เห็นว่ามีประโยชน์เลยนำมาฝากกันครับ
จากเพจสาระพันธุ์สัตว์
https://www.facebook.com/sarapansat/
เจ้าของเพจเป็นนายสัตวแพทย์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ ครับ
จากข่าว "ปลิงดูดเลือด" กัดคนจนตาย จนชาวบ้านผวา ไม่กล้าลงน้ำ
โดยมีเนื้อข่าวว่าพบปลิงประหลาดไม่ทราบสายพันธุ์ที่ จ.อ่างทอง มีชาวบ้าน ถูกปลิงกัดในระหว่างเข้าไปเก็บสายบัวในหนองน้ำ และปลิงได้กัดชายวัย 61 ปี ที่บริเวณหน้าแข้งข้างขวาขณะลงเรือหาปลา จนแผลอักเสบขาบวม เสียชีวิตในเวลาต่อมา
http://news.ch7.com/detail/282070
ผมขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมดังนี้นะครับ “ปลิง” เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อยู่ในน้ำจืดโดยเฉพาะน้ำนิ่ง ทั้งหนองน้ำ ลำธาร รวมถึงบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และจะเกาะตามร่างกายสัตว์ เช่น วัว ควาย หรือคนที่ไปแช่อยู่ในน้ำ เพื่อดูดเลือดเป็นอาหาร สำหรับในประเทศไทย “ปลิงควาย” พบบ่อยที่สุด มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Cattle Leech มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Poecilobdella manillensis และยังมีปลิงเข็มซึ่งเป็นลูกของปลิงควาย ตัวยาวขนาดใกล้เคียงกับก้านไม้ขีดไฟ
ส่วนปลิงควายเต็มวัย ตัวยาว 3 นิ้ว ลำตัวกว้าง 1 นิ้ว ระหว่างที่ปลิงเริ่มกัดและดูดเลือดนั้น มันจะปล่อยสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด ที่มีฤทธิ์คล้ายยาชาออกมา ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังมีสารช่วยขยายหลอดเลือด เพื่อให้มันดูดเลือดได้ต่อเนื่อง ซึ่งปลิงควายที่ดูดเลือดเต็มที่อาจมีขนาดลำตัวที่ยืดแล้วยาวเป็นฟุตได้
โดยปลิงควายหนึ่งตัว จะกินเลือดเพียง 10 - 15 มิลลิลิตรเท่านั้น หรือ 4 – 5 เท่าของน้ำหนักตัว มันก็จะอิ่มและทิ้งตัวจากเหยื่อ และอาจใช้เวลาย่อยอาหารนานถึง 6 เดือน เพราะฉะนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะถูกปลิงดูดเลือดจนโลหิตจางและเสียชีวิต
ปลิงควายมีประโยชน์ในด้านการแพทย์จีนสมัยโบราณ ซึ่งนำเอาปลิงมาใช้ฟอกโลหิต คือ ดูด เอาเลือดเสียออกจากแผลหรือหลังจากการต่ออวัยวะ เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้าได้เป็นอย่างดี แถมปลิงยังเป็นอาหารของเป็ด นก และปลาตามธรรมชาติอีกด้วย
และปลิงก็ยังเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน หมู่บ้านดอนศาลาและหมู่บ้านตาล อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนมอีกด้วย ที่ทำอาชีพจับปลิงขายในฤดูฝน โดยตอนเช้าชาวบ้านจะออกเดินทางไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติ ปลิงที่จับได้ก็จะมีทั้งปลิงเข็ม, ปลิงควาย
ในระหว่างที่ชาวบ้านจับก็จะมีเกาะมีโดนดูดเลือดกันบ้างแต่ชาวบ้านก็ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย และชาวบ้านก็บอกอีกว่าปลิงไม่มีอันตราย มันจับก็แค่แกะออกแล้วก็จับใส่ถังไว้ก็พอ
ส่วนที่มีคนเสียชีวิตจากการถูกปลิงดูดเลือดนั้น อาจเกิดจากแพ้น้ำลายปลิงอย่างรุนแรง หรือมีโรคเรื้อรังประจำตัวอยู่เดิมและเสียชีวิตจากโรคนั้น ๆ พอดี หรืออาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียเรื้อรัง รุนแรงจากแบคทีเรียในน้ำและแผลปลิงกัด แล้วลามเข้าสู่กระแสเลือดจนเกิดโลหิตเป็นพิษ ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับคนที่ถูกแมงมุมกัดที่ขา
เพราะฉะนั้นถ้าถูกปลิงควายกัดก็ต้องทำความสะอาดแผลด้วยสบู่เป็นประจำ เพื่อกำจัดแบคทีเรียออกจากปากแผล ไม่นานแผลก็จะหายไปเอง แต่ถ้าแผลมีหนองหรือเนื้อเยื่อเริ่มมีสีคล้ำ ก็ต้องไปหาแพทย์ทันทีเพื่อรักษาต่อเนื่อง แม้ปลิงจะเป็นสัตว์ที่ดูน่ารังเกียจ แต่ก็มีส่วนดีที่ช่วยเหลือคนไว้ไม่น้อยในหลากหลายประโยชน์ มีความสำคัญในห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศ การรู้จักกันไว้และเช้าใจซึ่งกันและกัน ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีในกรณีนี้ อย่าลืมนะครับ ว่ามนุษย์ไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวบนโลกใบนี้...
