลาดตอนเช้าอยู่ไกล (ชุดนึงก็อยู่ประมาณ 150-200 บาท ) จะมีข้าวเหนียว 1 กระติ๊บ ขนม และ ผ้าคาดบ่า ให้ และใส่หน้าบ้าน แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศ ก็เดินไปตักบาตรแถว วัดแสนสุขาราม หรือตลาดเช้า
- วันสุดท้ายที่อยู่ในหลวงพระบาง มันช่างผ่านไปไวมาก วันนี้ พวกเราก็จะเดินเล่นรอบ ๆ เมือง ชมบรรยากาศริมน้ำ อาคารบ้านเรือน เค้าดูสวยงามมาก ใครที่ชอบความไม่เร่งรีบ อยากใช้ชีวิต สบาย ๆ ตื่นมา ปั่นจักรยาน เช่ามอเตอร์ไซด์ หากาแฟ แล้วนั่งแช่ หรืออ่านหนังสือ ก็ทำได้ที่นี่ ถ้าหลงรักวิถีชีวิตนี้ แนะนำ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายไม่แพงด้วย
ปักหมุด: ร้าน Amazon ที่นี่ราคาถูก อย่างกาแฟร้อน ตกแก้วละ ไม่ถึง 30 บาท / ชาเขียวปั่น แก้วละ 40 บาท
คาเฟ่ที่นี่ ราคาไม่แรง แล้วอร่อยด้วย มาอยู่ 4 วัน นี่เข้าคาเฟ่ หลายร้าน เลย ถ้าเป็นที่ไทยนี่ ร้านนึง ก็ตกเป็นพันบาท
สรุปค่าใช้จ่ายทริปหลวงพระบาง
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หลวงพระบาง ตกประมาณคนละ 2,450-3,500 บาท (ไม่รวมโหลดกระเป๋า)
- ค่าโรงแรม 3 คืน (Villa Sayada ) รวมอาหารเช้า คนละ 1,160 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ ต่าง ๆ, ค่ารถ,ค่าอหาร คนละ 1,600 บาท
ทั้งทริป ไม่น่าจะเกินคนละ 5,500 บาท