ประสบการณ์การดูหนังที่แย่ที่สุดในชีวิตเลยครับ

ท่านผู้อ่านที่ชอบดูหนังในโรงทุกท่านที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้นะครับ
ผมอยากจะขอความเห็นใจจากท่านทั้งหลายจริงๆครับ
—Take Home Message—
-ปิดเสียงโทรศัพท์ เปิดสั่นเถอะครับ
-หลังเพลงสรรเสริญฯ หยุดคุย”ต่อเนื่อง”ได้มั้ย
-หยิบป๊อปคอร์นเป็นชิ้นๆกำๆไปเลย และที่สำคัญ อย่าเคี้ยวแบบสนุกปากเลยครับ
-อย่าใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย สัมผัสกับเก้าอี้คนข้างหน้า ข้างๆ และข้างหลัง เพราะมันแสดงถึงความสะถุน
-แม้ถึงตอนนั่งรอ end credit scene ก็ไม่ได้หมายความว่า สามารถเปิดเสียงโทรศัพท์ได้นะครับ

เชื่อว่าคงมีหลายท่านที่ตั้งใจเก็บเงินเพื่อมาดูหนังในโรง สมัยนี้ค่าตั๋วก็ไม่ใช่ถูกๆ
แต่เงินที่เสียไปมันไม่เท่าไหร่หรอกครับ ผมว่ามันคือ ความสุขเล็กๆน้อยๆในชีวิตที่ได้ต่างห่าง
พื้นที่นั่งน้อยๆของเรา ความนุ่ม ความสบาย การได้มองภาพเคลื่อนไหวสุดขอบตา เสียงกระหึ่มที่ทำให้เบาะนั่งสั่นสะเทือน สำคัญที่สุดคือ ความเป็นส่วนตัว

ความเป็นส่วนตัวในความหมายของผมคือ ไม่มีสิ่งรบกวนสมาธิในการดูหนังของเรา อันได้แก่ เสียงคุยกัน เสียงพากย์หนัง เสียงหยิบถุงพลาสติก เสียงหยิบป๊อปคอร์น เสียงเคี้ยว เสียงมือถือ เสียงข้อความรียกเข้า ความรู้สึกสั่นของเท้าคนข้างหลังที่มาโดนเก้าอี้เรา ฯลฯ (ที่เขียนมา ผมโดนมาทั้งหมดในวันนี้)


วันนี้ผมไปดูหนังฟอร์มยักษ์ในห้างหรูใจกลางสยามมาครับ หนังที่รอคอย หนังที่มีฉากประทับใจ ฉากอู้วหูว ฉากซึ้ง และฉากตื่นเต้น หวังว่าเข้าไปดูวันนี้จะได้ผ่อนคลาย ได้รับประสบการณ์ดีๆกลับมา หลังจากทำงานอย่างเหน็จเหนื่อย ซึ่งค่าตั๋วก็เกินเกือบจะเกินค่าแรงขั้นต่ำ
เมื่อเข้าไปในโรงหนัง ในห้องกว้างขวาง ดูสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นอะไร
เมื่อทิ้งตัวลงนั่ง ความนิ่มของเบาะ ความกว้างของที่วางเท้าเต็มที่ แม้จะยืดเท้าจนสุด ก็ยังไม่โดนเบาะคนข้างหน้า เอนได้ในระดับกำลังดี โอเคเลยครับ
แต่เมื่อเริ่มดูตัวอย่างหนังเท่านั้นแหละ เริ่มมีเสียงคุยกันบ้าง(คิดในใจ โอเคนะ หนังยังไม่เริ่ม เดี๋ยวทุกคนก็คงต้ังใจดีเหมือนกัน เหมือนที่ผ่านๆมา) จนเมื่อนั่งลงหลังยืนตรงร้องเพลงสรรเสริญฯ หนังเริ่มฉาย ความผ่อนคลายเริ่มจะมา ขยับตัวนิดหน่อยให้อยู่ในท่าที่สบาย เตรียมเข้าสู่สมาธิกับหนัง
แม่เจ้าาาาาา เสียง notification จากมือถือใครซักคน(คงลืมปิดแหละมั้ง)---จากนั้น มีเสียงเดิม จากบริเวณเดิม อีกสองครั้ง ห่างกันประมาณ 5 นาที(คือ คุณไม่คิดจะปิดเสียงจริงๆหรอ)
แม่จ้าาาาาาา เสียงมือเกลาป๊อปคอร์น ด้านหลังจ้าาาาา เคี้ยวอย่างเมามันด้วยจ้าาาาา---โชคดี คุณชายไม่ได้ยกมาทั้งร้าน ไม่งั้นเกลาและเคี้ยวจนจบเรื่องแน่ๆ
(เอ........ทำไมรู้สึกเก้าอี้มันสั่นๆนะ สงสัยเสียงหนังจะดังมาก จนพื้นสั่น) แม่จ้าาาาาาา มันคือปลายเท้าของคนข้างหน้านี่หว่าาาาาาา
(เอาว๊ะ ใกล้จะได้ออกจากโรงละ ไม่ต้องทนต่อแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรมาทำให้หงุดหงิดได้อีกแล้วมั้ง) แม่จ้าาาาาาา ขณะนั่งรอ end credit scene เสียงchatแบบไม่เกรงใจชาวบ้าน เปิดเสียงกันเต็มที่เลยจ้าาาา

ผมคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนเคร่งมากนะ เพราะระหว่างที่หนังฉาย ก็มีคนลุกเดินออกจากที่นั่งบ้าง เดินกลับเข้ามาบ้าง มีเสียงพูดกันกับคนข้างๆบ้าง ก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร บางคนก็ต้องไปห้องน้ำ บางคนก็อยากจะพูดความรู้สึกให้คนที่มาด้วยบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา

ผมรู้สึกว่า คนเราสมัยนี้ไม่ค่อยมีความเกรงใจกันเลยนะครับ
ผมก็พยายามทำความเข้าใจ คิดหลายๆมุมนะครับ พยายามคิดถึงใจเขาใจเรา
ทุกคนก็เสียเงินเข้ามาดูหนังเหมือนกัน คุณทำอะไรก็ได้ภายในที่นั่งของคุณได้ก็จริง จะนั่ง จะเอน จะวางแขน จะเท้าค้าง จะนั่งกอดเข่าก็ยังได้ แค่มันไม่ไปกระทบคนรอบข้างก็พอ
—เสียง--- เข้ามาในโรงหนัง คุณควรต้องรู้แล้วนะครับ ว่าเสียงที่ออกจากปากคุณ อุปกรณ์ต่างๆในตัวคุณ หรือการขยับของตัวคุณ มันรบกวนคนรอบข้างหมดแหละครับ ทำได้นะครับ แต่อย่าทำติดต่อกันเรื่อยๆแค่นั้นเอง
—แรงสั่น--- ที่เกิดจากการขยับตัว โดนเฉพาะการกระดิกเท้า ถ้าคนสั่นแรงจนเก้าอี้สะเถือน หรือกระดิกเท้าไปโดนเก้าอี้ข้างหน้าคุณ มันก็ต้องรบกวนคนรอบข้างแน่นอน



ทำอย่างไรดีครับ ถึงจะให้คนเรารู้จักการเกรงใจผู้อื่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่