สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
จขกท มีความ Turbulant สูงมาก (เขียนถูกเป่าไม่รุ)
คนแบบนี้ ผช กลัวที่สุด เพราะเข้าใจยาก คือ เดิมๆ ผญ ก็เข้าใจยากอยู่แล้ว แต่ไอแบบ ขึ้นๆลงๆ ซ้ายได้ขวาได้ แบบ จขกท เนี่ย งงสุดเลย
คือ ที่บรรยายตัวเอง สามย่อหน้าแรก สังเกตดิ ซ้ายได้ขวาได้ เอาแต่ใจได้ยอมได้ คิดเอาเองว่า คำว่า ทำได้หมด คือความเพียบพร้อม
ตรงข้ามเลยเห้ย ที่คุณคิดว่าตัวเองเป็น คือ ได้หมด จริงๆ มันได้หมดแบบไหน "ได้หมดแบบที่ใจกรูบอกว่าได้" ต่างหาก
คือ คนที่จะกำหนดว่า ตอนไหนกรูจะพอใจ หรือไม่พอใจ ไม่มีใครอื่น คือ กรูคนเดียว
เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว ว่าตัวเองกว้างขวาง จริงๆ เนี่ยคือ แคบสุดๆ เลย และเดาทางไม่ได้เลย
บอกแค่นี้แหละ คนแบบนี้ ผช กลัวที่สุดครับ (จะเรียกว่าเบื่อหน่ายท้อใจที่สุดก็ได้)
แล้วความคิดจำพวก เรารักเขาก่อน เขารักเราก่อน ใครเสียหน้า ใครได้เปรียบ ความคิดพวกนี้เลิกๆไปเถอะ คนเราจะคบกัน ถ้ายังตั้งแง่ตั้งแต่แรกแบบนี้ (คนจำพวกห่วงภาพลักษณ์จะเป็นกันมาก) ไม่มีทางไปได้ยืดยาว เพราะแยกชนชั้นชัดเจน ใครต้องยอมใครก่อน ก็เธอรักฉันมากกว่าฉันรักเธอ ฉันไม่ได้อยากได้เธอแต่เธอมาตื๊ออยากได้ชั้นเอง เธอก็ต้องยอม นี่เป็นความคิดโง่ๆ ชัดๆ เพราะการครองคู่ มันต้องเข้าใจ ยอมรับ และลงให้กันทั้งคู่ พร้อมๆกัน หรือ ใครจะยอมมากกว่านิดหน่อยก็ไม่เสียหาย แต่ไม่ใช่เพราะใครรักใครก่อน หรือ เพราะใครรักใครมากกว่า ถ้าประโยคนี้ไม่เข้าใจ ก็คงต้องพร้ำเพ้อไปอีกหลายปีเลยละ ว่าจะหาความรักดีดี บลาๆ ได้ที่ไหน
(รักแท้อยู๋ที่เรา เริ่มที่เรา ถ้ามีคำว่าหา เมื่อไรเจ๊งทันที เพราะของมันอยู่ตรงนี้ที่ตัวเองเนี่ยแหละ คนที่ไม่รู้รักในตัว จะไปรู้รักของคนอื่นได้ไง ว่าแท้ หรือ เทียม ดีหรือแย่ ฮ่ะๆ)
คนแบบนี้ ผช กลัวที่สุด เพราะเข้าใจยาก คือ เดิมๆ ผญ ก็เข้าใจยากอยู่แล้ว แต่ไอแบบ ขึ้นๆลงๆ ซ้ายได้ขวาได้ แบบ จขกท เนี่ย งงสุดเลย
คือ ที่บรรยายตัวเอง สามย่อหน้าแรก สังเกตดิ ซ้ายได้ขวาได้ เอาแต่ใจได้ยอมได้ คิดเอาเองว่า คำว่า ทำได้หมด คือความเพียบพร้อม
ตรงข้ามเลยเห้ย ที่คุณคิดว่าตัวเองเป็น คือ ได้หมด จริงๆ มันได้หมดแบบไหน "ได้หมดแบบที่ใจกรูบอกว่าได้" ต่างหาก
คือ คนที่จะกำหนดว่า ตอนไหนกรูจะพอใจ หรือไม่พอใจ ไม่มีใครอื่น คือ กรูคนเดียว
เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว ว่าตัวเองกว้างขวาง จริงๆ เนี่ยคือ แคบสุดๆ เลย และเดาทางไม่ได้เลย
บอกแค่นี้แหละ คนแบบนี้ ผช กลัวที่สุดครับ (จะเรียกว่าเบื่อหน่ายท้อใจที่สุดก็ได้)
