เพื่อนๆเชื่อเรื่องผีหรือสิ่งลี้ลับไหม ผมเคยเจอกับตัวเองตั้งแต่เด็ก เท่าที่จำความได้ 4-5 ครั้งรวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุด

มันมีหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งถ้ามองตามหลักวิทยาศาตร์หรือไสยศาสตร์ มันก็เป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง  ผมขอเล่าเฉพาะเหตุการณ์ที่ผมกลัวและจำเหตุการณ์ได้ แบบเห็นจังๆละกันนะครับ  ผมไม่ได้ว่าผมมีสัมผัสอะไรที่พิเศษไปกว่าคนอื่นหรอกครับ บางครั้งที่ผมเจอ ผมก็ยังเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แต่มันก็เจอกับตัวผมเองจริงๆ โดยขอแบ่งเป็นช่วงของเวลาในแต่ละวัย จนถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดล่าสุด ที่พักรีสอร์ทแห่งนึงในเขื่อนศรีนครินทร์ คืนวันที่ 18 เม.ย 61 ที่ผ่านมา


1.ตอนนั้นน่าจะ ป.4 ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด อ.สุไหงโก-ลก (3 ชายแดนภาคใต้) เรื่องมีอยู่ว่า มีงานวันเกิดเพื่อนที่สนิทกันมันชวนให้ไปกินงานวันเกิดมัน เราก็ไป บ้านเพื่อนผมคนนี้ ค่อนข้างลึกและไกล ถือว่ากันดารและไกลโครตๆ คือถ้าไม่มีงานสำคัญไม่ค่อยอยากจะไปบ้านมันเท่าไร เพราะบ้านมันผ่านวัดและป่าช้า 2 แห่งด้วยกัน วัดแรก ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร เพราะยังอยู่ในตัวเมืองคือวัดท่านเอียด  วัดนี้ ไม่ค่อยน่ากลัวเพราะสว่าง ไฟฟ้าค่อนข้างเยอะ แต่ อีกวัดนี้ ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนเลย คือวัดท่านแดง ตอนไปมันก็ให้พ่อมันมารับ ประมาณ 5 โมงเย็น ตอนขับรถผ่านป่าช้าทั้ง 2 แห่ง ขนาบด้วยสวนยางป่ารกทึบ บ้านมันมีทางลัด เข้าไปในสวนยาง ซึ่งเป็นทางตัดเข้าไปเหมือนทางชาวบ้าน เป็นทางเล็กๆสำหรับมอไซค์หรือรถจักรยานผ่านแค่นั้น ผมพูดกับพ่อมันว่าช่วงเย็นยังน่ากลัวขนาดนี้ ตอนกลับกลางคืนจะขนาดไหน 555 พ่อเพื่อนผมมันบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อส่ง พอไปถึงบ้านมันก็กินเลี้ยงกัน จนเกือบ 3 ทุ่ม ผมไปทะเลาะกับเพื่อนเจ้าของวัดเกิดเรื่องอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ทะเลาะตามประสาเด็กๆ แหละ ผมก็ร้องไห้ ตามประสาเด็กๆ แล้วเดินออกมาจากบ้านมัน ประมาณว่ากุโกด งอนนะ กูกลับบ้านกูเองแมร่งเลย เดินออกมาก็เข้าสวนยางหน้าบ้านมัน เดินก้มหน้าร้องไห้มาเรื่อยๆ  งอแงอย่างเดียวไม่สนอะไรเลย สักพัก พอเริ่มรู้สึกตัว หายร้อง เงยหน้าขึ้น ยิ้มแล้ว กุอยู่ไหนว่ะ มองไปทางซ้ายทางขวา