**ชื่อกระทู้เขียน "ฟูลบลูม" ผิดต้องขออภัยนะคะ
ครั้งหนึ่งในชีวิตก็ฝันว่าอยากเห็นซากุระฟูลบลูมที่ญี่ปุ่นสักครั้ง
ได้แรงบันดาลใจมาจากกระทู้ลุงหมอนั่นแหละ
https://ppantip.com/topic/35982353 (ต้องขอบคุณลุงหมอมากๆสำหรับหรับกระทู้ดีๆ และคำแนะนำนะคะ)
ตอนแรกยังไม่ได้ศึกษาอะไรมาก รู้แค่มันจะเริ่มฟูลบลูมช่วงปลายมีนา-ต้นเมษา
เจอโปร 0 บาทแอร์เอเชีย ก็จองเลยจ้า 26 มีนา- 5 เมษา ได้ราคา 7 พันกว่าๆ ไม่รวมกระเป๋า (จองล่วงหน้าประมาณ 1 ปี)
คราวนี้มาลองศึกษาจริงๆจัง อ้าวเฮ้ยส่วนใหญ่มันจะบานช่วงต้นเมษา ปี 2017 นี่เริ่มฟูลบลูมที่ 4 เมษา
ก็เลยได้แต่ภาวนาว่าปีนี้ขอให้มันบานเร็วทีเถอะ
ทีนี้ก็มาเริ่มต้นขั้นตอนแพลนทริปสำหรับมือใหม่กันดีกว่า บอกไว้ก่อนเลยว่าตอนเราแพลนทริปนี่เราไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย (ไม่นับต่อเครื่องนะเพราะอยู่แค่ในสนามบิน) แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเลย เคยเห็นในรูปว่าสวยดี แต่ก็ไม่เคยจำหรอกว่าสถานที่นั้นชื่ออะไร อยู่เมืองไหน
1. ศึกษาให้เยอะอ่านในกระทู้พันทิปนี่แหละ ตอนแรกเรานี่งงมาก โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ซัปโปโร นี่มันอยู่ส่วนไหนของญี่ปุ่นว่ะ กว่าจะจำสถานที่ได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวไหน อยู่จังหวัดอะไร ภูมิภาคไหน ก็ใช้เวลานานอยู่
2. List สถานที่+เมืองที่เราอยากไป อยากไปเที่ยวไหนใส่มาให้หมด แล้วก็ปักหมุดไว้ใน google maps ด้วย
3. มาดูที่เรา List ไว้ว่าสถานที่ ที่เราอยากไปมากที่สุด 1-2-3 มันอยู่แถวไหน โซนไหนเยอะสุด อย่าลืมนึกถึงช่วงเวลาที่เราไปด้วยนะ ว่าสถานที่ ที่เราจะอยากเห็นมันจะสวยในช่วงเวลาที่เราไปรึป่าว มันจะคุ้มค่ากับการเดินทางมั้ย อย่างเช่นเราอยากไปหมู่บ้าน Shirakawago มาก แต่ไปช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงพีค ก็ต้องทำใจตัดออกจาก List
4. เราก็จะได้เมืองที่เราอยากไป ของเราเมืองหลักๆ ก็มี Tokyo Kyoto Nara Osaka Matsumoto
5. เราก็จะมาแพลนการเดินทางว่าเราจะไปเมืองไหนก่อน วันที่เท่าไหร่ไปเมืองไหน เลือกเมืองที่ใกล้ๆกัน แบบไม่ต้องเปลี่ยนที่พักบ่อยขอให้เปลี่ยนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการแบกกระเป๋าย้ายที่พักไม่ใช่เรื่องสนุก แต่แพลนสำหรับดูซากุระ มันจะลำบากนิดนึงตรงที่ไม่รู้ว่ามันจะฟูลบลูมวันไหนจริงๆ อันนี้เราต้องอาศัยความน่าจะเป็นจากสถิติปีที่ผ่านมา ของเราเราเลือก
- Day 1 (26 มีนาคม 2561) Tokyo
- Day 2-3 (27-28 มีนาคม 2561) Matsumoto
- Day 4-5 (29-30 มีนาคม 2561) Osaka,Kyoto,Nara
- Day 6-10 (31 มีนาคม - 4 เมษายน 2561) Tokyo กะจะดูซากุระให้เต็มที่ 555
6. เลือกใช้ Pass เดินทาง คำนวนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (ดูได้จาก
