[CR] "Harbin in my LoVe" Wonderful experience เรียนภาษาจีนที่ฮาร์บิ้น

                          แนะนำตัวก่อน จขกท.เป็นเภสัชกร เด็กสายวิทย์มาทั้งชีวิต เริ่มสนใจภาษาจีนเนื่องจาก เป็นคนชอบพาที่บ้านไปเที่ยวเมืองจีนทุกปี ทำให้อยากคุยกับเค้ารู้เรื่อง เลยลงเรียนคอร์ส online ทางเฟสบุค แต่การเรียนที่ไทยยังไงเราก็ไม่ค่อยได้ลองใช้เท่าไร จึงมีความคิดอยากไปเรียนที่จีนประเทศเจ้าของภาษาซักครั้ง
                                   จากการหาข้อมูลที่เรียนมามากมายจนวันนึงเพจ Befriend education (ชื่อเดิม J.Harbin)ได้เด้งขึ้นมาในหน้า feed facebook โดยบังเอิญ ตอนนั้นก้เข้าไปทักคุยกับ "น้องเจว" แปบเดียวก็ตัดสินใจเลือกไปกับเจวทันที ทั้งที่โดยส่วนตัวเป็นคนเลือกเยอะ ต้องคุ้มค่าในทุกๆด้าน สาเหตุที่เลือกมากับเจวเนื่องจาก เจวเป็นผู้หญิง ถึงยังไงเราเป็นผญ ก้สะดวกใจที่คนดูแลเป็นผญ มากกว่า และเจวเองก็มีทีมงานเดินทางไปพร้อมกับเรา เนื่องจากต้องมีไปต่อเครื่องที่กวางโจว แม้ว่าจะไปต่างประเทศมาหลายครั้งแต่ไม่เคยไปแบบต่อเครื่องเลย เลยอยากได้ทีมที่พร้อมไปกับเรา และที่สำคัญ อยากเห็น "หิมะ" ที่ฮาร์บิ้น
           และแล้ววันเดินทางก็มาถึง ออกจากสุวรรณภูมิวันที่ 11 มีนาคม ไปเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจว และถึงฮาร์บิ้นเกือบตี 1 แค่ลงจากเครื่องเท่านั้นล่ะ OMG หนาวสะท้านทรวงกับอากาศ -12 นี่ล่ะสะใจออเจ้านัก อยากมาเจออากาศติดลบนักมิใช่ฤา จากสนามบินฮาร์บิ้นก็นั่งรถประมาณเกือบ 1 ชม.ก็ถึงมหาลัย HIT Harbin in Stitute of Technology. ชื่อจีน 哈尔滨工业大学 หรือสั้นๆ "ฮากงต้า" วันแรกถึงหอก็สลบจ้า
                                      เช้าตื่นมาตี 5 อยากบอกที่นี่ฟ้าสว่างเร็วมาก เวลาที่นี่เร็วกว่าไทย 1 ชม. ตื่นมาเจอบรรยากาศหิมะบนดาดฟ้าตึก ช่างสวยงามนัก หอที่เราอยู่คือหอ 13 ซึ่งเป็นหอของนศ.ต่างชาติโดยเฉพาะ มี 16 ชั้น เราอยู่ชั้น 12 ใน 1 ห้อง จะมีห้องย่อย 2 ห้องแต่ละห้องย่อยอยู่ 2 คน รวมแล้ว 1 ห้องจะมีนศ. 4 คน ของเราห้องย่อยเราอยู่คนเดียว (โชคดีไป) ส่วนอีกห้องเป็นน้องคนไทยที่มาเรียน 1 เดือนเหมือนกัน
                                      ลงจากหอมาเป็นอะไรที่ชอบมากก นี่ล่ะการที่เราเลือกมาฮาร์เอ่อบิ้น (ออกเสียงตามสำเนียงจีนกลาง) ก็เพราะหิมะ หิมะแล้วก้หิมะ  อากาศดีหนาวมาก                                      
