ฉันคุยกับคนตาย

สวัสดีทุกท่านที่ได้แวะเวียนมาอ่านเรื่องที่นำมาลงกันนะค่ะ ทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องราวในชีวิตจริงของตนเองที่ยากจะบรรยาย ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขอให้ทุกท่านได้อ่านกันด้วยความบันเทิงตามอัธยาศัย ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกตัวอักษรด้วยนะคะ จะถ่ายทอดไปให้ได้รับชม เมื่อสะดวกพิมพ์ ให้ดีที่สุดนะคะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาค่ะ ด้วยความเคารพ
             Vintค่ะ

วันนี้เขียน ณ ประเทศไทย


กราบ กราบ กราบ
เอาธูปปักไปเสียตรงนั้น
เจอเเล้วๆๆๆ........
ฉันได้ยินเสียงชัดแต่ยังไม่ทันได้ลืมตา......  เสียงญาติพี่น้องฟังดูหวั่นวิตก

   โถ่ๆๆเอ้ยเจ้าน้อยก็จมน้ำตายแบบนี้ ตายคามือตอนอุ้มไปส่งโรงพยาบาล ไอ้หนูรายนี้ถ้าจะไปโรงพยาบาลไม่ทัน สงสัยมันคงตายตั้งแต่ในน้ำแน่แล้ว
เห้อออออ.........


" สัปปะริสิปะทัง สิปะราทาสุโทสะสิ อินิมะโทละสะตะตันติ โธ " คาถาครูบาร์อาจารย์ร่ายไปมา
มือใหญ่ๆตบลงกลางหลังสักสามสี่พลั่ก พร้อมเขย่าพาดบ่าห้อยหัวลง  น้ำทะลักพรั่งพรูออกจากปากฉัน ฉันอาเจียนออกมาเป็นน้ำทั้งทางปากและจมูก ครั้งแล้วครั้งเล่า

ไม่น่าเชื่อ!!! คาถาโบราณ ของหมอตาถึก เรียก ไอ้หนูนี่ กลับมาได้ ทุกคนตรงนั้นส่งเสียงดีใจระคนประหลาดใจกันไปทั่ว แม่คว้าตัวฉันไปกอด ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ โถ่ๆลูกแม่ ลงไปท่าไหนถึงตกลงไปได้  
แม่เช็ดตัวให้ฉันจนแห้งและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่สีชมพูขนนุ่มฟูหอมฟุ้ง แสนสะอาด เอ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไปกินข้าวกินปลากันทุกคน ตาถึงเรียกทุกคนกินข้าวร่วมกัน

ตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอจะจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเดินอยู่บนบันไดไม้พาดหาอีกฝั่งและเหมือนมีอะไร....บางอย่างลื่นๆเป็นเมือกๆคล้ายนิ้วมือของคนมาจับ  ที่เท้า
ในที่สุดฉันก็หล่นจ๋อมลงไปในน้ำ สุดท้ายหายใจไม่ได้ถนัดเท่าเดิมเสียแล้ว และกาลเวลาดูเหมือนจะค่อยๆสลายไปช้าๆ จนมาได้ยินเสียงตาถึก ตาแท้ๆ ที่ใครก็ยกให้แกเป็นหมอเทวดา ตาถึกมีวิชาอาคมมากมากหลายตำรา ช่วยรักษาคนให้หายจากทุกข์โศกโรคภัย บางวิชาก็ต่อนิ้วที่ขาดเลือดสาดให้ติดกันใหม่ได้


ตาถึกใจดีมากรูปร่างสูงผิวพรรณดีสะอาดสะอ้านขาวผ่อง  แม้แต่ฟันก็ขาวมาก ทั้งที่กินหมากกินไพร เย็นนั้นทุกคนพูดกันแต่ว่าจมน้ำไปตั้งนานทำไมยังรอด ตาถึกจับพระที่คอฉัน หลวงปู่แหวนองค์น้อยๆเลี่ยมทอง แขวนคู่กันกับลูกนิมิตหุ้มทองคำเปลว  ลูกนิมิตลูกนี้ผ่านมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย ตาถึกเคยบอกแม่ว่าเมื่อลูก3ขวบไม่พ้น4 จะจมน้ำให้แขวนไว้อย่าได้ถอดเด็ดขาดทั้งสองสิ่งนี้


  จนกระทั่งวันนี้มาถึงฉันก็จมน้ำลงไปจริงๆ
เวลานั้นฉันยังเล็กมากแต่น่าแปลกกลับจำเรื่องราวต่างๆได้เสมอ บางเรื่องจำได้แทบทั้งหมดบางเรื่องจำได้แต่ไม่ละเอียดเท่าไหร่
กินข้าวเสร็จตาบอกกลับกรุงเทพฯไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะมืดค่ำ ฉันลาตา ลายาย ท่านทั้งสองพูดติดหูเสมอ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้นะลูกนะ ไปๆเดินทางปลอดภัยแคล้วคลาดลูก ฉันกับแม่เดินลัดเลอะไปตามร่องสวน ผ่านคูน้ำ ไปตามทางที่เป็นเนินโคก


