สวัสดีค่ะ มีเรื่องร้อนใจ คือสงสารคุณแม่มาก เพราะท่านโดนกลั่นแกล้งค่ะ ขอเล่ารายละเอียดเลยนะคะ
คุณแม่ จขกท อายุ 57 ปี อีก 3 ปีจะเกษียณแล้วค่ะ คือ ทำงานที่บริษัทนี้มา 13 ปี (ปี 2561 นี้เข้าปีที่ 14) บริษัทนี้เป็นบริษัทลูก ของบริษัทใหญ่ แห่งหนึ่ง โดยบริษัทใหญ่ดังกล่าวมีบริษัทลูกเยอะค่ะ คนในบริษัทลูกก็พอคุยข้ามทำความรู้จักแต่ละบริษัทกันบ้าง คุณแม่ก็เช่นกัน
ทีนี้ บ. ลูก บ. หนึ่ง กิจการไปไม่รอด จำเป็นต้องปิดกิจการ พนักงานใน บ. นั้นมีจำนวน 3 คนค่ะ พวกเขาน่าจะต้องการอยู่รอดเพราะจะไม่มีงานให้ทำ จึงเข้าหาเจ้านายใหญ่ ว่าจะมาขออยู่ บ. ที่แม่ของ จขกท อยู่ โดยจะหาลูกค้าให้ เก็บเงินลูกค้าให้ตรงดีลให้ และทำผลงานให้ได้ค่ะ
แต่ที่ บ. ที่แม่ทำงาน มีคนทำอยู่แล้ว 4 คนค่ะ หัวหน้า 1 ลูกน้อง 3 คุณแม่เป็นลูกน้องค่ะ และไม่ได้เป็นหัวหน้าใคร (คุณแม่มีวุฒิน้อยค่ะ เลยออกแนวทำงานไปเรื่อยๆ เด็กอายุอ่อนกว่ามาเป็นหัวหน้าแม่ก็มี แต่ไม่มีการเขม่นอะไรกันนะคะ ราบรื่นปกติ) ทำงานตามหน้าที่อยู่แล้ว
เรื่องก็เกิดขึ้นค่ะ นึกภาพออกใช่ไหมคะ ตำแหน่งเต็ม แต่คนย้ายมาเพิ่ม จึงเกิดการเขี่ยกันขึ้น
3 คนนั้นทำตัวเข้าหาเจ้านาย พยายามมาจัดการทุกสิ่งอย่างโดยบอกว่าเพื่อบริษัท พยายามขออำนาจเจ้านายมาทำนั่นนี่ เช่น ถือเงินของบริษัทที่เอาไว้สำรอง การทำงานต่างๆ ต้องส่งบุคคลเหล่านี้ก่อน ก่อนจะส่งลำดับสูงขึ้นถัดไป ปัญหาของลูกค้าก็ต้องแจ้งพวกเขา ไม่ต้องแจ้งผู้ที่ตำแหน่งสูงกว่าโดยตรงเหมือนเดิม
ตอนแรกกลุ่มแม่ก็ไม่พอใจค่ะ เลยร้องเรียนเจ้านายว่าเกิดอะไรขึ้น กลุ่มคนเหล่านี้มาเป็นหัวหน้าใหม่เหรอ ถ้าใช่ก็จะยอมรับ แต่เจ้านายก็บอกว่าไม่ เขาไม่ได้มาเป็นหัวหน้าที่นี่(ประมาณว่าอยากให้ช่วยกันทำงานมากกว่า) พอเกิดการเขม่นกันและเคลียร์กันต่อหน้าเจ้านายแล้วก็ต่างคนต่างทำงานค่ะ แต่กลุ่ม 3 คนนี้ก็ชอบมีกระทบกระทั่งบ้างกับคุณแม่ เช่น เรียกไปคุยถึงความก้าวหน้าของงงาน ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่หัวหน้าแต่พยายามเข้ามาเต็มที่
ต่อมามีจดหมายให้เปลี่ยนแปลงการเข้างานมาค่ะ คุณแม่จากเข้าเช้าออกเย็น ต้องเป็นเข้าบ่ายออกดึก โดยส่งจากเจ้านาย แม่ก็ทำจดหมายไปว่าขอปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงสภาพงานดังกล่าว เพราะไม่สะดวกค่ะ ทำไม่ได้จริงๆ คุณแม่เข้างานเช้าออกเย็นมาเป็น 10 กว่าปี อยู่ๆก็เปลี่ยนแปลง โดยคำสั่งผ่านกลุ่มบุคคลดังกล่าว พอแม่ปฏิเสธไป เจ้านายกลับบอกว่าถ้าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ คือเป็นการบีบให้ลาออกใช่ไหมคะ