http://www.hyperdia.com/en/ ) ว่าควรจะใช้ Pass ไหนดี ของเราคำนวณแล้วเดินทางหลายเมืองใช้ JR Rail Pass น่าจะคุ้มสุด
7. จองที่พัก ส่วนใหญ่เราจองจาก Agoda กับ Booking
แต่แพลนที่เราทำไว้กับที่ใช้จริงอาจจะไม่ตรงตามนั้น อาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม เพราะบางทีมันก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเราศึกษาและทำการบ้านมาดีพอ ตรงนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา
สิ่งที่อยากแนะนำมากที่สุดคือถ้าไม่เข้าใจหรือไม่รู้อะไรให้ศึกษาด้วยตัวเองก่อน ใช้ Google ให้เป็นประโยชน์ มันมีคำตอบให้เราในเกือบทุกๆคำถาม ถ้าเราพยายามอย่างมากพอแล้วยังไม่ได้คำตอบแล้วค่อยไปถามคนอื่น เพราะถ้าคุณเอาแต่ถามโดยไม่ศึกษามาก่อนคุณจะไม่มีวันเข้าใจอย่างแท้จริง
ปัญหาแรกที่เราเจอก็คือไอ้ที่เราภาวนาให้ซากุระบานเร็วมันบานเร็วจริงๆ
แต่มันบานเร็วเกินไป 555 คือมันเริ่ม Full bloom ตั้งแต่วันแรกที่เราไปถึง
จริงๆเราก็ดูพยากรณ์ ซากุระ Full Bloom อยู่ทุกวันก่อนไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเฮ้ยมันจะบานเร็วขนาดนั้นเหรอ ไม่จริงมั้ง ยังไม่เชื่อ 5555
จนประมาณวันที่ 21 มีนาคม ซากุระก็เริ่มบานจริงๆ คราวนี้ต้องมาแพลนทริปใหม่
มีการเปลี่ยนแพลนจากเอา Tokyo ไว้ท้ายๆทริป ก็เลยต้องเปลี่ยนมาต้นๆทริปแทน (เพราะโตเกียวมันจะเริ่มบานก่อนเมืองอื่นๆในทริป)
แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมด เพราะบางแห่งที่พักไม่สามารถเลื่อนวันได้ ก็เปลี่ยนเท่าที่ได้
ปัญหาที่ 2 คือตอนไปเราเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทริปต้องรวนไปบ้าง ไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็ยังไหวอยู่ แนะนำประกันการเดินทางสำคัญมาก ซื้อไปเถอะ
ในรีวิวทริปนี้เราไม่ได้เรียงตามวันที่ไป เราจะเรียงตามเมืองที่ไป คนอ่านจะได้ไม่งง
เทคนิคให้เห็นซากุระฟลูบูมคือ
- เราใช้วิธีเข้าไปเช็คใน Instagram เลือกสถานที่ที่เราจะไป แล้วเราก็ดูรูปล่าสุดที่คนโพส แค่นี้เราก็จะเห็นว่าซากุระบาน Full Bloom รึยัง หรือว่าร่วงไปแล้ว เราจะได้ตัดสินใจว่าควรจะไปดีมั้ย หรือไปที่ไหนก่อน แต่สถานที่ใกล้ๆกันมันมักจะ Full Bloom พร้อมๆกัน เลือกที่ที่เราอยากไปก่อน เพราะบางทีเราไม่สามารถไปทุกที่ที่เราอยากไปได้ทัน เอาจริงๆเราว่า ซากุระ Full Bloom สวยเต็มที่อยู่แค่ 3 วัน จากนั้นความสวยจะเริ่มน้อยลง
- ช่วงซากุระบานใน google maps มันดีงามมากคือมันมีสัญลักษณ์ เป็นรูปดอกซากุระบอกเราด้วย ว่าตรงไหนเป็นจุดชมซากุระ แล้วก็จะมีสีบอกด้วยว่าถ้าช่วง Full Bloom จะเป็นดอกซากุระสีชมพู เริ่มร่วงเป็นสีอะไรจำไม่ได้จริงๆ คุ้นๆว่าจะเป็นสีส้ม (อันนี้ไม่แน่ใจนะ) แต่ถ้าร่วงหมดไม่สวยแล้วมันจะขึ้นเป็นสีฟ้า ตอนแรกไม่รู้เลย เพิ่งมารู้ตอนที่ไปใช้ google maps ที่นั่น แล้วสังเกตุว่าสถานที่ที่เราปักหมุดว่าจะไปดูซากุระ ทำไมมันมีรูปดอกไม้ทุกอัน บางที่ใกล้ๆกันเราไม่ได้ปักหมุดว่าจะไป แต่เห็นมีรูปดอกซากุระสีชมพู เลยลองเดินไปดู อ้าวมีจุดชมซากุระจริงๆด้วย