  ค่อยๆเดินค่อยๆเดิน ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่โต  ขึ้นตามทางมากมาย กลิ่นธรรมชาติของต้นไม้ใบหญ้า กลิ่นน้ำใสสะอาดจากร่องสวน  เข้าจมูกตามลมพัดพามา
เราสองแม่ลูกเดินผ่านสวนชาวบ้าน ต้นมะพร้าว ต้นทุเรียน ต้นมะขาม ดอกบัว ดอกพุด ดอกรัก ผ่านสวนใครถ้าเจ้าของสวนเห็น ก็จะตะโกนมาที่เราสองแม่ลูก อ้าวจะกลับกันแล้วเหรอ เอามะพร้าวไปกิน เอามะม่วงไปกิน มะนาวด้วย ฉันคิดอยู่ในใจ จะถือไปยังไงเนี่ยลำบากแม่อีก ตัวเรานี่ก็เล็กนิดเดียว  ช่วยอะไรแม่ก็ไม่ได้ ทางออกจากสวนเจ้ากรรมนี่ ก็ยาวไกลดั่งจะเข้าป่าเสียอย่างนั้น แต่สุดท้ายเราก็มีผลหมากรากไม้ติดมือกลับไปมากมายตามเคย

ฉันเห็นแม่หอบหิ้วสิ่งของที่ได้มาจากชาวบ้านหลายถุงพะรุงพะรัง แต่เราก็จะต้องเดินต่อกันไปเรื่อยๆ ฉันมองหน้าแม่ แม่ได้แต่หัวเราะและบอกว่าชาวบ้านเค้ามีน้ำใจ  เค้ารู้จักแบ่งปัน จำไว้นะลูกนี่เค้าเรียก"น้ำใจ"

ในมือแม่จะมีไม้อยู่1อันเสมอ เคยถามว่าแม่ๆจะเอาไว้ทำอะไร แม่ว่าก็เอาไว้กันไว้ไล่เสือปลาสิลูก มันชอบออกมาหากิน ต้องคอยป้องกันตัวไว้ก่อน เดินนำหน้าไปแม่จะดูข้างหลัง เผื่ออะไรมันโผล่มาจากข้างหลัง ฉันยังจำได้ทุกเสี้ยวทุกตอนในความรู้สึกนึกคิด  ดินตามทางที่เดินไปดินเป็นระแหงบ้างดินสมบูรณ์บ้างเป็นทางยาวสุดลูกหูลูกตา  ดูเหมือนว่านานแสนนานสำหรับเด็กเล็กๆอย่างฉัน

ทางเส้นนี้คือทางออกจากบ้านสวนริมน้ำของตายาย เพื่อมุ่งสู่เส้นถนนใหญ่ ในซอยโรงถ่ายกันตนา บ้านหลังใหญ่โตร่มรื่นอบอุ่นสีขาวที่คนคลองบางสโน บางใหญ่ จ.นนทบุรี แถวนี้ชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นบ้านคฤหาสถ์  ที่สวยงามที่สุดในแถบนั้นและในยุคนั้น อย่างกับบ้านสวรรค์ ฉันเคยคิดตามเวลาเค้าพูดกันว่า  บ้านสวยขนาดนี้สงสัยข้างในคงมีแต่เทวดานางฟ้าสวยๆหล่อๆอยู่แน่เลย  สงสัยคงจะเป็นเช่นนั้น


ในที่สุดก็พ้นป่าหญ้าสวนไร่มาเสียที เจอเเล้วถนนใหญ่ พร้อมฝุ่นสีแดงลอยล่องฟุ้งๆ แหมแต่ก่อนจะออกมาพบเจอถนนเส้นใหญ่น่ะสิ ต้องบุกป่าฝ่าดง  ค่อยๆเลาะลัดออกจากสวนไม่รู้กี่ไร่ต่อกี่ไร่ ไม่รู้ว่ามันกี่กิโลกัน  แต่รู้ว่าไกลมาก ไม่มีผู้คนเดินสวนไปมา นานๆจึงจะมีสักคนหนึ่ง จะมีก็แต่พวกเจ้าของสวนที่รู้จักกัน


      เดินไปได้อีกครู่หนึ่งตะวันดวงโตก็สาดแสงสีทองส้มฉาดลงมาที่กอไผ่กอใหญ่มาก ข้างหน้าไกลลิบๆนู้น แสงตะวันตกกระทบผืนดินนี้สวยจับใจ ดอกบัวดอกใหญ่ๆในหนองน้ำบานบ้างหุบบ้างแต่ให้สีม่วงชมพูเต็มไปทั่วทั้งผิวน้ำ แสงตะวันกระทบทั้งดินทั้งน้ำ ภาพนี้แสนตรึงใจ

    กอไผ่กอยักษ์ใบไผ่สีเขียวอ่อนแก่พลัดพลิ้วไปมาดังส้วบส้าบๆ.....ต้นไผ่กอใหญ่ๆโน้มเอนซ้ายทีขวาทีตามกันไปมาเสียงดังเอี้ยดอ้าดๆๆๆๆๆๆ

          ผสมปนเปไปกับเสียงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ร้องส่งเป็นทอดๆตามกันมาดังระงมเพราะเริ่มจะโพล้เพล้เสียแล้ว ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร

ฉันเห็นแม่เดินฉับๆมีท่าทางเข้มแข็งและปกป้องฉันเหมือนไข่ในหินมาเสมอ   ฉันเองเป็นลูกแม่ดังนั้นจะต้องอดทนเข้มแข็ง ไม่งอแง ให้วุ่นวาย จำได้ถนัดใจฉันนี้เป็นลูกแสนจงรักภักดีแก่แม่อย่างที่สุด  ตัวติดกับแม่ยิ่งกว่าอะไรในโลก ไม่ยอมห่างกันเลย แม่สั่งอะไรก็ทำก็ตาม ไม่เคยคิดปริปากปฏิเสธเพียงครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่