🇳🇬 Aisha: Boko Haram Huntress | Witness
ทักษะความเชี่ยวชาญของ Aisha ทำให้เธอได้ฉายาว่า ราชินีเสือพราน [Rosie Collyer/Al Jazeera]
Aisha Bakari Gombi คือ เสือพรานสตรีรายหนึ่ง
ในจำนวนเสือพรานสตรีเพียงไม่กี่รายที่เข้าร่วมกับกองทัพไนจีเรีย
ที่ยอมให้กองกำลังติดอาวุธหลายพันนายที่ไม่ใช่ทหาร
เข้าร่วมสู้รบต่อต้านกองโจรก่อการร้าย Boko Haram
กลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่อันตรายที่สุดกลุ่มหนึ่งในแอฟริกา
ด้วยการอนุญาตเสือพรานให้จับเป็นหรือจับตายได้ทุกกรณี
เธอใช้ปืนลูกซองสะพายบ่าเป็นอาวุธประจำกาย
ในการบุกเข้าไปในตอนกลางของแคว้น
Borno State
ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย
ที่เคยถูกโจมตีจากพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
ทั้งนี้ เธอกับเสือพรานของพวกเธอทำการไล่ล่าและจับกุม
พวกกลุ่มก่อการร้าย Boko Haram ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย
ความกล้าหาญและความสามารถในการแกะรอย
พวกคนร้ายแบบนายพรานชั้นเทพเรียนรู้/ทำในการล่าสัตว์
ทำให้เธอได้รับฉายายกย่องว่า ราชินีเสือพราน
กองทัพไนจีเรียต้องการ Aisha Bakari Gombi เป็นอย่างมาก
เพราะทักษะความชำนาญของเธอในการแกะรอยและความกล้าหาญในการสู้รบ
แต่ก็จ่ายค่าตอบแทนล่าช้ามากเหลือเกินสำหรับการปฏิบัติยุทธการดังกล่าว
แม้ว่า เธอจะไม่สามารถปลดปล่อยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้อีกหลายคน
พวกที่ถูกจับกุมโดยพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
เพราะขาดแคลนทรัพยากร/การสนับสนุนหลายอย่างจากรัฐบาล
แต่เธอก็ไม่เคยหยุดยั้งความพยายาม
ในการไล่ล่าสังหารและจับกุมพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
มีถ้อยคำเรียกขานและยกย่องเธอได้หลายคำยิ่งนัก
Aisha หัวหน้า เสือพรานนักล่า และภรรยา
ตอนที่ฉันได้พบกับ Aisha ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
แม้ว่าเราจะได้พบกันในหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลก
Aisha สูงราว 6 ฟุต เธอพูดน้อยแต่ลงมือทำมากยิ่งกว่าพูด
เธอส่งสัญญาณแล้วกองกำลังติดอาวุธจะตามเธอไป
เธอสั่งการทั้งที่บ้านและในสนามรบ
ฉันถามว่า "
เธอกลัวว่าจะถูกฆ่าหรือลักพาตัวโดย Boko Haram หรือไม่ "
เธอตอบว่า "
ไม่ Boko Haram รู้จักฉันดีและกลัวฉัน "
ฉันจึงไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งเธอ
ในการติดตามไล่ล่าและจับกุมพวก Boko Haram อีกต่อไปแล้ว
แต่ความท้าทายที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับฉัน
คือ การถ่ายภาพในพื้นที่พวกโจรก่อการร้ายหลบซ่อนตัว
จากการไล่ล่าและจับกุมของเสือพราน/ทหารรัฐบาล
ในฐานะฉันเป็นพลเมืองชาวไนจีเรียด้วย
ฉันจึงมีสิทธิ์ที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างเสรี
แต่ในฐานะช่างภาพผู้เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
ที่จะถ่ายทำสารคดีสำหรับผู้ชมทั่วโลก
ฉันตระหนักดีว่าพวกทหารรัฐบาลจะต้องสงสัยในตัวฉัน