                                    ซึ่งวันแรกเลยต้องมาสอบวัดระดับกันก่อน  ซึ่ง Harbin Institute of Technology: HIT เป็นมหาลัยอยู่ใน Top 10 ของประเทศจีนอันดับ 1 ของฮาร์บิน เด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์ และภาษา (ปกติบ้านเราจะเป็นวิศวคอม วิศวเครื่องกล แต่ที่นี่เป็นวิศวสร้างยานอวกาศจร้า ฟังแล้วอึ้ง ทึ่งในความสามารถ) ก่อนที่จะเข้าเรียน ก็จะมีสอบวัดระดับภาษา เพราะงั้นคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน ก็สามารถมาเรียนได้เหมือนกัน เพราะจะได้เรียนตั้งแต่ พยัญชนะ สระ pinyin วิธีอ่าน ในการเรียนภาษาของที่นี่จะมี 7 ระดับ คือ A , B , C , C+ ,  D , E , F ซึ่ง F คือระดับสูงสุด ( ระดับ c ถ้าเทียบกับการสอบ HSK คือระดับ 4 ) ของเราด้วยความพื้นฐานน้อยมากๆ เลยได้เรียนระดับ A
                                   โฉมหน้าสมาชิกห้อง A6 ของเรา ซึ่งเด็กไทยครองเมืองจร้า มีเกาหลี 3 คน รัสเซีย 2 และโมร็อคโกอีก 1 การที่เราได้มาเรียนที่นี่นอกจากได้ภาษาจีนแล้วยังได้มีเพื่อนต่างชาติเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งหนุ่มรัสเซียทั้ง 2 น่ารักมาก เวลาสื่อสารต้องใช้ google translate ตลอดเพราะพวกนางพูดอังกฤษไม่ได้เลย เหล่าซรือก็น่ารัก พูดภาษาอังกฤษได้ ทำให้เวลาเรียนถ้าพวกเราไม่เข้าใจภาษาจีน เหล่าซรือก็จะพูดอังกฤษด้วย
                                     หลังจากนั้นก็จะมีการพาไปทำซิมเพื่อสำหรับโทรกลับไทยและเล่นเน็ต / เปิด wifi มหาลัยซึ่งดีต่อใจถ้าโหลด VPN มา / ทำบัตรโรงอาหาร ซึ่งใช้ซื้อของในโรงอาหาร , เชาซื่อ (supermarket)                 
                                       บรรยากาศการเรียนวันแรก สนุกสนานที่ได้รู้จักเพื่อนมากมาย แต่กลับเครียดที่ต้องมาโดนสั่งให้เขียนตัวจีน ซึ่งยากมากกกก ซึ่งกับเราตอนเรียนเน้นฟังพูดทำให้รู้สึกเป็นอะไรที่ยากมากๆ ยากกว่าเรียนเภสัชอีกนะเออ ยิ่งพอจบคาบเหล่าซรือให้คัดศัพท์ 5 รอบ บทสนทนาอีก 2 รอบ น้ำตาเภจาไหล ซึ่งก็ท้อนะ แต่พอมานั่งคิดเอาวะสู้ซักตั้งจะไม่ยอมให้คนไทยเสียชื่อว่าไม่ยอมทำการบ้านเด็ดขาด และมานั่งคิด เคยเรียนวิชา med chem ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยการเขียนโครงสร้างยาที่ยากแสนยากยังได้ A มาแล้ว  แค่นี้ทำไมต้องท้อ ต้องสู้ซิ ^^
                                   
                  ลายมืออักษรจีนครั้งแรก น้องที่ดูแลบอกเขียนสวยแล้ว แบบนี้กำลังใจมาอีกมากๆ และทุกครั้งก็จะทำการบ้านจนเสร็จ
