สวัสดีครับ

กระทู้รีวิวนี้คงไม่มีความเห็นอะไรมากมาย เอาข้อมูลมาแบ่งปันกันมากกว่า

1.    ข้อมูลเบื้องต้น
Model:    Toyota Prius Hybrid 1.8
Grade:    Top Option
ราคา:    1,369,000 บาท
ระยะเวลาเก็บข้อมูล: 29 เมษายน 2556 ถึง 29 เมษายน 2561

2.    ค่าบำรุงรักษา
-    ข้อมูลในส่วนนี้เก็บถึงวันที่เข้าเช็คระยะครั้งสุดท้ายปลายปีที่แล้ว
-    ชื่อรายการต่าง ๆ ใช้ถ้อยคำแบบเดียวกับที่ปรากฏในใบเสร็จรับเงินเพื่อให้ง่ายต่อการจำแนก
-    ข้อมูลมีการแยกรายการปกติ และรายการพิเศษออกจากกัน โดยอ้างอิงความเห็นของเจ้าของกระทู้ โดยรายการปกติคือรายการที่ปรากฏตามคู่มือดูแลรถยนต์ ส่วนรายการพิเศษเป็นรายการที่นอกเหนือจากคู่มือ ทั้งนี้อาจมีข้อผิดพลาดได้เนื่องจากมิได้ทำการตรวจสอบยืนยันทุกครั้งว่ารายการใดเป็นรายการในคู่มือ
-    ในส่วนของราคานั้น ใช้ราคาหลังหัดส่วนลดแล้วตามที่ปรากฏในใบเสร็จ ทั้งนี้ ส่วนลดจะได้ไม่เท่ากันในแต่ละวัน
-    ตามรายการด้านบนจะเห็นว่า มีการเข้าเช็คระยะ 50,000 กิโลเมตร จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ศูนย์ เนื่องจากเพิ่งผ่านระยะ 50,000 กิโลเมตร มาไม่เยอะ จึงแนะนำให้ตรวจที่ระยะ 50,000 กิโลเมตรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
-    นับจนถึงวันที่ลงกระทู้นี้ ยังไม่เคยมีการเคลมชิ้นส่วนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฮบริด

*เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องแบตเตอรี่ 12V

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

*ข้อมูลอาจจะไม่ครบถ้วน 100% เพราะจำได้ว่า เคยเปลี่ยนกรองอากาศมากกว่า 1 ครั้ง แต่หาใบเสร็จไม่เจอ สงสัยว่า อาจเป็นการเข้าศูนย์นอกรอบ เลยอาจตกหล่นไป

ข้อสังเกตุเพิ่มเติม
ในเรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง นั้น ค่าใช้จ่ายก็ไม่ต่างกับรถรุ่นอื่น ๆ แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี หากเป็นชิ้นส่วนที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับรถยนต์คันอื่นได้แล้ว ก็คือ ชิ้นส่วนที่เป็นเฉพาะของ prius เอง ก็จะพบว่า ค่าใช้จ่ายสูงอยู่เหมือนกันครับ เช่น ยางปัดน้ำฝน

*ยางรถยนต์
เห็นมีหลายท่านพูดถึงเรื่องยางรถยนต์ ว่าตรง ๆ คือ ลืมครับ แต่คิดไปคิดมาอีกที ยางรถยนต์มีตัวเลือกหลากหลาย ราคาหลายระดับ ความชอบไม่เหมือนกัน เลยคิดว่า ไม่ใส่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เข้าไปดีกว่า

ยางรถยนต์เปลี่ยนครั้งแรกตอนเช็คระยะ 50,000 กิโลเมตร (ครั้งที่ 2) วันที่ 10 มิ.ย. 2559 ODO 54,877 และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบันครับ

3.    เบี้ยประกันภัย


โดยส่วนตัว ค่อนข้างเจ็บกับเบี้ยประกันภัยของ prius เหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเหตุที่ว่ามีการเคลมหลายครั้งก็ได้ แต่มีอยู่ 1-2 ปี ที่ไม่เคลมเลย แต่เบี้ยก็ลดไม่เท่าไร โดยส่วนใหญ่ จะเป็นการเคลมแบบไม่มีคู่กรณีครับ เป็นพวก ชนสุนัข และรอยขูดขีดจากฟุตบาท

