หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Leh ladakh สถานที่ที่ไม่ควรไปก่อนตาย (แต่ควรไปก่อนแก่)
กระทู้รีวิว
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บันทึกนักเดินทาง
------ทริปนี้เกิดขึ้นจากเพื่อนอยากไป ซึ่งไอ้เราก็ไม่รู้เลยว่า leh ladakh เนี่ยมันเป็นยังไงอยู่ที่ไหน มันบอกแค่ว่าสวยๆๆๆ ตั๋วเครื่องบินมีโปรเดี๋ยวหมดโปรนะเอาม่ะ เราเห็นมันบอกตั๋วถูกก็สั่งให้จองไปเลยจ้า... ยังไม่ได้คิดอะไร ...หลังจากนั้นก็มาดูกระทู้ต่างๆ ว่า leh ที่เค้าว่าสวยนักหนามันเป็นยังไง...พอดูก็เห็นเลยจ้าสวยงาม...แต่ๆๆ ในกระทู้ที่คนอื่นรีวิวก็เริ่มจากการเตรียมตัว ไอ้เราก็ทำไมต้องเตรียมเยอะขนาดนี้ และไอ้ตั๋วที่เราจองไปในการเดินทางครั้งนี้ ไม่มีโหลดกระเป๋านะจ๊ะ ได้แค่ 7 กก. (ก็ของมันถูกอ่ะเอาแบบประหยัด) ทำไงล่ะ ยา อาหารแห้ง น้ำพริก เสื้อกันหนาวอีก บลาๆๆ
--เราเดินทางในช่วงสงกรานต์ 11-18 เมษา 2561 ทริปนี้จองตั๋วตั้งแต่กลับจากทริปฟุกิโอกะ ญีุ่ปุ่นในช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว จองกันเป็นปีเลยที่เดียว สรุปราคาตั๋วไปกลับ 9,500 บาท แต่เราไปต่อเครื่องที่มาเลเซียนะไม่ได้ ก็คือ จากดอนเมือง>>มาเล(รอต่อเครื่อง 3ชม.)>>นิวเดลี>>เลห์ สงกรานต์ไทยร้อนตับแตก ไปถึงเลห์ใจแทบขาด หนาวจับใจ--หายใจลำบาก--ใช้ทุกย่างก้าวอย่างมีสติ--ช้าๆไป--slow life จริงๆๆ -- ทริปนี้เราเดินทางกัน 6 คน กำลังดี
---เริ่มทริปเลยจ้า เราออกเดินทางจากไทย ตอนบ่ายสาม วันที่ 11 ถึงมาเลตอนเย็น กินข้าวเย็นที่สนามบินมาเลเชีย เดินเล่นรอขึ้นเครื่องไปเดลี เราถึงเดลีประมาณ 5 ทุ่ม นอนรอจ้ารอทีสนามบิน เพื่อไปชิคอินท์ตอนตี 3 เลือกที่นั่งริมหน้าต่างด้านซ้ายตามสูตร ได้วิวสวยเวลาถ่ายรูป (จริงๆๆไม่ต้องรีบตื่นไปเช็คอินท์ก็ได้นะ เรารีบกลัวไม่ได้วิวสวย ) เวลาขึ้นเครื่องไปเลห์ประมาณ 6 โมงเช้า พอขึ้นเครื่องไปสรุปเราได้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวาตรงปีกพอดี 55 ขำหนักมากคือรีบตื่นมาเพื่อ อุตส่าห์บอกพนักงานนะว่าขอนั่งริมหน้าต่างด้านซ้าย เออทำไมได้ขวา งงในงง ไฟล์มาเลห์จะบอกว่าคนไทยประมาณ 80% จ้า
นั่งข้างนี้ก็จะได้วิวประมาณนี้จ้า ติดปีกอีก
ก่อนลงเครื่องก็จะประมาณนี้
อันนี้วิวขากลับนั่งด้านหน้าสุด วิวสวยเลยแหละ