แล้วความคิดจำพวก เรารักเขาก่อน เขารักเราก่อน ใครเสียหน้า ใครได้เปรียบ ความคิดพวกนี้เลิกๆไปเถอะ คนเราจะคบกัน ถ้ายังตั้งแง่ตั้งแต่แรกแบบนี้ (คนจำพวกห่วงภาพลักษณ์จะเป็นกันมาก) ไม่มีทางไปได้ยืดยาว เพราะแยกชนชั้นชัดเจน ใครต้องยอมใครก่อน ก็เธอรักฉันมากกว่าฉันรักเธอ ฉันไม่ได้อยากได้เธอแต่เธอมาตื๊ออยากได้ชั้นเอง เธอก็ต้องยอม นี่เป็นความคิดโง่ๆ ชัดๆ เพราะการครองคู่ มันต้องเข้าใจ ยอมรับ และลงให้กันทั้งคู่ พร้อมๆกัน หรือ ใครจะยอมมากกว่านิดหน่อยก็ไม่เสียหาย แต่ไม่ใช่เพราะใครรักใครก่อน หรือ เพราะใครรักใครมากกว่า ถ้าประโยคนี้ไม่เข้าใจ ก็คงต้องพร้ำเพ้อไปอีกหลายปีเลยละ ว่าจะหาความรักดีดี บลาๆ ได้ที่ไหน
(รักแท้อยู๋ที่เรา เริ่มที่เรา ถ้ามีคำว่าหา เมื่อไรเจ๊งทันที เพราะของมันอยู่ตรงนี้ที่ตัวเองเนี่ยแหละ คนที่ไม่รู้รักในตัว จะไปรู้รักของคนอื่นได้ไง ว่าแท้ หรือ เทียม ดีหรือแย่ ฮ่ะๆ)
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ค่ะ
ขอแชร์มุมมองนึงนะคะ สำหรับการเลือกที่จะรักและปฏิบัติต่อคนรักแบบเข้าใจและรักแบบไม่ให้ตัวเองทุกข์
หาก....
ยอมรับความจริงว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ไม่คาดหวังเกินไปเกินพอดี บางคนดีแต่เข้ากันไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ด้วยความที่ไม่มีใคร 100%
เข้าใจในความแตกต่าง
มีความสุขได้ด้วยตัวเอง ความรักคือโบนัส ไม่เอาหัวใจเอาชีวิตไปผูกไว้กับคนอีกคนมากเกินไป
อยากให้คนอื่นมีความสุข ความสบายใจด้วย ก็คือคิดถึงใจเค้าใจเรานั่นล่ะค่ะ
คนสองคนมีความเสมอภาคกันทางความสุข มีความรู้สึกเหมือนกัน
เข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง ความรักมีความซับซ้อนและเปลี่ยนได้ จะทำให้เข้าใจได้ว่าวันหนึ่งมันจะไม่เหมือนเดิม
ทำชีวิตให้บาลานซ์ ไม่สุขมาก ไม่ทุกข์เกินพอดี ปฏิบัติต่อกันแบบสมดุล
คิดเสมอว่าทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น การกระทำส่งผลย้อนมาที่ตัวเองเสมอ การแสดงออกถึงความรักก็เช่นกัน หึงหวง ระแวง ดูถูกเหยียดหยาม บ่นจู้จี้ เรียกร้องที่จะรับ มากกว่าจะให้ไปก่อน
การมองโลกในแง่ดีเป็นวัควีนใจคือภูมิคุ้มกันชั้นดี
ไม่คิดลบจนชีวิตแย่ ใช้เหตุผลในการตัดสินใจ
#เรามองว่าหลักๆแล้วตัวเราเป็นตัวกำหนดหลายๆสิ่ง หลายๆเรื่องที่จะสะท้อนส่งผลกลับมาหาตัวเราเกือบทั้งหมด และในขณะที่เรากำลังเลือก ก็เป็นตัวเลือกอยู่เช่นกัน
ขอแชร์มุมมองนึงนะคะ สำหรับการเลือกที่จะรักและปฏิบัติต่อคนรักแบบเข้าใจและรักแบบไม่ให้ตัวเองทุกข์
หาก....