แต่ความตั้งใจในการถ่ายภาพสารคดีครั้งนี้
ฉันจึงตัดสินใจที่จะอยู่แบบไม่ให้พวกทหารสงสัยในตัวฉัน
ด้วยการที่ฉันจะใส่ฮิญาบ(ผ้าคลุมผม)ตลอดเวลา
และไม่พูดคุยในที่ที่มีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย
เพื่อไม่ให้พวกเขาได้ยินสำเนียงภาษาอังกฤษของฉัน
Aisha ทำให้ฉันเข้าใจถึงโลกทัศน์ชีวิตของอย่างไร้ขอบเขต
ฉันเข้าร่วมกับเสือพรานในการไล่ล่าจับกุมพวก Boko Haram
ในบริเวณป่าไม้ที่ในอดีตเมื่อ 30 ปีก่อน จะมีฝูงละมั่งเดินเตร่ไปมา
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเพียงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเท่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่
และพวกเสือพรานล่ากระต่ายเป็นอาหารได้เพียงตัวเดียวในวันนั้น
ขณะเดียวกัน Aisha ใช้เวลาดังกล่าวเป็นโอกาสที่ดี
ในการสอนเสือพรานวัยรุ่น ถึงประเภทการใช้
และชื่อเรียกของพืชและสมุนไพรบางชนิด
อย่างไรก็ตามพวกเสือพรานบางคน
มักจะเชื่อมั่นกับสมุนไพรพิเศษบางชนิด
ที่พวกเสือพรานมักจะเชื่อว่าจะปกป้องจากกระสุนปืนได้
(แบบความเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ของว่านแบบคนไทยบางกลุ่ม)
ขณะที่พวกเสือพรานบางคนเชื่อมั่นและมั่นใจว่า
พืชบางชนิดช่วยแก้หิวและแก้กระหายน้ำได้
ในช่วงที่ต้องไล่ล่าและอยู่ในบริเวณป่าไม้ที่แห้งแล้งเป็นเวลานาน
พวกเสือพรานรู้จักการแกะรอยและรู้ดีถึง
สถานที่หลบซ่อนของพวกกองโจรก่อการร้าย Boko Haram ในป่าและภูเขา
ได้ดียิ่งกว่าพวกทหารของรัฐบาลจากส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่
Aisha มีความสุขเมื่อรำลึกถึงการล่าสัตว์ในสถานที่เหล่านั้น
ช่วงตอนที่เธอยังเป็นเด็กและออกไปล่าสัตว์กับพ่อเธอ
Aisha สืบทอดสายเลือดนายพรานมาอย่างยาวนาน
" ฉันไม่ได้ผ่านการฝึกเป็นนายพราน
แต่ฉันเกิดมาเพื่อเป็นนายพราน
ฉันสืบทอดความเป็นนายพรานจากพ่อ
และพ่อก็สืบทอดความเป็นนายพรานจากพ่อของท่าน " [Rosie Collyer/Al Jazeera]
ทักษะความเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ของ Aisha
สร้างความประทับใจให้กับพ่อของเธอมาก
จนทำให้พ่อเธอมอบปืนไรเฟิลล่าสัตว์ประจำกายให้เธอเลย
เมื่อพวกนักรบก่อการร้าย Boko Haram
ได้บุกเข้าโจมตีเมืองของ Aisha
Aisha ก็เลิกทำอาชีพช่างเย็บผ้า
Aisha ขายจักรเย็บผ้าของเธอ
แลัวนำเงินไปซื้อปืนไรเฟิลที่มีอำนาจยิงมากขึ้น
พวกนักรบก่อการร้าย Boko Haram ถูกไล่ล่าและจับกุม
โดยพวกเสือพรานจะเป็นผู้นำทางในการเข้าโจมตี
โดยกองทหารสนับสนุนตามหลังพวกเสือพราน
พวกเสือพรานได้รับการยกย่องคือ พวกวีรบุรุษ
และมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนในกลุ่มพวกเสือพราน
แต่ Aisha คือ ตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่
ชาวบ้านต่างเรียกร้องและขอร้องเธอ
ให้ช่วยเหลือปลดปล่อยลูกหลานญาติพี่น้อง
จากการถูกจองจำ/จับกุมโดยพวก Boko Haram
ในบางตอนของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
