แชร์ประสบการณ์การผ่าตัดเนื้อย้อยกดทับฐานสมอง

กระทู้คำถาม
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรารักษาโรคกระดูกสันหลังคดมาสักระยะเเล้วหมอเห็นว่าต้องผ่าตัดเเล้วเเหล่ะ(โรงพยาบาลราชวิถี) ความรู้สึกตอนนั้นคือโลกดับไปชั่วขณะ เเต่ก็เตรียมจิตเตรียมใจไว้เเล้ว ใจพร้อมที่จะผ่า เเต่ร่างกายไม่ค่อยจะพร้อม 5555 เมื่อถึงวันผ่าจัดการทำเรื่องเข้าโรงพยาบาลเรียบร้อย ความรู้สึกเเรกตอนเข้าไปก็อยากกลับซ่ะงั้น ความรู้สึกคือไม่ตื่นเต้นอะไรเลย เเล้วอยู่ๆพยาบาลก็บอกว่าขอคุยกะเเม่หน่อย ตอนนั้นเเม่กลับที่พักไปเเล้ว เราก็เอะใจ มีอะไรหรือเปล่า สักพักพยาบาลมาพร้อมกะหมอ บอกว่า ตอนนี้ยังผ่าตัดให้น้องไม่ได้ เพราะจากผลMRI พบเนื้อย้อยบริเวณฐานสมอง หากผ่าตัดอาจจะทำให้น้องพิการได้ เราก็ตกใจเอาไงล่ะทีนี้ก็ต้องรักษาตรงนี้ก่อน หมอทางด้านนี้ก็นัดผ่าตัดช่วงปิดเทอมพอดี เเล้วด้วยความที่เราอยู่ม.3 เรื่องเรียนก็หนัก ร่างกายก็ไม่ค่อยจะพร้อม ต้องเตรียมตัวสอบเข้าม.4 ก็คิดหนักอยู่ว่าถ้าผ่าไป เเล้วร่างกายเราเป็นอย่างนี้เราจะไหวไหมว่ะ ตอนนั้นท้อๆนิดๆ555 เเต่เมื่อถึงวันผ่า เราเข้าโรงพยาบาลวันที่2 มีนาคม หมอบอกว่าน่าจะผ่าวันที่7 ระหว่างนี้ก็นอนรอยาวไปจ้า เบื่อก็เบื่อ พอใกล้วันผ่าพยาบาลให้อดอาหารตั้งเเต่เที่ยงคืนจนถึงเวลาบ่ายสองหมอมาบอกว่าอาจจะต้องเลื่อนเพราะมีเคสฉุกเฉิน เราก็โอเคค่าา หนูรอได้ รอยาวไปอีก5คืน สรุปคือผ่าวันที่12 มีนาคม
-12/3/61 ตอนเช้าคือเจ็บคอมากเพราะต้องอดน้ำอดอาหารตั้งเเต่เที่ยงคืนจากนั้นพยาบาลก็มาให้น้ำเกลือ เเล้ววันนั้นเป็นวันที่เกรดเฉลี่ยออก เราได้เกรดที่เราพอใจในระดับนึง ความรู้สึกคือดีนะที่ไม่ติด0 ก็เป็นเรื่องดีๆก่อนผ่าตัด 10.00น. มีเจ้าหน้าที่มาพาเราไป ตอนจะเข้าไปในห้องมองหน้าเเม่เเล้วยิ้มให้เเม่พยามบอกให้เเม่รู้ว่า เราไหว ระหว่างนั้นก็เข้าไปรอในห้องพักก่อนที่จะพาเข้าห้องผ่าตัดตอนนั้นคือใจเต้นเเรงมากกกก ตัวสั่นจนถุงน้ำเกลือสั่น รอประมาณ1ชั่วโมง จากนั้นเค้าก็พอเราเข้าห้องผ่าตัด เเต่ที่เราขำคือเจ้าหน้าที่ที่พาเราไปห้องผ่าตัด ถามว่าอยู่ปีไหนเเล้ว หนูเพิ่งจบม.3ค่าาา หน้าเเก่ขนาดนั้นเชียวรึ เเล้วเค้าก็บอกว่า เดี๋ยวจะพาไปเที่ยว มันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้น