---มาเริ่มที่ทริปของเราเลยนะ การเตรียมตัวคงไม่ต้องเพราะทุกคนน่าจะเห็นจากกระทู้อื่นๆๆ มาแล้ว ทริปนี้เราใช้บริการ Ree yul Guest House จัดการทริปทั้งหมดให้เราตลอดทริป คือดีงามมาก เจ้าของน่ารักใจดีสุดๆๆ แนะนำเลย เดินไปตลาดเลห์ได้เลย หาของกินง่ายดาย สบายปาก แถมมีแต่คนไทยทั้งนั้น อบอุ่นเหมือนบ้าน--มีอาหารเช้าให้จ้า อาหารเช้า ไข่ ขนมปัง ชา กินทุกวัน ตลอดทริป ทริปนี้เนื่องจากกระเป๋าเราเอามาได้ 7กก. แค่เสื้อกันหนาวพร็อบถ่ายรูปก็เต็มล่ะ เหลือพื้นที่ใส่น้ำพริกกับแม็คกี้มาก็บุญ ส่วนเพื่อนเรารับผิดชอบเรื่อง หมูหยอง มาม่า เอามาแค่พอถูๆไถๆ แต่ก็หมดหมดไม่เหลือเยื่อใยเลย
--ทริปของเราจะถูกจัดตามระยะทางจากใกล้ไปวันสุดท้ายไกล เพื่อปรับสภาพร่างกาย วันแรกที่มาถึงก็สายๆๆ เจ้าของที่พักก็บอกให้เราทำอะไรช้าๆๆ ให้ไปนอนตอนเย็นค่อยไปเดินตลาดในเมืองเลห์ชิวๆๆพอ ให้จิบน้ำ 2 ลิตร ช่วยได้กับอากาศอันเบาบางที่เลห์ รวมถึงทำอะไรช้าๆๆอย่างมีสติ
โปรแกรมเที่ยว
วันที่ 1 ถึงเลห์ นอนพักปรับสภาพร่างกาย เย็นไปเดืนเที่ยวตลาดเลห์ หาของกินชิว
วันที่ 2 Hemis – Thiksey – Indus River
วันที่ 3 Alchi / Sangam River / Magnetic Hill/Moonland
วันที่ 4 nuber valley / disket hunder นอนที่ nuber valley ขี่อูฐ
วันที่ 5 ขากลับจากหมู่บ้าน nuber valley กลับ leh แวะถ่ายรูปมาเลื่อยๆ (จำสถานที่ไม่ได้55 )
วันที่ 6 Pangong Lake
วันที่ 7 กลับ (แผนที่เที่ยวในเดลี 9 ชม. เพราะขึ้นเครื่อง 5 ทุ่ม แต่แผนกลับเสีย เพราะอะไรรอติดตามนะ พีคมาก)
โปรแกรมก็ประมาณนี้ จากนั้นเราจะลงรูปรัวๆๆไปเลยนะ ความพีคขากลับบ้านตอนท้ายขอให้ทุกคนติดตามด้วยน้า พีคมากๆ
ตื่นมากจากพักปรับร่างกาย ก็มาเดินเที่ยวตลาด
จากนั้นขึ้นรถไปเที่ยวใกล้ leh Palace
วันที่สองก็ประมาณนี้ แพลนตามด้านบนค่ะ. อากาศหนาวแดดแรงมาก
วิวระหว่างทางที่เราไปตาทสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มันทำให้เราถึงกับหลับไม่ลง ต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ สวยงาม มีความหลากหลายทางธรรมชาติจริงๆ
วันที่ 3 Alchi / Sangam River / Magnetic Hill/Moonland
วันที่ 4 nuber valley / disket hunder นอนที่ nuber valley ขี่อูฐ
การเดินทางวันที่4 ของเราจะต้องลัดเลาะผ่านภูเขาหลายลูก ตั้งแต่ภูเขาดินแดงๆ ภูเขาหิมะผสมดิน จนไปภูเขาหิมะขาวโพล ไตร่ระดับความสูงขึ้นเลื่อยๆๆ จน ไปถึงถนนที่สูงที่สุดในโลก และเพื่อนรวมทริปของเรา1คน ก็เกิดอาการ เวียนหัวมาก ปวดหัว. และนั่นก็คงเป็นอาการของโรคแพ้ความสูง ขนาดเพื่อนเรากินยาทั้งเมารถและdaimox ด้วย ยังมีอาการได้ ต้องนอนอยู่บนรถ พวกเราที่เหลือจะรออะไรลงไปถ่ายรูปสิค่ะ คนขับรถบอกให้อยู่แป๊บเดียว เพราะมันสูงออกซิเจนน้อย
ถ่ายรูปเสร็จ พวกเราก็นั่งรถต่อไปยัง nuber valley และเราก็จะค้างที่นี่1คืน. พอลงมาถึงที่ราบเพื่อนเราก็อาการดีขึ้น ตื่นมาพร้อมวิวข้างหน้าเป็นทะเลทรายสวยงามและเราจะขี่อูฐกันวันนี้แหละ >>ดูรูปกันเลยจ้า