จะแสดงให้เห็นว่า Aisha และพวกเสือพรานมีชัยชนะ
ในการช่วยแก้ไขความทุกข์ยากที่ชาวบ้านขอร้องได้อย่างไร
อุปสรรคที่สำคัญ คือ การโน้มน้าวให้พวกทหาร
อนุญาตให้เข้าไปปฏิบัติภารกิจเพื่อการช่วยเหลือชาวบ้าน
ผู้บัญชาการทหารรายหนึ่งอาจจะอนุมัติ
แต่ผู้บัญชาการทหารอีกรายหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรอาจจะไม่อนุมัติ
(เพราะมีนายทหารที่ทรยศและหากำไรจากการขายอาวุธสงครามแทรกตัวอยู่)
Aisha คือ สตรีคนแรกที่เข้าร่วมกับกลุ่มพวกเสือพราน
ตอนนี้มีสตรีจำนวนมากเข้าร่วมไล่ล่าและจับกุม
พวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram [Rosie Collyer/Al Jazeera]
พวกเสือพรานต้องการเงินสำหร้บซื้อกระสุนลูกปืน
ว่าจ้างยานพาหนะและเติมน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเงินส่วนตัวเอง
ในบางครั้ง พวกชาวบ้านที่หนีตายออกจากหมู่บ้านต่าง ๆ
ต่างพากันช่วยบริจาคเงินทองสนับสนุนการต่อสู้พวกเสือพราน
บางครั้งต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์กว่าจะมีเงินทุนเพียงพอ
ในภารกิจไล่ล่าและจับกุมพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
เหมือนเช่นครั้งนี้ ที่ฉันไปถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีที่ป่า Sambisa
เงินทุนสนับสนุนการต่อสู้จำนวนมากมาจากชาวบ้าน
ที่อพยพกลับมาทำมาหากินที่เรือกสวนไร่นาของพวกตน
เพราะรัฐบาลและกองทัพไม่สามารถช่วยเหลือในการนี้ได้เพียงพอ
ชาวบ้านจึงต้องหันไปพึ่งพาพวกเสือพรานแทน
มีตอนหนึ่ง เมื่อบุกเข้าไปในป่า Sambisa
พวกเสือพรานต่างใช้เวลาหลายวันลุยหน้า
ก่อนที่ทหารจะยกกองหนุนมาช่วยสนับสนุนตามหลัง
เครื่องบินรบจะบินวนไปด้านบนเหนือศีรษะมี 2 นัย
บินคล้ายกับเป็นการสนับสนุนพวกเสือพราน
หรือบอกใบ้ให้พวกผู้ก่อการร้ายรีบหลบหนีไป
เพราะกำลังมีการไล่ล่าจับกุมพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
พวกเราเดินทางเข้าป่าเป้าหมาย
ด้วยการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
เช่นเดียวกับพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
โดยมีเสียงปืนใหญ่จากฐานทัพทหาร
ที่ยิงจากรอบนอกชายป่า
ที่ทำลายความสงบเงียบในเวลากลางคืน
พวกเสือพรานอธิบายว่า
พวกทหารยิงปืนใหญ่จากฐานทัพ
เพื่อข่มขวัญพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
หรือบอกใบ้กับพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
ในฐานะช่างภาพ ปัญหาที่เป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง
คือ ฝุ่นละอองและความรุนแรงถึงที่ตายได้
ที่จะทำอันตรายต่อกล้องและช่างภาพได้
ยิ่งตอนที่เสือพรานมากกว่า 100 คน
กำลังเดินเท้าหรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนตฺ์
นั่นยิ่งทำให้ฝุ่นตลบอบอวลฟุ้งเต็มไปหมด
ในทางกลับกัน ยิ่งกระตุ้นเตือนความอยากจะไปถ่ายทำยิ่งขึ้น
สามีของ Aisha คือ ผู้สนับสนุนเธอในการเป็นเสือพราน
" ความสำเร็จของเธอคือ ความสำเร็จของผม " [Rosie Collyer/Al Jazeera]