มืดสนิท ไม่เห็นแม้แต่ไฟบ้านคน คือนึกภาพว่าคืนเดือนมืด เป็นสวนยาง มองไปทางซ้ายทางขวา ไม่มีอะไรเลย นอกจากป่ารกทึบ ไฟฉายไม่มี มองอะไรไม่เห็นเลย ตอนนั้นกลัวมาก สิ่งที่ทำได้คือ ร้องไห้ต่อ 555 ตอนนั้นกลัวสุดๆๆ เดินก้มหน้าร้องไห้ ต่อไป ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนมีแสงไปเล็กๆ กลมๆ ส่องบนหัวเรา เหมือนไฟฉาย ส่องลงมาเห็นรอบๆที่เราเดินเป็นวงกลมเล็กๆ สีเขียวๆ เหมือนแสงจากหิ่งห้อย แต่ก็สว่างพอเห็นรอบๆตัว (ตามหลักวิทยาศาตร์ตาเราคงปรับสภาพความมืดได้แล้วก็เลยเห็นภาพแบบนั้นก็เป็นได้) ตอนนั้นได้ยินเหมือนมีคนเดินตาม เดินอยู่ข้างๆ ความรู้สึกเหมือนเดินตามผมเยอะมาก ตอนนั้นดีใจ คิดว่าเพื่อนคงตามเรามา แต่ทำไมไม่เรียก เลยหันกลับไปดู ไม่มีอะไรนอกจากป่า และ ต้นยาง ผมเลยเดินต่อ ก็มีทั้งเสียงเหยียบใบไม้แห้ง กิ่งไม้แห้ง เป็นเหมือนมีคนเดินตามสิบคน ตอนนั้นผมก้มหน้าก้มตาเดินร้องไห้อย่างเดียว ระหว่างเดินอยู่นั้น ได้ยินเหมือนเสียงคนบอกทางเป็นระยะๆ อาจจะหนูแว่ว หรือ ร้องไห้เยอะไปหรือป่าว แต่ผมก็เดินไปตามเสียงที่ได้ยิน  ผมเดินมาเรื่อยๆไม่รู้นานเท่าไหน คือเดินแบบไม่มีจุดหมายเดินตรงมาเรื่อยๆ เชื่อไหมครับว่า มาออกถนนใหญ่ มีบ้านคน เท่านั้นแหละ พอเห็นแสงไฟ เห็นบ้านคนผมวิ่งไปเคาะรั่วบ้านเลยครับ เรียกสักพัก จึงมีคนเดินออกมา จำได้ว่า มีป้าผู้หญิงกับยายแก่ๆ ออกมา ผมร้องไห้บอกไปส่งบ้านผมหน่อยครับ ป้ากับยายทั้ง 2 ก็ถามว่าผมเดินมาจากไหนผมชี้ไปทางสวนยาง เขาบอกว่า เดินมาออกมาจากทางนั้นได้ไง นั้นมันป่ายางกับป่าที่เข้าทิ้งร้างไว้นะ มันรกจะตายกลางวันยังเดินไม่ได้เลย หนูจะเดินมาได้ไง ตอนนั้นผมไม่รู้ ผมร้องไห้อย่างเดียว เขาบอกว่าไปๆๆ เดียวไปส่ง พอมาถึงบ้าน เห็นเพื่อนเจ้าของวันเกิดกับพ่อมันยืนคุยกับพ่อแม่ผมหน้าบ้าน ถามผมใหญ่เลยว่าไปไหนมา ผมเลยเล่าให้ฟัง พ่อเพื่อนผมบอกว่า หลังจากผมเดินออกมาไม่เกิน 1 นาที พ่อเพื่อนรีบออกมาตามหาและขับมอไซค์ และเรียกชื่อผม แต่ผมกลับไม่ได้ยินอะไรเลย  ..สรุปเวลาที่พ่อเพื่อนผมบอกผมเดินออกจากบ้านเพื่อน จนถึงบ้านผมที่มีป้าผู้หญิงมาส่งใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ  ซึ่งป้าบอกว่า ป่าที่ผมเดินผ่านมานั้น ไม่มีทางเดิน เป็นป่าช้า ที่ฝังศพ ซึ่งรกและทึบมาก งูเงี้ยวก็เยอะ แต่ผมไม่เป็นไรเลย มันก็น่าแปลกและจำได้ถึงปัจจุบัน...
เรื่องที่ 2 เดี๋ยวผมมาเล่าต่อนะครับ....ถ้ามีคนติดตาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่