วันที่5 กลับไปเมืองเลห์ แวะ Diskit Gompa ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ขอผ่านมาวันที่6เลยน้า
และวันที่ 6 Pangong lake. หนทางแสนยาวไกล วันนี้ไปที่เดียวใช้ระยะเวลาทั้งวัน ถนนไม่ดี หิมะตก ลื่น ตื่น เพลียเพราะทางขรุขระมาก เพื่อนของเราคนเดิมเช่นเคย ขากลับ แพ้ความสูง เนื่องจากวันนี้ก็ต้องผ่านถนนที่สูงอันดับสองรองจากอันดับหนึ่งที่เราไปมาเมื่อวานที่5 เพลียกันไปตามๆๆกัน
กลับมาเพลียกันไป. กินอะไรไม่ค่อยลง
มาสรุปค่าใช้จ่ายกันดีกว่า
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 9500
2. ค่าทริป+ค่าที่พัก. 6 คืน. คนละ 5,700 (ทริปนี้6คน)
3. ค่ากินเราแชร์กันคนละ 2,300 (ค่ากินมื้อเที่ยง+เย็น+ขนมระหว่างทาง+สเบียงระหว่างทาง)
รวมก็แล้วทริปนี้ 17,500 บาท. ถูกแสนถูก
ยังไม่จบจ้า. ความพีคอยู่ตอนกลับ. เดี๋ยวมาต่อให้นะ
ชื่อสินค้า:
เลห์ ดาลักห์ อินเดีย
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
จะกี่ครั้งก็ยังเทให้ Leh (Ladakh) หมดใจ เดินทาง 13-21/4/2024 (ตอนที่ 2)
กลับมาต่อตอนที่ 2 กันค่ะ สำหรับคนที่สนใจตอนแรก ติดตามได้ที่ link นี้ค่ะ https://ppantip.com/topic/42719516 เรามุ่งหน้าไปที่ Hundra Nubra Valley แต่ระหว่างทางเราแวะถ่ายรูปที่ริมลำธาร ไม่รู้ชื่อสถานที่
สมาชิกหมายเลข 2203355
Julley!! Leh Ladakh เลห์ ลาดักห์ อินเดีย ฉบับ Nov 2022 หลังโควิด
ก่อนอื่นต้องกล่าวคำ Julley เพื่อนๆพันทิป หลังจากห่างหายจากการตั้งกระทู้รัวิวไปเที่ยว 3 ปีได้ อึดอัดสุดๆ คนเคยเที่ยวทุกปีอ่ะเนอะ สืบเนื่องจากทริปนี้เลห์ ดาลักห์ จขกท. ตั้งใจจะไปตั้งแต่ปี 2019 แล้ว แต่ม
สมาชิกหมายเลข 1536010
ผู้หญิงคนเดียว หนีเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีที่ Leh Ladakh ++ Golden Autumn Ladakh Trip, Oct 2019 ++
เชื่อว่าคงมีสาวๆ อีกหลายคนที่ฝันอยากไปเที่ยว Ladakh คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพราะเพื่อนเท แฟนทิ้ง ไม่
สมาชิกหมายเลข 1943070
ตอนที่ 1 Review ๛ Leh Ladakh (India) ๛ [6 - 9 Apr 2023]
Link กระทู้ ตอนที่ 2 Review ๛ Leh Ladakh (India) ๛ https://ppantip.com/topic/42005692 ตอนที่ 3 Review ๛ Leh Ladakh (India) ๛ https://ppantip.com/topic/42
Journeyjib
พาชมดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ที่ Leh Ladakh,India (9 Day)
โอ.... อา.... ฮ่า.... จูเล่!! * สวัสดีทุกๆคนครับ หากข้อความที่พิมพ์มีการตกหล่นหรือพิมพ์ผิดต้องขออภัยด้วยนะครับ ใคร ๆ ก็เขียน Review Leh Ladakh มาเยอะแล้ว ผมจะไม่ขอเขียนอะไรเยอะนะครับขอลงเป็นรูปแทนแล