ราชินีเสือพรานนักล่าพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
🇳🇬 Aisha: Boko Haram Huntress | Witness
ทักษะความเชี่ยวชาญของ Aisha ทำให้เธอได้ฉายาว่า ราชินีเสือพราน [Rosie Collyer/Al Jazeera]
Aisha Bakari Gombi คือ เสือพรานสตรีรายหนึ่ง
ในจำนวนเสือพรานสตรีเพียงไม่กี่รายที่เข้าร่วมกับกองทัพไนจีเรีย
ที่ยอมให้กองกำลังติดอาวุธหลายพันนายที่ไม่ใช่ทหาร
เข้าร่วมสู้รบต่อต้านกองโจรก่อการร้าย Boko Haram
กลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่อันตรายที่สุดกลุ่มหนึ่งในแอฟริกา
ด้วยการอนุญาตเสือพรานให้จับเป็นหรือจับตายได้ทุกกรณี
เธอใช้ปืนลูกซองสะพายบ่าเป็นอาวุธประจำกาย
ในการบุกเข้าไปในตอนกลางของแคว้น Borno State
ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย
ที่เคยถูกโจมตีจากพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
ทั้งนี้ เธอกับเสือพรานของพวกเธอทำการไล่ล่าและจับกุม
พวกกลุ่มก่อการร้าย Boko Haram ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย
ความกล้าหาญและความสามารถในการแกะรอย
พวกคนร้ายแบบนายพรานชั้นเทพเรียนรู้/ทำในการล่าสัตว์
ทำให้เธอได้รับฉายายกย่องว่า ราชินีเสือพราน
กองทัพไนจีเรียต้องการ Aisha Bakari Gombi เป็นอย่างมาก
เพราะทักษะความชำนาญของเธอในการแกะรอยและความกล้าหาญในการสู้รบ
แต่ก็จ่ายค่าตอบแทนล่าช้ามากเหลือเกินสำหรับการปฏิบัติยุทธการดังกล่าว
แม้ว่า เธอจะไม่สามารถปลดปล่อยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้อีกหลายคน
พวกที่ถูกจับกุมโดยพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
เพราะขาดแคลนทรัพยากร/การสนับสนุนหลายอย่างจากรัฐบาล
แต่เธอก็ไม่เคยหยุดยั้งความพยายาม
ในการไล่ล่าสังหารและจับกุมพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
มีถ้อยคำเรียกขานและยกย่องเธอได้หลายคำยิ่งนัก
Aisha หัวหน้า เสือพรานนักล่า และภรรยา
ตอนที่ฉันได้พบกับ Aisha ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
แม้ว่าเราจะได้พบกันในหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลก
Aisha สูงราว 6 ฟุต เธอพูดน้อยแต่ลงมือทำมากยิ่งกว่าพูด
เธอส่งสัญญาณแล้วกองกำลังติดอาวุธจะตามเธอไป
เธอสั่งการทั้งที่บ้านและในสนามรบ
ฉันถามว่า " เธอกลัวว่าจะถูกฆ่าหรือลักพาตัวโดย Boko Haram หรือไม่ "
เธอตอบว่า " ไม่ Boko Haram รู้จักฉันดีและกลัวฉัน "
ฉันจึงไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งเธอ
ในการติดตามไล่ล่าและจับกุมพวก Boko Haram อีกต่อไปแล้ว
แต่ความท้าทายที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับฉัน
คือ การถ่ายภาพในพื้นที่พวกโจรก่อการร้ายหลบซ่อนตัว
จากการไล่ล่าและจับกุมของเสือพราน/ทหารรัฐบาล
ในฐานะฉันเป็นพลเมืองชาวไนจีเรียด้วย
ฉันจึงมีสิทธิ์ที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างเสรี
แต่ในฐานะช่างภาพผู้เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