เมื่อเข้าไปในห้องผ่าตัด มันไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้เลย เเล้วเค้าก็ให้เราดมยาสลบ ลมหายใจเเรกยังไม่รู้สึกอะไร เฮือกที่สองเนั่ยก็หลับเลย ตื่นมาอีกทีได้ยินเสียงพยาบาลเรียก เเต่เราลืมตาไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้คงเป็นเพราะยายังไม่หมดฤทธิ์ ตอนนั้นตกใจนะ คิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปเเล้วหรือป่าว ตอนน้ำคือร้องไห้เเต่ลืมตาไม่ได้ ได้ยินเสียงพยาบาลบอกว่าน้ำตาน้องไหลเเล้ว เป็นสัญญาณที่ดีบอกว่าเรารู้สึกตัวเเล้ว จากนั้นก็เริ่มขยับตัวได้เต้าเลยเอาท่อหายใจออก หมอก็ให้ขยับเเขนขา เราขยับได้ปกติ ตอนนั้นเรายังไม่เจ็บ ความรู้สึกคือหลับไปเเล้วตื่นขึ้นมาปกติ จากนั้นเค้าก็พอเราไปห้องไอซียู สายระโยงระยางเต็มตัว (ไม่ต้องตกใจนะคะ)หลับยาวเลยตอนนั้น ตื่นมาเห็นสายน้ำเกลือ ถุงเลือด ได้ยินเสียงเเม่กับน้า เห็นหน้าเเม่กับน้าเเละพี่ก็ดีใจ ตอนนั้นยังไม่รู้สึกเจ็บเพราะยายังไม่หมดฤทธิ์มั้ง เเต่ตอนดึกประมาณเที่ยงคืน เจ็บมาก เรียกพยาบาล พยาบาลก็บอกว่า ยาเพิ่งให้ไปเมื่อ3ชั่วโมงที่เเล้วต้องรอให้ครบ6ชั่วโมงก่อน เราก็อดทน จะบอกว่าเจ็บน่ะไม่เท่าไหร เเต่ทรมาณมาก มันปวดไปหมดทั้งเเขนขา กินอะไรก็ไม่ได้ ได้กินน้ำเเก้วเดียว นอนปวดทรมาณ จนหลับไปเลย
-13/3/61 ตื่นมาอีกทีก็เช้า หมอมาตรวจอาการ เเล้วหมอก็บอกว่า งั้นออกจากไอซียูนะ เราก็โอเค ออกจากห้องไอซียูประมาณ11.00น. ย้ายไปอยู่ห้องรวม เเต่สบายอยู่นะเเม้จะเป็นห้องรวม เที่ยงก็ทานอาหาร กินได้เเต่ข้าวต้ม อีกอย่างกินได้เเค่2-3 คำ เพราะมันรู้สึกไม่หิวเลย เเล้วก็นอนต่อ ตอนนั้นคือยังหนุนหมอนไม่ได้เพราะเจ็บอยู่ นอนราบไป เเผลที่ผ่าอยู่บริเวณท้ายทอย เเต่นอนหงายได้ ตอนนั้นยังพลิกตัว นอนตะเเคงยากหน่อย เพราะยังเจ็บ ตื่นมาอีกที่ก็กินข้างเย็นก็คือข้าวต้มอีกเช่นเคย พยาบาลก็มาฉีดยาอยู่เป็นระยะ หลังจากนั้นก็นอนยาว จำได้ว่าคืนนั้นปวดมากจนต้องขอยาพยาบาล พยาบาลก็ให้ ก็หายปวดไป หลับต่อ เเต่ยังหลับๆตื่นๆทั้งคืนเพราะเจ็บ
