สวัสดีเพื่อนๆที่รักการเดินทาง ปีนี้ลุงหมอมีภาพถ่ายซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิมาให้ชมเช่นเคย หลายๆคนที่ตั้งใจไปชมซากุระบานปีนี้คงผิดหวังกันไปบ้าง เนื่องจาก อากาศที่อุ่นขึ้นเร็วในต้นฤดูทำให้ซากุระบานเร็วเกือบทุกที่

การเดินทางครั้งนี้ แม้จะมีชื่อว่า Kyoto Cherry Blossom แต่กลับไม่มีภาพซากุระจาก Kyoto สักต้น เนื่องจากวันที่ลุงหมอเดินทางไปถึง ใน Kyoto นั้นเหลือแต่ยอดแดงๆและใบอ่อนสีเขียวแล้ว จึงต้องปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางออกไปบริเวณใกล้เคียงที่ยังพอมีให้ชมบาง คือทาง Shiga , Hikone และตามหุบเขาที่สูงซึ่งซากุระจะบานช้ากว่าในเมือง ลองไปชมกันดูว่าจะได้อะไรติดมือกลับมา

Kaizu Osaki ..... อุโมงค์ซากุระริมทะเลสาบ Biwako


จากสถานีรถไฟ Makino station ลุงหมอเลือกที่จะค่อยๆเดินตามทาง ผ่านหมู่บ้านเพื่อไปยัง Kaizu Osaki ซึ่งอยู่ในระยะทางห่างออกไปราว3กิโล (หากต้องการนั่งรถบัส จะมีรถจอดรออยู่หน้าสถานีรถไฟ)



บรรยากาศยามเช้าริมทะเลสาบ และหมู่บ้านที่เงียบสงบยามเช้า ไม่ทำให้รู้สึกว่าไกลเท่าไหร่เลย










ถ้าต้องการถ่ายภาพให้ได้ถนนโล่งๆแบบนี้ต้องนั่งรถไฟออกจาก Kyoto แต่เช้าเท่านั้น เพราะในเวลาสายทั้งรถและคนจะเยอะมาก

ใกล้ๆ Kaizu Osaki จะมีต้นซากุระเก่าแก่อายุราว 300 ปี ที่คนญี่ปุ่นนิยมแวะมาเยี่ยมเยียน จะอยู่ตรงทางที่แยกขึ้นเขาไปอีกฝั่งทางซ้ายมือหากมาจากสถานี Makino






Biwako valley เป็นจุดชมซากุระและวิวของทะเลสาบ Biwa จากมุมสูง โดยปกติจะเป็นจุดสถานีกระเช้าขึ้นเขาที่คนไปเล่นสกีกันในฤดูหนาว แต่ในช่วงนี้กระเช้าปิดบริการอยู่ รอบๆลานกระเช้า จะมีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่พอสมควร ลุงหมอไปถึงในวันที่ซากุระปลิวว่อนเป็นวันสุดท้าย วัดถัดไปคงไม่สวยแล้ว












การเดินทางไป Biwako valley ต้องนั่ง Taxi จากสถานี Shiga ไป (ไม่แน่ใจว่ามีรถบัสบริการหรือไม่) แต่เห็นคนญี่ปุ่นที่เดินทางไปส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะขับรถส่วนตัวกันไป

Sanamidera Temple ... วัดเล็กๆ ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวัดสุดท้ายในแถบนี้ที่ยังมีซากุระเหลือให้ชมอยู่  แม้จะไปลำบากนิดแต่พอไปถึงแล้วก็คิดว่าคุ้มที่ดั้นด้นมา