                                        ที่มหาลัย จะเรียน 2 ชม.ต่อ วิชา = 4 ชม. / วัน คือ 8.00 - 12.00  และ 13.00  -17.00   แต่ละชั่วโมงจะมีพักเบรค 10 นาที แล้วแต่ตารางเรียนของแต่ละ Class ที่นี่มีความตรงต่อเวลามาก กริ่งดังปุ๊ป เลิกเรียนปั๊ป วิชาก็จะสลับวนกันไป มีไวยากรณ์ การฟัง การพูด และการเขียน  ซึ่งในรูปเป็นวิชาการพูด ซึ่งเราชอบมากเพราะที่เราเรียนที่ไทยเราเน้นพูด และเหตุผลที่มาเรียนที่จีนเพราะต้องการเอาสิ่งที่เรียนมามาลองใช้ในสนามจริง ทำให้ชอบที่จะพูดคุยกับเหล่าซรือ ผิดบ้างถูกบ้างเป็นการฝึกสกิลไปในตัว วิชานี้มีการบ้านให้ออกมาพรีเซ้นหน้าชั้นเป็นงานง่ายๆเหมาะกับความคลาส A เช่น ไปสัมภาษณ์นศ.จีน เป็นต้น
                                         วิชาที่ชอบรองลงมา แต่รักเหล่าซรือมากที่สุด คือ วิชาการฟัง เหล่าซรือเป็นคนตลก ภาษาอังกฤษเป๊ะ และที่สำคัญเป็นคนรักเมืองไทยมาก ปลายปีก่อนเคยมาเที่ยวไทยหลายๆจังหวัดเป็นเดือน เหล่าซรือชอบอะไรที่เป็นไทยๆ ทำให้นศ.ไทยรวมทั้งเรามีความรักนางมากเช่นกัน
                                          ทุกวันศุกร์จะมีกิจกรรม coffee corner  คล้าย ๆ กับงานหาเพื่อน นักเรียนต่างชาติจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยวันที่เราไป เป็นคิวของนศ.ไทยที่จะพรีเซ้นเรื่องราวของประเทศไทยให้ต่างชาติรับรู้
                                          ซึ่งการมากับ Befriend นั้นเราก้ไม่ได้มาเรียนอย่างเดียวนะจ๊ะ น้องๆก้น่ารักพาไปเที่ยวด้วย ทุกวันพุธตอนเย็นและวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเราว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะว่าการที่เราได้ออกมานอกห้องเรียนนั่นล่ะที่จะทำให้เราได้ฝึกการใช้ภาษาจีนอย่างจริงจัง และน้องก็จะปล่อยให้เราลองพูดเอง อย่างเช่นนะ น้องพาเราไปร้านอาหารที่มีแต่ภาษาจีน ซึ่งเราอ่านออกแค่อันไหนเป็นเนื้ออะไร เพราะเราไม่กินเนื้อวัว ก็ใช้วิธีจิ้มๆและลองหัดถามคนจีนดู ซึ่งก็เป็นการดีที่เราได้ใช้ภาษาในสถานการณ์จริงแบบที่เราต้องการ และน้องยังติดตามผลด้วยนะจ้ะว่าอีพี่คนนี้จารอดไหม สั่งอะไรมากิน มีความน่ารัก ^^  ในรูปเป็นตลาดมืดที่แถวม.เฮยหลงเจียง ของกินเยอะมาก
                           
                                           เสาร์แรกของการมาเยือนตู้เย็นแลนด์แห่งนี้ น้องๆก้พาไปเล่นสกี นี่ล่ะเหตุผลที่เลือกมาฮาร์บิ้น เพราะอยากเห็นหิมะแบบที่เมืองไทยไม่มี ขอบอกสนุกมากแม้จะล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ บรรยากาศระหว่างไปลานสกีก็สวยมากๆ ชอบ ได้เล่นปาหิมะใส่เพื่อนรุ่นน้องแบบเด็กๆ ได้ย้อนวัยก็คราวนี้
                                          