แล้วเราจะทำตามกฎหมายใดได้บ้างคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ค่ะ คุณแม่ถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน
คุณแม่ จขกท อายุ 57 ปี อีก 3 ปีจะเกษียณแล้วค่ะ คือ ทำงานที่บริษัทนี้มา 13 ปี (ปี 2561 นี้เข้าปีที่ 14) บริษัทนี้เป็นบริษัทลูก ของบริษัทใหญ่ แห่งหนึ่ง โดยบริษัทใหญ่ดังกล่าวมีบริษัทลูกเยอะค่ะ คนในบริษัทลูกก็พอคุยข้ามทำความรู้จักแต่ละบริษัทกันบ้าง คุณแม่ก็เช่นกัน
ทีนี้ บ. ลูก บ. หนึ่ง กิจการไปไม่รอด จำเป็นต้องปิดกิจการ พนักงานใน บ. นั้นมีจำนวน 3 คนค่ะ พวกเขาน่าจะต้องการอยู่รอดเพราะจะไม่มีงานให้ทำ จึงเข้าหาเจ้านายใหญ่ ว่าจะมาขออยู่ บ. ที่แม่ของ จขกท อยู่ โดยจะหาลูกค้าให้ เก็บเงินลูกค้าให้ตรงดีลให้ และทำผลงานให้ได้ค่ะ
แต่ที่ บ. ที่แม่ทำงาน มีคนทำอยู่แล้ว 4 คนค่ะ หัวหน้า 1 ลูกน้อง 3 คุณแม่เป็นลูกน้องค่ะ และไม่ได้เป็นหัวหน้าใคร (คุณแม่มีวุฒิน้อยค่ะ เลยออกแนวทำงานไปเรื่อยๆ เด็กอายุอ่อนกว่ามาเป็นหัวหน้าแม่ก็มี แต่ไม่มีการเขม่นอะไรกันนะคะ ราบรื่นปกติ) ทำงานตามหน้าที่อยู่แล้ว
เรื่องก็เกิดขึ้นค่ะ นึกภาพออกใช่ไหมคะ ตำแหน่งเต็ม แต่คนย้ายมาเพิ่ม จึงเกิดการเขี่ยกันขึ้น
3 คนนั้นทำตัวเข้าหาเจ้านาย พยายามมาจัดการทุกสิ่งอย่างโดยบอกว่าเพื่อบริษัท พยายามขออำนาจเจ้านายมาทำนั่นนี่ เช่น ถือเงินของบริษัทที่เอาไว้สำรอง การทำงานต่างๆ ต้องส่งบุคคลเหล่านี้ก่อน ก่อนจะส่งลำดับสูงขึ้นถัดไป ปัญหาของลูกค้าก็ต้องแจ้งพวกเขา ไม่ต้องแจ้งผู้ที่ตำแหน่งสูงกว่าโดยตรงเหมือนเดิม
ตอนแรกกลุ่มแม่ก็ไม่พอใจค่ะ เลยร้องเรียนเจ้านายว่าเกิดอะไรขึ้น กลุ่มคนเหล่านี้มาเป็นหัวหน้าใหม่เหรอ ถ้าใช่ก็จะยอมรับ แต่เจ้านายก็บอกว่าไม่ เขาไม่ได้มาเป็นหัวหน้าที่นี่(ประมาณว่าอยากให้ช่วยกันทำงานมากกว่า) พอเกิดการเขม่นกันและเคลียร์กันต่อหน้าเจ้านายแล้วก็ต่างคนต่างทำงานค่ะ แต่กลุ่ม 3 คนนี้ก็ชอบมีกระทบกระทั่งบ้างกับคุณแม่ เช่น เรียกไปคุยถึงความก้าวหน้าของงงาน ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่หัวหน้าแต่พยายามเข้ามาเต็มที่
ต่อมามีจดหมายให้เปลี่ยนแปลงการเข้างานมาค่ะ คุณแม่จากเข้าเช้าออกเย็น ต้องเป็นเข้าบ่ายออกดึก โดยส่งจากเจ้านาย แม่ก็ทำจดหมายไปว่าขอปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงสภาพงานดังกล่าว เพราะไม่สะดวกค่ะ ทำไม่ได้จริงๆ คุณแม่เข้างานเช้าออกเย็นมาเป็น 10 กว่าปี อยู่ๆก็เปลี่ยนแปลง โดยคำสั่งผ่านกลุ่มบุคคลดังกล่าว พอแม่ปฏิเสธไป เจ้านายกลับบอกว่าถ้าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ คือเป็นการบีบให้ลาออกใช่ไหมคะ
แล้วเราจะทำตามกฎหมายใดได้บ้างคะ
ขอบคุณค่ะ