-14/3/61 เช้ามา ก็แปรงฟันเเต่มีพยาบาลช่วยอยู่ เพราะเราจะเอื้อมไปหยิบอะไรก็ยาก ตอนนั้นหมอยังไม่ให้เดินน่ะคะ นอนบนเตียงอย่างเดียว ถึงเวลาทานข้าว พยาบาลก็ป้อน เเต่เรากินค่อยได้ พยาบาลถามว่ากินนมไหม เราก็กิน แปบเดียว อ้วกออกมาเลยจ้า เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อีก จากนั้นหมอก็เข้ามาตรวจ จนเที่ยง จนเย็นก็ทานข้าว ซ้ำวนๆไปอีก คืนที่สองก็เจ็บเเผลอีก ขอยาพยาบาลเเต่คราวนี่พยาบาลไม่ให้เพราะเพิ่งให้ไป ก็ทนยาวไป จนถึงเช้า
- 15/3/61 เช้ามาหมอเข้ามาตรวจตรงกับช่วงเวลาทานข้าวพอดี หมอบอกว่า ลุกขึ้นนั่งได้เเล้วมั้ง นาทีนั้นคือ ลุกไม่ไหวก็พยายาม พอนั่งปุ้บ มึนตึบเลย ก็นั่งทานข้าว เเต่นั่งได้ไม่ค่อยนาน นั่งๆ นอนๆ ยาวไปอีก เเต่ไม่ค่อยเจ็บมากล่ะ คืนนั้นก็เจ็บน่ะ เเต่อดทนพยายามไม่ขอยาเพราะมันเจ็บไม่มากเท่า3คืนเเรก
-16/3/61 เช้ามาทานข้าวเช้า หมอตรวจตามปกติพยาบาลก็เอาสายฉี่ออก เเล้วก็มีนักกายภาพมาสอนการเดิน สอนท่าบริหารปอด หลังจากนั้นพยาบาลก็เอาสายน้ำเกลือออกให้ ตอนนั้นความรู้สึกคือเป็นอิสระสักทีโว้ย เเละปวดฉี่มาก รีบเดินไปฉี่เลยจ้า ลืมไปว่าตัวเองเพิ่งเริ่มเดินได้ มาถึงเตียงก็มึนตึบ โลกหมุนเลย5555 คืนนั้นก็ไม่ปวดเท่าไร่ นอนหลับก็เหมือนเดิมนอนไม่ค่อยจะหลับ
-17/3/61 หมอมาบอกว่า น่าจะออกจากโรงพยาบาลวันที่19 น่ะ เราก็ดีใจ คิดถึงบ้านมาก (บ้านเราอยู่นครศรีธรรมราช) ทุกอย่างเริ่มกลับมาปกติ เพียงเเต่ยังทำอะไรที่หนักๆไม่ได้
-18/3/61 ทุกอย่างเหมือนวันที่17 นั่งๆนอนๆ
-19/3/61 ตอนเช้าหมอมาบอกว่ากลับได้ละนะ พยาบาลก็ทำเรื่องออกให้ จากนั้นก็เดินทางกลับบ้าน หมอนัดตัดไหมวันที่30 ระหว่างนั้นเเผลยังโดนน้ำไม่ได้ หลังตัดไหมก็ยังโดนไม่ได้ประมาณ3-7วัน
ตอนนั้นเราจะหันซ้ายขวาไม่ได้เพราะยังปวดอยู่
เเต่ตอนนี้ผ่านมา1เดือนก็หันซ้ายขวาได้เเล้ว ทุกอย่างปกติ เเต่ทำอะไรก็ยังต้องระวังอยู่ เเละต้องงดอาหารที่เเสลงด้วยน่ะคะ
ใครที่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องกลัวน่ะคะ ต้องสู้ เชื่อใจในมือหมอเถอะคะ ตอนเเรกเราก็กลัว เเต่พอผ่านมันมา มันนิดเดียวมาก สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ มีอะไรจะถามถามได้น่ะคะ ไม่ต้องกลัว ขอบคุณที่ทนอ่านน่ะคะ ยาวหน่อย ทั้งหมดคือประสบการณ์จริงจากการผ่าตัดของเรา หวังว่าจะทำให้คนที่รักษาตรงนี้อยู่สบายใจขึ้นน่ะคะ สู้ๆคะ (ขออนุญาติลงในกระทู้คำถามน้ะคะ กระทู้สนทนาลงไม่ได้)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่