มาเริ่มกันดีกว่า เราจะบอกแค่สถานที่กับการเดินทางนะ แล้วก็เน้นจุดชมซากุระ ที่เที่ยวอื่นๆไม่ได้รีวิวทั้งหมดเพื่อกระทู้จะได้ไม่ยาวจนเกินไป 555
ปล.รูปที่ถ่าย 90 % เป็นรูปจากกล้อง iphone 7+
Tokyo
1.ชมซากุระที่ Nakameguro (26.3.2018) : การเดินทางนั่งรถไฟสาย Tokyu Toyoko line หรือ Tokyo Metro Hibiya line มาลงที่สถานี Naka-Meguro
https://goo.gl/maps/3PdGE3i4crz
2. ชมซากุระที่ Ueno Park (27.3.2018) : การเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line, Keihin-Tohoku Line ลงสถานี Ueno ออกทางออก Park Exit หรือนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line, Hibiya Line ลงสถานี Ueno ออกทางออก Exit 7 หรือ 9
https://goo.gl/maps/WB3LkwTp7dQ2
ส่วนตัวเราไม่ค่อยประทับใจซากุระที่ Ueno Park เท่าไหร่ คนเยอะมากแน่นแออัด ถ่ายรูปลำบาก ให้ให้แค่ 6/10
3. ชมซากุระที่ Chidorigafuchi (27.3.2018) : การเดินทาง ขึ้นรถไฟสาย Hazomon Line มาลงที่สถานี Hazomon Exit 4
https://goo.gl/maps/kZaLEFotj9K2
เราชอบซากุระที่นี่มากนะ แต่ข้อเสียคือคนเยอะเช่นกัน แต่ก็ยังดีกว่า Ueno Park เพราะยังพอมีมุมให้ถ่ายรูปอยู่บ้าง
ที่นี่มีเรือให้พายด้วย 30 นาที 800 เยน อยากพายมากแต่คิวยาวมากรอไม่ไหว ให้คะแนน 9/10 ตัดคะแนนเนื่องจากคนเยอะ 5555
4. ชมซากุระริมคลองที่ Edogawabashi (27.3.2018) : การเดินทาง นั่งรถไฟสาย Yurakucho Line ลงที่สถานี Edogawabashi Exit 1a
https://goo.gl/maps/F2K2WwSfQoq
ซากุระริมคลองยาวหลายกิโลเมตร เราชอบซากุระที่นี่มากเดินจนเมาซากุระ เดินจนเซ ซากุระริมคลองฟูมาก ทำให้เราได้สัมผัสคำว่า Sakura Full Bloom ที่แท้จริง คล้ายกับที่ Nakameguro แต่ดีกว่าเยอะตรงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย มีแต่ชาวบ้านแถวๆนั้น ดูน่ารักและเป็นธรรมชาติมาก เป็นให้ 10/10
5. ชมซากุระที่ Tachikawa (28/3/2018) : การเดินทางนั่งรถไฟ JR line chuo line (rapid) ไปลงสถานี Tachikawa จากนั้นเดินออกจากสถานีมาหน่อยมันจะมีทางเชื่อมเพื่อไปนั่งรถราง tama monorail ลงที่สถานี shibasakitaiikukan มองจากบนสถานีเราจะเห็นแนวดอกซากุระ เดินไปทางนั้นเลย จะมีทางแยกเป็นลำธารสองฝั่ง เราอยากได้มุมสะพานที่ลุงหมอถ่าย เราเลยเอารูปให้คนแถวนั้นดูถามเขาว่าเราต้องเดินไปฝั่งซ้ายหรือขวา เขาบอกให้เดินไปทางซ้าย คือตอนที่ไปถึงนี่ใกล้จะ 6 โมงแล้ว เรากลัวแสงหมดถ่ายรูปไม่ได้เลยจำเป็นต้องเลือก อดดูทั้งสองฝั่งเลย
ที่นี่เราให้ 10/10 คือสวยมากกกกกกกก เงียบสงบมาก คือตกหลุมรักเลยหล่ะ
วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นยังไงให้เจอซากุระฟลูบูม "ทริปเดินงงในดงซากุระ 2018"
ครั้งหนึ่งในชีวิตก็ฝันว่าอยากเห็นซากุระฟูลบลูมที่ญี่ปุ่นสักครั้ง
ได้แรงบันดาลใจมาจากกระทู้ลุงหมอนั่นแหละ https://ppantip.com/topic/35982353 (ต้องขอบคุณลุงหมอมากๆสำหรับหรับกระทู้ดีๆ และคำแนะนำนะคะ)
ตอนแรกยังไม่ได้ศึกษาอะไรมาก รู้แค่มันจะเริ่มฟูลบลูมช่วงปลายมีนา-ต้นเมษา
เจอโปร 0 บาทแอร์เอเชีย ก็จองเลยจ้า 26 มีนา- 5 เมษา ได้ราคา 7 พันกว่าๆ ไม่รวมกระเป๋า (จองล่วงหน้าประมาณ 1 ปี)
คราวนี้มาลองศึกษาจริงๆจัง อ้าวเฮ้ยส่วนใหญ่มันจะบานช่วงต้นเมษา ปี 2017 นี่เริ่มฟูลบลูมที่ 4 เมษา
ก็เลยได้แต่ภาวนาว่าปีนี้ขอให้มันบานเร็วทีเถอะ
ทีนี้ก็มาเริ่มต้นขั้นตอนแพลนทริปสำหรับมือใหม่กันดีกว่า บอกไว้ก่อนเลยว่าตอนเราแพลนทริปนี่เราไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย (ไม่นับต่อเครื่องนะเพราะอยู่แค่ในสนามบิน) แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเลย เคยเห็นในรูปว่าสวยดี แต่ก็ไม่เคยจำหรอกว่าสถานที่นั้นชื่ออะไร อยู่เมืองไหน
1. ศึกษาให้เยอะอ่านในกระทู้พันทิปนี่แหละ ตอนแรกเรานี่งงมาก โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ซัปโปโร นี่มันอยู่ส่วนไหนของญี่ปุ่นว่ะ กว่าจะจำสถานที่ได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวไหน อยู่จังหวัดอะไร ภูมิภาคไหน ก็ใช้เวลานานอยู่
2. List สถานที่+เมืองที่เราอยากไป อยากไปเที่ยวไหนใส่มาให้หมด แล้วก็ปักหมุดไว้ใน google maps ด้วย
3. มาดูที่เรา List ไว้ว่าสถานที่ ที่เราอยากไปมากที่สุด 1-2-3 มันอยู่แถวไหน โซนไหนเยอะสุด อย่าลืมนึกถึงช่วงเวลาที่เราไปด้วยนะ ว่าสถานที่ ที่เราจะอยากเห็นมันจะสวยในช่วงเวลาที่เราไปรึป่าว มันจะคุ้มค่ากับการเดินทางมั้ย อย่างเช่นเราอยากไปหมู่บ้าน Shirakawago มาก แต่ไปช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงพีค ก็ต้องทำใจตัดออกจาก List
4. เราก็จะได้เมืองที่เราอยากไป ของเราเมืองหลักๆ ก็มี Tokyo Kyoto Nara Osaka Matsumoto
5. เราก็จะมาแพลนการเดินทางว่าเราจะไปเมืองไหนก่อน วันที่เท่าไหร่ไปเมืองไหน เลือกเมืองที่ใกล้ๆกัน แบบไม่ต้องเปลี่ยนที่พักบ่อยขอให้เปลี่ยนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการแบกกระเป๋าย้ายที่พักไม่ใช่เรื่องสนุก แต่แพลนสำหรับดูซากุระ มันจะลำบากนิดนึงตรงที่ไม่รู้ว่ามันจะฟูลบลูมวันไหนจริงๆ อันนี้เราต้องอาศัยความน่าจะเป็นจากสถิติปีที่ผ่านมา ของเราเราเลือก
- Day 1 (26 มีนาคม 2561) Tokyo
- Day 2-3 (27-28 มีนาคม 2561) Matsumoto
- Day 4-5 (29-30 มีนาคม 2561) Osaka,Kyoto,Nara
- Day 6-10 (31 มีนาคม - 4 เมษายน 2561) Tokyo กะจะดูซากุระให้เต็มที่ 555