"ปลิงมรณะ" กัดคนจนตาย จนชาวบ้านผวา ไม่กล้าลงน้ำ...???
จากเพจสาระพันธุ์สัตว์ https://www.facebook.com/sarapansat/
เจ้าของเพจเป็นนายสัตวแพทย์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ ครับ
จากข่าว "ปลิงดูดเลือด" กัดคนจนตาย จนชาวบ้านผวา ไม่กล้าลงน้ำ
โดยมีเนื้อข่าวว่าพบปลิงประหลาดไม่ทราบสายพันธุ์ที่ จ.อ่างทอง มีชาวบ้าน ถูกปลิงกัดในระหว่างเข้าไปเก็บสายบัวในหนองน้ำ และปลิงได้กัดชายวัย 61 ปี ที่บริเวณหน้าแข้งข้างขวาขณะลงเรือหาปลา จนแผลอักเสบขาบวม เสียชีวิตในเวลาต่อมา http://news.ch7.com/detail/282070
ผมขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมดังนี้นะครับ “ปลิง” เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อยู่ในน้ำจืดโดยเฉพาะน้ำนิ่ง ทั้งหนองน้ำ ลำธาร รวมถึงบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และจะเกาะตามร่างกายสัตว์ เช่น วัว ควาย หรือคนที่ไปแช่อยู่ในน้ำ เพื่อดูดเลือดเป็นอาหาร สำหรับในประเทศไทย “ปลิงควาย” พบบ่อยที่สุด มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Cattle Leech มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Poecilobdella manillensis และยังมีปลิงเข็มซึ่งเป็นลูกของปลิงควาย ตัวยาวขนาดใกล้เคียงกับก้านไม้ขีดไฟ
ส่วนปลิงควายเต็มวัย ตัวยาว 3 นิ้ว ลำตัวกว้าง 1 นิ้ว ระหว่างที่ปลิงเริ่มกัดและดูดเลือดนั้น มันจะปล่อยสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด ที่มีฤทธิ์คล้ายยาชาออกมา ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังมีสารช่วยขยายหลอดเลือด เพื่อให้มันดูดเลือดได้ต่อเนื่อง ซึ่งปลิงควายที่ดูดเลือดเต็มที่อาจมีขนาดลำตัวที่ยืดแล้วยาวเป็นฟุตได้
โดยปลิงควายหนึ่งตัว จะกินเลือดเพียง 10 - 15 มิลลิลิตรเท่านั้น หรือ 4 – 5 เท่าของน้ำหนักตัว มันก็จะอิ่มและทิ้งตัวจากเหยื่อ และอาจใช้เวลาย่อยอาหารนานถึง 6 เดือน เพราะฉะนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะถูกปลิงดูดเลือดจนโลหิตจางและเสียชีวิต
ปลิงควายมีประโยชน์ในด้านการแพทย์จีนสมัยโบราณ ซึ่งนำเอาปลิงมาใช้ฟอกโลหิต คือ ดูด เอาเลือดเสียออกจากแผลหรือหลังจากการต่ออวัยวะ เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้าได้เป็นอย่างดี แถมปลิงยังเป็นอาหารของเป็ด นก และปลาตามธรรมชาติอีกด้วย
และปลิงก็ยังเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน หมู่บ้านดอนศาลาและหมู่บ้านตาล อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนมอีกด้วย ที่ทำอาชีพจับปลิงขายในฤดูฝน โดยตอนเช้าชาวบ้านจะออกเดินทางไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติ ปลิงที่จับได้ก็จะมีทั้งปลิงเข็ม, ปลิงควาย
ในระหว่างที่ชาวบ้านจับก็จะมีเกาะมีโดนดูดเลือดกันบ้างแต่ชาวบ้านก็ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย และชาวบ้านก็บอกอีกว่าปลิงไม่มีอันตราย มันจับก็แค่แกะออกแล้วก็จับใส่ถังไว้ก็พอ
ส่วนที่มีคนเสียชีวิตจากการถูกปลิงดูดเลือดนั้น อาจเกิดจากแพ้น้ำลายปลิงอย่างรุนแรง หรือมีโรคเรื้อรังประจำตัวอยู่เดิมและเสียชีวิตจากโรคนั้น ๆ พอดี หรืออาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียเรื้อรัง รุนแรงจากแบคทีเรียในน้ำและแผลปลิงกัด แล้วลามเข้าสู่กระแสเลือดจนเกิดโลหิตเป็นพิษ ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับคนที่ถูกแมงมุมกัดที่ขา
เพราะฉะนั้นถ้าถูกปลิงควายกัดก็ต้องทำความสะอาดแผลด้วยสบู่เป็นประจำ เพื่อกำจัดแบคทีเรียออกจากปากแผล ไม่นานแผลก็จะหายไปเอง แต่ถ้าแผลมีหนองหรือเนื้อเยื่อเริ่มมีสีคล้ำ ก็ต้องไปหาแพทย์ทันทีเพื่อรักษาต่อเนื่อง แม้ปลิงจะเป็นสัตว์ที่ดูน่ารังเกียจ แต่ก็มีส่วนดีที่ช่วยเหลือคนไว้ไม่น้อยในหลากหลายประโยชน์ มีความสำคัญในห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศ การรู้จักกันไว้และเช้าใจซึ่งกันและกัน ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีในกรณีนี้ อย่าลืมนะครับ ว่ามนุษย์ไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวบนโลกใบนี้...