lordwalker
[TVM] Leh Ladakh ความสวยงามเกินคำบรรยาย กับ เหตุผลที่ควรมาเทรคก่อนที่จะเดินไม่ไหว Part2
ความเดิมตอนที่แล้ว : https://ppantip.com/topic/36952698 โดยใน Part นี้จะพูดถึง Nubra valley และ Pangong Lake หลังจากที่เราเทรคมาแล้ว 3 วัน เราจึงกลับเข้ามาพักในเมืองแล้วเตรียมตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินท
travelzmania
[ ยังคง คิดถึง | Leh Ladakh จาก Nubra Valley ถึง Pangong ]
Julley Leh Ladakh ... แปลได้ว่า สวัสดี เลห์ ลาดัก (ที่ฝันหา แบบ ฝัน ฝัน) ทริปนี้เป็นทริปในฝันของพวกเราทั้ง 12 คน ฝันมานานแสนนาน จากที่แชร์กระทู้คนอื่นมากระตุ้นต่อมเที่ยวตัวเอง และมั่นคอยแวะมาดูรูปจากค
LingPle
❉ Autumn in Leh Ladakh., india #Katyslimclub
Autumn in Leh Ladakh., india ... สัมผัสลมหนาว และใบไม้เปลี่ยนสี ที่เมืองเลห์ แคว้นลาดักห์ ประเทศอินเดีย ______________________________________ เป็นอีกทริปที่ประทับใจมากๆ จริงๆ ... ทริปนี้ถือเป็นท
ลูกกาขาว
Leh Ladakh ทักมาก็ต้องไป
กลับมาแล้ววว หายจากทริปไปประมาณสามปี ตามอายุโควิท 🙈 เปิดประเทศมาก็ยังไม่ได้ไปทริปจริงๆ จังๆ สักที นี่เป็นทริปแรก ที่เคยคุยกับเพื่อนไว้ตั้งแต่สี่ห้าปีที่แล้ว ว่าอยากไปมาก และในที่สุดก็ได้มา สมาชิก
สมาชิกหมายเลข 3707384
หาผู้ร่วมทริปหารค่ารถ Leh Ladakh ชื่นชมเทศกาล Hemis Festival บุกตะลุย Nubra Valley และ pangong lake 13-20 กรกฎาคมนี้ค่ะ
เริ่มมาจาก...ซักปีที่แล้ว เราและเพื่อนสาวเห็นภาพ Leh Ladakh จากกระทู้รีวิว จากนั้นก็เหมือนโดนมนต์สะกดว่าฉันต้องไปให้ได้..... ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะลงตัวค่ะ ค่าเครื่องก็ถูกลง ค่าที่พักก็โอเค แถมยังได้
สมาชิกหมายเลข 2447909
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 3.7 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Leh ladakh สถานที่ที่ไม่ควรไปก่อนตาย (แต่ควรไปก่อนแก่)
------ทริปนี้เกิดขึ้นจากเพื่อนอยากไป ซึ่งไอ้เราก็ไม่รู้เลยว่า leh ladakh เนี่ยมันเป็นยังไงอยู่ที่ไหน มันบอกแค่ว่าสวยๆๆๆ ตั๋วเครื่องบินมีโปรเดี๋ยวหมดโปรนะเอาม่ะ เราเห็นมันบอกตั๋วถูกก็สั่งให้จองไปเลยจ้า... ยังไม่ได้คิดอะไร ...หลังจากนั้นก็มาดูกระทู้ต่างๆ ว่า leh ที่เค้าว่าสวยนักหนามันเป็นยังไง...พอดูก็เห็นเลยจ้าสวยงาม...แต่ๆๆ ในกระทู้ที่คนอื่นรีวิวก็เริ่มจากการเตรียมตัว ไอ้เราก็ทำไมต้องเตรียมเยอะขนาดนี้ และไอ้ตั๋วที่เราจองไปในการเดินทางครั้งนี้ ไม่มีโหลดกระเป๋านะจ๊ะ ได้แค่ 7 กก. (ก็ของมันถูกอ่ะเอาแบบประหยัด) ทำไงล่ะ ยา อาหารแห้ง น้ำพริก เสื้อกันหนาวอีก บลาๆๆ