ยอมรับความจริงว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ไม่คาดหวังเกินไปเกินพอดี บางคนดีแต่เข้ากันไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ด้วยความที่ไม่มีใคร 100%
เข้าใจในความแตกต่าง
มีความสุขได้ด้วยตัวเอง ความรักคือโบนัส ไม่เอาหัวใจเอาชีวิตไปผูกไว้กับคนอีกคนมากเกินไป
อยากให้คนอื่นมีความสุข ความสบายใจด้วย ก็คือคิดถึงใจเค้าใจเรานั่นล่ะค่ะ
คนสองคนมีความเสมอภาคกันทางความสุข มีความรู้สึกเหมือนกัน
เข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง ความรักมีความซับซ้อนและเปลี่ยนได้ จะทำให้เข้าใจได้ว่าวันหนึ่งมันจะไม่เหมือนเดิม
ทำชีวิตให้บาลานซ์ ไม่สุขมาก ไม่ทุกข์เกินพอดี ปฏิบัติต่อกันแบบสมดุล
คิดเสมอว่าทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น การกระทำส่งผลย้อนมาที่ตัวเองเสมอ การแสดงออกถึงความรักก็เช่นกัน หึงหวง ระแวง ดูถูกเหยียดหยาม บ่นจู้จี้ เรียกร้องที่จะรับ มากกว่าจะให้ไปก่อน
การมองโลกในแง่ดีเป็นวัควีนใจคือภูมิคุ้มกันชั้นดี
ไม่คิดลบจนชีวิตแย่ ใช้เหตุผลในการตัดสินใจ
#เรามองว่าหลักๆแล้วตัวเราเป็นตัวกำหนดหลายๆสิ่ง หลายๆเรื่องที่จะสะท้อนส่งผลกลับมาหาตัวเราเกือบทั้งหมด และในขณะที่เรากำลังเลือก ก็เป็นตัวเลือกอยู่เช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
เล่าประสบการณ์ ......เพียบพร้อม ที่โดน 'เท'
อายุ 28 ปีแล้วค่ะ จบปริญญาโท ลักษณะภายนอกเป็นคนที่ดูดีแต่ก็ทราบว่าตนเองไม่ใช่แนวตลาดนิยม หน้าที่การงานดี จุนเจือชีวิตตัวเองได้ พื้นฐานทางบ้านฐานะดี ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็ตามฐานะทางบ้าน ยอมรับเลยว่าเป็นคนติดหรู แต่ขณะเดียวกันก็ติดดินได้ ทานอาหารได้ตั้งแต่ร้านหรูยันข้างถนน ชีวิตยากง่ายได้หมดตามโอกาส เป็นคนปรับตัวได้ เป็นคนขี้เหงามาก
พื้นฐานนิสัยเรา ในเรื่องทั่วไปเป็นคนเอาแต่ใจมากค่ะ เรียกว่าผู้หญิงเยอะ แต่ถ้าเราเจอคนที่เรารัก เรามักยอมเค้าเสมอ และแปลกมากที่การยอมมันทำให้เรามีความสุข ไม่เคยอึดอัดกับมัน
คนที่เข้ามาในชีวิตเรา ทุกคนมีความมั่นคง ทั้งฐานะและหน้าที่การงาน แต่แต่ละคนก็จะมีนิสัย ลักษณะภายนอกต่างกันออกไป ถึงเราจะบอกว่าเราเลี้ยงตัวเองได้ แต่สุดท้ายความเพศหญิง เกิน50% ก็ต้องการผู้ชายที่ดูแลเราได้ทั้งนั้นแหละ ซึ่งเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ถ้าเรารู้สึกเข้ามาแล้วไม่ได้ เราตัดทันที