สำหรับค่าซ่อม เคยไปขอดูบิลที่ศูนย์เรียกเก็บจากประกันภัย พอได้ความว่า ถ้าเป็นการซ่อมเรื่องทั่ว ๆ ไป ก็ไม่เท่าไรครับ ราคาพอ ๆ กับรถโตโยต้ารุ่นอื่น แต่ถ้าเป็นอะไหล่เฉพาะของ prius เมื่อไร ราคาสูงทีเดียวครับ ยกตัวอย่างในอุบัติเหตุคราวล่าสุด ต้องเปลี่ยนกันชนหน้า ราคากันชน 5,000 บาท อันนี้ พอรับได้ แต่ต้องจ่ายค่าปั๊มน้ำสำหรับตัวฉีดน้ำล้างไฟหน้าราคากว่า 5,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ อุปกรณ์ส่วนนี้ เป็นอะไรที่ไม่เคยใช้เลยด้วยซ้ำ


4.    ค่าน้ำมัน
น่าจะเป็นเรื่องที่มีคนอยากรู้มากที่สุดว่าประหยัดจริงหรือไม่ คำตอบก็คือประหยัดจริงครับ แต่จะคุ้มหรือไม่ อันนั้นอีกเรื่องนึงครับ

ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดในส่วนนี้ ต้องอธิบายถึงรูปแบบการขับก่อน เนื่องจากระยะเวลาที่ใช้รถ มีการย้ายที่พักและที่ทำงานหลายครั้ง ส่วนตัว จขกท. เอง ทำงานเป็นข้าราชการ มีทั้งช่วงที่ทำงานในกรุงเทพฯ และทำงานต่างจังหวัด

ช่วงที่ 1 เดือนเมษายน 2556 ถึง มีนาคม 2558 เป็นช่วงที่ทำงานในกรุงเทพฯ บ้านและที่ทำงานห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร ไปกลับก็วันละ 60 กิโลเมตร เจอรถติดบ้าง เป็นบางช่วง

ช่วงที่ 2 เดือนเมษายน 2558 ถึง มีนาคม 2560 เป็นช่วงที่ทำงานในจังหวัดนึงในภาคอีสาน หน่วยงานมีที่พักให้ ห่างจากที่ทำงาน 1 กิโลเมตร รูปแบบการขับ ไม่เจอรถติด วิ่งแต่ละครั้งเป็นช่วงสั้น จากบ้านไปที่ทำงาน พักเที่ยงขับรถไปทานข้าวข้างนอกบ้าง ช่วงเย็นขับกลับที่พัก มีขับไปห้าง ไปฟิตเนส ระยะทางการขับส่วนใหญ่ ไม่เกิน 5 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จะ 1-3 กิโลเมตร

นอกจากนี้มีบางสัปดาห์ที่ขับรถไปเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงบ้าง บางทริปก็ขับกันราว เกือบ 500 กิโลเมตร

นาน ๆ ครั้ง จะขับกลับกรุงเทพฯ ที ส่วนใหญ่นั่งรถทัวร์เอาครับ

ช่วงที่ 3 เดือนเมษายน 2560 ถึง มีนาคม 2561 เป็นช่วงย้ายที่ทำงานมายังจังหวัดนึงทางภาคตะวันออก ช่วงหกเดือนแรก ที่พักห่างจากที่ทำงาน 10 กิโลเมตร ขับไปประมาณ 40KM/ชม ไปเรื่อย ๆ ส่วนหกเดือนหลัง ที่พักห่างจากที่ทำงาน 2 กิโลเมตร ไม่เจอรถติด ช่วงเที่ยงก็มีขับไปทานข้าว ไปห้าง ไปฟิตเนส ในจันทร์ถึงศุกร์ ระยะทางการขับแต่ละครั้งไม่เกิน 10 กิโลเมตร