                                          สถานที่ต่อมาที่น้องๆพาไป คือ โบสถ์เซ็นโซเฟียและถนนจงหยาง ถนนสายนี้เป็นถนนคนเดินที่ขึ้นชื่อที่สุดของฮาร์บิ้น รู้สึกว่าให้อารมณ์ประมาณถนนเฉียนเหมินของปักกิ่งที่เคยไป อากาศหนาวและลมแรงปะทะประหนึ่งหน้าโดนทาด้วยชาตลอดเวลา 555 เดินจนสุดถนนจะเจอแม่น้ำ เสียดายน้ำแข็งเริ่มละลาย ทำให้ไม่สามารถลงไปเล่นสเก็ตได้ ... และอีกกิจกรรมที่ต้องมาทำที่ถนนสายนี้คือ กินไอติมเย็นๆและถังหูลู่ (ผลไม้รสเปรี้ยวเคลือบน้ำตาล) หนาวแค่ไหนต้องลอง ไม่งั้นจัดว่าพลาดนาจา
                                                               โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบไหว้พระ ก้เลยเปิด google map หาวัดในฮาร์บิ้น ซึ่งก็คือวัดจี่เล่อซื่อ และก้หาวิธีเดินทางไปเอง และเฟี้ยวโดยการไปคนเดียว เพราะรู้สึกว่าจะทำให้เรากล้ามากขึ้น และพอกลับมาแล้วเราก็ยังสามารถพาเพื่อนๆไปซ้ำได้อีก วัดนี้สวยมาก มีพระยืนองค์ใหญ่ ด้านหลังวัดเป็นสวนสนุกที่ปิดในหน้าหนาว แต่เราก็ยังได้มุมชิวๆชิคๆในการถ่ายรูปสวยๆ โดยที่ฉากหลังเป็นชิงช้าสวรรค์ของสวนสนุก
                                                               ทริปถัดมาซึ่งถือว่าเป็นทริปที่รัก Befriend มากที่สุดบอกเลออออ 555 เดินขึ้นเขาสูงมากมากจนตอนแรกนึกว่าน้องหลอกเล่น ใช้เวลาเดินขึ้น 3 ชม. ลงอีก 2 ชม. เป็นอะไรที่คนวัย 31 อย่างเราที่ทำงานในห้องไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเหนื่อยมาก แต่ก้สู้จนเดินถึงยอดเขาพร้อมเด็กๆวัย 17 ที่แรงเหลือเฟือ ขึ้นมาแล้วก็หายเหนื่อยจริงๆ แต่ที่จัดว่าเด็ดคือตอนลงนี่ซิ คุณพระ ! อยู่เฉยๆขาพี่ก็สั่นแล้ว ระดับ 10 ริกเตอร์เห็นจะได้  555 กลับมานี่เกลียดบันไดไปหลายวัน ใครให้เดินลงบันไดคือมีโกรธ
                                                               ทริปต่อมา หมู่บ้านรัสเซีย เสียดายที่ตอนพวกเราไปหิมะละลายหมดแล้ว ไม่งั้นจะสวยกว่านี้เยอะ แต่น้ำในแม่น้ำยังพอเป็นน้ำแข็งให้เราเห็นบ้าง สถานนี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆให้ถ่ายเพียบ
                                                                                    พูดถึงอาหารการกินกันบ้างดีกว่า บอกเลยย อุดมสมบูรณ์ โรงอาหารที่นี่มี 3 โรง ที่ชอบมากสุด คือชั้น 2 ของโรงเกี๊ยวที่เป็นอาหารแบบตัก ชั่งจ่าย ราคาถูกและอร่อยมาก และอีกโรงนึงที่ชั้น 2 เป็นอาหารเช้าแบบหยิบๆมาจ่าย ราคาอาหารที่นี่เมื่อเทียบกับปริมาณแล้วถูกกว่าบ้านเรา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่