กระทู้นี้เราอยากเล่า กึ่งระบาย ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเรา ชีวิตด้านความรักเราไม่เคยสมหวัง รักใครไม่นานทุกข์ก็ตามมา ซึ่งทุกครั้ง เมื่อเป็นกับคนที่เรารัก เราก็โทษตนเองเสมอ แต่กับคนที่รักเรา เราก็โทษเขา
ประเภทที่ 1 : คนที่เรารัก
เราเจอคนๆ นี้ ขอให้นามว่าพี่บี พี่บีเป็นคนมีเสน่ห์ เชื่อว่าเป็นที่หมายตาของหญิงหลายๆคน ตอนเรา 25 ทำงานมาได้ 3 ปี เป็นช่วงที่เราอยาก settle down มีชีวิตครอบครัว ฉะนั้นเราจะคบใคร เรามองอนาคตกับเค้าก่อนเลย ว่าแต่งกันได้ อยู่กันได้ เข้ากันได้มั้ย ก่อนหน้าเค้าเราเพิ่งเลิกกับแฟนมา เจ็บหนักมาก ร้องไห้เกือบครึ่งปี เหมือนคนบ้า มีคนเข้ามาจีบก่อนพี่บี แต่ก็ไม่มีใครทำให้เราลืมแฟนได้ จนพี่บี เค้าเหมือนเป็นทุกอย่างที่ใช่ของเรา เราคิดเลยว่านี้คนที่เราจะแต่งงานด้วย แม้ระหว่างที่คุยกันมีเรื่องผู้หญิงมาตลอด แต่เราก็ทน ปิดตาข้างนึง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนิสัยวีน เอาแต่ใจ ทุกอย่างหายไปหมดกับคนๆนี้ ยกเว้นเรื่องผู้หญิง แต่มันมีเรื่องตลอด เพราะความที่เราไม่ไว้ใจ กลัวสุดท้ายเราจะเป็นกิ๊ก ไม่ใช่แฟน เพราะเป็นความสัมพันที่ทุกอย่างเกิดจากปากเขา เขาพูดอะไร เราก็ต้องเชื่อแบบนั้น แต่พอเป็นเรื่องผู้หญิงอื่น มันก็มีรูปมาฟ้องตลอด ซึ่งเขาพูดยังไง เราก็ต้องเชื่ออีก
ทะเลาะกัน จบลงด้วยการยอมรับผิดเอง เช่น เราใจร้อนไป ต้องการมากไป เขาทำงานหนักแล้วจะทำให้เขาทุกข์อีกทำไม แต่สุดท้ายก็จบลงค่ะ เขาบอกเลิกเรา บอกว่าทนไม่ไหวกับเรา ซึ่งผ่านมาจนทุกวันนี้ กับคนนี้ เรายังคิดว่าเราเป็นคนที่ผิด เพราะไปต้องการมากไป ทำตัวไม่ดี แต่สุดท้ายมารู้ว่าเค้าคบซ้อนจริงๆ เราก็ยังโทษตัวเองว่าถ้าเราไม่ชวนเค้าทะเลาะตอนนั้น เราคงมีความสุขกับเค้าไปแล้ว
ประเภท 2 : คนที่รักเรา
ก็คือคนที่มาชอบเรานั่นเอง 2 คนที่เราจะยกตัวอย่างมา คือ ทุกคนยอมเรา ในทุก ๆ เรื่อง เคยอารมณ์เสีย หงุดหงิดใส่เพียงเพราะไม่ได้ทานร้านอาหารโปรด เขาก็ยังอยู่กับเรา ซึ่งเราเลยยิ่งทำตัวน่าเกลียด อยากได้อะไร ไปไหน ต้องได้ สั่งอะไรต้องทำ สุดท้ายเราก็เบื่อ และหาข้อเสียมาให้คนเหล่านั้นเสมอ เช่น ไม่หล่อ ทั้งๆที่ปกติไม่เคยดูคนที่ภายนอก หรือ มารยาทไม่ดี หรือบางทีเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบจริงๆ แต่ถ้ามันอยู่ในพี่บี เราก็หยวนได้ และก็เลิกไปเอง
นี้แหละค่ะ มันก็แค่ความอึดอัดที่เราอยากระบาย ไม่ได้อยากอวด ใครอ่านแล้วไม่ชอบก็ผ่านไปเนอะ เพราะทุกวันนี้เหงามาก รู้สึกล้มเหลวกับความรัก ไม่เข้าใจตนเองกับเรื่องความรักเลยสักนิด หวังว่าสักวันจะมีความสุขกับคนที่เรารักและรักเรา