--เราเดินทางในช่วงสงกรานต์ 11-18 เมษา 2561 ทริปนี้จองตั๋วตั้งแต่กลับจากทริปฟุกิโอกะ ญีุ่ปุ่นในช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว จองกันเป็นปีเลยที่เดียว สรุปราคาตั๋วไปกลับ 9,500 บาท แต่เราไปต่อเครื่องที่มาเลเซียนะไม่ได้ ก็คือ จากดอนเมือง>>มาเล(รอต่อเครื่อง 3ชม.)>>นิวเดลี>>เลห์ สงกรานต์ไทยร้อนตับแตก ไปถึงเลห์ใจแทบขาด หนาวจับใจ--หายใจลำบาก--ใช้ทุกย่างก้าวอย่างมีสติ--ช้าๆไป--slow life จริงๆๆ -- ทริปนี้เราเดินทางกัน 6 คน กำลังดี
---เริ่มทริปเลยจ้า เราออกเดินทางจากไทย ตอนบ่ายสาม วันที่ 11 ถึงมาเลตอนเย็น กินข้าวเย็นที่สนามบินมาเลเชีย เดินเล่นรอขึ้นเครื่องไปเดลี เราถึงเดลีประมาณ 5 ทุ่ม นอนรอจ้ารอทีสนามบิน เพื่อไปชิคอินท์ตอนตี 3 เลือกที่นั่งริมหน้าต่างด้านซ้ายตามสูตร ได้วิวสวยเวลาถ่ายรูป (จริงๆๆไม่ต้องรีบตื่นไปเช็คอินท์ก็ได้นะ เรารีบกลัวไม่ได้วิวสวย ) เวลาขึ้นเครื่องไปเลห์ประมาณ 6 โมงเช้า พอขึ้นเครื่องไปสรุปเราได้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวาตรงปีกพอดี 55 ขำหนักมากคือรีบตื่นมาเพื่อ อุตส่าห์บอกพนักงานนะว่าขอนั่งริมหน้าต่างด้านซ้าย เออทำไมได้ขวา งงในงง ไฟล์มาเลห์จะบอกว่าคนไทยประมาณ 80% จ้า
นั่งข้างนี้ก็จะได้วิวประมาณนี้จ้า ติดปีกอีก
ก่อนลงเครื่องก็จะประมาณนี้
อันนี้วิวขากลับนั่งด้านหน้าสุด วิวสวยเลยแหละ
---มาเริ่มที่ทริปของเราเลยนะ การเตรียมตัวคงไม่ต้องเพราะทุกคนน่าจะเห็นจากกระทู้อื่นๆๆ มาแล้ว ทริปนี้เราใช้บริการ Ree yul Guest House จัดการทริปทั้งหมดให้เราตลอดทริป คือดีงามมาก เจ้าของน่ารักใจดีสุดๆๆ แนะนำเลย เดินไปตลาดเลห์ได้เลย หาของกินง่ายดาย สบายปาก แถมมีแต่คนไทยทั้งนั้น อบอุ่นเหมือนบ้าน--มีอาหารเช้าให้จ้า อาหารเช้า ไข่ ขนมปัง ชา กินทุกวัน ตลอดทริป ทริปนี้เนื่องจากกระเป๋าเราเอามาได้ 7กก. แค่เสื้อกันหนาวพร็อบถ่ายรูปก็เต็มล่ะ เหลือพื้นที่ใส่น้ำพริกกับแม็คกี้มาก็บุญ ส่วนเพื่อนเรารับผิดชอบเรื่อง หมูหยอง มาม่า เอามาแค่พอถูๆไถๆ แต่ก็หมดหมดไม่เหลือเยื่อใยเลย
--ทริปของเราจะถูกจัดตามระยะทางจากใกล้ไปวันสุดท้ายไกล เพื่อปรับสภาพร่างกาย วันแรกที่มาถึงก็สายๆๆ เจ้าของที่พักก็บอกให้เราทำอะไรช้าๆๆ ให้ไปนอนตอนเย็นค่อยไปเดินตลาดในเมืองเลห์ชิวๆๆพอ ให้จิบน้ำ 2 ลิตร ช่วยได้กับอากาศอันเบาบางที่เลห์ รวมถึงทำอะไรช้าๆๆอย่างมีสติ
โปรแกรมเที่ยว
วันที่ 1 ถึงเลห์ นอนพักปรับสภาพร่างกาย เย็นไปเดืนเที่ยวตลาดเลห์ หาของกินชิว
วันที่ 2 Hemis – Thiksey – Indus River
วันที่ 3 Alchi / Sangam River / Magnetic Hill/Moonland