6. เลือกใช้ Pass เดินทาง คำนวนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (ดูได้จาก http://www.hyperdia.com/en/ ) ว่าควรจะใช้ Pass ไหนดี ของเราคำนวณแล้วเดินทางหลายเมืองใช้ JR Rail Pass น่าจะคุ้มสุด
7. จองที่พัก ส่วนใหญ่เราจองจาก Agoda กับ Booking
แต่แพลนที่เราทำไว้กับที่ใช้จริงอาจจะไม่ตรงตามนั้น อาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม เพราะบางทีมันก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเราศึกษาและทำการบ้านมาดีพอ ตรงนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา
สิ่งที่อยากแนะนำมากที่สุดคือถ้าไม่เข้าใจหรือไม่รู้อะไรให้ศึกษาด้วยตัวเองก่อน ใช้ Google ให้เป็นประโยชน์ มันมีคำตอบให้เราในเกือบทุกๆคำถาม ถ้าเราพยายามอย่างมากพอแล้วยังไม่ได้คำตอบแล้วค่อยไปถามคนอื่น เพราะถ้าคุณเอาแต่ถามโดยไม่ศึกษามาก่อนคุณจะไม่มีวันเข้าใจอย่างแท้จริง
ปัญหาแรกที่เราเจอก็คือไอ้ที่เราภาวนาให้ซากุระบานเร็วมันบานเร็วจริงๆ
แต่มันบานเร็วเกินไป 555 คือมันเริ่ม Full bloom ตั้งแต่วันแรกที่เราไปถึง
จริงๆเราก็ดูพยากรณ์ ซากุระ Full Bloom อยู่ทุกวันก่อนไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเฮ้ยมันจะบานเร็วขนาดนั้นเหรอ ไม่จริงมั้ง ยังไม่เชื่อ 5555
จนประมาณวันที่ 21 มีนาคม ซากุระก็เริ่มบานจริงๆ คราวนี้ต้องมาแพลนทริปใหม่
มีการเปลี่ยนแพลนจากเอา Tokyo ไว้ท้ายๆทริป ก็เลยต้องเปลี่ยนมาต้นๆทริปแทน (เพราะโตเกียวมันจะเริ่มบานก่อนเมืองอื่นๆในทริป)
แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมด เพราะบางแห่งที่พักไม่สามารถเลื่อนวันได้ ก็เปลี่ยนเท่าที่ได้
ปัญหาที่ 2 คือตอนไปเราเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทริปต้องรวนไปบ้าง ไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็ยังไหวอยู่ แนะนำประกันการเดินทางสำคัญมาก ซื้อไปเถอะ
ในรีวิวทริปนี้เราไม่ได้เรียงตามวันที่ไป เราจะเรียงตามเมืองที่ไป คนอ่านจะได้ไม่งง
เทคนิคให้เห็นซากุระฟลูบูมคือ
- เราใช้วิธีเข้าไปเช็คใน Instagram เลือกสถานที่ที่เราจะไป แล้วเราก็ดูรูปล่าสุดที่คนโพส แค่นี้เราก็จะเห็นว่าซากุระบาน Full Bloom รึยัง หรือว่าร่วงไปแล้ว เราจะได้ตัดสินใจว่าควรจะไปดีมั้ย หรือไปที่ไหนก่อน แต่สถานที่ใกล้ๆกันมันมักจะ Full Bloom พร้อมๆกัน เลือกที่ที่เราอยากไปก่อน เพราะบางทีเราไม่สามารถไปทุกที่ที่เราอยากไปได้ทัน เอาจริงๆเราว่า ซากุระ Full Bloom สวยเต็มที่อยู่แค่ 3 วัน จากนั้นความสวยจะเริ่มน้อยลง
- ช่วงซากุระบานใน google maps มันดีงามมากคือมันมีสัญลักษณ์ เป็นรูปดอกซากุระบอกเราด้วย ว่าตรงไหนเป็นจุดชมซากุระ แล้วก็จะมีสีบอกด้วยว่าถ้าช่วง Full Bloom จะเป็นดอกซากุระสีชมพู เริ่มร่วงเป็นสีอะไรจำไม่ได้จริงๆ คุ้นๆว่าจะเป็นสีส้ม (อันนี้ไม่แน่ใจนะ) แต่ถ้าร่วงหมดไม่สวยแล้วมันจะขึ้นเป็นสีฟ้า ตอนแรกไม่รู้เลย เพิ่งมารู้ตอนที่ไปใช้ google maps ที่นั่น แล้วสังเกตุว่าสถานที่ที่เราปักหมุดว่าจะไปดูซากุระ ทำไมมันมีรูปดอกไม้ทุกอัน บางที่ใกล้ๆกันเราไม่ได้ปักหมุดว่าจะไป แต่เห็นมีรูปดอกซากุระสีชมพู เลยลองเดินไปดู อ้าวมีจุดชมซากุระจริงๆด้วย