ที่จะถ่ายทำสารคดีสำหรับผู้ชมทั่วโลก
ฉันตระหนักดีว่าพวกทหารรัฐบาลจะต้องสงสัยในตัวฉัน
แต่ความตั้งใจในการถ่ายภาพสารคดีครั้งนี้
ฉันจึงตัดสินใจที่จะอยู่แบบไม่ให้พวกทหารสงสัยในตัวฉัน
ด้วยการที่ฉันจะใส่ฮิญาบ(ผ้าคลุมผม)ตลอดเวลา
และไม่พูดคุยในที่ที่มีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย
เพื่อไม่ให้พวกเขาได้ยินสำเนียงภาษาอังกฤษของฉัน
Aisha ทำให้ฉันเข้าใจถึงโลกทัศน์ชีวิตของอย่างไร้ขอบเขต
ฉันเข้าร่วมกับเสือพรานในการไล่ล่าจับกุมพวก Boko Haram
ในบริเวณป่าไม้ที่ในอดีตเมื่อ 30 ปีก่อน จะมีฝูงละมั่งเดินเตร่ไปมา
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเพียงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเท่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่
และพวกเสือพรานล่ากระต่ายเป็นอาหารได้เพียงตัวเดียวในวันนั้น
ขณะเดียวกัน Aisha ใช้เวลาดังกล่าวเป็นโอกาสที่ดี
ในการสอนเสือพรานวัยรุ่น ถึงประเภทการใช้
และชื่อเรียกของพืชและสมุนไพรบางชนิด
อย่างไรก็ตามพวกเสือพรานบางคน
มักจะเชื่อมั่นกับสมุนไพรพิเศษบางชนิด
ที่พวกเสือพรานมักจะเชื่อว่าจะปกป้องจากกระสุนปืนได้
(แบบความเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ของว่านแบบคนไทยบางกลุ่ม)
ขณะที่พวกเสือพรานบางคนเชื่อมั่นและมั่นใจว่า
พืชบางชนิดช่วยแก้หิวและแก้กระหายน้ำได้
ในช่วงที่ต้องไล่ล่าและอยู่ในบริเวณป่าไม้ที่แห้งแล้งเป็นเวลานาน
พวกเสือพรานรู้จักการแกะรอยและรู้ดีถึง
สถานที่หลบซ่อนของพวกกองโจรก่อการร้าย Boko Haram ในป่าและภูเขา
ได้ดียิ่งกว่าพวกทหารของรัฐบาลจากส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่
Aisha มีความสุขเมื่อรำลึกถึงการล่าสัตว์ในสถานที่เหล่านั้น
ช่วงตอนที่เธอยังเป็นเด็กและออกไปล่าสัตว์กับพ่อเธอ
Aisha สืบทอดสายเลือดนายพรานมาอย่างยาวนาน
" ฉันไม่ได้ผ่านการฝึกเป็นนายพราน
แต่ฉันเกิดมาเพื่อเป็นนายพราน
ฉันสืบทอดความเป็นนายพรานจากพ่อ
และพ่อก็สืบทอดความเป็นนายพรานจากพ่อของท่าน " [Rosie Collyer/Al Jazeera]
ทักษะความเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ของ Aisha
สร้างความประทับใจให้กับพ่อของเธอมาก
จนทำให้พ่อเธอมอบปืนไรเฟิลล่าสัตว์ประจำกายให้เธอเลย
เมื่อพวกนักรบก่อการร้าย Boko Haram
ได้บุกเข้าโจมตีเมืองของ Aisha
Aisha ก็เลิกทำอาชีพช่างเย็บผ้า
Aisha ขายจักรเย็บผ้าของเธอ
แลัวนำเงินไปซื้อปืนไรเฟิลที่มีอำนาจยิงมากขึ้น
พวกนักรบก่อการร้าย Boko Haram ถูกไล่ล่าและจับกุม
โดยพวกเสือพรานจะเป็นผู้นำทางในการเข้าโจมตี
โดยกองทหารสนับสนุนตามหลังพวกเสือพราน
พวกเสือพรานได้รับการยกย่องคือ พวกวีรบุรุษ
และมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนในกลุ่มพวกเสือพราน
แต่ Aisha คือ ตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่
ชาวบ้านต่างเรียกร้องและขอร้องเธอ
ให้ช่วยเหลือปลดปล่อยลูกหลานญาติพี่น้อง
จากการถูกจองจำ/จับกุมโดยพวก Boko Haram
ในบางตอนของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
จะแสดงให้เห็นว่า Aisha และพวกเสือพรานมีชัยชนะ
ในการช่วยแก้ไขความทุกข์ยากที่ชาวบ้านขอร้องได้อย่างไร
อุปสรรคที่สำคัญ คือ การโน้มน้าวให้พวกทหาร
อนุญาตให้เข้าไปปฏิบัติภารกิจเพื่อการช่วยเหลือชาวบ้าน
ผู้บัญชาการทหารรายหนึ่งอาจจะอนุมัติ
แต่ผู้บัญชาการทหารอีกรายหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรอาจจะไม่อนุมัติ
(เพราะมีนายทหารที่ทรยศและหากำไรจากการขายอาวุธสงครามแทรกตัวอยู่)
Aisha คือ สตรีคนแรกที่เข้าร่วมกับกลุ่มพวกเสือพราน
ตอนนี้มีสตรีจำนวนมากเข้าร่วมไล่ล่าและจับกุม
พวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram [Rosie Collyer/Al Jazeera]
พวกเสือพรานต้องการเงินสำหร้บซื้อกระสุนลูกปืน
ว่าจ้างยานพาหนะและเติมน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเงินส่วนตัวเอง
ในบางครั้ง พวกชาวบ้านที่หนีตายออกจากหมู่บ้านต่าง ๆ
ต่างพากันช่วยบริจาคเงินทองสนับสนุนการต่อสู้พวกเสือพราน
บางครั้งต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์กว่าจะมีเงินทุนเพียงพอ
ในภารกิจไล่ล่าและจับกุมพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
เหมือนเช่นครั้งนี้ ที่ฉันไปถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีที่ป่า Sambisa
เงินทุนสนับสนุนการต่อสู้จำนวนมากมาจากชาวบ้าน
ที่อพยพกลับมาทำมาหากินที่เรือกสวนไร่นาของพวกตน
เพราะรัฐบาลและกองทัพไม่สามารถช่วยเหลือในการนี้ได้เพียงพอ
ชาวบ้านจึงต้องหันไปพึ่งพาพวกเสือพรานแทน
มีตอนหนึ่ง เมื่อบุกเข้าไปในป่า Sambisa
พวกเสือพรานต่างใช้เวลาหลายวันลุยหน้า
ก่อนที่ทหารจะยกกองหนุนมาช่วยสนับสนุนตามหลัง
เครื่องบินรบจะบินวนไปด้านบนเหนือศีรษะมี 2 นัย
บินคล้ายกับเป็นการสนับสนุนพวกเสือพราน
หรือบอกใบ้ให้พวกผู้ก่อการร้ายรีบหลบหนีไป
เพราะกำลังมีการไล่ล่าจับกุมพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
พวกเราเดินทางเข้าป่าเป้าหมาย
ด้วยการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
เช่นเดียวกับพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
โดยมีเสียงปืนใหญ่จากฐานทัพทหาร
ที่ยิงจากรอบนอกชายป่า
ที่ทำลายความสงบเงียบในเวลากลางคืน
พวกเสือพรานอธิบายว่า
พวกทหารยิงปืนใหญ่จากฐานทัพ
เพื่อข่มขวัญพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
หรือบอกใบ้กับพวกผู้ก่อการร้าย Boko Haram
ในฐานะช่างภาพ ปัญหาที่เป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง
คือ ฝุ่นละอองและความรุนแรงถึงที่ตายได้
ที่จะทำอันตรายต่อกล้องและช่างภาพได้
ยิ่งตอนที่เสือพรานมากกว่า 100 คน
กำลังเดินเท้าหรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนตฺ์
นั่นยิ่งทำให้ฝุ่นตลบอบอวลฟุ้งเต็มไปหมด
ในทางกลับกัน ยิ่งกระตุ้นเตือนความอยากจะไปถ่ายทำยิ่งขึ้น
สามีของ Aisha คือ ผู้สนับสนุนเธอในการเป็นเสือพราน
" ความสำเร็จของเธอคือ ความสำเร็จของผม " [Rosie Collyer/Al Jazeera]