วันที่ 4 nuber valley / disket hunder นอนที่ nuber valley ขี่อูฐ
วันที่ 5 ขากลับจากหมู่บ้าน nuber valley กลับ leh แวะถ่ายรูปมาเลื่อยๆ (จำสถานที่ไม่ได้55 )
วันที่ 6 Pangong Lake
วันที่ 7 กลับ (แผนที่เที่ยวในเดลี 9 ชม. เพราะขึ้นเครื่อง 5 ทุ่ม แต่แผนกลับเสีย เพราะอะไรรอติดตามนะ พีคมาก)
โปรแกรมก็ประมาณนี้ จากนั้นเราจะลงรูปรัวๆๆไปเลยนะ ความพีคขากลับบ้านตอนท้ายขอให้ทุกคนติดตามด้วยน้า พีคมากๆ
ตื่นมากจากพักปรับร่างกาย ก็มาเดินเที่ยวตลาด
จากนั้นขึ้นรถไปเที่ยวใกล้ leh Palace
วันที่สองก็ประมาณนี้ แพลนตามด้านบนค่ะ. อากาศหนาวแดดแรงมาก
วิวระหว่างทางที่เราไปตาทสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มันทำให้เราถึงกับหลับไม่ลง ต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ สวยงาม มีความหลากหลายทางธรรมชาติจริงๆ
วันที่ 3 Alchi / Sangam River / Magnetic Hill/Moonland
วันที่ 4 nuber valley / disket hunder นอนที่ nuber valley ขี่อูฐ
การเดินทางวันที่4 ของเราจะต้องลัดเลาะผ่านภูเขาหลายลูก ตั้งแต่ภูเขาดินแดงๆ ภูเขาหิมะผสมดิน จนไปภูเขาหิมะขาวโพล ไตร่ระดับความสูงขึ้นเลื่อยๆๆ จน ไปถึงถนนที่สูงที่สุดในโลก และเพื่อนรวมทริปของเรา1คน ก็เกิดอาการ เวียนหัวมาก ปวดหัว. และนั่นก็คงเป็นอาการของโรคแพ้ความสูง ขนาดเพื่อนเรากินยาทั้งเมารถและdaimox ด้วย ยังมีอาการได้ ต้องนอนอยู่บนรถ พวกเราที่เหลือจะรออะไรลงไปถ่ายรูปสิค่ะ คนขับรถบอกให้อยู่แป๊บเดียว เพราะมันสูงออกซิเจนน้อย
ถ่ายรูปเสร็จ พวกเราก็นั่งรถต่อไปยัง nuber valley และเราก็จะค้างที่นี่1คืน. พอลงมาถึงที่ราบเพื่อนเราก็อาการดีขึ้น ตื่นมาพร้อมวิวข้างหน้าเป็นทะเลทรายสวยงามและเราจะขี่อูฐกันวันนี้แหละ >>ดูรูปกันเลยจ้า
วันที่5 กลับไปเมืองเลห์ แวะ Diskit Gompa ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ขอผ่านมาวันที่6เลยน้า
และวันที่ 6 Pangong lake. หนทางแสนยาวไกล วันนี้ไปที่เดียวใช้ระยะเวลาทั้งวัน ถนนไม่ดี หิมะตก ลื่น ตื่น เพลียเพราะทางขรุขระมาก เพื่อนของเราคนเดิมเช่นเคย ขากลับ แพ้ความสูง เนื่องจากวันนี้ก็ต้องผ่านถนนที่สูงอันดับสองรองจากอันดับหนึ่งที่เราไปมาเมื่อวานที่5 เพลียกันไปตามๆๆกัน
กลับมาเพลียกันไป. กินอะไรไม่ค่อยลง
มาสรุปค่าใช้จ่ายกันดีกว่า
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 9500
2. ค่าทริป+ค่าที่พัก. 6 คืน. คนละ 5,700 (ทริปนี้6คน)
3. ค่ากินเราแชร์กันคนละ 2,300 (ค่ากินมื้อเที่ยง+เย็น+ขนมระหว่างทาง+สเบียงระหว่างทาง)
รวมก็แล้วทริปนี้ 17,500 บาท. ถูกแสนถูก
ยังไม่จบจ้า. ความพีคอยู่ตอนกลับ. เดี๋ยวมาต่อให้นะ