ส่วนสุดสัปดาห์ ถ้าไม่ติดภารกิจอะไรก็จะขับกลับกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร เป็น 40 กิโลเมตร บนทางหลวงสาย 36 และอีกราย 110 กิโลเมตร บนมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพพัทยา

ช่วงที่ 4 เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นมา ช่วงนี้กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ ครับ แต่ช่วงเวลาสั้นเกินจะรีวิวอะไรได้


ในส่วนตารางด้านล่าง ระหว่างทำรีวิว เจอข้อมูลบางอย่างที่อาจแสดงถึงความผิดพลาดในการจดข้อมูล จึงได้ทำหมายเหตุไว้ด้านหลัง แต่เนื่องจาก เป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว จึงไม่รู้จะไปตรวจสอบและแก้ไขยังไงครับ

ส่วนใหญ่ จขกท. ก็ขับตามความเร็วที่กฎหมายกำหนดน่ะแหละครับ มอเตอร์เวย์ก็ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทางหลวงอื่นก็ราว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจจะมีช่วงสั้น ที่ขับเกินไปกว่านั้นบ้าง ทั้งนี้ ตามสภาพการจราจรและถนนจะเอื้ออำนวย ส่วนในเมือง ก็ 40 – 60 ครับ

ใครที่ไม่อยากไปดูรายละเอียดในแต่ละถัง ก็ดูสรุปตามนี้ครับ ส่วนใครอยากดูรายละเอียดที่เยอะกว่านั้น ก็กดเข้าไปดูได้ที่ด้านล่างครับ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ข้อสังเกตเพิ่มเติม

จากการสังเกตุหลายครั้ง รถยนต์ prius จะมีอัตราสิ้นเปลืองดีที่สุดเมือขับที่ความเร็วเฉลี่ย 90KM/ชั่วโมงครับ ถ้าจะประหยัดกว่านี้ ก็น่าจะเป็นวิ่งลงเขาล่ะครับ

ส่วนอัตราสินเปลืองแย่ที่สุด ก็ตอนรถติดหรือวิ่งเป็นระยะทางสั้น ๆ

ในช่วงที่อยู่ทางอีสาน บางเดือน รูปแบบการขับเป็นแค่ บ้าน – ที่ทำงาน – ห้าง – ฟิตเนส ซึ่งครั้งนึงวิ่ง 1- 5 กิโลเมตร สถิติจัดว่าแย่สุด ๆ เลย ราว ๆ 10 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้น แต่ก็แลกกับการประหยัดค่าน้ำมันไปได้พอสมควร คือถังนึงอยู่ได้เดือนกว่าทีเดียว

5. อื่น ๆ

ถ้าให้พูดถึงความประทับใจในรถคันนี้ ต้องบอกว่าประทับใจเรื่องของสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน ตอนแรกซื้อมาด้วยความคาดหวังว่า มันคืออัลติสที่ประหยัดน้ำมันขึ้น แต่พอใช้แล้ว ถือว่า สมรรถนะของรถทำได้ดีกว่าที่คาดหวัง เทียบชั้นได้กับแคมรี่ทีเดียว

ส่วนเรื่องที่ไม่ประทับใจที่สุด ก็คงเป็นราคาอะไหล่น่ะแหละครับ เปลี่ยนยางปัดน้ำฝนสามเส้นจ่ายเกือบพันบาท อีกทั้ง ถ้าไม่มีประกัน ค่าซ่อมในกรณีเกิดอุบัติเหตุคงไม่น้อย (อันนี้จากดูบิลที่ศูนย์เรียกเก็บจากประกัน)

ส่วนราคาล้างรถ prius จ่ายราคาเดียวกับ camry ครับ เพิ่งรู้ว่า prius เป็นรถขนาดเดียวกับ camry ก็จากร้านล้างรถเนี่ยแหละครับ (ฮา)

คงจบการรีวิวไว้ตรงนี้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้าง

* มีแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลเรื่องแบตเตอรี่ 12V กับเรื่องยางรถยนต์ และปรับกราฟแสดงอัตราสิ้นเปลืองให้รวมวันที่