การเดินทางไปค่อนข้างยากพอสมควร สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ Omi-Nakasho Station แต่ลุงหมอเห็นว่าเป็นสถานีเล็กเกรงว่าจะไม่มีรถ Taxi จึงเลือกไปลงที่สถานี Omi-Imazu Station แล้วให้รถ Taxi ไปส่ง ส่วนตอนกลับก็เดินกลับไปขึ้นรถไฟที่ Omi-Nakasho เพราะจากวัดซึ่งเงียบสงบมากไม่มีรถโดยสารใดๆทั้งสิ้น ต้องเดินตามลำธารหน้าวัดตัดทุ่งนามายังทิศทะเลสาบ Biwako ไกลเอาเรื่อง ซึ่งเมื่อเดินตามทางเล็กๆลัดเลาะมาเรื่อยๆ จะมีทางรถไฟเลียบทะเลสาบอยู่ไกลๆ

Kayabuki nosato, Miyama หมู่บ้านโบราณในหุบเขา

เป็นที่ที่ถือว่าโชคดี ที่เดินทางไปทัน น่าจะเป็นวันสุดท้าย(อีกแล้ว) ที่มีซากุระสวยๆให้ชม เนื่องจากวันถัดมาอากาศไม่สดใสและไม่มีแดดให้ถ่ายรูปเลย มีเพื่อนๆหลายคนที่ติดตามไปในวันรุ่งขึ้นแล้วผิดหวัง แต่อย่างไรหมู่บ้านก็มีความน่ารัก น่าเที่ยว




















การเดินทาง มายัง Kayabuki nosato นั่นจะว่าไกลก็ไกลหากเรานับจาก Kyoto ถึงหมู่บ้าน แต่ถ้าเรานับช่วงเวลาบนเราบัสเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวด้วย ก็ถือว่าใกล้มาก
ลุงหมอนั่งรถไฟจาก Kyoto มาลงที่สาถานี Hiyoshi (ต้องต่อขบวนที่ Sonobe แต่อยู่บนทางเดียวกัน) แล้วนั่งรถบัสรอบแรกเที่ยว 9.05 น. จากสถานี Hiyoshi ไปลง Kayabuki nosato ระหว่างทางของรถบัสจะวิ่งผ่านหมู่บ้านชนบทที่อยู่ตามหุบเขา มีซากุระให้ชมสองข้างทางสวยงามมากๆหากมาถูกจังหวะที่บานเต็มที่

จุดที่มีซากุระให้ชมสวยๆจะต้องเดินผ่านหน้าหมู่บ้านไปตามถนนใหญ่อีกหนึ่งป้ายรถบัส จะเจอกับลำธารและสวนที่เต็มไปด้วยซากุระ ตรงนี้จะบานช้ากว่าต้นซากุระหน้าหมู่บ้าน

Ohara หมู่บ้านเกษตรกรรมที่ใช้เวลานั่งรถบัส (สาย17) จากหน้าสถานี Kyoto ออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่วันที่ไปก็ไม่เจอซากุระสวยๆแล้ว


Kinosaki onsen เป็นอีกที่หนึ่ง ที่ยอมนั่งรถไฟระยะไกลจาก Kyoto ไป แต่ก็ช้าเกินไป.....ซากุระโรยไปเกือบหมดแล้ว





Hikone

มุมนี้คือจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันมากที่สุด






บริเวณแม่น้ำ Serigawa ที่อยู่ไม่ไกลจาก Hikone Castle นัก แม่น้ำ Seri นี้จะไหลลงสู่ทะเลสาบ Biwa



Nagahama Castle เป็นปราสาทเล็กๆ อยู่ที่ Nagahama ซึ่งนั่งรถไฟเลย Hikone ขึ้นไปหน่อย วันที่ไปถึงก็เหลือซากุระอยู่น้อยนิด





ถึงจะมีซากุระเหลืออยู่ไม่เยอะ แต่ว่าที่นี่เป็นจุดที่สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่ริมทะเลสาบ Biwa ได้อย่างงดงามเลยทีเดียว

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ปีหน้าลุงหมอคิดว่าอาจจะต้องเดินทางไปซ่อมในอีกหลายจุดสวยๆบริเวณรอบ Kyoto

https://www.facebook.com/pages/ลุงหมอขอพักร้อน/760679240696775