มาเริ่มกันดีกว่า เราจะบอกแค่สถานที่กับการเดินทางนะ แล้วก็เน้นจุดชมซากุระ ที่เที่ยวอื่นๆไม่ได้รีวิวทั้งหมดเพื่อกระทู้จะได้ไม่ยาวจนเกินไป 555
ปล.รูปที่ถ่าย 90 % เป็นรูปจากกล้อง iphone 7+
Tokyo
1.ชมซากุระที่ Nakameguro (26.3.2018) : การเดินทางนั่งรถไฟสาย Tokyu Toyoko line หรือ Tokyo Metro Hibiya line มาลงที่สถานี Naka-Meguro https://goo.gl/maps/3PdGE3i4crz
2. ชมซากุระที่ Ueno Park (27.3.2018) : การเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line, Keihin-Tohoku Line ลงสถานี Ueno ออกทางออก Park Exit หรือนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line, Hibiya Line ลงสถานี Ueno ออกทางออก Exit 7 หรือ 9 https://goo.gl/maps/WB3LkwTp7dQ2
ส่วนตัวเราไม่ค่อยประทับใจซากุระที่ Ueno Park เท่าไหร่ คนเยอะมากแน่นแออัด ถ่ายรูปลำบาก ให้ให้แค่ 6/10
3. ชมซากุระที่ Chidorigafuchi (27.3.2018) : การเดินทาง ขึ้นรถไฟสาย Hazomon Line มาลงที่สถานี Hazomon Exit 4 https://goo.gl/maps/kZaLEFotj9K2
เราชอบซากุระที่นี่มากนะ แต่ข้อเสียคือคนเยอะเช่นกัน แต่ก็ยังดีกว่า Ueno Park เพราะยังพอมีมุมให้ถ่ายรูปอยู่บ้าง
ที่นี่มีเรือให้พายด้วย 30 นาที 800 เยน อยากพายมากแต่คิวยาวมากรอไม่ไหว ให้คะแนน 9/10 ตัดคะแนนเนื่องจากคนเยอะ 5555
4. ชมซากุระริมคลองที่ Edogawabashi (27.3.2018) : การเดินทาง นั่งรถไฟสาย Yurakucho Line ลงที่สถานี Edogawabashi Exit 1a https://goo.gl/maps/F2K2WwSfQoq
ซากุระริมคลองยาวหลายกิโลเมตร เราชอบซากุระที่นี่มากเดินจนเมาซากุระ เดินจนเซ ซากุระริมคลองฟูมาก ทำให้เราได้สัมผัสคำว่า Sakura Full Bloom ที่แท้จริง คล้ายกับที่ Nakameguro แต่ดีกว่าเยอะตรงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย มีแต่ชาวบ้านแถวๆนั้น ดูน่ารักและเป็นธรรมชาติมาก เป็นให้ 10/10
5. ชมซากุระที่ Tachikawa (28/3/2018) : การเดินทางนั่งรถไฟ JR line chuo line (rapid) ไปลงสถานี Tachikawa จากนั้นเดินออกจากสถานีมาหน่อยมันจะมีทางเชื่อมเพื่อไปนั่งรถราง tama monorail ลงที่สถานี shibasakitaiikukan มองจากบนสถานีเราจะเห็นแนวดอกซากุระ เดินไปทางนั้นเลย จะมีทางแยกเป็นลำธารสองฝั่ง เราอยากได้มุมสะพานที่ลุงหมอถ่าย เราเลยเอารูปให้คนแถวนั้นดูถามเขาว่าเราต้องเดินไปฝั่งซ้ายหรือขวา เขาบอกให้เดินไปทางซ้าย คือตอนที่ไปถึงนี่ใกล้จะ 6 โมงแล้ว เรากลัวแสงหมดถ่ายรูปไม่ได้เลยจำเป็นต้องเลือก อดดูทั้งสองฝั่งเลย
ที่นี่เราให้ 10/10 คือสวยมากกกกกกกก เงียบสงบมาก คือตกหลุมรักเลยหล่ะ